เมื่อซูโฮและโรเซ่ก้าวเข้าไปในโลกนิยายโรแมนติกที่เขาแนะนำ บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง บ้านสีขาวหลังเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบที่เงียบสงบ เงาของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนบนผืนน้ำ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนฝัน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ในขณะที่ซูโฮเดินเคียงข้างเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ซูโฮมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นและเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวล
"นี่...เราจะต้องแกล้งเป็นคู่รักเพื่อผ่านด่านนี้ไป คุณคิดว่าอย่างไร"
โรเซ่ที่ดูมั่นใจมาตลอด กลับหน้าแดงเล็กน้อย เธอหัวเราะเบา ๆ พลางพยายามซ่อนความเขินอาย
"แค่แสดงบทคู่รักเอง...คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้มที่พยายามจะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง
"ใช่ แต่คงต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อย ไม่อย่างนั้นเราอาจจะไม่ผ่านด่านนี้" ซูโฮตอบพร้อมกับยิ้มขำ
ทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ จนเจอกับคนชราที่ดูใจดีในชุดผ้าคลุมสีขาว คนชรามองทั้งสองด้วยความเอ็นดู
"ยินดีต้อนรับพวกเธอ ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ เหมือนคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน" คนชรากล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ซูโฮหันไปสบตาโรเซ่ เขาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่น และเอ่ยเสียงนุ่ม
"ใช่ครับ เราสองคนเป็นคู่รักกัน กำลังมาท่องเที่ยวด้วยกัน"
"ค่ะ เราชอบบรรยากาศที่นี่มากจริง ๆ" โรเซ่เสริมด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะกลบเกลื่อนความเขินอาย
หลังจากคนชราเดินจากไป ทิ้งให้ทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างสงบ โรเซ่หันมายิ้มขำ ๆ ให้ซูโฮ
"นี่...คุณจะแกล้งให้ฉันเขินไปถึงไหน" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น
"ผมแค่ทำให้แนบเนียนเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าคุณจะเขินจริง ๆ นะเนี่ย" ซูโฮหัวเราะเบา ๆ
**ความใกล้ชิด...และความฝัน:**
โรเซ่หัวเราะเบา ๆ และยื่นมือออกไปจับมือซูโฮอย่างมั่นใจ ทั้งคู่เริ่มเดินจับมือกันอย่างอบอุ่น ท่ามกลางทางเดินที่มีดอกไม้ประดับประดาอย่างสวยงาม กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่โรแมนติก
"คุณเคยฝันอยากมาในโลกนิยายแบบนี้บ้างไหม" ซูโฮถาม
"ใช่ ฉันเคยฝันมาตลอดว่าอยากให้มีใครสักคนพาฉันไปผจญภัยในโลกแฟนตาซี แต่พอมาวันนี้มันเกินความคาดหมายมากจริง ๆ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้ม
"ถ้าอย่างนั้นผมก็คงเป็นตัวละครในฝันของคุณแล้วสินะ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น
"คุณนี่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือเปล่า" โรเซ่ตอบด้วยเสียงหัวเราะ
พวกเขามาถึงจุดชมวิวริมทะเลสาบที่เงียบสงบ โรเซ่ปล่อยมือซูโฮและกางแขนสูดอากาศเต็มปอด เธอรู้สึกเป็นอิสระและมีชีวิตชีวาในบรรยากาศแบบนี้ ซูโฮมองเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
"คุณเป็นคนที่มีชีวิตชีวาจริง ๆ นะ ผมชอบที่คุณเป็นแบบนี้" ซูโฮกล่าว
"คุณเองก็เป็นคนดีเหมือนกัน ขอบคุณนะที่ทำให้การผจญภัยครั้งนี้พิเศษขึ้น" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้ม
ทั้งคู่ต่างสบตากันครู่หนึ่ง ความรู้สึกอบอุ่นในใจเริ่มก่อตัวขึ้น ซูโฮหันมาพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
"ถ้าเราจะทำให้มันเหมือนนิยายโรแมนติกจริง ๆ เธอคิดว่าเราควรทำอะไรต่อดี"
"อาจจะต้องทำให้เหมือนคู่รักในนิยายให้มากขึ้นล่ะ ไม่งั้นเราอาจไม่ผ่านด่านนี้" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
ซูโฮหัวเราะขณะที่พวกเขาหยอกล้อกันและหัวเราะไปพร้อม ๆ กัน บรรยากาศรอบตัวอบอุ่นและโรแมนติก เขารู้สึกว่าในโลกนิยายแห่งนี้ เขาและโรเซ่ต่างค้นพบด้านที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้เห็น
**ค่ำคืน...ที่เต็มไปด้วยแสงดาว:**
ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงดาว โรเซ่ปรากฏตัวในชุดเดรสยาวที่งดงามราวกับเจ้าหญิง ชุดเดรสสีอ่อนมีลวดลายละเอียดอ่อนพริ้วไหวและเข้ากับรูปร่างของเธอได้อย่างลงตัว ผมของเธอถูกรวบขึ้นเล็กน้อย ปล่อยให้บางส่วนตกลงมาปรกใบหน้าอย่างอ่อนโยน ทำให้เธอดูเป็นธรรมชาติและสวยสง่ามากยิ่งขึ้น
เมื่อซูโฮหันมาเห็น เขาถึงกับหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขามองเธอด้วยความชื่นชม และก่อนที่จะทันได้คิด เขาก็หลุดปากชมออกมาเบา ๆ
"สวยมาก...โรเซ่ วันนี้คุณสวยมากจริง ๆ"
คำชมของเขาทำให้โรเซ่สะดุดใจ เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที แม้จะมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างดี แต่คำชมที่จริงใจแบบนี้กลับทำให้เธอเขินจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ โรเซ่หัวเราะออกมาเบา ๆ พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกเขินอาย
"คุณพูดเกินไปแล้วซูโฮ ฉันแค่ใส่ชุดธรรมดาเท่านั้นเอง" โรเซ่ตอบด้วยเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเขิน
"ไม่หรอก ผมหมายความตามนั้นจริง ๆ โรเซ่ คุณดูสวยและ...ดูมีเสน่ห์มาก" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
คำพูดของซูโฮทำให้โรเซ่รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น รู้สึกทั้งอายและดีใจในเวลาเดียวกัน เธอพยายามเรียกความมั่นใจกลับมาแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
"ถ้าคุณชอบมากขนาดนี้ คุณจะจ่ายค่าเครื่องดื่มให้ฉันด้วยไหม" โรเซ่ถามด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
"แน่นอนซิ ผมยินดีจ่ายทุกอย่างให้คุณอยู่แล้ว ถือว่าเป็นค่าชมไปก็แล้วกัน" ซูโฮตอบพร้อมหัวเราะ
โรเซ่หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน เธอยิ้มและขยิบตาให้ซูโฮเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเดินนำหน้าเขาอย่างมั่นใจ ทำให้ซูโฮต้องรีบเดินตาม
**การเปิดเผย...และช่วงเวลาที่แสนหวาน:**
ขณะที่ทั้งสองคนเดินไปตามถนนที่ประดับไปด้วยแสงไฟ โรเซ่ก็เริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น จึงแกล้งแหย่ซูโฮต่อ
"ปกตินายชอบชมสาว ๆ แบบนี้กับทุกคนหรือเปล่า หรือแค่ฉันคนเดียว" โรเซ่ถามด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น
"พูดแบบนั้นคุณก็ทำให้ผมดูเหมือนคนเจ้าชู้เลยนะ แต่บอกเลย ผมไม่ได้ชมใครแบบนี้บ่อย ๆ หรอก เฉพาะคนที่สมควรได้รับคำชมจริง ๆ เท่านั้น" ซูโฮตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
โรเซ่ฟังแล้วก็ยิ้มออกมา เธอรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ยังคงแสร้งทำเป็นไม่สนใจมากนัก
"ถ้าอย่างนั้นฉันคงโชคดีสินะ ที่ได้คำชมจากซูโฮ" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น
"แล้วคุณคิดว่าอย่างไรล่ะ ได้คำชมจากผม คุณดีใจไหม" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอยากรู้
โรเซ่หัวเราะและพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยท่าทางขี้เล่น เพื่อปิดบังความรู้สึกของตัวเองที่เริ่มชัดเจนขึ้น เธอแกล้งทำเป็นสะบัดผมเล็กน้อยแล้วพูดด้วยความมั่นใจ
"แน่นอน ฉันก็รู้ว่าฉันสวยนะซิ! คำชมของคุณอาจจะไม่สำคัญเท่าที่ฉันคิดหรอก แต่ก็ขอบคุณนะ" โรเซ่ตอบ
ซูโฮหัวเราะอย่างเต็มเสียงที่ได้ยินคำตอบที่น่ารักและมั่นใจจากเธอ โรเซ่มีทั้งความขี้เล่นและเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เธอเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง นั่นทำให้เขารู้สึกว่าการอยู่ใกล้เธอทำให้เขามีความสุขอย่างน่าประหลาด
จากนั้นทั้งสองก็เดินมาถึงบริเวณที่มีร้านอาหารเล็ก ๆ สไตล์บรรยากาศโรแมนติก ซูโฮพาโรเซ่เข้าไปในร้านและเลือกโต๊ะที่อยู่ริมกระจก สามารถมองเห็นวิวของแสงไฟที่ส่องสะท้อนบนผิวน้ำ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นยิ่งขึ้น
"ดีไหม? ผมเลือกที่นี่เพราะคิดว่ามันจะเหมาะกับการแต่งตัวของคุณ" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"คุณเตรียมตัวมาดีจริง ๆ นะ แล้วฉันก็ชอบบรรยากาศที่นี่มากด้วย ขอบคุณนะซูโฮ" โรเซ่ตอบด้วยความซาบซึ้ง
หลังจากสั่งอาหาร ทั้งคู่ก็เริ่มพูดคุยกันต่อ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของเธอ ทั้งความฝัน ความทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่นในการทำให้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ขณะที่ซูโฮฟัง เขาสังเกตเห็นความมั่นใจและความแข็งแกร่งในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
"คุณเป็นคนที่น่าทึ่งมาก โรเซ่ คุณไม่กลัวที่จะใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเอง" ซูโฮกล่าวด้วยความชื่นชม
"ฉันคิดว่าเราทุกคนควรจะมีชีวิตตามที่เราฝันนะซูโฮ อย่าปล่อยให้ความกลัวมาหยุดเราไว้ เพราะถ้าเราไม่ลองดูสักครั้ง เราอาจจะพลาดสิ่งดี ๆ ในชีวิตไปก็ได้" โรเซ่ตอบด้วยความเชื่อมั่น
ทั้งสองคุยกันอย่างลึกซึ้งและหัวเราะไปกับเรื่องราวที่พวกเขาแบ่งปันกัน จนในที่สุดค่ำคืนก็ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด บรรยากาศโรแมนติกและเสียงหัวเราะที่แสนอบอุ่นทำให้ซูโฮรู้สึกว่าโรเซ่เป็นคนที่มีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ความมั่นใจ ความอ่อนโยน และความขี้เล่นของเธอ ทำให้เขาตกหลุมรักทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้
ค่ำคืนนั้นจบลงอย่างสวยงาม ด้วยรอยยิ้มและความทรงจำที่ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจลืม
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั