6
ฮันนีมูนจริงๆ
ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน
“นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้”
“ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
“อ้าวแป๊บเดียวจะถึงท้ายรีสอร์ตแล้ว เร็วจัง” วธุการีบพลิกตัวขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอกับเขาลอยคอกันมานานพอสมควร และอีกนิดเดียวก็จะถึงปลายทางเสียแล้ว
“รีบว่ายเข้าฝั่งเถอะคุณวาทเดี๋ยวเลยไปแล้วจะยุ่ง” วิเนตย์ชวนหญิงสาวว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง และปีนขึ้นบันไดตรงห้องสุดท้าย ยื่นมือออกมาให้วธุกาจับแล้วดึงหญิงสาวขึ้นจากน้ำ
“เหนื่อยเหมือนกันนะคะ ว่าแต่จะต้องเดินกลับจริงๆ เหรอคะคุณวิเนตย์ขอขี่หลังกลับได้ไหมคะ ฉันขี้เกียจเดิน” คนพูดทำท่าเหมือนไม่อยากเดินเอาดื้อๆ คนเป็นสามีหัวเราะเบาๆ แล้วเบนสายตาไปตรงด้านข้างซึ่งมีเชือกผูกเจ็ตสกีเอาไว้
“นี่คุณ...หลอกฉันนี่นาที่ว่าจะเดินกลับ”
“ถือว่าหายกันเรื่องที่คุณหลอกผมว่าว่ายน้ำไม่เป็นไง ขึ้นเร็วผมปรับเสียงให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากรบกวนแขกที่มาพัก ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้หรอกเจ้านี่ เอาไว้เวลาที่ลูกค้าหลุดเลยแพไปให้พนักงานขี่ไปตามกลับมา แต่ก็ยังไม่เคยเกิดกรณีนี้หรอกเอาไว้เผื่อเฉยๆ” เขาบอกพร้อมกับปีนลงไปนั่งบนเจ็ตสกีแล้วดึงวธุกาให้นั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลัง
“แต่ฉันเห็นตรงแพกลางอีกสองลำเหมือนกันนี่คะ”
“ครับสองลำนั้นเพื่อลูกค้า แต่ลำนี้ของผม” วิเนตย์ดึงมือทั้งสองข้างของหญิงสาวให้มากอดรอบเอวของตนเองเอาไว้ แล้วบิดกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์ เสียงเบาอย่างที่เขาบอกเอาไว้ไม่มีผิด แต่แทนที่ชายหนุ่มจะพาภรรยากลับไปยังห้องพักกลับขี่เลยไปทางท้ายรีสอร์ตพาเที่ยวชมบรรยากาศยามสายฆ่าเวลา
“ตอนอยู่ในน้ำก็อุ่นดีนะคุณวิเนตย์ แต่ขึ้นมามันหนาวเหมือนกันนะคะ”
“มีผัวให้กอดทั้งคนยังจะหนาวอีกนะคุณวาท หรือต้องให้จูบด้วยถึงจะอบอุ่นถึงใจ”
“พูดบ้าๆ มาจงมาจูบอะไรกันกลางป่ากลางน้ำแบบนี้” วธุกาเหลียวไปมองด้านหลังก็พบว่าเป็นทางเลี้ยวโค้งที่ไม่สามารถมองเห็นท้ายรีสอร์ตได้แล้ว ที่สำคัญมันเงียบสงบเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่ไม่ใช่เส้นทางสัญจรผ่านไปไหนได้ จึงไม่มีเรือโดยสารแล่นผ่านแต่อย่างใด
“เห็นเกาะไหมคุณวาท” วิเนตย์ขี่เจ็ตสกีช้าๆ เพื่อวนรอบเกาะกลางน้ำซึ่งวธุกาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไม่เคยเห็นเกาะกลางแม่น้ำแบบนี้เลยคุณวิเนตย์ สวยมากค่ะ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีสถานที่แบบนี้ด้วย” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รอยยิ้มผุดพรายเต็มใบหน้าที่เปียกชื้น จนเส้นผมบางปอยหลุดออกมาแนบกับพวงแก้มด้านซ้าย
“ไม่เคยเห็น งั้นก็ไหว้ซะสิคุณวาท”
“คุณวิเนตย์” หญิงสาวเรียกชื่อเขาลากเสียงยาว กำลังจะเคลิ้มๆ กับบรรยากาศและภาพที่เขาอยากให้เห็น แต่ก็เขาอีกนั่นแหละที่ทำลายความโรแมนติกลงเสียเอง ‘ตาบ้านี่รู้จักคำว่าโรแมนติกหรือเปล่าก็ไม่รู้’
แต่ขณะที่เจ็ตสกีจะวนรอบเกาะกลางน้ำแห่งนี้เพื่อเลี้ยวกลับทางเดิม เครื่องยนต์ก็เกิดดับขึ้นมาดื้อๆ คนขี่พยายามสตาร์ตเครื่องอยู่สองสามทีก่อนจะดึงกุญแจออกแล้วหันหลังกลับมามองภรรยา
“มีอะไรคะ อย่าบอกนะว่าน้ำมันหมด”
“น้ำมันไม่หมดหรอกครับ แต่เครื่องสตาร์ตไม่ติดและเราก็อยู่ในมุมอับสงสัยต้องว่ายน้ำกลับไปที่รีสอร์ตแล้วล่ะคุณวาท”
“ว่ายน้ำกลับ! ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ ให้ว่ายทวนกระแสน้ำกลับคงได้เป็นตะคริวตายก่อนถึงรีสอร์ตพอดี แล้วทำไมคุณไม่ตรวจอะไรให้มันรอบคอบก่อนที่จะขี่ออกมา” หญิงสาวต่อว่าเขาด้วยสีหน้าจริงจัง ความสนุกสนานพลันหายวับไปกับตา เพียงแค่ได้รู้ว่าจะต้องว่ายทวนกระแสน้ำกลับไปยังรีสอร์ต
“คุณวาท...”
“หรือว่าคุณแกล้งฉัน อยากให้ฉันว่ายน้ำกลับใช่ไหมล่ะ” วิเนตย์พูดไม่ทันจบภรรยาก็แทรกขึ้นเสียก่อน
“คุณวาทเงียบได้แล้ว”
“คุณนั่นแหละที่ต้องเงียบ มือถือก็ไม่พกติดตัวมาอย่างน้อยมีปุ่มฉุกเฉินบ้างก็ยังดีบนเจ็ตสกีนี่” พูดพร้อมจับโน่นนี่ตามบริเวณที่นั่งเผื่อจะเจอบ้าง ปุ่มฉุกเฉิน
“ลงน้ำใครเขาพกมือถือกัน ปุ่มไอ้ที่คุณว่าก็ไม่มีหรอกไม่ต้องหา”
“นั่นไงก็เพราะความประมาทของคุณคนเดียวเลย แล้วอีกอย่างฉันก็แทบจะไม่มีแรงเหลืออยู่แล้วด้วย ถึงจะลอยตัวเฉยๆ แต่ก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะคุณ อุ๊บ...” ยังบ่นไม่จบก็ถูกวิเนตย์คว้าท้ายทอยเข้ามาแล้วบดขยี้ริมฝีปากใส่อย่างรุนแรง วธุกาดิ้นฮึดฮัดทุบตีเขาเป็นการใหญ่จนเจ็ตสกีโคลงเคลงไปมาบนผิวน้ำ
“พูดมากชะมัด พอใจหรือยังบ่นเป็นยายแก่ไปได้” ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกแล้วมองอีกคนด้วยสายตาล้อเลียน ซึ่งคนถูกมองก็กัดปากตัวเองเอาไว้แน่น ราวกับจะสร้างกำแพงไม่ให้เขารุกรานเข้ามาได้อีก แต่ที่ทำให้วธุกาโมโหหนักยิ่งกว่าเดิมก็คือเขาเสียบกุญแจแล้วสตาร์ตเครื่องติดในครั้งเดียว
“อ๊ายยย!!!” เธอกรีดร้องอย่างขัดใจ ในขณะที่เขาหัวเราะลั่นอย่างสบายอารมณ์ กว่าจะขี่เจ็ตสกีมาถึงห้องพักได้วิเนตย์ก็ถูกภรรยาทั้งหยิกทั้งข่วนมาตลอดทาง ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเก็บไม้เก็บมือไว้นิ่งยามเจ็ตสกีแล่นผ่านหน้ารีสอร์ต ยังไงเสียเขาก็คือเจ้าของรีสอร์ตและเธอก็คือภรรยาผู้ที่ควรจะไว้หน้าสามีต่อหน้าทุกคน
กลับมายังห้องพักก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้วทั้งคู่ต่างเข้าไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยง แต่ใช่ว่าการอาบน้ำจะราบรื่น วธุกาถูกสามีบังคับให้ลงไปอยู่ในอ่างน้ำอุ่นเดียวกันแล้วผลัดกันถูสบู่ให้ทั่วตัว แรกๆ ก็เขินอายที่จะต้องเปลือยกายต่อหน้าเขายามกลางวันแสกๆ เช่นนี้ แต่สักพักความหนาบนหน้าก็เริ่มมีมากขึ้น ระหว่างที่ถูสบู่ให้เขาทางข้างหลังหญิงสาวก็รับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของผู้ชายที่กำลังตื่นตัวขึ้นมา
‘เอาอีกแล้วนะคุณวิเนตย์’ รีบลุกขึ้นจากอ่าง แล้วเอื้อมมือไปคว้าเสื้อคลุมบนราว
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ