Beranda / โรแมนติก / ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ / บทที่ 3 จุดเปลี่ยนของชีวิตทั้งสามชีวิต

Share

บทที่ 3 จุดเปลี่ยนของชีวิตทั้งสามชีวิต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-12 11:03:31

ผ่านไปไม่นาน รมิดาได้หยุดเถียงกับปรเมศและพาน้องอชิไปเข้านอน

ชายหนุ่มได้เดินมานั่งที่โซฟา ความเงียบที่หนักหน่วงเริ่มเข้าครอบงำทุกมุมห้อง เสียงหายใจของเขาเป็นจังหวะที่ชัดเจนขึ้นในบรรยากาศที่ว่างเปล่า แม้จะพยายามเก็บความคิด แต่บางครั้งคำพูดของรมิดากลับก้องอยู่ในหัวเขา

“ถ้าคุณคิดว่าคุณจะอยู่ที่นี่แล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้น คุณคิดผิด”

“ชีวิตของฉันและน้องอชิไม่ได้เหมาะกับใครบางคนที่มองมันเป็นแค่หน้าที่”

ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง แล้วมองออกไปนอกบ้าน สายลมในยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นและความเปล่าเปลี่ยว เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องราวของธีรดาจะเกี่ยวข้องกับเขาในทางที่เขาไม่เคยตั้งใจ

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าของรมิดาดังขึ้นจากห้องนอน เธอเดินออกมาพร้อมกับความเงียบสงบที่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำที่กว้างใหญ่

“จะไปไหนเหรอ?” รมิดาถามเสียงเรียบ เมื่อเห็นเขากำลังจะออกไป

เมศหันกลับไปมองเธอ “ผมจะกลับไปคืนนี้” เขาตอบ ด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหนักใจ “แต่เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีก”

รมิดาเงียบไป ไม่รู้จะตอบอย่างไร คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงไปในทิศทางที่ไม่สามารถควบคุมได้

“เรื่องอะไร?” เธอถามเสียงเบา แม้ว่าจะพยายามทำให้มันฟังดูไม่ใส่ใจ แต่จริงๆ แล้วความสงสัยกำลังโหมกระหน่ำอยู่ในใจ

เมศเดินไปที่ประตู เขาหยุดแล้วหันกลับมา ท่าทางของเขานิ่งสงบ แม้ในใจของเขาจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย

“เรื่องทั้งหมด” เขาตอบแค่สั้น ๆ “เรื่องที่คุณยังไม่ได้บอกผม เรื่องที่ผมต้องรู้เกี่ยวกับน้องอชิและ…เรื่องของคุณ”

รมิดาเหลือบมองเขาอย่างลังเล ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเขาจะกลับมาพร้อมคำตอบบางอย่างที่เธออาจไม่อยากฟัง

“ก็ได้…” เธอพูดเสียงต่ำ “แต่ถ้าคุณจะกลับมาคุย คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่ทำให้เรื่องทุกอย่างยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก”

เมศยิ้มเล็กน้อย เขาเปิดประตูและหมุนตัวออกไปพร้อมกับคำพูดสุดท้ายที่ทำให้รมิดารู้สึกถึงความหนักแน่นในคำมั่นสัญญา

“ผมจะกลับมาอีกครั้ง…พร้อมคำตอบเพิ่มเติมที่คุณต้องการ” เขาพูด ก่อนจะปิดประตูเบา ๆ ตามหลัง

รมิดามองตามเขาจนประตูปิด เสียงประตูดังเป็นสัญญาณของการจากไป แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่รู้ว่าการปรากฏตัวของเมศจะนำพาอะไรเข้ามาในชีวิตของเธอและหลานชาย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ในห้องเล็ก ๆ

เสียงหายใจเบาของน้องอชิยังคงดังอย่างสม่ำเสมอจากเตียงเด็กเล็กที่อยู่มุมห้อง รมิดาเงียบไปยืนมองหลานชายที่นอนหลับสบาย เสียงหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นเหมือนสะท้อนความรู้สึกที่เธอไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำพูด

เธอมองไปที่ใบหน้าน้อย ๆ ของน้องอชิที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท แต่ภายในใจของเธอ รมิดารู้ดีว่าอนาคตของเด็กคนนี้กำลังอยู่ในมือของเธอ

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ป้าดาจะปกป้องหนูให้ดีที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ความมั่นคงในใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะยังมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ

ก่อนจะเอื้อมมือเล็กไปปิดไฟห้องเด็กอย่างเบามือ แล้วเดินกลับห้องนอนของตัวเองด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในใจ ความคิดเกี่ยวกับเมศและการตัดสินใจที่เขาจะทำยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ

เช้าวันรุ่งขึ้น

แสงแดดเช้าลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้รมิดาค่อย ๆ ลืมตาตื่น เธอลุกจากเตียงและเดินออกไปที่หน้าบ้าน หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือบางเคลื่อนไปเปิดประตูบ้าน นัยน์๖าสีน้ำผึ้งก็หยุดมองไปที่ถนนหน้าบ้านที่มีรถคันหรูไม่คุ้นตาจอดอยู่ตรงนั้น ใบหน้าสวยก็แสดงอาการสงสัยทันที

“คงไม่ใช่รถของใครในหมู่บ้านหรอกนะ…” รมิดาพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่สายตาของเธอจะไปสะดุดที่ชายหนุ่มคนหนึ่งลงจากรถคันหรูนั้น

ทันทีที่เธอเห็นเมศในชุดเสื้อช็อปคณะวิศวะ กำลังเดินออกมาจากรถ ท่าทางเขาเหมือนจะไม่ได้มีความเร่งรีบอะไร ใบหน้าของรมิดาก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึ้นทันที

“ทำไมถึงมาที่นี่อีกแล้วคะ?” รมิดาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

เมศยิ้มเล็กน้อย แต่สายตาของเขาก็จริงจังอยู่ดี “ผมมาทำหน้าที่ของผู้ปกครองของน้องอชิครับ” เขาตอบแบบไม่ลังเล ก่อนจะเดินไปยืนที่ข้างรถ

รมิดาเลิกคิ้ว แสดงอาการไม่พอใจชัดเจน “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกับน้องอชิเดินทางไปมหาวิทยาลัยเองได้ ไม่ต้องมาห่วงหรอก”

เมศขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา “ไปรถเมล์น่ะเหรอครับ? คุณจะพาน้องอชิไปบนรถเมล์?”

คำถามของเมศทำให้รมิดาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองเขาอีกครั้งและตอบกลับ “มันก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กหรอกค่ะ แต่… ฉันก็ระวังทุกฝีก้าว”

เมศยืนพิงรถมองเธอด้วยความจริงจัง “ผมเข้าใจครับ แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องของการระวังทุกฝีก้าวหรอกนะครับบางครั้งมันก็เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนที่เรารัก”

คำพูดของเมศทำให้รมิดารู้สึกถึงความจริงจังในตัวเขา เธอไม่ชอบที่จะยอมรับว่ามีคนมาจับจ้องชีวิตเธอ แต่ในใจลึก ๆ รู้ว่าคำพูดของเขาก็มีเหตุผล

“ฉันไม่ต้องการให้ใครเข้ามามีส่วนในชีวิตของฉัน” รมิดาพูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ในแววตาของเธอก็มีความอ่อนแอที่ซ่อนไว้

เมศยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นทำท่าทางเหมือนจะอธิบาย “ไม่ใช่ว่าผมจะเข้ามายุ่งกับชีวิตของคุณหรอกนะครับ ผมแค่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องอชิเท่านั้นเองครับ”

รมิดาพยายามจะตัดสินใจในใจ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ “ก็ได้ค่ะ ก็แค่วันนี้แหละ"

เมื่อรมิดาตัดสินใจยอมขึ้นรถไปกับเมศแล้ว ทั้งคู่ก็เริ่มเดินไปที่รถเมศด้วยกัน เมศเปิดประตูให้รมิดานั่ง ก่อนที่จะขึ้นไปขับรถเอง

ขณะที่รมิดานั่งลงและมองไปที่เบาะหลัง เธอก็เห็นกระเป๋าของเมศที่วางไว้ด้านหลังเบาะ ทั้งๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่กระเป๋าสำหรับการเดินทางไปมหาวิทยาลัย

“คุณจะย้ายบ้านเหรอคะ?” รมิดาถามโดยไม่ทันคิดมาก เธอเหลือบไปเห็นข้าวของในกระเป๋าของเขาที่ดูเหมือนจะเตรียมไว้มากมาย

เมศขับรถไปช้า ๆ และตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ครับ ผมจะย้ายไปอยู่กับน้องอชิครับ” เขาพูดอย่างจริงจัง แต่ก็ยังมีรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

รมิดาหันไปมองเมศด้วยความตกใจและสงสัย “อะไรนะคะ? คุณจะไปอยู่กับน้องอชิ?”

เมศพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ครับ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะรับผิดชอบมากขึ้น น้องอชิเป็นลูกของพี่ชายผม ผมไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่เพียงลำพังได้”

รมิดามองเขาด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน ทั้งความตกใจและความไม่แน่ใจ “แต่คุณจะไปอยู่ที่ไหน? ที่นี่เหรอคะ?”

เมศยิ้มบาง ๆ “ใช่ครับ ผมคิดว่าจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ น้องอชิ”

รมิดาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบา “คุณจะอยู่ที่นี่จริงเหรอคะ?”

เมศมองเธอด้วยความมั่นใจ “ครับ ผมจะอยู่ที่นี่และช่วยคุณดูแลน้องอชิอย่างดีที่สุด”

รมิดายังคงรู้สึกตกใจและไม่แน่ใจ เธอคิดในใจว่าทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน

“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ได้ต้องการให้คุณมายุ่งกับชีวิตของฉันนะคะ?” รมิดาถามขึ้นมาอย่างกลัวการสูญเสียความเป็นตัวเอง

เมศตอบกลับอย่างจริงจัง “ผมไม่ได้มายุ่งครับ ผมแค่จะช่วยดูแลน้องอชิ…”

เสียงตอบของเมศทำให้รมิดาเงียบไป สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นที่เขามี แม้ว่าเธอจะไม่อยากให้ใครมายุ่งกับชีวิตของเธอ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถปฏิเสธความช่วยเหลือที่มาจากใจจริงได้

สุดท้าย รมิดาก็ได้แต่พูดในใจ “ถ้าฉันยอมรับสิ่งนี้ มันจะทำให้ชีวิตของเราทุกคนดีขึ้นจริงเหรอ?”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 35 ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ

    วันรุ่งขึ้นเช้านี้ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านผ้าม่านสีขาวในห้องนั่งเล่น รมิดานั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับแก้วกาแฟในมือ แต่เธอแทบไม่ได้แตะมันเลย ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ซึ่งยังคงฉายข่าวเรื่องการจากไปของพ่อแม่พิชชาเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นที่หน้าบ้าน เธอหันไปมองผ่านหน้าต่าง เห็นรถของปรเมศจอดอยู่ รมิดาวางแก้วกาแฟลง ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้เขา“เห็นข่าวหรือยังคะ?” เธอถามทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้าน ปรเมศพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “เห็นแล้ว”รมิดาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันว่าจะไปเยี่ยมพิชชาสักหน่อยค่ะ”ปรเมศมองเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมก็ว่าจะไปเหมือนกัน”เธอเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ “คุณก็จะไป?”“ใช่” เขาพยักหน้า แล้วอธิบาย “ตระกูลดั้งเดิมของพิชชาให้ความสำคัญกับหน้าตาทางสังคมมาก ข่าวใหญ่โตขนาดนี้ ผมว่า ญาติของเธอคงไม่มีใครอยากมายุ่งเกี่ยวด้วย”รมิดานิ่งไป“ผมจะไปแสดงความเสียใจ และขอจัดงานศพแทนพ่อแม่ของเธอ” เขาพูดต่อ น้ำเสียงหนักแน่น “ถึงแม้เธอจะทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหน สุดท้ายเธอก็เหลือตัวคนเดียว ผมไม่อยากให้เธอจากไปโดยไม่มีใครเลย”รมิดามองเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 34 ผลลัพธ์เกิดจากการกระทำ

    “ป้าดา ป่าป๊าอชิไปไหนฮะ ป่าป๊าเจ็บอยู่ ยังอยู่ในนั้นใช่ไหม ป่าป๊าเจ็บมากไหมฮะ ฮึก”เสียงหลานชายสะอื้นเรียกสติรมิดาอีกครั้ง เธอจะบอกอชิยังไงดีรมิดากระชับอ้อมกอดน้องอชิแน่นขึ้น ลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบโยนให้เด็กน้อยสงบลง“อชิไม่ร้องนะครับ ป้าดาอยู่ตรงนี้นะ”เสียงของเธอสั่นเครือพอ ๆ กับหัวใจที่เจ็บปวด ความสูญเสียครั้งนี้หนักหนาเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ แต่น้องอชิยังเด็กนัก… เขาไม่ควรต้องเผชิญเรื่องแบบนี้เลยเด็กน้อยสะอื้นฮัก ซุกหน้ากับอกของเธอ พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ป่าป๊าภีมไปไหนเหรอฮะ ป้าดา… ทำไมยังไม่ออกมาหาอชิ”รมิดาหลับตาลง พยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลรื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธออยากจะบอกความจริงทั้งหมด แต่จะให้เด็กวัยนี้เข้าใจความตายได้อย่างไร“ป๊าภีมต้องไปที่ไกล ๆ แต่เขายังรักอชิอยู่เสมอนะครับ”“แล้วป๊าจะกลับมาไหมฮะ”คำถามนั้นเหมือนคมมีดที่กรีดกลางใจเธอรมิดาไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอได้แต่ลูบศีรษะเล็ก ๆ นั้นเบา ๆ พลางเอ่ยเสียงแผ่ว “ป๊าภีมจะอยู่กับอชิตลอดไป… อยู่ในหัวใจของอชิไงครับ”เด็กน้อยสะอื้นหนักขึ้น ก่อนที่ร่างเล็ก ๆ จะค่อย ๆ อ่อนแรงลงจากความเหนื่อยล้า เสียงร้องแผ่วลงจนกระทั่งเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 33 สูญเสีย

    รมิดาเดินกลับมาถึงหน้าห้องไอซียู ร่างบางมองเห็นปรเมศที่ยืนพิงกำแพง มือหนายกขึ้นเสยผมด้วยความเครียด ก่อนจะลดมือลงมาจับมือน้อย ๆ ของน้องอชิที่กำลังหลับอยู่บนเก้าอี้ข้าง ๆเมื่อปรเมศเห็นเธอเดินกลับมา เขาก็รีบสาวเท้าเข้ามาหา สีหน้าของเขาดูเป็นกังวล “คุยกับคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?”รมิดามองหน้าเขาแล้วยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คุณหญิงแค่… ยอมรับฉันแล้ว”แววตาของปรเมศไหววูบไปชั่วครู่ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจ“จริงเหรอ?” เขาถามเสียงเบา ราวกับยังไม่อยากจะเชื่อ รมิดาพยักหน้า “ค่ะ จริง คุณหญิงยอมรับฉันแล้ว”ปรเมศมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาเห็นความสุขและความโล่งใจที่สะท้อนอยู่ในนั้น มันเป็นสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาโดยตลอดเขายื่นมือไปจับมือเธอเอาไว้ “ดีแล้ว… ผมดีใจจริง ๆ”รมิดากำมือของเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองน้องอชิที่ยังคงหลับสนิท เธอถอนหายใจเบา ๆ“ตอนนี้เหลือแค่ภีม…” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาลง แววตาหม่นลงเล็กน้อยปรเมศบีบมือเธอเบา ๆ เป็นเชิงปลอบโยน “ภีมต้องปลอดภัย เขาแข็งแรงขนาดนั้น เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรไปง่าย ๆ หรอก”รมิดาฝืนยิ้ม

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 32 ยอมรับ

    ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งรมิดานั่งอยู่หน้าห้องไอซียู มือของเธอคอยลูบศีรษะเล็ก ๆ ของน้องอชิที่หลับอยู่ในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเด็กน้อยยังคงบวมแดงจากการร้องไห้หนัก ความเหนื่อยล้าทำให้เขาหลับไป แต่ถึงอย่างนั้น มือเล็ก ๆ ก็ยังจับชายเสื้อของเธอไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปรมิดามองประตูห้องไอซียูที่ปิดสนิท หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างหวาดหวั่น ทุกวินาทีที่รอคอยช่างยาวนาน ราวกับเข็มนาฬิกาเดินช้าลงอย่างน่าทรมาน“ถึงมือหมอแล้ว นายจะไม่เป็นอะไร”ริมฝีปากสีสวยพึมพำเบา ๆ เธอเคยดูละครหลังข่าวมาก็เยอะ สถานการณ์ที่พระเอกโดนยิง จะมีปาฏิหารย์ตลอด ฉะนั้นภีมคือพระเอกในเรื่องราวของเธอ เป็นป่าป๊าของน้องอชิ เขาต้องรอดเท่านั้นตึก ! ตึก !ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากปลายทางเดิน ปรเมศที่เพิ่งจัดการเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จ รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเธอ“รมิดา!”เสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจรมิดาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนล้าและความกังวล “ปรเมศ…”ปรเมศทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เธอ หายใจหอบเล็กน้อยเพราะวิ่งมาอย่างรีบร้อน “เป็นยังไงบ้าง หมอบอกว่ายังไง?” เขาพูดเสียงอ่อนพลางลูบหลังเธอเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 31 ป่าป๊าของอชิ

    ปรเมศกับภีมซุ่มอยู่ด้านนอกโกดัง ดวงตาทั้งสองคนจับจ้องไปยังพวกโจรที่กระจายตัวกันอยู่ด้านหน้าอาคาร“มีสองคนเฝ้าหน้าประตู อีกคนเดินตรวจตราอยู่รอบ ๆ” ภีมกระซิบขณะมองผ่านช่องเล็ก ๆ บนกำแพงร้าง“ถ้าบุกตรง ๆ เสียงปืนดังแน่ ต้องจัดการเงียบ ๆ ก่อน” ปรเมศพยักหน้าเห็นด้วยภีมชี้ไปทางด้านซ้าย “ฉันจะไปจัดการไอ้คนที่เดินตรวจ นายไปดักสองตัวที่เฝ้าประตู”“เออ เจอกันข้างใน” ปรเมศตอบเสียงเรียบ ก่อนที่ทั้งสองจะแยกกันดำเนินแผนภีมเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบ อาศัยเงามืดเป็นที่กำบัง รอจนโจรที่เดินตรวจตราเผลอ ก่อนจะพุ่งเข้าไปล็อกคอจากด้านหลัง กระชากตัวมันลงกับพื้นอย่างแรง“อึก…!!”ภีมใช้แขนรัดคอแน่นจนร่างนั้นหมดสติไป ก่อนจะค่อย ๆ วางมันลงกับพื้นอย่างไร้เสียง“หนึ่งไป” เขาพึมพำเบา ๆ แล้วส่งสัญญาณให้ปรเมศที่ซุ่มอยู่ใกล้ประตูปรเมศจัดการพวกที่เฝ้าหน้าประตูอย่างรวดเร็ว เขาใช้ท่อนไม้หนัก ๆ ฟาดเข้าที่ท้ายทอยของคนแรก ก่อนจะเตะเข้ากลางลำตัวของอีกคนจนมันล้มลงไป“สองไป”ภีมรีบเข้ามาสมทบ ทั้งคู่จับอาวุธจากพวกโจรมาไว้ในมือ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูโกดังเข้าไปทันทีที่เข้ามาข้างใน“ลุงภีม!! ลุงเมศ!! ช่วยป้

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 30 จะช่วยได้หรือไม่

    โกดังร้าง – เวลากลางคืนปรเมศกับภีมขับรถมาถึงบริเวณโกดังร้าง ก่อนจะดับเครื่องยนต์ไว้ห่างออกไปไม่เกิน 500 เมตร ทั้งสองกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาตึงเครียด บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าบางต้นที่พอให้มองเห็นโครงสร้างเก่าโทรมของโกดัง“เราจะบุกเข้าไปเลยไม่ได้” ภีมพูดเสียงเครียด “ถ้าคนร้ายรู้ตัวก่อน มันอาจจะใช้รมิดากับอชิเป็นตัวประกัน”ปรเมศพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความจากตำรวจที่ตอบกลับมาแล้วว่ากำลังเดินทางมา คาดว่าจะถึงภายใน 15 นาที“เราต้องถ่วงเวลาให้ตำรวจมาถึงก่อน” ปรเมศพูดเสียงหนัก “แต่เราก็ต้องหาทางให้พวกมันไม่รู้ตัวว่าเรามาแล้วด้วย”ภีมมองไปยังโกดัง สังเกตเห็นว่ามีลูกน้องของพวกมันสองคนเดินตรวจตราอยู่ด้านหน้า ถือปืนคนละกระบอก“ทางเข้าออกมีแค่ประตูหน้า” ภีมพึมพำ “ถ้าเราจะเข้าไป ต้องหาทางกำจัดยามพวกนั้นก่อน”ปรเมศขบกรามแน่น ก่อนจะเหลือบมองไปทางซ้ายมือของโกดัง ซึ่งมีช่องหน้าต่างแตกอยู่ “หรือเราจะลองเข้าไปจากตรงนั้น?”ภีมหรี่ตา “อืม… นั่นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”ขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของภีมสั่นเบา ๆ เขารีบกดรับ เป็นสายจากตำรวจ“ค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status