ร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน
"กินกาแฟดีกว่า" ลินายืนเลือกระหว่างนมกับกาแฟที่เรียงกันอยู่ในตู้เย็นขนาดใหญ่แต่เธอยังไม่ทันได้หยิบอะไรก็ต้องตกใจ เพราะว่าเธอเห็นคนหน้าเหมือนกับปาวกะมากกำลังมาเดินเลือกซื้อนมใส่รถเข็นไปประมาณเกือบสิบขวดใหญ่ได้ หญิงสาวต้องรีบหลบเข้าไปอีกฝั่งตรงชั้นวางขนมขบเคี้ยว ในขณะที่ผู้ชายร่างสูงที่เธอหลบอยู่นั้นกำลังเดินเข็นรถเข็นมา 'เขาต้องชดใช้ เธอรู้ไหม เขามาอยู่บนโลกมนุษย์นี้แล้ว' จู่ๆ ลินาก็นึกคำพูดของผีผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา งั้นก็แสดงว่าพลังของเขาอาจจะหมดไปด้วยถึงได้มาเดินซื้อนมกินแบบนี้ แต่เธอก็หลบหน้าได้ไม่เท่าไหร่เขาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว "ปาวกะ" ลินาอุทานเรียกชื่อของเขาอยู่ในลำคอ "เจ้า!" นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวเพ่งมองมายังลินา ทำให้เธอเกิดรู้สึกประหม่าทันที หญิงสาวยืนสบตากับเขาและนี่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าเธอสบตากับเขานานกว่าทุกครั้ง ดวงตาของเขามันไม่ได้เป็นสีแดงเหมือนครั้งก่อนๆ และที่สำคัญดวงตาของเขา…สวยจัง ปาวกะเปลี่ยนทรงผมใหม่หรือบางทีมันอาจจะเป็นทรงเดิมที่ไม่ได้ถูกเซทขึ้น เหมือนครั้งที่แล้วที่เจอกัน ผมหน้าม้าที่ถูกปล่อยลงมาปกคิ้วมันสะท้อนกับไฟบนเพดานของร้านสะดวกซื้อ ทำให้เห็นความเงางามของเส้นผมนั้นอย่างน่าหลงใหล "ข้าชื่อ อคิราห์" เขาตอบเสียงราบเรียบ "อ๋อ…สงสัยฉันทักคนผิดค่ะ ขอโทษนะคะ" ลินาโค้งคำนับให้เขา จะเป็นไปได้ไงหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะขนาดนี้หญิงสาวยืนเกาหัวอย่างงงๆ "เจ้าเลิกขอพรพร่ำเพ้อได้แล้ว มันน่ารำคาญ" น้ำเสียงใหญ่โทนต่ำพูดขึ้น ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสูงที่ต่างกันเกือบสามสิบเซนติเมตร "คะ" ลินายังไม่ทันได้พูดอะไรตอบ เขาก็เดินเข็นรถออกไปจ่ายเงิน เธอมองตามหลังผู้ชายร่างสูงใหญ่นั้นไป และเขาใส่ชุดสีดำทั้งชุดอย่างกับพวกมาเฟียเหมือนที่พ่อของเธอพูดไว้ไม่มีผิด …..และเขาเหมือนปาวกะมาก ครืดๆ ครืดๆ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของลินาสั่นเพราะมีสายเข้า 'ว่าไงเรย์' หญิงสาวเอ่ยถาม 'ลินา รีบมาบ้านเลยนะพ่อไม่สบาย อยู่ๆ ก็ล้มไปพวกเรากำลังพาพ่อไปหาหมอ' เสียงปลายสายคือเรย์ที่กำลังร้อนใจพูด 'พ่อ..พ่อล้มเหรอ' ลินาไม่รอให้น้องชายของตัวเองตอบอีกครั้ง กลับรีบวิ่งไปสตาร์ทรถยนต์ที่จอดไว้ข้างร้านสะดวกซื้อ ใช่บ้านของเธอมีรถยนต์คันเดียว หญิงสาวร่างบางขับรถไปด้วยใจวิตกกังวลกับอาการป่วยของพ่อเธอเป็นอย่างมาก ระยะทางเพียงแค่หนึ่งกิโลเมตรทำไมมันถึงไกลขนาดนี้ "ลินาๆ มีรถพยาบาลมารับพ่อของเธอไปแล้ว แม่กับน้องชายเธอก็ไปด้วยนะ" หญิงวัยกลางคนที่อยู่ข้างบ้านของลินาตะโกนเข้ามาในบ้าน หลังจากที่เห็นหญิงสาวลงจากรถยนต์มา "ป้าอิง พ่อเป็นยังไงบ้างคะ พ่อรู้สึกตัวไหมคะ" หญิงสาวรีบวิ่งไปยืนเกาะตรงขอบรั้วเพราะบ้านของทั้งสองรั้วติดกัน "พ่อของเธอไม่รู้สึกตัวเลย รถพยาบาลมารับไปแล้ว" หญิงสาวพยักหน้าแล้ววิ่งกลับไปที่รถยนต์ทันที "ลินา อย่าลืมล็อกบ้านดีๆ นะ" ป้าอิงตะโกนมาอีกครั้ง ป้าอิงคือป้าข้างบ้านที่โสดและมีอายุห้าสิบห้าปีแล้ว แกขึ้นชื่อรู้เรื่องของคนในหมู่บ้านดีที่สุด ถึงแม้บางครั้งลินาเองจะรู้สึกรำคาญแกอยู่นิดๆ ที่ชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นไปซะหมด แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย "ค่ะป้าอิง ขอบคุณนะคะ" ที่โรงพยาบาล "แม่คะ พ่อเป็นยังไงบ้างคะ" ลินาถามแม่ที่กำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้สะอื้น "พ่อไม่รู้สึกตัวเลย หมอกำลังช่วยอยู่ ฮือๆ" หญิงสาวสวมกอดแม่ที่กำลังร้องไห้และเรย์ก็มายืนโอบกอดทั้งพี่สาวและแม่ของเขาอีกที หญิงสาวเห็นว่าดวงตาของน้องชายแดงมาก เหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันดี หมอบอกว่าพ่อของเธอป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้ายและจะอยู่ได้อีกไม่นาน ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอด้วย พ่อไม่เคยมีอาการอะไรแบบนั้นเลยหรือหมออาจจะตรวจผิด พ่อต้องทนเจ็บปวดมากแค่ไหนกับโรคร้ายนั่น ลินาคิดพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ไหลรินกับความเสียใจ เธอนอนคว่ำหน้าลง ร้องไห้กับหมอนแบบกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ เพราะเธอกลัวว่าเรย์น้องชายของตัวเองจะได้ยินแล้วทำให้เขาใจไม่ดีไปด้วย เพราะทั้งสองคนพี่น้องกลับมาที่บ้านเพื่อเก็บของและกำลังจะออกไปเฝ้าพ่ออีกครั้ง "ได้โปรดเถอะ ช่วยคุ้มครองพ่อของหนูให้ปลอดภัย ช่วยให้พ่อหายป่วยจากโรคร้ายนั้นได้ไหม ช่วยพ่อของหนูเถอะนะ" หญิงสาวนอนพูดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างกับคนหมดหวัง ใช่เธอหมดหวังแล้วจริงๆ เธอยังทำใจไม่ได้ทุกอย่างมันเร็วเกินไป พอลินากับน้องชายมาถึงที่โรงพยาบาล แม่ของทั้งสองก็วิ่งหน้าตื่นมา บอกว่าพ่อฟื้นแล้ว และอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทำให้พวกเขาทั้งสามกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจอีกครั้ง ที่บ้านเกิดของลินา กรุ๊งกริ๊งๆ ลินาที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำถึงกับขนลุก เมื่อเสียงกังสดาลกระดิ่งลมที่แขวนตรงประตูดังขึ้นเหมือนมีใครมาโดนมันทำให้เกิดเสียงนั้น หรือจะเป็นเรย์ที่ลืมของเลยกลับมาเอางั้นเหรอ "เรย์…เรย์เหรอ" หญิงสาวตะโกนออกไป เพราะถ้าเป็นพ่อกับแม่ของเธอคงสูงไม่ถึงที่หัวจะชนกังสดาลนั้นหรอก ก็มีแต่…เรย์ ที่สูงพอที่หัวจะชนทำให้เกิดเสียงอยู่บ้างนิดหน่อย แต่เมื่อกี้เสียงมันดังแรงมาก เมื่อเธอเรียกชื่อน้องชายของเธอก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทำให้ลินารีบคว้าผ้าขนหนูสีขาวมานุ่งกระโจมอกและรีบเปิดประตูออกไปดูในทันที "ไม่เห็นมีใครเลย อาจจะเป็นลมที่พัดเข้ามาก็ได้" เธอพูดปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหน้าต่างไม่ได้เปิด แถมประตูก็ยังถูกปิดสนิทอีก "สองทุ่ม" เธอหันไปดูนาฬิกาที่แขวนตรงฝาผนัง ยังไม่ดึกมากพอที่ผีจะมาหลอกคนได้เธอคิดแบบนั้นจึงเดินเข้าไปอาบน้ำต่อ แต่ก็สังเกตเหมือนว่ามีสิ่งมีชีวิตสีขาวนวลที่นอนหายใจจนท้องกระเพื่อมอยู่บนเตียงของเธอ "แมวเหรอ" หญิงสาวจับแมวอุ้มขึ้นมาแต่มันยังคงนอนหลับปุ๋ยตัวอ่อนปวกเปียกเพราะหลับสนิท "พี่น่ะ ตกใจหมดแต่เข้ามาได้ไงเนี่ย คงง่วงมากล่ะสิ" เธอเอาใบหน้าถูกับจมูกสีชมพูของมันอย่างเอ็นดู ขนสีขาวที่ดูสะอาดสะอ้าน แถมยังมีกลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มอีกไม่รู้ว่าแมวของใครหลุดมา แต่ทำไม มันถึงเหมือนแมวที่เธอเจอเมื่อวันก่อนตอนอยู่ในห้องของปาวกะกันล่ะ "ทำไม หนูน่ารักขนาดนี้เนี่ย จุ๊บ" ลินาจุ๊บไปที่ปากสีชมพูของมันเบาๆ พึ่บ! ไฟดับ แล้วจู่ๆ ร่างของเธอที่นุ่งผ้าขนหนูสีขาวกระโจมอกอยู่ ก็ถูกร่างกายที่ใหญ่โตกดทับเอาไว้ "ขโมยยย ชะ..ช่วยด้วย" ร่างบางตะโกนจนสุดเสียงแต่ก็มีมือหนาๆ มาปิดปากไว้ซะก่อน ทำให้เธอดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดใหญ่โตนั้นอย่างไม่มีทางที่จะหลุดออกมาได้ "เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกขอพรพร่ำเพรื่อ ข้ารำคาญ" เสียงทุ้มใหญ่น่าเกรงขามนั้นพูดอยู่ข้างใบหูของเธอในระยะลมหายใจร้อนผ่าวของเขาที่รดต้นคอของหญิงสาวจนเธอถึงกับห่อไหล่ "ปาวกะ" ร่างบางพูดขึ้น "อคิราห์ ข้า…อคิราห์" เสียงทุ้มใหญ่พูดย้ำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ปล่อยก่อน" ร่างบางดันตัวเองออกจากอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขาจนสุดกำลัง แล้วจู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมาทำให้เธอเห็นผู้ชายที่ใส่ชุดสีดำที่นอนอยู่บนเตียงได้ถนัดตาแต่เขายังคงนอนหลับตาอยู่ "คุณไม่ควรมาอยู่ที่ห้องนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นปาวกะหรืออคิราห์" หญิงสาวรีบเอามือปิดป้องหน้าอกตัวเองเมื่อเขาลืมตาขึ้นมามองเธอ ผมหน้าม้าที่ปิดจนถึงคิ้วของเขาพลิ้วไหว เธอคิดว่าเพียงแค่เธอยกผมนั้นขึ้นก็จะรู้ทันทีว่าเขาเป็นปาวกะจริงอย่างที่เธอคิดไว้หรือไม่ หญิงสาวนึกถึงคิ้วที่ยกสูงเหมือนคนตกใจตลอดเวลา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาที่เจอกันครั้งแรกนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่สามารถลืมไปได้เลย“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก