Beranda / โรแมนติก / ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ / บทที่ 4 ความวุ่นวายที่เริ่มเข้ามาในชีวิต

Share

บทที่ 4 ความวุ่นวายที่เริ่มเข้ามาในชีวิต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-12 11:04:11

ที่หน้าตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ รถของเมศจอดนิ่งสนิทใต้ร่มไม้ใหญ่ รมิดาค่อย ๆ เปิดประตูแล้วอุ้มน้องอชิที่ยังง่วงงุนลงจากเบาะหลัง เธอปรับตัวน้องให้ยืนบนพื้นพร้อมจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเหลือบมองเมศที่ยังคงนั่งอยู่หลังพวงมาลัย

“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” รมิดาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพตามมารยาท แต่ในแววตายังแฝงความระแวง

เมศพยักหน้ารับ “ไม่เป็นไรครับ แต่ผมจะไปรออยู่ใกล้ ๆ ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้ทันที”

รมิดาชะงักเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าการที่เขาจะ “รออยู่ใกล้ ๆ” หมายถึงอะไร และไม่อยากถามให้มากความ เธอเพียงแค่ส่งยิ้มจาง ๆ แล้วจูงน้องอชิเดินออกไป

เธอพาน้องอชิเดินมายังโต๊ะม้านั่งไม้ใกล้ตึกคณะ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยบังแดดในยามสาย แต่ด้วยความที่แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ รมิดาจึงหยิบหมวกใบเล็กสีฟ้าลายการ์ตูนออกมาจากกระเป๋าแล้วค่อย ๆ สวมให้หลานชาย

“ใส่หมวกก่อนนะครับ อชิ เดี๋ยวแดดจะร้อนเกินไป” เธอพูดพลางจัดสายหมวกให้พอดีกับศีรษะของเด็กชาย

น้องอชิพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่จู่ ๆ ก็เอียงศีรษะมองป้าดาด้วยความสงสัย “ป้าดาไม่มีเรียนเช้าเหรอฮะ?”

คำถามนั้นทำให้รมิดาหยุดมือชั่วครู่ก่อนจะยิ้มแห้งออกมา “มีครับ…แต่ป้าดาขอให้อชิได้กินข้าวเช้าก่อน ป้าถึงจะไปเรียน”

น้องอชิยังไม่เข้าใจนัก แต่เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและนั่งนิ่ง “งั้นป้าดาไปเรียนก่อนก็ได้นะฮะ อชิรออยู่ที่นี่ได้”

รมิดาหัวเราะเบา ๆ พลางลูบหัวหลานชาย “ไม่ได้หรอกครับ หนูยังเล็ก ป้าดาทิ้งหนูไว้คนเดียวไม่ได้”

เสียงของเธออ่อนโยนแต่แฝงความหนักใจลึก ๆ ในใจของเธอ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลหลาน แต่เป็นการปรับชีวิตทั้งชีวิตให้เข้ากับบทบาทใหม่ที่เธอไม่เคยคาดคิด

ในความจริง รมิดามีตารางเรียนเช้าทุกวัน แต่การที่เธอต้องเลี้ยงน้องอชิทำให้ชีวิตเธอไม่ง่ายเหมือนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น การให้หลานชายทานข้าวเช้าจนเสร็จเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเธอ นั่นหมายความว่าเธอเข้าเรียนสายเป็นเรื่องปกติ

บางครั้งเธอต้องรีบวิ่งไปห้องเรียนพร้อมกับคำตำหนิจากอาจารย์ บางครั้งการส่งรายงานก็ล่าช้า เพราะช่วงเวลาที่คนอื่นใช้เตรียมงาน เธอต้องวิ่งวุ่นกับการเลี้ยงเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง

“อชิอยากไปกินข้าวกับป้าดามั้ยครับ?” รมิดาถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ก่อนจะยื่นมือให้เด็กชายจับ น้องอชิพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

“ครับ ป้าดา แต่เราไปกินไก่ทอดกันนะฮะ!”

คำพูดของหลานชายทำให้รมิดาหัวเราะออกมา “ได้สิครับ แต่ต้องกินผักด้วยนะ”

น้องอชิยู่หน้าทันที “อชิไม่ชอบผัก…”

รมิดายิ้มพลางก้มลงคุยกับเขา “แต่ถ้าอชิไม่กินผัก อชิจะโตไม่ทันเพื่อนนะครับ แล้วถ้าไม่โต อชิจะใส่เสื้อช็อปแบบลุงเมศได้ยังไง?”

คำพูดนั้นทำให้น้องอชิคิดหนัก “จริงเหรอฮะ? ถ้าอชิไม่กินผัก อชิจะไม่ได้ใส่เสื้อแบบลุงเมศ?”

รมิดาพยักหน้าอย่างตั้งใจ “ใช่ครับ ต้องกินผักเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงเหมือนลุงเมศไง”

เด็กชายทำหน้าเหมือนต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ก่อนจะยอมพยักหน้าช้า ๆ “ก็ได้ฮะ…อชิกินผักก็ได้”

รมิดาหัวเราะเบา ๆ ขณะจูงหลานชายเดินไปยังโรงอาหาร ความเหนื่อยล้าจากการต้องปรับชีวิตให้สมดุลยังคงหนักอึ้งในใจ แต่ทุกครั้งที่เธอเห็นรอยยิ้มของน้องอชิ มันเหมือนเป็นกำลังใจให้เธอสู้ต่อไป

เธอรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะบาลานซ์ชีวิตนักศึกษาและหน้าที่การเป็นแม่บุญธรรมในเวลาเดียวกัน แต่เธอไม่เคยคิดจะละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะสำหรับเธอ น้องอชิไม่ใช่แค่ภาระ แต่คือหัวใจที่เติมเต็มชีวิตของเธอ

ณ โรงอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและกลิ่นอาหารหลากชนิด รมิดานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงอาหารพร้อมกับน้องอชิที่กำลังนั่งกินไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อย เธอตักข้าวป้อนหลานชายด้วยความรัก ใบหน้าของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความสุขขณะที่เขาเคี้ยวข้าวในปาก

“อร่อยมั้ยครับ?” รมิดาถามยิ้ม ๆ

“อร่อยมากฮะ ป้าดา” น้องอชิตอบกลับพร้อมยกนิ้วโป้ง

รมิดาหัวเราะเบา ๆ เธอรู้สึกผ่อนคลายชั่วขณะ แต่เพียงไม่นานบรรยากาศนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาโต๊ะของเธอ

หญิงสาวในชุดนักศึกษาสุดเนี้ยบ ใบหน้าจัดเต็มด้วยเครื่องสำอาง มองรมิดาด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่เป็นมิตร “นี่…เธอใช่ไหมที่มากับพี่เมศ?”

คำถามนั้นทำให้รมิดาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างงง ๆ “คะ?”

หญิงคนนั้นยืนกอดอก มองรมิดาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามซ้ำ “ฉันถามว่า เธอเป็นอะไรกับพี่เมศ?”

รมิดาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบเสียงนิ่ง “ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”

เธอพยายามพูดให้จบเรื่อง แต่คำตอบของเธอกลับทำให้หญิงคนนั้นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

เสียงตบโต๊ะดังขึ้นจนคนรอบข้างเริ่มหันมามอง “ไม่ได้เป็นอะไร แล้วพี่เมศจะให้นั่งรถมาด้วยทำไม?! พี่เมศหวงรถจะตาย ใครจะไปนั่งรถเขาง่าย ๆ ได้?”

รมิดาพยายามคงความสงบ เธอเหลือบมองน้องอชิที่ยังคงกินข้าวต่ออย่างไม่รู้เรื่อง แต่ภายในใจของเธอเริ่มเดือดขึ้นมาทีละน้อย

“ถ้าอยากรู้ ทำไมคุณไม่ไปถามเขาเองล่ะคะ?” รมิดาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปป้อนข้าวน้องอชิต่อ

แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่คิดจะปล่อยเรื่องนี้ง่าย ๆ เพียงไม่นานก็มีเพื่อนของเธออีกสามคนเดินเข้ามาสมทบ พวกเธอยืนล้อมโต๊ะของรมิดาไว้ ราวกับต้องการข่มขู่

“หรือว่า…เธอเป็นเด็กของพี่เมศอีกคน?” หนึ่งในนั้นพูดพลางยิ้มเยาะ

“ใช่สิ ดูก็รู้ ลูกติดยังมีเลย แบบนี้ไม่ใช่หรือไงที่พี่เมศชอบช่วยสงเคราะห์?” อีกคนพูดเสริมด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน

คำพูดนั้นเหมือนกระแทกเข้ากลางใจของรมิดา เธอกำมือแน่นแต่ยังคงระงับอารมณ์ไว้ หันไปมองน้องอชิที่ยังคงกินข้าวอย่างไม่รู้เรื่อง เธอไม่อยากให้เด็กคนนี้ต้องเห็นหรือจดจำสิ่งไม่ดีในวันนี้

รมิดาหายใจลึกก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าคุณอยากรู้ว่าเขาคิดอะไร หรือทำอะไร ก็ไปถามเขาเองค่ะฉันแค่ติดรถเขามา”

คำตอบที่ดูไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ของรมิดาทำให้กลุ่มผู้หญิงเหล่านั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง พวกเธอคงคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่ยิ่งกระตุ้นให้ทะเลาะกันมากขึ้น

“เหอะ! ปากดีแบบนี้ไม่แปลกเลยที่ต้องพึ่งพาคนอื่น!” หญิงสาวคนเดิมพูดประชด

รมิดายังคงนิ่ง เธอเก็บจานข้าวที่เหลือของน้องอชิแล้วลุกขึ้นช้า ๆ “ขอตัวนะคะ น้องต้องไปพักแล้ว”

เธอจูงมือน้องอชิเดินออกจากโต๊ะไปโดยไม่หันกลับมามอง รมิดาเลือกที่จะไม่ปะทะ แม้ภายในใจเธอจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เธอรู้ว่าความสงบคือทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้

ระหว่างเดินออกจากโรงอาหาร น้องอชิถามขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา “ป้าดา คนพวกนั้นเสียงดังจังเลยฮะ”

รมิดาหยุดเดินก่อนจะย่อตัวลงมาคุยกับเขา “อชิไม่ต้องสนใจนะครับ บางคนแค่พูดเยอะเกินไป”

“พวกเขาไม่ชอบป้าดาหรือฮะ?” เด็กน้อยถามต่อด้วยความสงสัย

รมิดายิ้มบาง ๆ พลางลูบหัวหลานชาย “บางคนอาจไม่เข้าใจป้าดา แต่นั่นไม่สำคัญหรอกครับ เพราะอชิกับป้าดารู้ว่าเรารักกัน นั่นก็พอแล้ว”

น้องอชิพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะยิ้มสดใสให้เธอ รอยยิ้มนั้นทำให้รมิดารู้สึกว่าทุกคำพูดเสียดสีที่ผ่านมานั้นไร้ความหมาย เมื่อเทียบกับความสุขและความผูกพันที่เธอมีกับหลานชาย

รมิดาจูงมือน้องอชิเดินต่อไป ทิ้งเสียงหัวเราะเยาะของผู้หญิงเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง โดยไม่สนใจอีกต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 35 ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ

    วันรุ่งขึ้นเช้านี้ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านผ้าม่านสีขาวในห้องนั่งเล่น รมิดานั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับแก้วกาแฟในมือ แต่เธอแทบไม่ได้แตะมันเลย ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ซึ่งยังคงฉายข่าวเรื่องการจากไปของพ่อแม่พิชชาเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นที่หน้าบ้าน เธอหันไปมองผ่านหน้าต่าง เห็นรถของปรเมศจอดอยู่ รมิดาวางแก้วกาแฟลง ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้เขา“เห็นข่าวหรือยังคะ?” เธอถามทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้าน ปรเมศพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “เห็นแล้ว”รมิดาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันว่าจะไปเยี่ยมพิชชาสักหน่อยค่ะ”ปรเมศมองเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมก็ว่าจะไปเหมือนกัน”เธอเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ “คุณก็จะไป?”“ใช่” เขาพยักหน้า แล้วอธิบาย “ตระกูลดั้งเดิมของพิชชาให้ความสำคัญกับหน้าตาทางสังคมมาก ข่าวใหญ่โตขนาดนี้ ผมว่า ญาติของเธอคงไม่มีใครอยากมายุ่งเกี่ยวด้วย”รมิดานิ่งไป“ผมจะไปแสดงความเสียใจ และขอจัดงานศพแทนพ่อแม่ของเธอ” เขาพูดต่อ น้ำเสียงหนักแน่น “ถึงแม้เธอจะทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหน สุดท้ายเธอก็เหลือตัวคนเดียว ผมไม่อยากให้เธอจากไปโดยไม่มีใครเลย”รมิดามองเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 34 ผลลัพธ์เกิดจากการกระทำ

    “ป้าดา ป่าป๊าอชิไปไหนฮะ ป่าป๊าเจ็บอยู่ ยังอยู่ในนั้นใช่ไหม ป่าป๊าเจ็บมากไหมฮะ ฮึก”เสียงหลานชายสะอื้นเรียกสติรมิดาอีกครั้ง เธอจะบอกอชิยังไงดีรมิดากระชับอ้อมกอดน้องอชิแน่นขึ้น ลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบโยนให้เด็กน้อยสงบลง“อชิไม่ร้องนะครับ ป้าดาอยู่ตรงนี้นะ”เสียงของเธอสั่นเครือพอ ๆ กับหัวใจที่เจ็บปวด ความสูญเสียครั้งนี้หนักหนาเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ แต่น้องอชิยังเด็กนัก… เขาไม่ควรต้องเผชิญเรื่องแบบนี้เลยเด็กน้อยสะอื้นฮัก ซุกหน้ากับอกของเธอ พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ป่าป๊าภีมไปไหนเหรอฮะ ป้าดา… ทำไมยังไม่ออกมาหาอชิ”รมิดาหลับตาลง พยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลรื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธออยากจะบอกความจริงทั้งหมด แต่จะให้เด็กวัยนี้เข้าใจความตายได้อย่างไร“ป๊าภีมต้องไปที่ไกล ๆ แต่เขายังรักอชิอยู่เสมอนะครับ”“แล้วป๊าจะกลับมาไหมฮะ”คำถามนั้นเหมือนคมมีดที่กรีดกลางใจเธอรมิดาไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอได้แต่ลูบศีรษะเล็ก ๆ นั้นเบา ๆ พลางเอ่ยเสียงแผ่ว “ป๊าภีมจะอยู่กับอชิตลอดไป… อยู่ในหัวใจของอชิไงครับ”เด็กน้อยสะอื้นหนักขึ้น ก่อนที่ร่างเล็ก ๆ จะค่อย ๆ อ่อนแรงลงจากความเหนื่อยล้า เสียงร้องแผ่วลงจนกระทั่งเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 33 สูญเสีย

    รมิดาเดินกลับมาถึงหน้าห้องไอซียู ร่างบางมองเห็นปรเมศที่ยืนพิงกำแพง มือหนายกขึ้นเสยผมด้วยความเครียด ก่อนจะลดมือลงมาจับมือน้อย ๆ ของน้องอชิที่กำลังหลับอยู่บนเก้าอี้ข้าง ๆเมื่อปรเมศเห็นเธอเดินกลับมา เขาก็รีบสาวเท้าเข้ามาหา สีหน้าของเขาดูเป็นกังวล “คุยกับคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?”รมิดามองหน้าเขาแล้วยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คุณหญิงแค่… ยอมรับฉันแล้ว”แววตาของปรเมศไหววูบไปชั่วครู่ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจ“จริงเหรอ?” เขาถามเสียงเบา ราวกับยังไม่อยากจะเชื่อ รมิดาพยักหน้า “ค่ะ จริง คุณหญิงยอมรับฉันแล้ว”ปรเมศมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาเห็นความสุขและความโล่งใจที่สะท้อนอยู่ในนั้น มันเป็นสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาโดยตลอดเขายื่นมือไปจับมือเธอเอาไว้ “ดีแล้ว… ผมดีใจจริง ๆ”รมิดากำมือของเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองน้องอชิที่ยังคงหลับสนิท เธอถอนหายใจเบา ๆ“ตอนนี้เหลือแค่ภีม…” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาลง แววตาหม่นลงเล็กน้อยปรเมศบีบมือเธอเบา ๆ เป็นเชิงปลอบโยน “ภีมต้องปลอดภัย เขาแข็งแรงขนาดนั้น เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรไปง่าย ๆ หรอก”รมิดาฝืนยิ้ม

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 32 ยอมรับ

    ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งรมิดานั่งอยู่หน้าห้องไอซียู มือของเธอคอยลูบศีรษะเล็ก ๆ ของน้องอชิที่หลับอยู่ในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเด็กน้อยยังคงบวมแดงจากการร้องไห้หนัก ความเหนื่อยล้าทำให้เขาหลับไป แต่ถึงอย่างนั้น มือเล็ก ๆ ก็ยังจับชายเสื้อของเธอไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปรมิดามองประตูห้องไอซียูที่ปิดสนิท หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างหวาดหวั่น ทุกวินาทีที่รอคอยช่างยาวนาน ราวกับเข็มนาฬิกาเดินช้าลงอย่างน่าทรมาน“ถึงมือหมอแล้ว นายจะไม่เป็นอะไร”ริมฝีปากสีสวยพึมพำเบา ๆ เธอเคยดูละครหลังข่าวมาก็เยอะ สถานการณ์ที่พระเอกโดนยิง จะมีปาฏิหารย์ตลอด ฉะนั้นภีมคือพระเอกในเรื่องราวของเธอ เป็นป่าป๊าของน้องอชิ เขาต้องรอดเท่านั้นตึก ! ตึก !ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากปลายทางเดิน ปรเมศที่เพิ่งจัดการเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จ รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเธอ“รมิดา!”เสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจรมิดาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนล้าและความกังวล “ปรเมศ…”ปรเมศทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เธอ หายใจหอบเล็กน้อยเพราะวิ่งมาอย่างรีบร้อน “เป็นยังไงบ้าง หมอบอกว่ายังไง?” เขาพูดเสียงอ่อนพลางลูบหลังเธอเ

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 31 ป่าป๊าของอชิ

    ปรเมศกับภีมซุ่มอยู่ด้านนอกโกดัง ดวงตาทั้งสองคนจับจ้องไปยังพวกโจรที่กระจายตัวกันอยู่ด้านหน้าอาคาร“มีสองคนเฝ้าหน้าประตู อีกคนเดินตรวจตราอยู่รอบ ๆ” ภีมกระซิบขณะมองผ่านช่องเล็ก ๆ บนกำแพงร้าง“ถ้าบุกตรง ๆ เสียงปืนดังแน่ ต้องจัดการเงียบ ๆ ก่อน” ปรเมศพยักหน้าเห็นด้วยภีมชี้ไปทางด้านซ้าย “ฉันจะไปจัดการไอ้คนที่เดินตรวจ นายไปดักสองตัวที่เฝ้าประตู”“เออ เจอกันข้างใน” ปรเมศตอบเสียงเรียบ ก่อนที่ทั้งสองจะแยกกันดำเนินแผนภีมเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบ อาศัยเงามืดเป็นที่กำบัง รอจนโจรที่เดินตรวจตราเผลอ ก่อนจะพุ่งเข้าไปล็อกคอจากด้านหลัง กระชากตัวมันลงกับพื้นอย่างแรง“อึก…!!”ภีมใช้แขนรัดคอแน่นจนร่างนั้นหมดสติไป ก่อนจะค่อย ๆ วางมันลงกับพื้นอย่างไร้เสียง“หนึ่งไป” เขาพึมพำเบา ๆ แล้วส่งสัญญาณให้ปรเมศที่ซุ่มอยู่ใกล้ประตูปรเมศจัดการพวกที่เฝ้าหน้าประตูอย่างรวดเร็ว เขาใช้ท่อนไม้หนัก ๆ ฟาดเข้าที่ท้ายทอยของคนแรก ก่อนจะเตะเข้ากลางลำตัวของอีกคนจนมันล้มลงไป“สองไป”ภีมรีบเข้ามาสมทบ ทั้งคู่จับอาวุธจากพวกโจรมาไว้ในมือ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูโกดังเข้าไปทันทีที่เข้ามาข้างใน“ลุงภีม!! ลุงเมศ!! ช่วยป้

  • ป่าป๊ากับหม่าม้าใหม่ของน้องอชิ   บทที่ 30 จะช่วยได้หรือไม่

    โกดังร้าง – เวลากลางคืนปรเมศกับภีมขับรถมาถึงบริเวณโกดังร้าง ก่อนจะดับเครื่องยนต์ไว้ห่างออกไปไม่เกิน 500 เมตร ทั้งสองกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาตึงเครียด บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าบางต้นที่พอให้มองเห็นโครงสร้างเก่าโทรมของโกดัง“เราจะบุกเข้าไปเลยไม่ได้” ภีมพูดเสียงเครียด “ถ้าคนร้ายรู้ตัวก่อน มันอาจจะใช้รมิดากับอชิเป็นตัวประกัน”ปรเมศพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความจากตำรวจที่ตอบกลับมาแล้วว่ากำลังเดินทางมา คาดว่าจะถึงภายใน 15 นาที“เราต้องถ่วงเวลาให้ตำรวจมาถึงก่อน” ปรเมศพูดเสียงหนัก “แต่เราก็ต้องหาทางให้พวกมันไม่รู้ตัวว่าเรามาแล้วด้วย”ภีมมองไปยังโกดัง สังเกตเห็นว่ามีลูกน้องของพวกมันสองคนเดินตรวจตราอยู่ด้านหน้า ถือปืนคนละกระบอก“ทางเข้าออกมีแค่ประตูหน้า” ภีมพึมพำ “ถ้าเราจะเข้าไป ต้องหาทางกำจัดยามพวกนั้นก่อน”ปรเมศขบกรามแน่น ก่อนจะเหลือบมองไปทางซ้ายมือของโกดัง ซึ่งมีช่องหน้าต่างแตกอยู่ “หรือเราจะลองเข้าไปจากตรงนั้น?”ภีมหรี่ตา “อืม… นั่นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”ขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของภีมสั่นเบา ๆ เขารีบกดรับ เป็นสายจากตำรวจ“ค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status