"ข้าขอนอนพักสักหน่อยเจ้าอยากไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ" เขานอนหงายแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ เธอไม่แน่ใจว่าคนที่นอนบนเตียงอยู่ตรงหน้านี้เป็นเทพหรือเป็นผีกันแน่ แล้วแมวตัวนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ
"โอ๊ย…คิดแล้วปวดหัว นี่ถ้าฉันออกมาแล้วยังเจอคุณนอนอยู่บนเตียงอีกเราได้เห็นดีกันแน่ ฉันไม่กลัวหรอกนะ ว่าคุณจะเป็นผีหรือเป็นใครเพราะว่าตอนนี้คุณกำลังบุกรุกห้องนอนของฉันอยู่" หญิงสาวยืนตะเบ็งเสียงพูดกับเขาโดยแทนตัวเองว่าฉัน ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเจอกันครั้งแรกยังแทนตัวเองว่าหนู แน่ล่ะเพราะเธออยู่ในบ้านของเธอแล้วไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป พรึบ! จู่ๆ ไฟก็ลุกไหม้เตียงนอนของหญิงสาว เธอขยี้ตาซ้ำๆ เพื่อดูให้แน่ใจ เขายังคงนอนอยู่ในกองเพลิงนั้นอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด มันจะมากไปแล้วนะ! นี่ถึงขนาดเผาเตียงกันเลยเหรอ เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปิดน้ำใส่ถังใบเล็กมากะว่าจะเอามาดับไฟ แต่ทันทีที่เธอวิ่งถือถังน้ำออกมากลับไม่มีไฟไหม้เลยสักนิดหรือแม้แต่ควันไฟก็ไม่มี ทั้งที่เมื่อกี้เธอเห็นเขานอนอยู่ในกองเพลิงนี่นา แต่ดูสิเขายังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย "ผีหลอกฉันเหรอ หลอกกันแบบนี้เลย" เธอเริ่มสับสนหรือนี่ฝันซ้อนฝันกันแน่ เปรี๊ยะ!!! ลินาตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ "เจ็บชะมัด" เธอเอามือถูแก้มของตัวเองไปมา อยู่ไม่ได้แล้วลินาเผ่นเถอะ เธอวิ่งไปที่ประตูในชุดที่ยังนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกอยู่ เสียงลูกบิดประตูล็อกดัง แค้ก มีหรือที่เธอจะเปิดไปไม่ได้ แต่มันก็เปิดไปไม่ได้จริงๆ "เขานอนหลับอยู่ เขาไม่ให้เธอออกไป ปาวกะเขาอยู่บนเตียง" เสียงที่กระซิบข้างหูของหญิงสาวทำให้เธอขนลุกซู่ แล้วเธอก็ค่อยๆ หันไปมองตามเสียงที่พูดใส่หูของเธอ แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธออึ้งและกำลังจะกรีดร้องด้วยความตกใจกับใบหน้าของผีผู้ชายที่มีใบหน้าเน่าเฟะส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วห้อง "ชู่…อย่าร้องเชียวถ้าไม่อยากโดนเขาเผาให้ตาย" ผีผู้ชายยกนิ้วชี้ขึ้นมาชู่ใส่ปาก แหยะ น่าเกลียดน่ากลัวที่สุดนี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน "เจ้ากวนใจข้ามาก" เสียงทุ้มใหญ่กังวานนั้นดังมาจากเตียงนอนแต่เขายังคงนอนนิ่งและหลับตาอยู่ ฟู่! ไฟลุกท่วมตัวของผีผู้ชายคนนั้นสว่างจ้าไปจนทั่วห้อง พร้อมเสียงร้องโอดครวญชวนโหยหวนน่าสะพรึงกลัว "คุณไปเผาเขาทำไม" เธอหันไปถามชายร่างใหญ่ที่นอนนิ่งอยู่ "ถ้าเจ้าไม่อยากโดนเผาด้วย กลับเข้าไปใส่เสื้อผ้าซะ" ลินาถึงกับสะดุ้งเฮือก นี่เธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวในห้องนี้กับผู้ชายได้อย่างไรกัน แต่เธอก็ยังแอบชำเลืองมองเขาที่นอนหลับตาแต่ใบหน้ายังคงบึ้งตึงอยู่ เช้าวันใหม่ หญิงสาวพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ ของเธอทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอปูผ้านอนกับพื้น เพราะปาวกะไม่ให้เธอออกไปนอกห้อง หรือเขาอาจจะอุ้มเธอขึ้นมานอนบนเตียงจริงๆ หรืออาจจะไม่ได้อุ้มอาจจะเหวี่ยง โยน หรือกระชากเธอขึ้นมาก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะเขากลับไปแล้ว และเธอไม่ได้รู้สึกกลัวเขามากเหมือนครั้งที่แล้ว แต่กลับรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกที่เขายังมาวนเวียนข้างเธอแบบนี้ ที่โรงพยาบาล "ลินา พ่อของเราได้กลับบ้านแล้วนะ พ่ออาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลย" น้องชายของลินาวิ่งมาหาเธอด้วยท่าทางตื่นเต้นเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปยังห้องพักของผู้ป่วยที่พ่อของเธอนอนอยู่ "จริงเหรอเรย์" เธอยิ้มและบีบมือน้องชายจนแน่น "ใช่..แม่กำลังคุยกับหมออยู่" เรย์ยังคงยิ้มไม่หุบเพราะดีใจ ทำให้หญิงสาวพลอยตื่นเต้นไปด้วย 'เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกขอพรพร่ำเพรื่อ ข้ารำคาญ' คำพูดของปาวกะก้องเข้ามาในหัวของลินาอีกครั้ง หรือว่าเขาจะให้พรกับเธอนี่มัน พ.ศ.อะไรแล้ว ไม่มีทางหรอกถ้าขอได้ป่านนี้เธอคงรวยเละไปแล้วล่ะ "เรย์ แกเชื่อเรื่องผีไหม" หญิงสาวถามน้องชายด้วยสีหน้านิ่งๆ "ไม่เชื่อหรอกผีอะไร ผีไม่มีในโลกหรอกลินา" เขาตอบพี่สาวพร้อมหัวเราะร่วน "แกไม่เชื่อเหรอ ผีมีจริงๆ นะ" หญิงสาวถามต่อ "อะไรกัน นอนอยู่บ้านคนเดียวแค่คืนเดียวถึงกับเพี้ยนเลยเหรอ" น้องชายตัวดีของเธอทำหน้าล้อเลียนหญิงสาว ที่เธอพูดไปก็เท่านั้นแหละเพราะน้องชายของเธอไม่กลัวและไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ "ลินา พ่อออกมาแล้ว" เรย์สะกิดพี่สาว ทั้งเธอและน้องชายรีบวิ่งไปหาพ่อกับแม่ที่กำลังเดินตรงไปยังห้องจ่ายยา "เป็นยังไงบ้างคะพ่อ" ลินาถามพ่อพร้อมกับจับแขนของเขาไว้จนแน่น "พ่อหายดีแล้ว รู้สึกเหมือนกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งเลยนะลินา" พ่อของเธอทำท่าเบ่งกล้ามโชว์ "จริงเหรอคะ ดีจังเลย" ลินาเอาหัวซบลงบนไหล่ของชายวัยกลางคนที่ดูยิ้มร่าดีใจเพราะอาการป่วยดีขึ้นจนได้กลับบ้าน "เอาน่าเก็บไปอ้อนกันที่บ้านเลย ให้เรย์อ้อนพ่อบ้าง" น้องชายดันตัวของพี่สาวออกจากผู้เป็นพ่อแบบว่าอยากเข้าไปอ้อนเขาบ้าง "บ๊ะ! ลูกๆ นี่อ้อนพ่อกันเป็นเด็กเลย" ชายวัยกลางคนพูดพร้อมกับยิ้มอย่างดีใจ "ก็ดีใจนี่คะที่พ่อหายป่วย" ลินาพูด "แต่เหมือนเมื่อคืน พ่อฝันแปลกๆ นะ" คนเป็นพ่อพูดพลางเอามือลูบคางตัวเองทำท่ายืนนึกเกี่ยวกับ ความฝันเมื่อคืน "ฝันอะไรเหรอคะพ่อ" "พ่อฝันว่ามีผู้ชายร่างสูง ผิวขาว หน้าตาเขาดีมาก จู่ๆ ก็มากรีดแขนของตัวเองแล้วเอาเลือดให้พ่อดื่มแต่แปลกที่เลือดของเขาเป็นสีฟ้า" ชายวัยกลางคนพูดพลางหัวเราะไปกับความฝันที่ดูตลกของเขา "แล้วพ่อดื่มไหมครับ" เรย์ถามแซวเพราะเธอรู้ว่าน้องชายไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ "ดื่มสิ พ่อหยิบมาดื่มจนหมดแก้วไม่รู้ทำไม แต่หน้าของเขาคุ้นมากนะเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนแต่พ่อก็นึกไม่ออก" คนเป็นพ่อพูดทิ้งท้ายไว้ทำให้หญิงสาวนึกถึงปาวกะอีกครั้ง ก่อนที่จะรีบสลัดเขาออกไปจากความคิดทั้งหมดทั้งมวลของตัวเองจนหมดสิ้น " ไปๆ กลับบ้านกันเถอะพ่อต้องการพักผ่อนแล้ว" ผู้เป็นแม่พูดเมื่อเธอได้รับยาของพ่อมา "ไปกันค่ะพ่อ กลับบ้านเรากัน" "ถึงบ้านซะทีสินะ" เรย์ยืนบิดขี้เกียจหลังจากลงจากรถยนต์คันสีขาวของบ้าน ลินามองขึ้นไปบนหลังคาเพราะคิดว่าปาวกะอาจจะนั่งอยู่บนหลังคามองพวกเธอลงมาเหมือนในละครอยู่ก็เป็นได้ บ้านไม้สองชั้นหลังเก่าทรุดโทรมลงไปมาก ครอบครัวของเธอไม่ได้มีเงินอะไรมากนักหรอก พ่อกับแม่เปิดคาร์แคร์ล้างรถและขายอาหารตามสั่งไปด้วย เป็นร้านเล็กๆ ที่พอมีรายได้ส่งเธอกับน้องชายเรียนไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะพวกเขาอยู่กันแบบพอเพียงถึงแม้ว่าอีกไม่กี่วันเธอต้องกลับไปเรียนและสอบปลายภาคสุดท้ายถึงจะจบ ซึ่งลินายังลังเลว่าจะกลับมาหาทำงานแถวบ้านหรือที่กรุงเทพฯดี ปีหน้าเรย์ก็จะเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯแล้ว เธออาจจะต้องดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเขา ลินาเดินตามหลังพ่อกับแม่และน้องชายเข้าไปในบ้าน สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของคนทั้งสามนั้นด้วยความเป็นห่วง อาทิตย์หน้าหมอนัดให้ไปฟังผลตรวจอีกครั้งและเธอเองก็หวังว่าจะมีข่าวดีเกิดขึ้นกับพ่อของเธอด้วยเช่นกัน“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก