공유

บทที่ 474

작가: มู่โร่ว
เสี่ยวเถาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่นางถึงพูดเช่นนั้น แต่นางก็ยังคงพยักหน้า

“ไปเถอะ พวกเราไปรวมตัวกับช่างวังกัน!”

“ข้าอยากรู้ รากฐานของกองทัพตระกูลจ้านให้มากกว่านี้!”

“อ้อ เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ!”

*

เมื่อจ้านเฉิงอิ้นจัดการทำความสะอาดโรงงาน เขาก็เห็นคลังสินค้าที่เต็มไปด้วยปืน

ใช่แล้ว ปืนไรเฟิลที่เหมือนกับปืนล่าสัตว์

เพียงแต่ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาหยาบกว่าปืนล่าสัตว์ แต่การทำงานก็เหมือนกัน

เขาส่งรูปถ่ายไปให้เย่มู่มู่

เย่มู่มู่เพิ่งตื่นจากเตียง เห็นแท็บเล็ตที่ถูกส่งมา เมื่อเปิดดูก็เห็นภาพปืนไรเฟิลที่ปรากฏขึ้นมา...

รุ่นที่เหมือนกับปืนจู่โจมเอเคสี่สิบเจ็ด!

เพียงแต่ว่างานสร้างหยาบกว่าเล็กน้อย แต่มีทุกอย่างที่ควรจะมี

เป็นไปตามที่เธอคาดเดาไว้จริง ๆ

มู่ฉีซิวมีปืนอยู่ในมือ

ครึ่งคลังสินค้าเต็มไปด้วยปืน

จำนวนน่าจะประมาณหลายพันกระบอก

นี่เป็นเพียงคลังสินค้าเดียว ยังมีคลังสินค้าอีกหลายแห่ง หากทั้งหมดเต็มไปด้วยปืน

ปืนในมือของมู่ฉีซิวน่าจะมีหลายหมื่นกระบอกเป็นอย่างน้อย

จำนวนที่แท้จริง อาจจะมากกว่านั้น!

เธอประมาทคนนี้ไม่ได้จริง ๆ

ด้วยสติปัญญาระดับสูง ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในแคว้นต้าฉี่เมื่อสองพันปี
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 475

    สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านก็คือ คนหลายสิบคนที่มาพร้อมกับซุนเฮ่อ ล้วนแต่ถูกเลี้ยงดูจนอ้วนท้วนสมบูรณ์พวกเขาบอกว่า เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน ทุกเดือนจะได้รับเสบียงอาหารแปดชั่งน้ำดื่มไม่จำกัดเขาถอดกระติกน้ำออกจากตัวทันที แล้วยื่นให้พวกเขาดื่มน้ำเมื่อดื่มเสร็จ ก็ให้คนไปตักน้ำมาอีก แล้วดื่มต่อยิ่งไปกว่านั้น ยังพกขนมปังติดตัวไว้ตลอดเวลา แบ่งขนมปังกันกินสิบชิ้น โดยไม่เสียดายเลยดังนั้น เสบียงอาหารของกองทัพตระกูลจ้านจึงเพียงพอเข้าร่วมกับพวกเขาไม่เพียงแต่มีอาหารให้กิน แต่ยังมีเสบียงทหารให้รับอีกด้วยพวกเขาทั้งหมดยินยอมเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน!เฉินขุยได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเสียดายช่างตีเหล็กในโรงงาน“กองทัพตระกูลจ้านของเรา เสบียงทหารของทหารธรรมดาจะน้อยที่สุด หากมีฝีมืออย่างหนึ่ง ทุกเดือนจะได้รับเสบียงทหารเป็นสองเท่าของทหารธรรมดา”“ตัวอย่างเช่น เจ้าตีเหล็กเป็น เช่นนั้นก็ดี ทุกเดือนเจ้าจะได้รับเสบียงอาหารสิบหกชั่ง”“มื้ออาหารที่รวมอยู่สองมื้อ จะมีสามกับข้าวหนึ่งซุป สองอย่างเป็นเนื้อ หนึ่งอย่างเป็นผัก ส่วนซุปเป็นซุปกระดูกหรือซุปเนื้อบด...”“ทหารธรรมดาจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 476

    เขากล่าวว่า “ท่านเทพวางใจเถอะ ทางเราก็ไม่ใช่ไม่เคยสร้างบ้าน สามารถทำได้แน่นอน”“แต่ต้องใช้รถขุด รถดันดิน งานก่อสร้างจะได้คืบหน้าเร็วขึ้น!”“ข้าซื้อ!”ซื้อหลายครั้งเข้า เย่มู่มู่ก็กลายเป็นผู้ซื้อรถขุดและรถดันดินรายใหญ่ที่สุดในท้องถิ่นตัวแทนจำหน่ายเตรียมรถสิบคันไว้ในโกดังตลอดเวลา ตราบใดที่เธอต้องการ ก็สามารถจัดส่งได้ทันทีปรากฏว่า ครั้งนี้เย่มู่มู่สั่งซื้อทีเดียวห้าสิบคันหากมีมากกว่านั้น เธอก็จะเอาทั้งหมดตัวแทนจำหน่ายอุทานออกมาว่า ประมาทเกินไปแล้วพวกเขาเตรียมสินค้าไว้น้อยเกินไป!พลาดคำสั่งซื้อครั้งใหญ่ไปแล้ว!ตัวแทนจำหน่ายรีบนำรถสิบคันในโกดังมาส่งในทันทีส่งรถดันดินมาให้ยี่สิบคันใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว จัดหารถบรรทุกดินมาให้สิบคันยังบอกกับเย่มู่มู่อีกว่า “ผมสามารถจัดหารถขุดห้าสิบคัน รถดันดินห้าสิบคัน จากจังหวัดและเมืองรอบ ๆ มาให้ได้ คุณหนูเย่ต้องการไหมครับ?”“ต้องการค่ะ ฉันสามารถจ่ายเงินมัดจำให้คุณก่อนได้!”“จริงสิ รถบด รถเครน รถผสมคอนกรีต ก็ต้องการนะคะ... รถเครนสองคัน อย่างอื่นอย่างละสิบคัน!”ตัวแทนจำหน่ายดีใจมาก นี่เป็นคำสั่งซื้อครั้งใหญ่ตอนนี้อสังหาริมทรัพย์กำลัง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 477

    เป็นครั้งแรกที่มู่ฉีซิวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นภายในใจในตอนนี้ เขาเพิ่งตระหนักได้เขาไม่ใช่คนเดียวที่สวรรค์เลือกจ้านเฉิงอิ้นก็มาจากยุคปัจจุบันเช่นกัน มีชื่อเสียงมากกว่าเขา มีพื้นฐานแข็งแกร่งกว่าเขานัก ขนาดรถขุดยังสร้างขึ้นมาได้ยิ่งไปกว่านั้น คนของเขายังเป็นทหารผ่านศึกที่กล้าหาญและเชี่ยวชาญการศึกแม้แต่เซี่ยเวยแคว้นเยี่ยนยังนำทหารห้าหมื่นนายมาสวามิภักดิ์ต่อเขา ทั้งเวลา สถานที่ และผู้คน...จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบกว่าเขาเขาพลาดแล้ว!ที่มองว่าจ้านเฉิงอิ้นเป็นคู่ต่อสู้ธรรมดาในเวลานี้ เขาเพิ่งจะตื่นตระหนก“ชิงเหอ หยางชิงเหอไปอยู่ที่ไหน?”บางทีอาจมีเพียงชิงเหอเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้!เขากับหยางชิงเหอต่างก็มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในยุคปัจจุบัน พวกเขาไม่เชื่อว่าสติปัญญาของจ้านเฉิงอิ้นจะเหนือกว่าพวกเขาทั้งสองก่อนหน้านี้ เขามีความมั่นใจ ทะเยอทะยานคิดว่าไม่มีใครในโลกนี้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แคว้นต้าฉี่ หากเขาต้องการ เมื่อไหร่เขาก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้แต่ตอนนี้ เขาไม่แน่ใจแล้วเขาตกอยู่ในความสงสัยในตนเอง!เขายังต้องชดใช้ให้กับความเย่อหยิ่งของตนเอง*เพราะมีเงินเพียงพอ ช

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 478

    “หากท่านคิดว่าท่านหัวหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ก็ให้เสี่ยวเถาไปที่ค่ายทหารเพื่อถามไถ่ดู เขาไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน!”ช่างวังสัมผัสได้ถึงความเงียบ เมื่อก่อน เขาเห็นซุนเฮ่อคนบ้านเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ไปฝังระเบิด ถูกท่านหัวหน้าใช้เป็นระเบิดมนุษย์...แต่กลับถูกกองทัพตระกูลจ้านรับเข้ากองทัพโดยไม่ถือโทษโกรธเคือง แถมยังได้ไปอยู่ในแผนกที่มีผลประโยชน์มากมาย อย่างโรงครัวทั้งตัวอ้วนท้วนขึ้นเป็นกองซุนเฮ่อให้เขาดูดาบม่อเตาราชวงศ์ถัง ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนถึงตอนนี้เขารู้สึกว่า...“กองทัพตระกูลจ้านสามารถไปได้ พวกเขารับแม้กระทั่งซุนเฮ่อที่เป็นระเบิดมนุษย์ พวกเรามีฝีมือ แม่นางหยางยังสร้างดินระเบิดและปืนไรเฟิลได้ คนที่มีความสามารถเช่นนี้...”“กองทัพตระกูลจ้านจะไม่รับไว้ได้อย่างไร!”“พวกเจ้าให้แม่นางหยางไปหาท่านหัวหน้า พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า มีคุณจากตระกูลขุนนางมากมาย ต้องการแต่งงานกับท่านหัวหน้า พวกเขาออกเงิน ออกแรง สนับสนุนท่านหัวหน้าก่อกบฏ... หากพวกเขาไม่ได้อะไรเลย พวกเขาจะยังสนับสนุนอย่างเต็มที่อีกหรือ?”“แทนที่จะเกลี้ยกล่อมให้แม่นางหยางอดทน สู้หาทางออกอื่นไม่ดีกว่าหรือ ตามท่านหัวหน้าไป อนาคตของแม่นาง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 479

    ค่ายทหารกองทัพธงเหลืองหยางชิงเหอ เสี่ยวเถา ถูกคนสองร้อยกว่าคนส่งตัวมาคนจำนวนมากเข้ามาในค่ายทหาร ทำให้คนหลายคนหันไปมองมีคนจำหยางชิงเหอได้ และซุบซิบกันอยู่ข้าง ๆ“นางคือหยางชิงเหอ คนในบ้านของท่านหัวหน้า”“อะไรคือคนในบ้าน เป็นสาวใช้อุ่นเตียงหรือ?”“น่าจะใช่!”“เหอะ ไม่ได้เป็นแม้แต่อนุ แต่รองแม่ทัพซากลับมาส่งด้วยตนเอง!”หยางชิงเหอได้ยินเสียงซุบซิบนินทาเหล่านี้ ก็กำมือแน่นเธอกับมู่ฉีซิวรักกันอย่างอิสระ ก่อนที่จะข้ามเวลามายังโลกโบราณ ก็อยู่ในขั้นที่กำลังจะแต่งงานกันแล้วทำไมเมื่อมายังโลกโบราณ เธอกลับกลายเป็นสาวใช้อุ่นเตียง?สาวใช้อุ่นเตียง~พวกเขาเคยเห็นสาวใช้อุ่นเตียงที่ไหนช่วยคนอื่นทำดินระเบิดและอาวุธอาวุธเย็นที่พวกเขาถืออยู่ในมือ ล้วนเป็นฝีมือของเธอชุดเกราะที่พวกเขาสวมใส่ เป็นฝีมือของเธอที่เย็บต่อกันทีละชิ้น ผ่านความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะสามารถลอกเลียนแบบชุดเกราะสมัยราชวงศ์ถังได้สำเร็จตอนนี้กลับบอกว่าเธอไม่ได้เป็นแม้แต่อนุหยางชิงเหอหยุดเดิน สายตาเย็นชามองไปยังทหารสองสามคนที่กำลังซุบซิบนินทาเธอกล่าวว่า “วางอาวุธของพวกเจ้าลง ถอดชุดเกราะบนตัวออก”ทหารสองสามค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 480

    “ในสายตาของตระกูลขุนนางทั้งสิบ เจ้าจะตายอย่างไรก็ยังไม่รู้ จงรู้ที่ต่ำที่สูงแล้วไปเสีย บางที อาจจะยังรักษาชีวิตไว้ได้”“ข้ามาเตือนเจ้าก็เพราะว่า ข้าไม่อยากให้พี่มู่มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีอยู่ในใจ ตระกูลขุนนางอื่น ๆ อาจจะไม่ใช่เช่นนี้ พวกเขาคิดว่าเจ้าขวางทาง สังหารเจ้า ก็เหมือนกับบีบมดให้ตาย”“ข้าพูดเท่านี้ เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี!”“อย่าได้คิดเพ้อฝัน ที่จะพัฒนาอาวุธหรือดินระเบิดอะไรนั่น คนอื่นจะได้มองเจ้าเปลี่ยนไป! เฮอะ สติปัญญาความสามารถของเจ้า จะเทียบกับตระกูลขุนนางที่มีประวัติยาวนานนับพันปีได้อย่างไร!”ชุยลั่วซินจากไปแล้ว นางถูกสาวใช้ประคองขึ้นรถม้าที่ตกแต่งด้วยทองคำทิ้งไว้เพียงเสี่ยวเถาที่ตัวสั่นเทาและหยางชิงเหอที่ไม่พูดอะไรเธอจะไปที่นี่ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้อีกต่อไปแต่ความสัมพันธ์หลายปีระหว่างเธอกับมู่ฉีซิว เธอยังอยากให้โอกาสเขาอีกสักครั้งโอกาสในการตัดสินใจ โอกาสที่จะกลับไปยังยุคปัจจุบันตราบใดที่เขายอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ เขาก็จะยังมีชีวิตอยู่ และกลับไปยังยุคปัจจุบันได้หากเขายอมแพ้...หยางชิงเหอก็ไม่มีอะไรจะพูดเขาเจ้าชู้หลายใจ เธอก็เห็นไม่ใช่ครั้งแรกก่อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 481

    พิมพ์เขียววาดออกมาได้ครบถ้วนอย่างมาก กองทัพตระกูลจ้านกำลังทำฐาน คิดจะสร้างอะไรบางอย่าง!เธอศึกษาพิมพ์เขียวอย่างละเอียดเมื่อมู่ฉีชิวเห็นหยางเหอขอบตาแดงระเรื่อ ก็คิดว่าเป็นเพราะจัดการเรื่องได้ยาก“ชิงเหอ เราจะพ่ายแพ้ให้พวกเขาไม่ได้ ไม่งั้นความพยายามในก่อนหน้านี้ของเรา จะสูญเปล่าทั้งหมด”“โรงงานระเบิดและภูเขาเหมือง เสียไปแล้วก็เสียไป ภายภาคหน้าเราจะคิดหาวิธีชิงกลับมา”“ตอนนี้ เธอเองก็เห็นแล้ว จ้านเฉิงอิ้นประดิษฐ์ออกมาได้กระทั่งรถขุด”“ฉันเชื่อว่า เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน!”“เธอประดิษฐ์ปืนกับวัตถุระเบิดได้ไม่มีปัญหาเลย กะอีแค่รถจะนับประสาอะไรกัน?”“ฉันเสียดายจริง ๆ ตอนแรกที่สอบติดชิงเป่ย ทำไมต้องไปเรียนการเงินด้วยนะ ถ้าเรียนวิศวะก็คงช่วยเธอได้แล้ว!”เมื่อได้ยินมู่ฉีซิวพูดเช่นนี้ หยางชิงเหอราวกับได้ยินเรื่องตลกที่ตลกที่สุดในโลกอย่างนั้นพลันโพล่งขำออกมาขำไป ๆ น้ำตาก็ไหลพรากออกมา“มู่ฉีซิว นายรู้หรือเปล่าว่านายกำลังพูดอะไรอยู่? นายให้ฉันประดิษฐ์รถขุด รถดันดิน? นายกล้าได้ยังไง?”มู่ฉีชิวคงรู้ว่าข้อเรียกร้องของตนเป็นการบีบให้เธอทำเรื่องยากเขาจึงปลอบหยางชิงเหอว่า “เรื่องแผนการอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 482

    หรือเขามองไม่ออกว่ารถพวกนี้มาจากยุคปัจจุบันงั้นเหรอ?ยังหวังให้เธอประดิษฐ์ออกมาอีกเธอเป็นคน! ไม่ใช่เทพ!ถ้าประดิษฐ์ออกมาได้จริง ๆ เธอกลับไปยุคปัจจุบันนานแล้ว!จะยังอยู่ในยุคโกลาหลอย่างยุคโบราณ รอดชีวิตได้ยากทำไมกัน!แต่เธอเข้าใจมู่ฉีซิวดี หากไม่รับปากเขา เธอจะถูกกักขัง จะต้องทนหิว และถูกเฆี่ยน...จะถูกมู่ฉีซิวทำให้ประสาทเสียซ้ำไปซ้ำมาเนื่องจากตอนวิจัยและผลิตวัตถุระเบิด เธอเคยผ่านมาครั้งหนึ่งแล้วฉะนั้น ครั้งนี้เธอจึงแสร้งรับปาก“เอาละ แต่นายก็รู้ว่า โรงงานรถยนต์ต้องใช้พื้นที่เยอะมาก ฉันต้องออกจากเมืองไปหาที่ราบเอง ทางที่ดีต้องอยู่ใกล้กับโกดังเหล็ก ขนย้ายขึ้นมาก็สะดวก!”เธอรู้ดีว่าโกดังวัสดุเหล็กอยู่นอกเมืองอยู่ในเขตชานเมือง มีทหารคอยคุ้มกันขอเพียงไม่ใช่ในเมือง เธอก็มีโอกาสเผ่น!มู่ฉีซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลง“ฉันจะให้ซาเทียนอี้ไปส่งเธอออกจากเมือง?”“ไม่เป็นไร แม่ทัพซางานล้นมือ รถยนต์ประดิษฐ์ไม่เสร็จภายในเวลาแค่แพล็บเดียว อย่าทำเขาเสียเวลาเลย ให้ช่างสองคนไปเลือกสถานที่กับฉันก็พอ!”“ได้!”มู่ฉีซิวกุมมือของเธอเอาไว้ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง“ฉั

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status