อะไรนะ?ลั่วเทียนเต๋อรีบขวางหลินเยว่หรูไว้แล้วกล่าวว่า “เยว่หรู คุณคงไม่ได้บ้าไปแล้วหรอกนะ? แม้แต่คุณชายเซียวเหยายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนคนนั้น คุณ…คุณยังจะไปหาเรื่องเขาอีกเหรอ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลินเยว่หรูก็เท้าเอว ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งก่อนเอ่ยเสียงเย็น “คนแซ่ลั่ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน? ถ้าไม่มีตระกูลฝ่ายแม่ของฉัน พวกคุณตระกูลลั่วจะมีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ไหม?!”“คุณดูสิว่าลูกชายของฉันถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้แล้ว แล้วคุณล่ะ? มัวแต่หดหัวเหมือนเต่าอยู่ได้!”เหล่าคนรับใช้ของตระกูลลั่วได้ยินเช่นนี้ก็รีบออกจากโถงทันทีเมื่อใดที่คุณนายโมโห ก็จำเป็นต้องรักษาหน้าของผู้นำตระกูลไม่ใช่เหรอความจริงแล้วในนามของตระกูลลั่ว ลั่วเทียนเต๋อจะเป็นผู้ดูแล แต่ในความเป็นจริง ทุกเรื่องล้วนต้องได้รับการอนุมัติจากหลินเยว่หรู ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไรสุดท้ายแล้ว ตระกูลหลินก็มีอำนาจมากกว่าอย่างไรก็ตาม อิทธิพลของตระกูลหลินไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์และยิ่งไม่ใช่โลกธุรกิจ แต่กลับเป็นโลกแห่งการหยั่งรู้และภูเขาสือว่านตระกูลหลินในโลกแห่งการหยั่งรู้ เรียกได้ว่ามีสถานะไม่ด้อยไปกว่าสำนัก อีกทั้งสำนักใน
“ผู้นำตระกูลลั่ว โปรดอย่าเข้าใจผิด ผม... ผมไม่ได้ล้อเล่นนะครับ แม้แต่อาจารย์ของผมยังพูดว่า คุณฉู่มีทักษะการแพทย์ระดับเทพ เหนือกว่าเขาไม่รู้กี่ระดับ!”“ตราบใดที่คุณฉู่ยอมลงมือ ลูกชายของคุณจะต้องกลับมามีชีวิตใหม่อย่างแน่นอนครับ นอกจากนี้ผมกับครอบครัว ตอนนี้กำลังขึ้นรถไฟไปเมืองหลงจิงแล้ว ผู้นำตระกูลลั่วไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาผมที่บ้านหรอกนะครับ!”กล่าวจบ ปี้เหวยก็ตัดสายทิ้งทันทีแม่งเอ๊ย!ไอ้เลวนี่หนีไปแล้วงั้นเหรอ?!เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณสายไม่ว่าง ลั่วเทียนเต๋อก็มีความคิดที่จะฆ่าคนขึ้นมา“พ่อคะ หนูก็เคยได้ยินมาว่าทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินยอดเยี่ยมมาก หนูจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งเคยพูดถึงคนคนนี้เหมือนกัน”ลั่วหัวเอ๋อร์ขมวดคิ้วเรียวงาม ครุ่นคิดอยู่นาน ทันใดนั้นสายตาก็สว่างวาบขึ้นและกล่าวว่า “ใช่แล้ว เป็นหลินชือหย่า”เมื่อนึกขึ้นได้ ลั่วหัวเอ๋อร์จึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหลินชือหย่าผ่านไปครู่ใหญ่ อีกฝั่งจึงมีเสียงของหลินชือหย่าตอบกลับ “หัวเอ๋อร์? เธอมีเวลาว่างด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่ากำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่งหรอกเหรอ?”เมื่อครึ่งปีก่อน ลั่วหัวเอ๋อร์ได้หมั้นหมายกับคุณชายแห่งสำนักหนึ่งบน
ลั่วเทียนเต๋อตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเร่งฝีเท้าวิ่งตามออกไปไปพลาง ตะโกนสั่งเสียงดังไปพลาง “เรียกรวมตัวบอดีการ์ดตระกูลลั่ว แล้วไปที่เจียงจงกับฉัน!”สิ้นเสียง บอดีการ์ดตระกูลลั่วนับสิบคนก็พุ่งขึ้นรถตู้ในทันทีรถตู้สีดำสิบกว่าคันมุ่งหน้าตรงสู่เจียงจงอย่างยิ่งใหญ่……ขณะเดียวกัน ฉู่เฉินก็เพิ่งส่งพ่อลูกตระกูลจินออกไป ก่อนจะพาเจ้าทึ่มมาที่ลานกว้างหลังภูเขาตอนนี้ฉู่เฉินทะลวงระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ดแล้ว และยังอยู่ห่างจากการทะลวงผ่านเพียงก้าวเดียว จึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง“มา ครั้งนี้เรามาซ้อมกันให้เต็มที่ อย่าได้ออมมือ”ฉู่เฉินมองเจ้าทึ่มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“คุณไม่ใช่คู่มือของผม”ดวงตาของเจ้าทึ่มเป็นประกายไฟสีน้ำเงินวูบไหวสองครั้ง ก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่า“ต้องสู้ก่อนถึงจะรู้!”สิ้นเสียง ฉู่เฉินเหยียบพื้นด้วยท่วงท่าเจ็ดดาราแปดทิศ ทั่วร่างถูกห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายพลังชีวิตที่ไม่มีวันหมดสิ้น พลังพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ไม่มีประโยชน์”เจ้าทึ่มส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยหมัดตรงพุ่งไปที่ฉู่เฉินอย่างหนักหน่วงตูม!ฉู่เฉินชกสวนกลับไปอย่างแรง แต่แค่หมัดเดียว กลิ่นอายรอบกายของฉู่
เจ้าทึ่มค่อยๆ หันศีรษะ หมุนคอไปได้ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบองศา จ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แม่งเอ๊ย!ฉู่เฉินรู้สึกแย่ไปหมด ไอ้หมอนี่มันวิปริตชัดๆ!แต่วินาทีต่อมา เพียงเห็นเจ้าทึ่มยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาขนานกับพื้นในทิศทางตรงข้ามและปัดป้องกระบี่ยาวของฉู่เฉินออกไปบ้าเอ๊ย!ไม่ใช่แค่หัวที่หมุนได้หนึ่งร้อยแปดสิบองศา แม้แต่แขนขาทั้งสี่ก็ดูเหมือนจะขยับได้อิสระ นี่มันชวนให้คนหมดคำพูดจริงๆแม่ง พี่ใหญ่นายเก่งรอบด้านจริงๆฉู่เฉินรีบชักกระบี่กลับ ในขณะเดียวกัน ร่างของเขาก็ถอยออกไปสิบกว่าก้าว แต่ยังไม่ทันที่ฉู่เฉินจะตั้งหลักได้ เจ้าทึ่มก็พุ่งมาตรงหน้าฉู่เฉินแล้ว“โฮก!”ในชั่วพริบตาที่เล็บคมกริบราวใบมีดของเจ้าทึ่มพุ่งเข้าใส่ฉู่เฉิน ฉู่เฉินก็เปลี่ยนดาบไปถือมือซ้าย และกลิ่นอายทั่วร่างก็ปะทุออกมาเสียงมังกรคำรามกึกก้องไปทั่วทั้งสี่ทิศ!เพียงเห็นฉู่เฉินซัดหมัดออกไป ราวกับมีชันหลงอยู่บนกำปั้น พุ่งเข้าไปที่กลางอกของเจ้าทึ่มตูม!เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ร่างของเจ้าทึ่มก็ถูกซัดกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร หน้าอกถูกเจาะเป็นรูเลือดโปร่งแสงเจ้าทึ่มถึงกับตกตะลึงเขาเป็นผีดิบเลือดคลั่ง ร่างเนื้อโดย
อะไรนะ?ใบหน้าสวยของหลินเยว่หรูเย็นชาลงเล็กน้อย ในดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอันพลุ่งพล่านเด็กเลวนี่ กล้าดียังไงมาแทะโลมเธอต่อหน้าผู้คน?!“แกคือชู่เฉิน?”หลินเยว่หรูหรี่ดวงตาหงส์จ้ององฉู่เฉินอย่างเย็นชาและเอ่ยถาม“ผมนี่แหละ”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ชี้ไปที่ต้วนหลิงเสวี่ยแล้วกล่าวว่า “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”“หึ อยากให้ฉันปล่อยเธอก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่แกต้องรักษาลูกชายของฉันให้หายซะก่อน”หลินเยว่หรูแทงกริชไปที่ลำคอหยกขาวของต้วนหลิงเสวี่ยฉู่เฉินขมวดคิ้ว เหลือบมองไปที่ลั่วเทียนเต๋อที่อยู่ด้านหลังหลินเยว่หรูแวบหนึ่ง ครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะกล่าวว่า “อาการของเขา ผมทำอะไรไม่ได้ ชะตากรรมกำหนดให้ชีวิตนี้เขาเป็นผู้ชายไม่ได้แล้ว เปลี่ยนเงื่อนไขเถอะ”พู่!เมื่อลั่วเทียนเต๋อได้ยินดังนั้น ก็กระอัดเลือดออกมาคำใหญ่“ไร้สาระ!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด กวาดสายตามองลั่วเทียนเต๋อ “นั่นคือสามีของฉัน ไม่ใช่ลูกชายของฉัน”ในที่สุด ฉู่เฉินก็พยักหน้าเข้าใจและกล่าว “โอ้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ช่วงนี้คุณนายคงเหนื่อยกับการช่วยตัวเองทุกคืน”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ไม่เพียงแต่ลั่วเทียนเต๋อเท่านั้นที่งุนงง หลินเยว
“ฉันถามแกว่าสามารถรักษาลูกชายของฉันได้ไหม”ฉู่เฉินยิ้มจางและกล่าวว่า “คุณนายลั่วอย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมแค่อยากให้คุณเห็นทักษะการแพทย์ของผม ไม่ได้มาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของพวกคุณสองสามีภรรยา”“อย่างไรก็ตาม ผมไม่ชอบถูกคนข่มขู่ ตอนนี้คุณจับสาวรับใช้ของผมไว้ แล้วผมจะช่วยได้ยังไง?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลินเยว่หรูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แค่นเสียงและผลักต้วนหลิงเสวี่ยไปข้างหน้า ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถือว่าแกยังรู้จักคิด ไม่งั้น...”โดยไม่รอให้หลินเยว่หรูกล่าวจบ ฉู่เฉินก็ดึงต้วนหลิงเสวี่ยไว้ข้างหลังและโบกมือขัดจังหวะ “คุณนายลั่ว คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมแค่ให้คุณปล่อยสาวรับใช้ของผม แต่ไม่เคยรับปากว่าจะช่วยลูกชายของคุณ”บัดซบ!แม้แต่ลั่วเทียนเต๋อก็เริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หลินเยว่หรูยิ่งจ้องตาเขม็ง พร้อมกล่าวเสียงเย็นชา “ไอ้เลวนี่ แก... แกกล้าล้อฉันเล่นงั้นเหรอ!”ฉู่เฉินยิ้มจางและกล่าวว่า “ไม่ๆ ๆ คุณนายเข้าใจผิด ผมแค่หยอกล้อคุณเท่านั้น”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป แม้แต่บอดีการ์ดของตระกูลลั่วต่างก็สูญเสียความสงบดูเหมือนว่าฉู่เฉินจะไม่เคยโดนสั่งสอนเลยสินะทุกคนในตระกูลลั่ว ใค
ฉู่เฉินสำรวจเรือนร่างอันเย้ายวนของหลินเยว่หรู ก่อนจะกวาดตามองใบหน้ารูปไข่ที่ยังคงยังสวยไม่สร่าง ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกล่าวว่า “คุณนายลั่ว คุณคงไม่ได้คิดจะสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งกับผมจริงๆ หรอกนะ?”“ถุย!”หลินเยว่หรูถ่มน้ำลายอย่างรุนแรง กล่าวว่า “วันนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาคืนฝ่ามือเมื่อกี้ให้ได้!”เธอทั้งอายทั้งโกรธแต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือฝ่ามือของฉู่เฉินเมื่อกี้ เหมือนการโยนก้อนหินก้อนใหญ่ลงในสระน้ำที่สงบนิ่ง ทำให้ประกายไฟที่ถูกเก็บไว้ในใจมานานหลายปีลุกโชนขึ้นมาทันทีตอนนี้หลินเยว่หรูโกรธจัด ความรู้สึกที่ทั้งอยาก ทั้งเกลียด และทำอะไรฉู่เฉินไม่ได้นั้น ใกล้จะทำให้เธอคลั่งอยู่แล้ว“ทำไม คุณนายลั่วไม่อยากช่วยลูกชายของคุณแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินยกยิ้มมุมปาก ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะกล่าวต่อ “แม้จะเป็นหญิงวัยกลางคน แต่คุณนายลั่วก็ยังคงสวยโดยธรรมชาติ ทำให้ผู้คนหลงใหล”ซี้ด!เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วเทียนเต๋อก็รู้สึกแย่มากฉู่เฉินเด็กเลวนี่ ต่อหน้าคนตั้งมากมาย ยังกล้ามาจีบภรรยาของเขา?“เยว่หรู อย่าไปฟังเจ้าเด็กนี่พูดจาเหลวไหลเลย ถ้าไม่ได้จริงๆ เรา... เราก็ส่งลูกไปที่วังเทียนเจี้ยน พวกเ
ความรู้สึกที่ซับซ้อนและขัดแย้งเหล่านั้นทำให้ในช่วงเวลานั้นลั่วหัวเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าควรช่วยใครดีฉู่เฉินยิ้มบาง เหลือบมองลั่วเทียนเต๋อแวบหนึ่งก่อนกล่าวขึ้นว่า “เป็นผู้ชายก็ต้องมีศักดิ์ศรี คนเขาอยู่เป็นม่ายมาถึงสิบสามปีก็ไม่ง่ายเลย”“ถ้าเป็นผม ป่านนี้คงเลี้ยงสัตว์บนหัวคุณไปนานแล้ว คุณยังไม่พอใจอะไรอีก”กล่าวจบ ฉู่เฉินไม่แม้แต่จะปรายตามองลั่วเทียนเต๋ออีก แต่กลับหันไปมองหลินเยว่หรูพร้อมกล่าวว่า “วางใจเถอะครับ ผมเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อรับปากว่าจะรักษาลูกชายของคุณแล้ว ก็จะทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนคนปกติให้ได้”“หืม?”ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกไป ลั่วเทียนเต๋อและหลินเยว่หรูต่างชะงักไปทันที ดูเหมือนว่าคำพูดของฉู่เฉินจะมีนัยแอบแฝงอยู่“ฉู่เฉิน... แก... แกหมายความว่ายังไง? อะไรคือเหมือนคนปกติ?”หลินเยว่หรูเอ่ยถามด้วยไม่สบายใจฉู่เฉินยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณนายลั่วเกรงว่าจะยังไม่รู้สินะ ว่าลูกชายของคุณลั่วเสี่ยวเทียนไม่ได้เป็นผู้ชายตั้งแต่เกิด”ซี้ดๆ!เมื่อหลินเยว่หรูได้ยินเช่นนี้ ถึงกับชะงักไปทันทีแต่ไม่นาน หลินเยว่หรูก็หวนรำลึกถึงเรื่องราวต่างๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา บรรดาคุณหนูจากตระกูล
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า