ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความโรแมนติก โรเซ่และซูโฮเดินกลับมาที่บ้านพักหลังจากได้ชมดอกไม้ไฟในสวนสาธารณะ ความรู้สึกที่ทั้งสองได้แบ่งปันกันเมื่อสักครู่ยังคงติดอยู่ในใจ โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อได้อยู่เคียงข้างซูโฮ
เมื่อถึงบ้าน ซูโฮเปิดประตูให้โรเซ่และยิ้มให้เธออย่างสุภาพ โรเซ่สังเกตเห็นความพยายามของเขาที่จะทำตัวให้ดีที่สุดเพื่อเธอ ความรู้สึกอบอุ่นนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่นในตัวเขามากยิ่งขึ้น
"ขอบคุณนะที่เป็นสุภาพบุรุษให้ฉันเสมอซูโฮ ฉันชอบความรู้สึกนี้" โรเซ่เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
"ก็เพราะคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด! และผมก็อยากให้คุณรู้สึกพิเศษ" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจ
โรเซ่รู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ซูโฮยังคงไม่หยุดที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็รีบหยิบผ้าห่มมาเพื่อให้เธอได้นั่งอย่างสบาย
"นี่ เก็บไว้ถ้าหนาวนะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง
"คุณนี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยนะ" โรเซ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
"ก็คงเป็นเพราะคุณมีเสน่ห์แบบนั้น!" ซูโฮตอบด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ
พวกเขานั่งลงบนโซฟา และโรเซ่เริ่มพูดถึงประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อครู่ ในขณะที่พูด เธอไม่ลืมที่จะหยิบเรื่องตลกมาเล่าให้ซูโฮฟัง
"รู้ไหม? ฉันคิดว่าเราเป็นคู่รักที่น่าจะมีชีวิตเหมือนในนิยายโรแมนติกได้จริง ๆ" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
"ใช่เลย! แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงต้องเป็นนักรบที่คอยปกป้องคุณจากอันตราย!" ซูโฮตอบด้วยเสียงหัวเราะ
โรเซ่หัวเราะออกมา และในขณะเดียวกันก็ดื่มด่ำกับความอบอุ่นที่ซูโฮมอบให้ ความมั่นใจในตัวเองของเธอเริ่มเพิ่มขึ้น เมื่อเธอได้สัมผัสถึงความเอาใจใส่ที่เขาแสดงออกต่อเธอ ทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
"ถ้าคุณเป็นนักรบ ฉันจะเป็นนางเอกที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกินทุกวัน" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก
"ยินดีเลย! แต่คุณต้องเก็บสูตรอาหารลับไว้ให้ดีนะ" ซูโฮตอบด้วยเสียงหัวเราะ
พวกเขาทั้งคู่หัวเราะไปด้วยกัน โรเซ่รู้สึกว่าความสนุกสนานที่พวกเขามีร่วมกันกำลังเติมเต็มชีวิตของเธอให้สดใสมากยิ่งขึ้น
**การเปิดใจ...และความรู้สึกที่แท้จริง:**
ในระหว่างการสนทนา โรเซ่เริ่มมองซูโฮในมุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เธอเห็นความใส่ใจและความอบอุ่นที่เขามีต่อเธออย่างชัดเจน เธอจึงตัดสินใจลองถามเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ
"ซูโฮ คุณเคยมีความรู้สึกว่าคุณทำอะไรเพื่อคนอื่นมากเกินไปไหม" โรเซ่ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
"อืม... บางครั้งก็มีนะ แต่ผมคิดว่าถ้าเราใส่ใจคนอื่นให้มากขึ้น ชีวิตเราก็จะมีความสุขมากขึ้นเช่นกัน" ซูโฮตอบด้วยความจริงใจ
"มันน่าประทับใจมาก! ฉันเองก็พยายามให้มากที่สุดเช่นกัน" โรเซ่กล่าวด้วยความชื่นชม
ด้วยการพูดคุยกันแบบนี้ โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างพวกเขา และความมั่นใจในตัวเองของเธอก็เพิ่มขึ้น เมื่อเธอรู้ว่าเธอสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เขาได้เห็น
"ฉันรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนจิ๊กซอร์ที่พอดีกันจริง ๆ" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
"จริงสิ! เราควรจะทำทุกวันให้ดีที่สุดเพื่อกันและกัน" ซูโฮตอบด้วยความเห็นพ้อง
ซูโฮพยายามแสดงให้โรเซ่เห็นว่าเขาพร้อมที่จะเป็นสุภาพบุรุษและเป็นคนที่เธอสามารถพึ่งพาได้ ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม
"ถ้ามีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี หรือมีปัญหาอะไร ให้ผมรู้ได้เลยนะ ผมจะพยายามช่วยคุณให้ดีที่สุด" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง
คำพูดของซูโฮทำให้โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจ เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและเอาใจใส่จริง ๆ นอกจากนี้ เขายังทำให้เธอเห็นถึงความสำคัญของการดูแลซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์
"ขอบคุณนะซูโฮ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่มีเธอในชีวิต" โรเซ่กล่าวด้วยความซาบซึ้ง
"อย่าลืมนะ โรเซ่ คุณก็สำคัญสำหรับผมเหมือนกัน" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
**ความรัก...ที่เบ่งบาน:**
เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขายังคงนั่งคุยกันต่ออย่างอิสระ ความสนุกสนานและความน่ารักของซูโฮทำให้โรเซ่รู้สึกสบายใจ เธอรู้สึกถึงการเติบโตของความสัมพันธ์นี้และความเป็นตัวตนของเขาที่มีต่อเธอมากขึ้น
ในที่สุด ความคิดที่ว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่น่ารักในโลกแห่งความเป็นจริง ก็ทำให้โรเซ่รู้สึกตื่นเต้น เธออยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตกับเขาอย่างเต็มที่
"ฉันหวังว่าเราจะสามารถสร้างความทรงจำที่สวยงามร่วมกันได้ในทุก ๆ วัน" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
"แน่นอน! เราจะทำให้ทุกวันที่ผ่านไปมีความหมาย" ซูโฮตอบด้วยความมั่นใจ
ด้วยการที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันอย่างเปิดเผย ความสัมพันธ์ของโรเซ่และซูโฮจึงยิ่งแน่นแฟ้นและน่ารักมากขึ้น โรเซ่รู้ว่าเธอได้พบกับคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใด ๆ ในชีวิตก็ตาม
ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่น ที่ทำให้โรเซ่รู้สึกว่าเธอได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงในโลกใบนี้ และมีซูโฮอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อแบ่งปันความฝันและความหวังในอนาคตอย่างไม่สิ้นสุด
**ความใส่ใจ...และท่าทีที่แสนสุภาพ:**
หลังจากที่ซูโฮและโรเซ่เพลิดเพลินกับมื้ออาหารค่ำและเสียงหัวเราะในร้านอาหารโรแมนติก พวกเขาเดินกลับออกมาด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและแสงไฟจากเมืองที่สะท้อนอยู่ในสายตา ระหว่างทาง ซูโฮก็มองหาโอกาสเล็ก ๆ ที่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เขาไม่ค่อยได้ทำบ่อยนัก
ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินผ่านทางเดินที่มีแอ่งน้ำเล็ก ๆ อยู่ข้างหน้า ซูโฮรีบเดินนำหน้า เขาหันมามองโรเซ่และยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงความขี้เล่น
"ถ้าข้างหน้านี้ดูทุลักทุเลไปสักหน่อย เธออนุญาตให้ฉันช่วยไหม"
โรเซ่หัวเราะเบา ๆ และพยักหน้าให้เขาอย่างขำขัน แต่ก็รู้สึกประทับใจในความใส่ใจของเขา ซูโฮยื่นแขนให้เธอจับ โดยไม่รีรอ เขาช่วยพยุงเธอข้ามแอ่งน้ำนั้นไปได้อย่างเรียบร้อย แต่โรเซ่ก็ยังทำเป็นเล่น ๆ แกล้งสะดุดเล็กน้อยเพื่อดูท่าทางของซูโฮ
"ขอบคุณนะซูโฮ บางทีฉันอาจจะติดใจให้คุณเป็นผู้ช่วยเดินข้ามทางยาก ๆ ต่อไปก็ได้นะ" โรเซ่กล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น
"ถ้าคุณต้องการ ผมพร้อมเสมอ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซูโฮพยายามเปิดประตูให้เธอทุกครั้งที่ผ่าน ทำให้โรเซ่แอบยิ้มอยู่บ่อย ๆ กับความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงในนิยายที่มีสุภาพบุรุษคอยดูแล ทำให้เธอรู้สึกทั้งอุ่นใจและมีความสุขที่ได้มีเขาอยู่เคียงข้าง
เมื่อทั้งสองมาถึงสะพานที่มีลมพัดเย็น ซูโฮสังเกตว่าโรเซ่เริ่มลูบแขนตัวเองเบา ๆ เพราะอากาศหนาว เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ตัดสินใจถอดเสื้อคลุมของเขาออกและคลุมให้เธออย่างอ่อนโยน
"คุณอาจจะยังไม่ชินกับอากาศหนาวของที่นี่ นี่เสื้อคลุม ผมอยากให้คุณรู้สึกอุ่นมากกว่าที่จะต้องทนหนาว" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง
โรเซ่เงยหน้าขึ้นมองซูโฮ ตื่นตะลึงกับท่าทีที่สุภาพและใส่ใจของเขา แม้ว่าเธอจะเคยเห็นผู้ชายที่ดูแลเธอมาก่อน แต่การกระทำของซูโฮกลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นในแบบที่ต่างออกไป เธอพยายามปกปิดความรู้สึกเขินอายด้วยการพูดขี้เล่น
"ทำแบบนี้เดี๋ยวคุณก็ต้องหนาวเองซิซูโฮ" โรเซ่กล่าวด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไร ผมอยากให้คุณสบายใจมากกว่า" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
คำพูดนี้ทำให้โรเซ่รู้สึกหวั่นไหวในใจ เธอรู้สึกถึงความจริงใจและความอบอุ่นที่เขามอบให้ โดยไม่รู้ตัว เธอเริ่มมองเขาในแง่มุมที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ ซูโฮไม่ได้เป็นแค่เพื่อนที่มีความขี้เล่น แต่ยังเป็นผู้ชายที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่คนอื่นอาจจะมองข้ามไป
ทั้งคู่เดินต่อไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ โรเซ่แอบมองใบหน้าของซูโฮขณะที่เขากำลังสนใจวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืน เธอยิ้มอย่างอบอุ่น และรู้สึกขอบคุณที่ได้พบเขาในชีวิตนี้ ช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันในคืนนั้นทำให้เธอเริ่มมองเห็นซูโฮในมุมที่เป็นมากกว่าเพื่อนและคู่หูในการผจญภัย เขาคือคนที่เธอสามารถพึ่งพาได้ และคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
"ฉันโชคดีจังที่ได้พบคนแบบนี้" โรเซ่กระซิบเบา ๆ กับตัวเอง
"เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ" ซูโฮถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก แค่บอกว่าคืนนี้อากาศดีมากแค่นั้นเอง" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเขินอาย
ซูโฮหัวเราะออกมาเบา ๆ และเดินต่อไป โดยไม่รู้ว่าในใจของโรเซ่เริ่มมีความรู้สึกที่มากกว่ามิตรภาพเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งการเดินเล่นครั้งนี้ กลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทั้งคู่
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั