Beranda / โรแมนติก / ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์ / ตอนที่ 3 กลิ่นที่คุ้นเคย

Share

ตอนที่ 3 กลิ่นที่คุ้นเคย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-26 01:21:29

 

วันจันทร์ที่แสนวุ่นวายภาณุวิชญ์เข้ามารับงานจากบริษัทจากนั้นก็ออกไปดูไซต์งานก่อสร้างซึ่งตอนนี้โครงการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรคืบหน้าไปมากแล้วเกือบ 60% ชายหนุ่มเป็นวิศวกรอยู่ในบริษัทของพี่ชาย ซึ่งเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลโครงการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมต่างๆ ส่วนพี่ชายและพี่สาวก็ทำหน้าที่บริหารอยู่ในบริษัทนานๆ ครั้งเขาถึงจะเข้ามาประชุมที่บริษัทเพราะส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ตามไซต์งานมากกว่า

วันนี้มีไซต์งานที่เขาต้องไปดูทั้งสามที่ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ท้าทายที่จะต้องขับรถไปนั่นมานี่มันทำให้เขาไม่เบื่อเลยที่จะออกไปเจอผู้ คนการได้คุยกับโฟร์แมนการได้คุยกับคนงานก่อสร้างมันเป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่งที่ได้เรียนรู้ชีวิตของเพื่อนร่วมงาน

หลังจากคุยกับโฟร์แมนคุมงานก่อสร้างแล้วภาณุวิชญ์ก็ขอตัวกลับแต่เมื่อเดินมาถึงรถก็มันขึ้นได้ว่ามีบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกกับหัวหน้าคนงานชายหนุ่มจะกลับเข้าไปงานอีกครั้ง

เพราะคิดว่าจะคุยไม่นานภาณุวิชญ์จึงไม่ได้สวมหมวกนิรภัยและมันเป็นจังหวะที่เศษไม้ชิ้นหนึ่งร่วงลงมาทำให้กระแทกกับศีรษะของเขาอย่างจัง

“โอ๊ย....” เขากุมศีรษะแน่นและรู้สึกถึงของเหลวเหนียวๆที่ไหลเต็มมือไปหมด

“คุณณุเป็นอะไรหรือเปล่า” คนงานก่อสร้างที่อยู่บริเวณนั้นรีบวิ่งมาดูอย่างรวดเร็ว

“ไม่รู้อะไรหล่นใส่หัวผมน่ะ”

“มือคุณณุมีแต่เลือดผมว่ารีบไปโรงพยาบาลดีกว่า เดี๋ยวผมพาไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เองเดี๋ยวผมไปโรงพยาบาลเองได้ ยังไงฝากบอกหัวหน้าคนงานด้วยนะว่าพรุ่งนี้ใส่สายๆ ให้โทรหาผมหน่อย”

“ได้ครับคุณณุว่าแต่คุณไปเองได้แน่นะครับให้ผมขับรถไปส่งดีกว่าไหม” คนงานถามด้วยความเป็นห่วง

ภาณุวิชญ์รีบเดินกลับมาที่รถและขับรถไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการก่อสร้างมากที่สุด เมื่อมาถึงรีบตรงไปบริเวณห้องฉุกเฉินทันที

“คนไข้เป็นอะไรมาคะ” พยาบาลรีบเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินตรงเข้ามา

“ผมไม่แน่ใจว่าอะไรหล่นใส่หัวครับ” ชายหนุ่มบอกกับพยาบาลแล้วหันให้เธอดูศีรษะของเขา

“ถ้างั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” พยาบาลรีบพาเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉินจากนั้นก็เรียกหมอมาตรวจดูแผลแล้วหมอก็สั่งให้พยาบาลทำความสะอาดบาดแผลเพราะเดี๋ยวเขาจ้เป็นคนมาเย็บให้

ระหว่างนั้นก็มีพยาบาลอีกคนมาซักประวัติซึ่งภาณุวิชญ์เป็นคนไข้ประจำของที่นี่อยู่แล้วบอกแค่ชื่อกับนามสกุลทุกอย่างก็เลยง่ายไปหมด

“คุณต้องตัดผมบริเวณนี้ออกนิดหนึ่งนะคะ คุณหมอจะได้เย็บสะดวก”

“อะไรนะ ผมต้องตัดผมด้วยเหรอ”

“ค่ะถ้าไม่ตัดมันก็จะเย็บแผลไม่ได้”

“ไม่ตัดได้ไหม” ภาณุวิชญ์กลัวว่าผมของตัวเองจะแหว่งเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงงานเลี้ยงที่โรงเรียนเก่าเขาต้องไปเจอเพื่อนและจะไม่ยอมให้พยาบาลตัดผมของเขาออกแน่

“แต่ถ้าไม่ตัดหมอก็จะเย็บแผลไม่ได้หรือถ้าเย็บได้แต่แผลของคุณก็อาจจะไม่สวยหรือไม่ก็อาจจะสกปรกจนติดเชื้อได้นะคะ”

“มันต้องมีวิธีอื่นสิ” เขาก็ยังคงเถียงต่อ

“คุณคะในห้องฉุกเฉินไม่ใช่มีคุณแค่คนเดียวที่เป็นคนไข้นะคะถ้าคุณไม่ให้ฉันทำความสะอาดแผลแล้วถ้าเกิดมีคนไข้คนอื่นเข้ามาและหมอเขาไปดูคนไข้คนอื่นคุณจะมาโวยวายว่าเราลัดคิวไม่ได้นะคะ” พยาบาลพยายามอธิบายอย่างใจเย็นที่สุดแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่เข้าใจอะไรเลย

“มีอะไรหรือเปล่าจอย”

“ก็คุณคนนี้ไม่ยอมให้จอยตัดผมค่ะ พี่ป่าน”

“ไม่เป็นไรจ้ะเดี๋ยวพี่คุยกับเขาเอง จอยไปรับคนไข้เด็กคนนั้นน่ะ รู้สึกว่าจะโดนหมากัดมานะ”

“ได้ค่ะพี่ป่าน” เมื่อจอยหรือวรางคณาเดินออกไปแล้ว ปราญติญาก็เดินมาหาคนไข้

“ทำไมถึงไม่อยากตัดผมออกเหรอคะ” หญิงสาวถาม

“ถ้าตัดออกมันคงตลกมาก”

“เพื่อแลกกับการรักษาฉันว่าตัดออกนิดเดียวไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ”

“แต่มันต้องน่าเกลียดมากๆ และผมจะไม่ยอมเด็ดขาด”

“คุณกลัวไม่หล่อใช่ไหม”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“ฉันว่าคุณเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ คนหนึ่งนะคะ”

“ผมรู้ว่าผมหล่อ” เขาตอบพลางยักไหล่

“ถ้างั้นก็มั่นใจหน่อยสิ เพราะคนที่หน้าตาหล่ออยู่แล้วไม่ว่าทรงผมจะเป็นยังไงก็ยังหล่อเหมือนเดิมนอกเสียจากว่าคุณไม่มั่นใจว่าคุณหล่อที่หน้าตา คุณไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย คนที่มองหน้าคุณเขาก็คงไม่สนใจผมคุณมากเท่าไหร่หรอกถ้าหากคุณมั่นใจในใบหน้าของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น” หญิงสาวพูดย้ำเพื่อให้เขารีบตัดสินใจเพราะ

“มันจะไม่น่าเกลียดใช่ไหม”

“ไม่หรอกค่ะ ถ้าคุณยอมให้ฉันตัดผมออกฉันจะตัดออกแค่พอให้คุณหมอเย็บสะดวกจากนั้นคุณพอแผลหายคุณก็ไปให้ช่างเขาเล็มผมให้มันเท่ากันแค่นั้นเอง” ปราญติญาอธิบาย

“คุณตัดออกนิดเดียวแน่นะ”

“ค่ะ ตัดออกแค่นิดเดียว ตกลงให้ฉันตัดนะ”

“ก็ได้” เขาอนุญาตให้หญิงสาวตัดผมเพราะรู้สึกว่าตอนนี้เริ่มจะเจ็บแผลมากๆ

อีกอย่างถ้าหากเขาไปให้ช่างทำผมจัดแต่งทรงดีๆ มันก็คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่

เมื่อหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์และเดินตัดผมใกล้ๆ ภาณุวิชญ์ก็รู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวมาก มันเหมือนกับกลิ่นของผู้หญิงที่นอนกับเขาเมื่อคืนก่อนชายหนุ่มมองหน้าเธออย่างใช้ความคิดและจนกระทั่งหญิงสาวตัดผมเสร็จและเรียกให้หมอมาทำการเย็บแผลเขาก็ยังคงมองเธออยู่แบบนั้น

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หญิงสาวปิดแผลให้เขาด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ

“ผมต้องมาทำแผลที่นี่ทุกวันไหม”

“ไม่ค่ะ คุณหมอนัดมาดูแผลและตัดไหมอีกเจ็ดวันค่ะ แต่ถ้าระหว่างนี้มีเลือดซึมก็รีบกลับมาที่โรงพยาบาลได้ค่ะ”

“ผมต้องไปไหนต่อครับ”

“ชำระเงินที่ฝ่ายการเงินและรับยาจากนั้นก็กลับบ้านได้ค่ะ”หญิงสาวบอกกับเขาจากนั้นเธอก็เดินไปทำงานของตัวเองต่อ

ภาณุวิชญ์มองตามแล้วยิ้มที่มุมปากเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะใช่ผู้หญิงคนเดียวกับที่เขาเจอในคืนนั้นเพราะเขาชายหนุ่มจำกลิ่นน้ำหอมและเสียงของเธอได้ถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะไม่แต่งหน้าแต่เขาก็สังเกตว่าหญิงสาวมีลักยิ้มที่มุมปากแต่ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่เพราะท่าทางของเธอในวันนี้เรียบร้อยมาก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์   ตอนที่ 31 ตอนจบ

    ปราญติญาขับรถมาส่งพรชนกที่หน้าโรงพยาบาลเพราะใกล้จะถึงเวลาที่แฟนของเธอเลิกงานพอดี“บุ๋มดีใจกับป่านด้วยนะ”“ขอบใจจ้ะ ป่านก็ต้องขอบคุณบุ๋มมากถ้าบุ๋มไม่บอกให้ณุตามป่านไปที่สมุยป่านก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง”“ป่านโชคดีมากๆ นะที่ณุเข้ามาช่วยไว้”“ใช่ป่านโชคดีมากทั้งเขาช่วยป่านไว้ทั้งคืนนั้นที่ป่านโดนยาปลุกเซ็กซ์และครั้งที่โดนผู้ชายเมาเข้ามาทำร้าย ถ้าไม่ได้ณุเข้ามาป่านคงแย่”“เพราะแบบนี้ป่านถึงยอมใจอ่อนแล้วยกโทษให้เขา”“มันก็มีส่วนอยู่นะแต่ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ป่านห่างจากณุป่านก็ไม่เคยลืมเขาได้เลย บุ๋มว่ามันเร็วไปไหม”“ไม่หรอกนะป่านกับณุไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันสักหน่อย ทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วเพียงแต่ว่าแยกย้ายกันไปและกลับมาเจอกันอีกครั้ง บุ๋มบอกแล้วว่าคนเป็นเนื้อคู่กันยังไงวันหนึ่งก็ต้องกลับมาเจอกันอยู่ดี บุ๋มใจด้วยมากๆ บุ๋มไปก่อนนะ”เมื่อพรชนกลงจากรถไปแล้วปราญติญาก็ขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียมของภาณุวิชญ์อีกครั้งเมื่อมาถึงชายหนุ่มก็อาบน้ำสวมชุดนอนรออยู่แล้ว “วันนี้เป็นยังไงบ้างปวดแผลหรือเปล่า”“ไม่ปวดเลย ผมนอนทั้งวันจนจะปวดหลังแล้ว”“อดทนหน่อยนะยิ่งพักผ่อนเยอ

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 30 เขาคือผู้ชายคนนั้น

    ปราญติญาและพรชนกนั่งคุยกันต่อไม่นานก็มีอุบัติเหตุเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินเสียก่อนทั้งสองคนจึงรีบวิ่งออกมาทำงานซึ่งกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ถึงเวลาลงเวรเช้าพอดี“บุ๋มอยากไปเยี่ยมณุมั้ย”“จะดีเหรอ”“ดีสิณุต้องดีใจมากๆ ที่บุ๋มไปเยี่ยม”“จะไม่เป็นการรบกวนมากเกินไปใช่ไหม”“ไม่หรอกน่าเดี๋ยวป่านขอโทรถามณุก่อนว่าอยากจะกินอะไรเราจะได้ซื้อไปกินที่นั่น ว่าแต่บุ๋มจะไปกับป่านได้หรือเปล่าล่ะ”“ได้สิวันนี้พี่อรรถลงเวรสองทุ่มบุ๋มมีเวลาให้ป่านเยอะเลย ไปเยี่ยมณุหน่อยก็ดีเหมือนกัน”ปราญติญาโทรศัพท์ไปหาภาณุวิชญ์และบอกว่าจะชวนพรชนกมาทานอาหารเย็นด้วยชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะพรชนกก็คือเพื่อนของเขาและถ้าไม่มีเธอเขากับปราญติญาก็คงยังไม่เข้าใจหญิงสาวแวะซื้ออาหารที่ร้านด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนจะขับรถพาพรชนกไปยังคอนโดมิเนียมของภาณุวิชญ์“เป็นยังไงบ้างเจ็บหนักเลยใช่ไหม” พรชนกทักทายภาณุวิชญ์ที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก“ก็นิดหน่อยนะแต่เจ็บครั้งนี้มันคุ้มมากๆ เลยนะ” เขาพูดแล้วมองหน้าปราญติญาแล้วยิ้ม“บุ๋มดีใจด้วยนะที่ป่านกับณุเข้าใจกันตกลงคบกินจริงใช่ไหม”“ผมต้องขอบคุณบุ๋มมากๆ ถ้าบุ๋มไม่ช่วยผมกลับป่านก็คงไม่เข้าใจกันเร็วแ

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 29 เรื่องดีและเรื่องร้าย

    “ป่านทำไมถึงนอนห่างผมขนาดนั้นล่ะ ขยับเข้ามาใกล้ๆ ได้ไหม นอนห่างแบบนั้นแล้วผมจะกอดได้ยังไง”“ณุลืมอะไรไปหรือเปล่าณุมีแผลอยู่นะ ป่านกลัวจะดิ้นไปโดนแผลจริงๆ แล้วป่านน่าจะออกไปนอนอีกห้องหนึ่งหรือไม่ก็นอนที่ห้องรับแขกด้วยซ้ำ”“ไม่ได้นะ ป่านต้องนอนกับผมถ้าเกิดผมเป็นอะไรขึ้นมาตอนกลางคืนแล้วใครจะช่วยผมล่ะ”“ณุไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนอนตอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เอาหมอนข้างกั้นไว้แบบนี้ดีแล้วเกิดป่านดิ้นไปโดนแผลขึ้นมามันจะแย่เอานะ”“ทำไมไม่เห็นใจกันเลยนะ ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งเดือนกว่าแล้วนะแล้วจะมานอนห่างกันแบบนี้ได้ยังไง”“ณุอย่างอแงเป็นเด็กสิตัวเองเจ็บอยู่นะ”“ก็อยากนอนกอด”“ถ้าณุยังงอแงพูดไม่รู้เรื่องป่านจะออกไปนอนที่ห้องรับแขกแล้วนะ”“ถ้างั้นขอจับมือได้ไหมนิดเดียวนะ”“ได้สิ” ปราญติญาตอบตกลงและให้ภาณุวิชญ์จับมือไว้จนกระทั่งชายหนุ่มหลับสนิทเธอแกะมือเขาออกแล้วห่มผ้าให้เขาจากนั้นก็กลับมานอนอีกฝั่งของเตียงปราญติญาตื่นนอนตั้งแต่เช้าเธอลงไปซื้อแซนด์วิชกับขนมปังมาให้ภาณุวิชญ์ทานเป็นอาหารเช้า ส่วนอาหารกลางวันจะให้เขาสั่งขึ้นมาทานเองเพราะเธอทำกับข้าวไม่เป็นหญิงสาวให้เขาทานยาก่อนอาหารและทาน

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 28 ลืมเรื่องสองเดือนแรก

    “ผมขอโทษนะป่านที่ทำให้การมาเที่ยวสมุยของคุณต้องอุดอู้อยู่แต่ในโรงพยาบาล”“ไม่เป็นไรหรอกอย่างน้อยป่านก็ได้เที่ยวก่อนหน้าที่ณุจะมาแล้ว ว่าแต่ณุเถอะไหวแน่นะที่จะต้องออกโรงพยาบาลวันนี้”“ไหวสิผมไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียวหรอกนะ ป่านกลับกรุงเทพผมก็จะกลับด้วย หมอก็บอกแล้วว่าแผลของผมไม่ได้เป็นอะไรมากกลับไปรักษาตัวที่บ้านหรือโรงพยาบาลที่กรุงเทพก็ได้”“แล้วณุจะเอายังไงต่อจะไปนอนโรงพยาบาลไหมป่านจะได้ให้คุณหมอที่นี่เขาประสานงานให้”“ผมว่าไม่ดีกว่าตอนนี้ผมก็ดีขึ้นมากๆ แล้ว”“แต่ณุต้องกินยาแก้อักเสบให้ตรงเวลาและครบตามที่คุณหมอสั่งให้เข้าใจไหม”วันนี้เธอต้องกลับกรุงเทพตามกำหนดเดิมและภาณุวิชญ์ก็ไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลต่อ เมื่อปรึกษาคุณหมอแล้วท่านก็อนุญาตให้เขาออกจากโรงพยาบาลได้แต่ต้องระวังเรื่องแผลและทานยาให้ครบคุณหมอให้ประวัติการรักษาไปด้วยเพราะเขาต้องไปให้หมอที่กรุงเทพตัดไหมให้ตอนนี้เธอเก็บของใช้ของตัวเองลงกระเป๋าเสร็จแล้วส่วนกระเป๋าเดินทางของภาณุวิชญ์ทางรีสอร์ทก็เอามาให้ตั้งแต่วันที่พาตำรวจมาสอบปากคำโรงพยาบาล เรื่องคดีเธอก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจและทางรีสอร์ทจัดการเพราะถึงเวลาแล้วที่หญิงสาวจะต้องบิน

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 27 ขอเปลี่ยนคำตอบ

    ปราญติญาระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าภาณุวิชญ์นั้นรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เธอกลับมาจากห้องน้ำ ภาณุวิชญ์รู้สึกดีมากที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาว เขาเองก็รู้สึกไม่ได้ต่างจากปราญติญาเลยระยะเวลาที่ไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือนนั้นทำให้เขารู้ใจตัวเองมากขึ้น เขาไม่สามารถลืมเรื่องราวระหว่างตนเองกับหญิงสาวได้เลย เขาตั้งใจไว้ว่าจะตามมาขอโทษเธออย่าจริงจังและขอโอกาสกับปราญติญาอีกครั้ง เขาจะบอกความรู้สึกที่มีกับเธอทั้งหมดเพราะกลัวว่าจะเสียเธอไปภาณุวิชญ์มาถึงสมุยในเย็นวันศุกร์หลังจากเช็กอินที่รีสอร์ทเดียวกับปราญติญาแล้วก็ไปหาเธอที่บ้านพักซึ่งรู้มาจากพรชนกว่าหญิงสาวพักอยู่ที่บ้านหลังไหนเมื่อไปถึงก็ยืนเคาะประตูอยู่นานแต่ทั้งบ้านก็เงียบสนิทชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอบริเวรชายหาดเพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะไปเดินเล่นเขาเดินไปเรื่อยๆ จนเห็นเธอเดินอยู่ที่ชายหาด แต่ก็ไม่ได้ตามเธอในระยะใกล้เพราะกลัวจะรบกวนเวลาของหญิงสาว แต่ก็ไม่คิดเลยว่าการที่เขาทิ้งระยะห่างจากเธอมากนั้นมันจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ถ้าหากปราญติญาเป็นอะไรไปเขาคงรู้สึกผิดและให้อภัยตัวเองไม่ได้อย่างแน่นอน“คุณจะหลับแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ น

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 26 ตื่นมาคุยกันหน่อย

    เพราะมัวแต่ตกใจปราญติญาจึงไม่ทันได้สังเกตว่าผู้ชายที่เข้ามาช่วยเธอนั้นคือใคร แต่พอพาเขาขึ้นมาบนรถพยาบาลและกำลังตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดพยาบาลที่มาด้วยก็เริ่มซักประวัติชายหนุ่มเพราะกลัวว่าถ้าไปถึงที่โรงพยาบาลแล้วเขาจะหมดสติไปเสียก่อน“คนเจ็บชื่ออะไร อายุเท่าไหร่คะ เคยมารักษาที่นี่ไหม คุณมีบัตรประจำตัวหรือบัตรประกันติดตัวมาหรือเปล่า”“ผมชื่อภาณุวิชญ์อายุ 27 ปี บัตรประจำตัวบัตรประชาชนผมอยู่ในกระเป๋าครับ” เสียงที่ตอบนั้นฟังดูเบาแต่มันก็ทำให้ปราญติญารีบหันหน้าไปมองเธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าคนที่นอนเจ็บอยู่ตรงหน้าคือภาณุวิชญ์“ณุมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”ภาณุวิชญ์ยิ้มก่อนจะตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา“ผมมาหาป่าน” เขาตอบเบาๆ เพราะตอนนี้เริ่มเจ็บแผลมากขึ้นเรื่อยๆ“คุณรู้จักกับคนเจ็บเหรอคะ” พยาบาลที่นั่งมาถามขึ้น“ค่ะฉันรู้จักเขา”“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวไปถึงโรงพยาบาลคุณช่วยทำประวัติคนไข้ให้ฉันด้วยนะคะ เราอาจจะต้องรีบพาเขาเข้าไปผ่าตัดด่วนเพราะตอนนี้เลือกเขาออกเยอะมาก”“ที่นี่มีคุณหมอประจำห้องผ่าตัดใช่ไหมคะ”“มีค่ะคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แต่คนไข้ค่อนข้างเสียเลือดมาก คุณเลือกกรุ๊ปอะไรคะพอจะจำได้ไหม” พยาบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status