Share

บทที่ 720

Author: มู่โร่ว
นักเรียนทั้งหกคนไม่ได้อยู่ที่นี่ คาดว่าคงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว

“แจ้งตำรวจ! เรื่องนี้ต้องแจ้งตำรวจ! นักเรียนแบบนี้โรงเรียนจะปล่อยไว้ไม่ได้!”

“ใช่! กล้าดียังไงมาทำร้ายลูกฉันจนเข้าโรงพยาบาล แค่ติดคุกยังน้อยไป ต้องประหารชีวิต!”

“แล้วผู้ปกครองของเด็กคนนั้นล่ะ? ทำไมยังไม่มา? ฉันสงสัยว่าโรงเรียนนี้กับผู้ปกครองของมันต้องมีตกลงอะไรกันลับหลังแน่ ๆ ไม่งั้นเด็กแบบนี้จะถูกส่งเข้ามาเรียนได้ยังไง!”

เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ หลูซีถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความร้อนใจ

“หลูซี นายพูดอะไรหน่อยสิ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ พวกนั้นเริ่มก่อนต่างหาก!”

“เหวินเหลียนเยว่ ฉันขอเตือนเธอว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เด็กหกคนนั้นยังนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล ผลที่ตามมามันไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเหวินอย่างเธอจะรับไหวหรอกนะ!”

ขณะที่เย่มู่มู่กำลังจะผลักประตูเข้าไป ก็พอดีกับที่จางเฉินซีโทรศัพท์เข้ามา

“เจ้านาย แผนธุรกิจปล่อยจรวดนั่นดูไปถึงไหนแล้ว?”

“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา หลูซีมีเรื่องที่โรงเรียน!”

จางเฉินซีโพล่งขึ้นมาด้วยความโมโห “อะไรนะ! ใครมันกล้าทำร้ายน้องชายฉัน! เขาอยู่โรงเรียนไหนครับ ส่งที่อยู่มาเลย!”

เย่มู่มู่ส่งที่อยู่ไปให้ วางสาย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kit Nicasio
แหม่!!!!ค้างอยากเก็บไว้อ่านยาวๆก็อดใจไม่ไหว ฮรึ่มมมม!!!
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 721

    เศรษฐินีคนหนึ่งเดือดดาลจนด่าทอเย่มู่มู่“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าว่าลูกหลานตระกูลเราสมควรถูกตี เขาเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่สุด ตอนนี้เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอยังมาใส่ร้ายเขาอีก!”“ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไปแม้แต่น้อย เธอกับน้องชายเธอ อย่าคิดจะอยู่ที่เมืองหลวงเลย!”นายธนาคารผลักแว่นตรงหว่างคิ้ว มองประเมินใบหน้าและเรือนร่างของเย่มู่มู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายสายตาตกไปบนขาเรียวยาวของเธอเขาเผยรอยยิ้มเย็นเยียบออกมา “คืนนี้เธอไปหาห้องรับรองมาห้องหนึ่ง ขอโทษขอโพยฉันอย่างจริงใจ บางทีฉันอาจจะปล่อยเธอกับน้องชายเธอไปก็ได้!”ทันใดนั้นหลูหมิงก็กระชากคอเสื้อของนายธนาคารขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้นอย่างดุเดือดรุนแรงว่า “เจ้ามองอะไร มองตรงไหน?”เย่มู่มู่พูดห้าม “หลูหมิง ปล่อย…”สายตาของเขาพลันปรากฏเครื่องสังหารออกมา พร้อมปล่อยมือในทันใดเมื่อผู้ปกครองคนอื่น ๆ เห็นดังนั้น ผู้ที่ทำร้ายคนอื่นยังกล้าอวดดีแบบนี้อีก ช่างทำให้พวกเขาเปิดโลกจริง ๆแต่ไหนแต่ไรมามีแต่พวกเขาที่ข่มขู่คนอื่นมิหนำซ้ำยังไม่เคยถูกคนข่มขู่มาก่อนเสียด้วยซ้ำ อีกฝ่าเป็นเพียงคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งทำเอาพวกเขาเดือดดาลจนควัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 722

    “นายตายแน่!”“พวกนายกดเขาเอาไว้ จางเชา เอาไม้เบสบอลของนายมาให้ฉัน ให้ฉันตีขาเขาให้หักก่อน!”ผู้ชายร่างสูงใหญ่สี่คนเข้ามาก่อน ขณะเตรียมลงมือกดเขาเอาไว้ทันใดนั้น หลูซีที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกก็กระโดดเตะขึ้นมาเตะในคราเดียวกระเด็นไปสี่คนใช่แล้ว!เขาเตะทีเดียวกระเด็นไปทั้งสี่คน!สี่คนนั้นถูกเตะไปบนผนังก่อนจะกลิ้งลงมา เนื่องจากมีคนหนึ่งไปตกกระทบกับอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์ล้มลงบนพื้นโครมคราม ๆหลังพวกเขากลิ้งไปรอบหนึ่ง ก็ไม่ลุกขึ้นมาอีกสี่คน มีสามคนที่หมดสติไปคนหนึ่งนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นผมเหลืองกับจางเชาที่เหลือเห็นอุบัติเหตุตรงหน้า ก็อึ้งกิมกี่ไปจางเชาที่ถือไม้เบสบอลอยู่ตาลายไปเลย เขากล่าวทั้งตัวสั่นเทิ้มว่า “อวี้เฟิง ไม่ถูกต้องสิ ไป...”อวี้เฟิงรั้งตัวจางเชาที่คิดจะหนีเอาไว้ ก่อนจะแย่งไม้เบสบอลมา“ตั้งแต่ฉันโตมาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เคยกลัวใคร วันนี้เขาต้องตาย!”เขาถือไม้เบสบอลเดินเข้าไปไม้เบสบอลยังไม่ทันตีถูกหลูซี ก็ถูกเขาหักแขนในมุมที่แสนเจ้าเล่ห์ ด้วยความเร็วสูงสุดเคร้ง~ไม้เบสบอลหล่นลงมาอวี้เฟิงกอดแขนพลางถอยหลังหลายก้าว กำลังครวญครางด้วยความเจ็บปวด “

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 1

    หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 2

    จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 3

    จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 4

    หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมาพ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอโชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไปยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไรห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึกบอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกันคุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้นเธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้วบอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 5

    เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เธอนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของพ่อแม่ บนหมอนยังคงเปียกชื้นเธอคิดถึงพวกเขามากเกินไปจนร้องไห้ระหว่างหลับฝันอีกแล้วตีสองครึ่ง ตอนลงมาชั้นล่างไฟในห้องรับแขกยังคงสว่างอยู่แต่มีกระดาษเหลืองโบราณเพิ่มมาหลายแผ่นอ้าก!เจ้าแจกันนี่เอาขยะมาทิ้งในบ้านอีกแล้ว!เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกชั้นล่างด้วยความเดือดดาล คว้ากระดาษเหลืองเขรอะฝุ่นแผ่นนั้นลงมาตัวอักษรเป็นแบบตัวเต็ม เขียนตามแนวตั้งลักษณะรอยหมึกขาด ๆ หาย ๆ เหมือนใช้ขี้เถ้าเขียนรอบก่อนมีแค่ไม่กี่ตัวอักษร รอบนี้กลับเขียนมายาวพรืด รอยพู่กันคมกริบ ตัวอักษรหวัดฉวัดเฉวียนมีทั้งหมดสี่หน้ากระดาษ เธอไม่รู้ว่าเขียนอะไรบ้างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาเข้าโปรแกรมแปลภาษาค่อยทราบว่าคือคำอธิษฐานขอพรแคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม กองทัพตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านสำคัญบริเวณชายแดน ถูกกองทัพสามแสนของเผ่าหมานปิดล้อมกลายเป็นเมืองที่ปิดตายทหารหาญสองแสนคนพลีชีพในสมรภูมิเหลือเพียงสองหมื่นคนด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งรุนแรง แม่น้ำเหือดแห้งพืชพรรณเฉาตายราษฎรเพาะปลูกไร้ผลเก็บเกี่ยว กินเปลือกไม้ใบหญ้าจนหมดเกลี้ยงในเมื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 6

    เมื่อเห็นกองทองคำที่เหลืองอร่ามกองนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้หลงใหลในเงินตรา แต่ก็ยากที่จะปล่อยออกจากมือใครจะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับอัญมณีได้ล่ะ?เธอวิ่งไปสัมผัสกับก้อนทองคำอย่างมีความสุข แล้วลองสวมสร้อยข้อมือทองคำมีสร้อยคอหลายเส้นห้อยอยู่รอบคอของเธอ เส้นผมของเธอก็ประดับประดาเต็มไปด้วยปิ่นปักผมทองและปิ่นระย้ารวยแล้ว!ตามราคาทองคำในปัจจุบัน ทองคำกองนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านยิ่งเป็นของโบราณ เมื่อเอาไปขาย ก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้อ๊า หนิงกวนโหวช่างเป็นคนดีจริง ๆ!ตอนนี้เธอชอบการช่วยเหลือคนเสียแล้วสิ!ชอบทำบุญสุด ๆ!ชอบเลี้ยงคนโบราณหนึ่งแสนคน!ไม่หวังอะไรอย่างอื่น การได้มองดูทองคำเหลืองอร่ามระยิบระยับแสนน่ารัก ก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่งแล้ว!*เย่มู่มู่ยกลังไม้ใบใหญ่สามใบลงมาจากชั้นบน แล้วนำทองคำออกมาจัดระเบียบแค่ทองก้อน เหรียญทอง ทองหยวนเป่า ก็ใส่เต็มสองลังใหญ่แล้วจากนั้นก็นำลังใบใหญ่อีกใบมาใส่เครื่องประดับมุกและทอง แยกใส่ถุงซิปล็อค แล้ววางไว้เป็นระเบียบแต่ใส่ไม่หมดมันไม่สามารถใส่ให้หมดได้อยู่แล้ว!ของที่เหลือล้วนเป็นของที่ทำด้วยทองคำ รวมถึงชุดจอกสุรากาสุรา กาสุราแ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 722

    “นายตายแน่!”“พวกนายกดเขาเอาไว้ จางเชา เอาไม้เบสบอลของนายมาให้ฉัน ให้ฉันตีขาเขาให้หักก่อน!”ผู้ชายร่างสูงใหญ่สี่คนเข้ามาก่อน ขณะเตรียมลงมือกดเขาเอาไว้ทันใดนั้น หลูซีที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกก็กระโดดเตะขึ้นมาเตะในคราเดียวกระเด็นไปสี่คนใช่แล้ว!เขาเตะทีเดียวกระเด็นไปทั้งสี่คน!สี่คนนั้นถูกเตะไปบนผนังก่อนจะกลิ้งลงมา เนื่องจากมีคนหนึ่งไปตกกระทบกับอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์ล้มลงบนพื้นโครมคราม ๆหลังพวกเขากลิ้งไปรอบหนึ่ง ก็ไม่ลุกขึ้นมาอีกสี่คน มีสามคนที่หมดสติไปคนหนึ่งนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นผมเหลืองกับจางเชาที่เหลือเห็นอุบัติเหตุตรงหน้า ก็อึ้งกิมกี่ไปจางเชาที่ถือไม้เบสบอลอยู่ตาลายไปเลย เขากล่าวทั้งตัวสั่นเทิ้มว่า “อวี้เฟิง ไม่ถูกต้องสิ ไป...”อวี้เฟิงรั้งตัวจางเชาที่คิดจะหนีเอาไว้ ก่อนจะแย่งไม้เบสบอลมา“ตั้งแต่ฉันโตมาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เคยกลัวใคร วันนี้เขาต้องตาย!”เขาถือไม้เบสบอลเดินเข้าไปไม้เบสบอลยังไม่ทันตีถูกหลูซี ก็ถูกเขาหักแขนในมุมที่แสนเจ้าเล่ห์ ด้วยความเร็วสูงสุดเคร้ง~ไม้เบสบอลหล่นลงมาอวี้เฟิงกอดแขนพลางถอยหลังหลายก้าว กำลังครวญครางด้วยความเจ็บปวด “

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 721

    เศรษฐินีคนหนึ่งเดือดดาลจนด่าทอเย่มู่มู่“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าว่าลูกหลานตระกูลเราสมควรถูกตี เขาเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่สุด ตอนนี้เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอยังมาใส่ร้ายเขาอีก!”“ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไปแม้แต่น้อย เธอกับน้องชายเธอ อย่าคิดจะอยู่ที่เมืองหลวงเลย!”นายธนาคารผลักแว่นตรงหว่างคิ้ว มองประเมินใบหน้าและเรือนร่างของเย่มู่มู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายสายตาตกไปบนขาเรียวยาวของเธอเขาเผยรอยยิ้มเย็นเยียบออกมา “คืนนี้เธอไปหาห้องรับรองมาห้องหนึ่ง ขอโทษขอโพยฉันอย่างจริงใจ บางทีฉันอาจจะปล่อยเธอกับน้องชายเธอไปก็ได้!”ทันใดนั้นหลูหมิงก็กระชากคอเสื้อของนายธนาคารขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้นอย่างดุเดือดรุนแรงว่า “เจ้ามองอะไร มองตรงไหน?”เย่มู่มู่พูดห้าม “หลูหมิง ปล่อย…”สายตาของเขาพลันปรากฏเครื่องสังหารออกมา พร้อมปล่อยมือในทันใดเมื่อผู้ปกครองคนอื่น ๆ เห็นดังนั้น ผู้ที่ทำร้ายคนอื่นยังกล้าอวดดีแบบนี้อีก ช่างทำให้พวกเขาเปิดโลกจริง ๆแต่ไหนแต่ไรมามีแต่พวกเขาที่ข่มขู่คนอื่นมิหนำซ้ำยังไม่เคยถูกคนข่มขู่มาก่อนเสียด้วยซ้ำ อีกฝ่าเป็นเพียงคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งทำเอาพวกเขาเดือดดาลจนควัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 720

    นักเรียนทั้งหกคนไม่ได้อยู่ที่นี่ คาดว่าคงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว“แจ้งตำรวจ! เรื่องนี้ต้องแจ้งตำรวจ! นักเรียนแบบนี้โรงเรียนจะปล่อยไว้ไม่ได้!”“ใช่! กล้าดียังไงมาทำร้ายลูกฉันจนเข้าโรงพยาบาล แค่ติดคุกยังน้อยไป ต้องประหารชีวิต!”“แล้วผู้ปกครองของเด็กคนนั้นล่ะ? ทำไมยังไม่มา? ฉันสงสัยว่าโรงเรียนนี้กับผู้ปกครองของมันต้องมีตกลงอะไรกันลับหลังแน่ ๆ ไม่งั้นเด็กแบบนี้จะถูกส่งเข้ามาเรียนได้ยังไง!”เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ หลูซีถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความร้อนใจ“หลูซี นายพูดอะไรหน่อยสิ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ พวกนั้นเริ่มก่อนต่างหาก!”“เหวินเหลียนเยว่ ฉันขอเตือนเธอว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เด็กหกคนนั้นยังนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล ผลที่ตามมามันไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเหวินอย่างเธอจะรับไหวหรอกนะ!”ขณะที่เย่มู่มู่กำลังจะผลักประตูเข้าไป ก็พอดีกับที่จางเฉินซีโทรศัพท์เข้ามา“เจ้านาย แผนธุรกิจปล่อยจรวดนั่นดูไปถึงไหนแล้ว?”“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา หลูซีมีเรื่องที่โรงเรียน!”จางเฉินซีโพล่งขึ้นมาด้วยความโมโห “อะไรนะ! ใครมันกล้าทำร้ายน้องชายฉัน! เขาอยู่โรงเรียนไหนครับ ส่งที่อยู่มาเลย!”เย่มู่มู่ส่งที่อยู่ไปให้ วางสาย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 719

    วันรุ่งขึ้น เย่มู่มู่ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปรับรถบ้านมือสอง แต่เพิ่งลงมาชั้นล่างก็ถูกจางเฉินซีขวางทางไว้เขายังอยู่ในชุดนอน หาวหวอด ๆ พลางยื่นเอกสารแผนธุรกิจของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสองสามแห่งให้เย่มู่มู่ดูเขาบอกว่ามองเห็นศักยภาพของบริษัทเหล่านี้มากแต่ในช่วงแรกจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเย่มู่มู่ลองพลิกดูแผนของบริษัทหนึ่งผ่าน ๆ... โครงการปล่อยจรวด...เธอทำหน้าสุดจะเอือมระอา ชี้มาที่ตัวเอง “นายดูฉันเหมือนคนที่มีปัญญาจะลงทุนกับจรวดส่วนตัวหรือไง?”“บริษัทนี้ไม่แพงจริง ๆ นะ รอบแรกใช้เงินแค่หนึ่งหมื่นล้านเอง!”น้ำเต้าหู้ที่เย่มู่มู่เพิ่งดื่มเข้าไปแทบจะพุ่งออกมาจางเฉินซีพยายามโน้มน้าวต่อ “ผมมองเห็นอนาคตของโครงการนี้จริง ๆ นะ คุณลองคิดถึงอีลอน มัสก์ดูสิ โครงการดาวเทียมสตาร์ลิงก์ของเขาประสบความสำเร็จขนาดไหน ตอนนี้เขาเริ่มเดินหน้าโครงการย้ายถิ่นฐานไปดาวอังคารแล้วด้วยซ้ำ ถ้าคุณยังไม่รีบเข้ามาในแวดวงนี้ตอนนี้ มีหวังตามเขาไม่ทันแน่ ๆ!”ในบัญชีของเย่มู่มู่ตอนนี้มีเงินอยู่แค่หนึ่งหมื่นห้าพันล้านเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเงินที่ได้จากการขายของเก่าให้ผู้อาวุโสสามท่านเมื่อสองวันก่อนส่วนเงินที

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 718

    ส่วนหวงกงกงซึ่งเป็นหัวหน้าของขันทีน้อยทั้งสองนั้น ได้รับปันส่วนข้าวสารถึงสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง น้ำมันหนึ่งถัง เกลือสองห่อ และผักแห้งอีกหนึ่งชั่ง... ทั้งสามคนดีใจจนออกนอกหน้า รีบก้มคำนับขอบคุณซ้ำ ๆพวกเขาเดินออกจากห้องหนังสืออย่างมีความสุข ไปเข้าแถวเพื่อรอรับข้าวสารวันนี้มีผู้มาแลกข้าวสารจากการสังหารศัตรูจำนวนมาก แถวยาวเหยียดออกไปหลายลี้เหล่าทหารกองทัพธงเหลืองแต่ละคนล้วนตื่นเต้นยินดี พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่า การติดตามกองทัพตระกูลจ้านนั้นทำให้ไม่อดอยากจริง ๆรางวัลที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้เช่นนี้ ดีกว่าการฟังมู่ฉีซิวขายฝันในทุก ๆ วันเป็นไหน ๆแต่ทหารเก่าของกองทัพตระกูลจ้านกลับไม่สนใจการรับข้าวสารอีกต่อไปแล้วพวกเขาต่างนำไปแลกเป็นสบู่หอม รองเท้า พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์ แผงไฟโซลาร์เซลล์...และของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใช้งานได้จริงเหล่านี้!ขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังทำงานอยู่ในห้องหนังสือ เถียนฉินก็เดินเข้ามา ประสานมือคารวะแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ซาเทียนอี้ยินยอมสวามิภักดิ์แล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะจัดการเขาอย่างไรดีขอรับ?”ซาเทียนอี้คนผู้นี้ นับว่ามีความกล้าหาญและยังซื่อสัตย์จ้านเฉิงอิ้นม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 717

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านสาส์นลับจบแล้วก็เผามันทิ้งอาจเป็นเพราะเคยอ่านสาส์นลับที่ฮ่องเต้น้อยมีพระประสงค์จะลอบสังหารเขามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จิตใจของเขาจึงสงบนิ่งราวกับผิวน้ำ ไม่ไหวติงแม้แต่น้อยหลังจากเผาทำลายแล้ว เขาก็เอ่ยถามคนทั้งสองด้วยรอยยิ้ม“บัดนี้เผ่าหมานสิ้นซากไปแล้ว ทั้งสองท่านจะกลับไปถวายรายงานที่วังหลวงเมื่อใดหรือ?”ทันใดนั้น หวงกงกงก็ทรุดกายลงคุกเข่า โขกศีรษะคำนับจ้านเฉิงอิ้นทันที“ท่านแม่ทัพใหญ่ บ่าวกลับไปไม่ได้อีกแล้วขอรับ! ขอท่านโปรดเมตตารับบ่าวไว้ด้วยเถิด ต่อให้ต้องเป็นข้ารับใช้ปรนนิบัติท่าน บ่าวก็ยอมขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้วถาม “ฝ่าบาทก็ไม่ได้ทรงเอาความอันใดกับท่านหวงกงกง ท่านกลับไปถวายรายงานในวังได้ตามสบายเถิด”“ไม่ได้ขอรับ ไม่ได้เลย! ท่านแม่ทัพไม่ทราบว่าในเมืองหลวงตอนนี้วุ่นวายเพียงใด แม้ปัญหาเผ่าหมานจะคลี่คลายแล้ว และเมืองตงโจวจะว่างลง แต่ระยะทางสองร้อยลี้จากตงโจวไปยังเมืองหลวงนั้น ตลอดเส้นทางล้วนเต็มไปด้วยโจรผู้ร้ายที่ปล้นชิงเพื่อความอยู่รอดเต็มไปหมดขอรับ!”“เมื่อกลับถึงเมืองหลวงก็ยังมีกลุ่มผู้ก่อจลาจลอีกมากมาย พวกบ่าวที่เป็นเพียงขันทีสามคน จะไปต้านทานได้อย่างไร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บบที่ 716

    ทำได้เพียงนำเข้าจากประเทศรอบ ๆ ไม่กี่แห่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สิ่งของที่ปล้นชิงมาได้จึงมีความหลากหลายปะปนกันไป แต่กลับเป็นของที่ใช้งานได้จริง ทว่าสิ่งของเหล่านี้กลับกลายเป็นโบราณวัตถุของเย่มู่มู่ไปเสียทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น!เสบียงที่ได้มาครั้งนี้ไม่เพียงแต่มีทองคำ เงิน และของมีค่ามากมายเท่านั้น แต่ยังมีของประดับตกแต่งสวยงามต่าง ๆ เครื่องสัมฤทธิ์ และของประดับที่ทำจากไม้ มีครบครันทุกอย่าง!เมื่อเห็นโบราณวัตถุจำนวนมหาศาลเช่นนี้ เธอก็อดประหลาดใจไม่ได้!มีจำนวนราว ๆ ห้าร้อยหีบเห็นจะได้มากเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าพวกคนเถื่อนจะปล้นชิงของในแคว้นต้าฉี่ไปได้มากมายถึงเพียงนี้จากนั้น เย่มู่มู่ก็ได้ยินเสียงจากฝั่งของจ้านเฉิงอิ้นเป็นเสียงแหลมเล็กคล้ายขันที “ขอแสดงความยินดีกับท่านแม่ทัพใหญ่ บัดนี้เผ่าหมานถูกปราบจนราบคาบแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถคุกคามดินแดนต้าฉี่ของเราได้อีกต่อไป นี่นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง บ่าวจะรีบนำความกลับไปทูลรายงานฝ่าบาท พระองค์จะต้องทรงพระเกษมสำราญเป็นแน่!”“ท่านแม่ทัพใหญ่รอฟังข่าวดีเรื่องการเลื่อนยศศักดิ์ได้เลยขอรับ!”ผู้บัญชาการลั่วเองก็ดีใจจนออกนอกหน้า นี่เป็นครั้งแร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 715

    พวกเขาทั้งหมดกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลาอาหารค่ำพอดีเย่มู่มู่บอกให้หลูซีกับหลูหมิงทานอาหารเย็นให้เสร็จก่อน ถึงจะยอมให้พวกเขาดูข้อความในกระดาษที่อยู่ในแจกันทั้งสองจึงรีบจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วที่สุดแล้วเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อให้เย่มู่มู่ขึ้นไปชั้นบนทั้งสามคนนั่งลงในห้องนั่งเล่นภายในห้องของเย่มู่มู่ เธอหยิบเอากระดาษโน้ตจำนวนมากออกมาจากแจกันแล้วทั้งสามก็เริ่มอ่านข้อความเหล่านั้นด้วยกันเป็นบันทึกที่จ้านเฉิงอิ้นเขียนเล่าถึงความเป็นไปของสงครามกับเผ่าหมานอันที่จริง ชัยชนะในศึกครั้งนี้แทบจะไม่มีอะไรพลิกผันทุกคนต่างรู้ดีว่ากองทัพตระกูลจ้านจะต้องเป็นฝ่ายชนะทว่ากำลังพลของฝ่ายตรงข้ามก็มีไม่น้อย ทั้งยังมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ทำให้พวกเขายังพอมีโอกาสอยู่บ้างแต่ใครเลยจะคาดคิดว่า พายุฝนห่าใหญ่เพียงครั้งเดียวจะเปลี่ยนสถานการณ์รบไปโดยสิ้นเชิง!จ้านเฉิงอิ้นขอบคุณเย่มู่มู่ที่ส่งพายุฝนมาให้ในจังหวะสำคัญที่สุดเพราะฝนที่โหมกระหน่ำครั้งนี้นี่เอง ที่ทำให้ดินระเบิดที่พวกเผ่าหมานฝังไว้ใต้ดินเปียกโชกไปทั้งหมดพวกเผ่าหมานรู้วิธีใช้ดินระเบิด แต่ไม่เข้าใจเรื่องวัตถุดิบและการบำรุงรักษาในยามปกติ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status