ฮะ ฮะ ฮัดชิ้วววววว!!!
มารีอาจามลั่น ก่อนจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดจมูกและปาก
~ใครนินทาเนี่ย อย่าบอกนะว่าไอประธานขี้เก๊กบ่นเรื่องที่เธอนินทาเขาอยู่แน่ ๆ~
เธอนึกในใจ ก่อนจะเข้ามาบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน พอพ้นประตูเข้ามาได้ แทบจะทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยความง่วง ก่อนจะเห็นสายจากอนิรุตกระหน่ำโทร.มาหาเธอสามสี่สาย
~น่ารำคาญชะมัด~ มารีอาเบ้ปาก ก่อนกดตัดสายแล้วรีบปิดเครื่องทันที ในตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะกดรับสายจากเขาเลยจริง ๆ
นึกถึงตอนที่เขานอนกับผู้หญิงคนอื่น นอกใจเธอทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคู่หมั้น นึกถึงคำดูถูกที่เขาเอ่ยถึงตอนอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เธอได้แต่รู้สึกเจ็บใจอยู่ลึก ๆ แต่… แปลกที่เธอไม่ได้เสียใจหรือฟูมฟายอะไรอย่างที่ควรจะเป็น หรือเป็นเพราะเธอเองก็ตอบไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วเธอรักเขาหรือเปล่า
สุดท้าย… มารีอาก็อดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ค่ำคืนที่เร่าร้อนกับชายแปลกหน้าคนนั้น มารีอารีบส่ายหัว เมื่อคิดไปถึงเรื่องน่าอาย
…เพราะความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่คือเธอเต็มใจและยินยอมพร้อมกายให้กับชายคนนั้น
~บ้าที่สุด มารีอา ทำไปได้ยังไง~
~แล้วจะทำยังไงกับอนิรุต เธอเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วด้วย~
~เฮ้อ ยังไงเสียเรื่องของอนิรุตกับเธอคงไม่มีวันเป็นไปได้อีกแล้ว เพราะงั้นควรจะบอกถอนหมั้นให้เป็นเรื่องเป็นราว แค่...เอาแหวนหมั้นไปคืนเสียก็จบ~
~ใช่... เอาแหวนคืน แล้วก็จบ !~
แต่...!!!
~วะ แหวน แหวนล่ะ~
มารีอาลุกขึ้นนั่งก่อนยกมือที่เคยมีแหวนหมั้นสวมอยู่ที่นิ้วขึ้นมามอง…
“กรี๊ดดดดดดดดด แหวนหาย”
“หายไปไหน ถอดไว้ไหนกันนะ”
มารีอาเอากระเป๋าขึ้นมาเทบนโต๊ะ ก่อนจะรีบใช้มือรื้อหา เมื่อไม่พบจึงวิ่งไปหาตามห้องน้ำทุกที่ที่คิดว่าเธออาจจะลืมถอดไว้แต่ก็ไม่พบ จึงรีบขึ้นไปค้นหาตามเตียงนอนและใต้หมอนที่ชอบนอนถอดไว้เป็นประจำ
ด้วยเพราะเป็นแหวนมรดกตกทอดที่คุณแม่อนิรุตให้มา มันจึงค่อนข้างหลวมกว่านิ้วของเธอนิดหน่อย บางครั้งเธอรู้สึกรำคาญจึงมักจะถอดวางไว้ที่ใต้หมอนเสมอ
เมื่อแน่ใจว่าไม่พบแน่แล้ว มารีอาถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับเตียง ก่อนจะพยายามนึกทบทวนไล่ลำดับ ถึงความน่าจะเป็นที่เธออาจจะถอนแหวนเอาไว้
“ใช่แล้ว เมื่อคืน ต้องเป็นเมื่อคืนแน่ ๆ ถ้าลืมถอดแหวนไว้ที่โรงแรมนั่นเมื่อคืนล่ะ ผู้ชายคนนั้นอาบน้ำออกมาแต่งตัวก็น่าจะเห็น”
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ แค่เลขห้องของโรงแรมเธอก็ไม่ทันสังเกต แถมไอหมอนั่นเป็นใครเธอก็ไม่รู้ จำได้แต่ว่าโรงแรมอะไร แต่ครั้นจะไปถามที่ฟร้อนต์ขอดูกล้องวงจรปิด ใครเขาจะให้เธอดู ถ้าเกิดดูแล้วเป็นเธอที่สมยอมเต็มใจมาล่ะ ไม่น่าอายแย่หรือ
จะปรึกษาแอนนี่ก็รู้สึกอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
มารีอากุมขมับ ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรงเพราะคิดอะไรไม่ออก จนค่อย ๆ เคลิ้มหลับไปในทันที
... รุ่งเช้ามารีอาตื่นมาทำงานแบบสะโหลสะเหล ไหนจะคิดมากเรื่องที่ตัวเองเสียตัวให้กับชายแปลกหน้า ไหนจะคิดมากเรื่องที่ต้องหาแหวนหมั้นเพื่อไปคืนอนิรุตเพื่อถอนหมั้น
แต่เมื่อมาถึงที่ทำงาน เธอกลับต้องมาประสาทเสียอีก เพราะพอมาถึงที่ทำงาน ดันมาเจออนิรุตมาดักรอพบเธอที่หน้าตึก จนเธอต้องลากเขาขึ้นลิฟต์ไปคุยที่ลานจอดรถด้านหลังของอาคารที่ไม่ค่อยมีผู้คน
บริเวณหน้าลิฟต์ชั้นเก้า
มารีอายังคงกอดอกแน่น สายตามองคู่หมั้นหนุ่มด้วยแววตาเฉยชา
“ทำไมมาร์ไม่รับสายพี่เลย เป็นอะไรหรือเปล่า” อนิรุตพยายามเอื้อมมือมาแตะมารีอา แต่เธอก็รีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้เขาจับตัวของเธอได้
เขารู้สึกผิดสังเกตที่มารีอาไม่รับสายเขา ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามโทร.หาเธอตั้งหลายหน ไหนจะเช้าของวันนั้นที่เขาออกมาพร้อมลูกพีช แต่เห็นบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อชุดสีแดงของลูกพีชไปตกอยู่หน้าห้องนอน อนิรุตจำได้ว่าตอนถอด เขาถอดชุดของลูกพีชตั้งแต่หน้าประตู แต่ทำไมตอนเช้าถึงมากองอยู่ที่หน้าห้องนอนของเขาได้ และเขาสงสัยว่าบางทีอาจจะเป็นมารีอาที่เข้ามาแต่ก็ยังไม่แน่ใจ
“มาร์ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่มาร์กำลังคิดว่ามาร์อยากจะถอนหมั้น” มารีอาบอกความคิดของเธอทันทีเพราะตอนนี้นอกจากความรู้สึกรังเกียจเธอก็แทบไม่ได้รู้สึกอะไรกับอนิรุตคู่หมั้นของเธอแล้ว
“ทำไมล่ะมาร์ มาร์ไม่รักพี่แล้วเหรอ” อนิรุตยังคงตีหน้าเศร้า
“พี่อนิรุตก็ไม่ได้รักมาร์ไม่ใช่เหรอคะ ไม่งั้นพี่จะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นทำไม”
~ว่าแล้วเธอต้องเห็น~ อนิรุตหน้าเสีย
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว