ช่วงสายของมีขกเข้ามาขอพบเฉินเหยียนเฟยเขาคนนั้นคือเฉินลี่หยางลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มแต่เฉินเหยียนเฟยกับมีความทรงจำเกี่ยวกับน้องชาย
“พี่ชายวันนี่ผมกลับมาแล้วงานที่ให้ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”
“งาน?” ชายหนุ่มสงสัยว่างานอะไรที่ให้น้องชายไปทำเพราะเขาจำไม่ได้นอกจากจะค้าขายกับต่างชาติยังมีอะไรอีก
“ลืมไปว่าจำอะไรไม่ได้ก็พี่ส่งผมไปขายอาวุธให้รัฐบาลทางตอนใต้ไงได้เงินมาเยอะเลย” อาชีพที่ไม่ค่อยจะสุจริตพวกเขาก็ทำกันและยังมีผู้บัญชาการร่วมขบวนการ
“อ้อฉันจำได้แล้ว”
“ว้าวพี่สะใภ้วันนี่ผมมีของขวัญมาให้ด้วย” เฉินลี่หยางหยิบกำไรข้อมือออกมาเขาจำได้ว่าพี่สะใภ้ของเขาอายุครบยี่สิบสองปีแล้วชายหนุ่มจึงยื่นให้
“สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณชายรอง” หญิงสาวหยิบขึ้นมาเป็นกำไรหยกสีเขียวสวยงามระรานตาราคาคงจะแพงไม่น้อย หลินเยี่ยนจือจึงส่งยิ้มให้เขา
แต่เป็นเฉินเหยียนเฟยที่ตกหลุมพรางรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นเวลาอยู่กับน้องชายของเขาทำไมหญิงสาวจึงร่าเริงสดใสพออยู่กับเขากับทำท่าทีเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย
“อะ แฮ่ม ไม่มีอะไรก็ไปทำงานของเธอ” หญิงสาวเมื่อถูกไล่จึงขอตัวออกมาเฉินเหยียนเฟยมองตามตาไม่กระพริบเขาจึงยกน้ำชาขึ้นมาจิ้บ
“หวงหรือไงร้อยวันพันปีไม่เคยเป็นแบบนี่ตอนนั้นพี่จะยกพี่สะใภ้ให้ผมด้วยซ้ำไป”
ปัง!
ไอ้มาเฟียหน้าโหดกล้าจะยกภรรยาให้น้องชายตัวเอง เขาได้ยินเรื่องราวแบบนั้นก็รับไม่ได้ตอนนี้เขาอยากอยู่กับเมียของคนอื่นเขาก็เป็นเฉินเหยียนเฟยเหมือนกัน
“นายกลับไปได้แล้วฉันมีธุระ”
“กลับอะไรบ้านผมก็อยู่ข้างพี่ อ้าวรีบไปไหน” เฉินลี่หยางแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของพี่ชายตัวเองหรือจะตกหลุมรักภรรยาตัวเองขึ้นมาก็ไม่น่าจะใช่เพราะแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว
“คุณผู้หญิงคะคุณชายให้ยกชาไปเสิร์ฟที่ห้องทำงานค่ะ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” หลินเยี่ยนจือจึงยกชาเข้ามาเสิร์ฟในห้องทำงานของชขายหนุ่มแต่พอเข้ามากับไม่เห็นใครจึงนำชาไปวางไว้บนโต๊ะของเขาแทน
“อุ้ย อื้อ”
ริมฝีปากของชายหนุ่มทาบทับลงมาเขาใช้มืออีกข้างล็อกประตูและอีกข้างผลักให้หญิงสาวชิดกับผนังห้อง ปากหนาไม่ยอมปล่อยออกห่าง
“เมื่อกี้เธอยิ้มให้มัน”
“คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมา อ๊ะ” หลินเยี่ยนจือตกใจกับสิ่งที่เขาทำเขาถลกกระโปรงของเธอขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวเนียนเธอไม่เคยใกล้ชิดเขาแบบนี้มาก่อน
“เธอเป็นภรรยาของฉัน” เฉินเหยียนเฟยจูบหญิงสาวอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาอาสัยทีเผลอจับรูกกางเกงชั้นในของหญิงสาวไปกองไว้ที่พื้นโดยที่หญิงสาวมัวแต่หลงมัวเมาในรสจูบของเขา
“อ๊ะ อื้อ!!”
“เสียวไหม อ่าส์” ชายหนุ่มเลื่อนมือเข้าไปสกิดเม็วเสี่ยวของหญิงสาวมืออีกข้างทีเหลือก็สำรวจหน้าอกที่ใหญ่เกินตัว เขาชอบมากไม่คิดว่าหญิงสาวสมัยนี้หุ่นจะน่ากินไปหมด
“อย่าทำแบบนี้ อือ อ๊ะ!!”
“เธอชอบดูสิน้ำเยิ้มออกมาเลย” เฉินเหยียนเฟยนั่งคุกเข่าลงใบหน้าของเขาอยู่ในระดับเดี๋ยวกับน้องสาวของเธอ เขาจับหญิงสาวอ้าขาออกและซุกใบหน้าลงไปกลางลำตัวชายหนุ่มเขี่ยเม็ดเสียวจนแดงเถือกขึ้นมา
เสียงหวานครางออกมายามที่เขาดูดเสียเม็ดของเธอความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เฉินเหยียนเฟยแหวกขนเพชรสีดำออกถึงแม้จะดูดเสียไม่ถนัดแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลย
“อ๊า!! พอแล้ว” หญิงสาวพยายามจะหนีบขสแต่ชายหนุ่มไม่ยอมตอนนี้ขสทั้งสองข้างสั่นเทาไปหมดเพราะความเสียวซ่านไม่รู้ว่าตัวเองเผลอครางไปตั้งแต่เมื่อไร
เฉินเหยียนเฟยยีงคงละเลงลิ้นดูดเลียกลีบกอดไม้และส่งลิ้นเข้าไปในรูร่องในลึกที่สุดและหมุนลิ้นควานเป็นวงกลมจนน้ำเมือกไหลออกมาไม่หยุดเขาชอบที่สุดถึงแม้จะไม่เคยทำให้ใครและก็ใช่ว่าจะทำไม่เป็น
“อร้ายยย!!” หญิงกรีดร้องออกมาเมื่อตัวเองนั้นเสร็จสมแล้วน้ำเมือกสีใสไหลออกมาจนชายหนุ่มต้องดูดเลียไปมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนแทบไม่ไหวเขาจึงผละออก
“อยากทำงานก็มาทำงานให้ฉันสิไม่เห็นจะต้องไปลำบากที่อื่นเลย แค่นอนกับคราง โอ๊ะ”
เพียะ
“เก็บปากของคุณเอาไว้เห็นข้าวก็พอ”
หลินเยี่ยนจือทั้งอับอายและโมโหตัวเองที่เผลอไปกับสัมผัสของเขาหญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของเขาและปิดประตูเสียงดังลั่น
ปัง
เธอออกไปแล้วชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าหลินเยี่ยนจือโกรธอะไรให้เขาชายหนุ่มได้แต่มองกางเกงชั้นในของหญิงสาวที่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าและยิ้มออกมา “ผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก” ชายหนุ่มจึงเก็บกางเกงชั้นในสีดำลงไว้ในกระเป๋ากางเกง
หลินเยี่ยนจือเข้ามาให้ห้องตัวเองและเอามือทาบหน้าอกของตัวเองไว้ตอนนี้มันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาปกติเฉินเหยียนเฟยไม่เคยคิดอยากจะเข้าใกล้เธอ จู่ๆ ก้อยากลากเธอขึ้นเตียงเสียอย่างนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณผู้หญิงคะใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ”
“เดี๋ยวฉันออกไป” หญิงสาวรีบแต่งตัวใหม่วันนี้เธอจะออกไปไหว้กระดูกของพ่อกับแม่และอดีตคนรักพวกเก่าต่างพากันทิ้งเธอไว้กับซาตานตัวร้ายจางหย่งเสียชีวิตเพราะเข้าปราบปรามคนร้ายและถูกยิงเสียชีวิต
หลังจากที่เขาจากไปได้ไม่นานเหมือนโลกทั้งใบของเธอพังถล่มลงมาอีกครั้ง พ่อของเธอที่เป็นนายทหารใหญ่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและขอร้องให้เธอแต่งงานกับซาตาน หลังจากแต่งงานได้เพียงสามวันพ่อของเธอก็จากไปอย่างสงบทิ้งทรัพย์สินมากมายไว้ให้เธอแต่ตอนนั้นอายุยังน้อยฌฉินเหยียนเฟยจึงอาสาเข้ามาดูแลแทน
หญิงสาวเพิ่งมาทราบในภายหลังว่าชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นชื่อของเขาจนหมด จนเธอต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง เขาใจร้ายกับเธอสารพัดทำเหมือนเธอเป็นทาสคนหนึ่งที่ต้องรับใช้เขาเจ็บใจไปกว่านั้นเขาพยายามจะยกเธอให้กับคนอื่น
“พ่อไม่ต้องเป็นหนูนะคะ หนูเก่งมากเลย” จากคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นชีวิตอยู่สุขสบายตอนนี้เธอทำเป็นแทบจะทุกอย่างหญิงสาวเรียนไม่จบมหาลัยเพราะต้องออกมาหางานทำ
“หนูจะใช้ชีวิตให้ดีค่ะและจะออกไปจากที่นี่คุรพ่ออย่าโกรธเลยนะคะ”
หลินเยี่ยนจือพูดต่อหน้ากระดูกของพ่อกับแม่ แม่ของหญิงสาวจากไปตั้งแต่หญิงสาวยังเด็กทำให้เธอต้องอยู่กับพ่อชีวิตที่สุขสบายแต่ไม่เคยมีความสุข
“จางหย่งพี่คงไปเกิดใหม่แล้วสินะไม่รอกันเลย” เธอไม่เคยลืมเขาเพราะเขาอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดเวลา ชายหนุ่มเป็นเพื่อนคอยวิ่งเล่นกับเธอท่ตั้งแต่เด็กและเป็นลูกน้องของคุณพ่อหากเขาไม่จากไปคนที่ต้องแต่งงานด้วยก็คงจะเป็นเขา
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะฉันสบายดี ฮึก” หลินเยี่ยนจือพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้คนที่บอกว่าเข้มแข็งสุดท้ายก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดเฉินเหยียนเฟยเริ่มเข้ามาเล่นกับใจของเธอ
“ฉันจะเข้มแข็งเหมือนที่พี่บอก” ตอนเขาจากไปเธอได้ยินแต่คำว่าให้เธอเข้มแข็ง โลกช่างใจร้ายขนาดนี้แล้วเธอจะเข้มแข็งได้อย่างไร
“คุณผู้หญิงคะคุณชายมา” สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังกระซิบบอกเจ้านายของตัวเอง
หญิงสาวแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ตั้งแต่พ่อของเธอเสียเขาก็ไม่เคยมาหาท่านเลย ชายหนุ่มเปลี่ยนไปอาจจะแค่อยากแกล้งเธอเพื่อความสะใจ
“นึกว่าออกไปไหนที่แท้ก็มาหาคนรักเก่า”
เขาได้ทราบข่าวว่าหญิงมาหาพ่อและมาหาแฟนเก่าเขาจึงรีบตามมาเห็นน้ำตาแล้วอยากจะเดินไปแตะป้ายชื่อทิ้ง ตายไปแล้วยังจะมาทำให้เมียเขาเสียใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ผมก็มาไหว้พ่อตาผมไง”
คำตอบที่ออกมาจากปากของเฉินเหยียนเฟยทำให้ทุกคนที่ได้ยินไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินร้อยวันพันปีไม่เคยคิดที่จะมา ช่วงนี้ชายหนุ่มแทบไม่ทำงานทำการและคอยตามตอแยหลินเยี่ยนจือตลอดเวลา
“ฉันไหว้เสร็จแล้วจะกลับแล้ว”
“เดี๋ยวสิ กลับพร้อมกัน”
หลายเดือนผ่านไปหลินเยี่ยนจือตั้งครรภ์ครบแปดเดือนแล้วอีกไม่นานเธอจะได้เจอหน้าลูกน้อย ไม่รู้ว่าในท้องของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“อื้อออ”“ทำไมขี้อ้อนจังเลยคะ”“จะคลอดแล้วขอเข้าไปสะกิดลูกก่อนได้ไหม”สะกิดของเขาคงไม่ใช่การสะกิดธรรมดาเป็นแน่ ตั้งแต่เธอท้องมาเขาก็ขยันทำการบ้านเสียเหลือเกินวันไหนที่เขาว่าง จะเข้าไปทักทายลูกน้อยทุกครั้ง“คะ คุณอ่ะ”“รอบนี้จะทำเบาๆ นะครับ” แล้วเธอเคยปฏิเสธเขาได้ที่ไหนมีแต่ยอมทุกเขาทุกอย่างเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ห้ามเขาจึงไม่รอช้าหลังจากนี้คงไม่ได้ทำแบบนี้อีกนานหลายเดือน รอบหน้าจะเอาลูกหลายๆ คนเลยลูกน้องเต็มบ้านจะได้ช่วยกันเลี้ยง“ซี้ดดดด อ่าส์ นอนตะแคงนะ” เขาให้หญิงสาวนอนตะแคงข้างเพราะท้องโตมากแล้วต้องระวังให้มาก เขาจัดการสลัดเสื้อผ้าของตัวเองออกตามด้วยของหญิงสาว“เหยียนเฟยคะ อื้อ” หญิงสาวครางออกมาเมื่อชายหนุ่มก้มไปดูดเลียติ่งเสียวและใช้มือบดขยี้จนแดงเถือกลิ้นอุ่นๆ สัมผัสกับกลีบดอกไม้งาม “เจ็บให้บอกนะที่รัก อ่าส์”บทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ทำให้หลินเยี่ยนจือนอนหมดแรงอยู่บนเตียงช่วงนี้เขาพร่าๆ ลงมาเยอะเพราะเธอใกล้จะคลอดแล้ว2 สัปดาห์ต่อมาหลินเยี่ยนจือให้กำเนิ
“โอ๊ยยยย” “คุณเหยียนเฟยคุณตบหน้าตัวเองทำไมคะ” ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว และตอนนี้อีกไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมาหรือเปล่าหรือว่าผู้ชายคนนั้นกลับมา “ผมฟื้นแล้วจริงๆ” ค่อยโล่งอกไปหน่อยคิดว่าจะไม่กลับมาเสียแล้ว แต่ตอนนี้เขาเจ็บแผลเหมือนตอนนั้นแต่ความรู้สึกกลับแตกต่างกันออกไป “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” “ผมเจอกับเขา...” เขาที่ชายหนุ่มหมายถึงหลินเยี่ยนจือรู้ดีว่าหมายถึงใคร “เขาฝากมาบอกว่าขอโทษคุณสำหรับทุกอย่าง” เขาใจดีแล้วนะที่ยอมบอกหญิงสาว ทำเมียกูเจ็บยังจะมาฝากบอกอีกเขาไม่เตะหัวก็บุญแล้ว “เขาไปแล้วจริงๆ” หญิงสาวโล่งอกขึ้นมาต่อจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องเจอคนใจร้ายคนนั้นอีก ไม่อยากแม้แต่จะรู้จักแต่เรื่องเกิดขึ้นมาแล้วเธอได้แต่ปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป “ผมจะชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมด จะดูแลคุณกับลูกของเราเอง เจ้าตัวเล็กดื้อหรือเปล่า” เขาไม่อยากให้หลินเยี่ยนจือเศร้านานจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ไม่ดื้อเลยค่ะเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่ค่อยสบาย” หญิงสาวไม่เคยแพ้ท้องเลยสักครั้ง และลูกก็ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนจะรู้ว่าคนเป็นแม่ก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว “ผมหลับไปหลา
หลินเยี่ยนจือนั่งมองเฉินเหยนเฟยที่นอนหลับไม่ได้สติมาสามวันแล้ว สามวันที่แสนจะทรมานสำหรับหญิงสาวเธอต้องเข้มแข็งเพื่อลูกน้อยในท้อง“คุณผู้หญิงกลับไปพักก่อนเถอะครับ” เย่าหยางเห็นใจหญิงสาวไม่น้อย หากมัวแต่โศกเศร้าอาการน่าจะทรุดไปตามๆ กัน“ฉันยังอยากอยู่กับเขา”หากชายหนุ่มตื่นขึ้นมาจะได้เจอหน้าเธอเป็นคนแรก ขอร้องอย่าทิ้งเธอไปก็พอตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว“หากคุณชายตื่นผมจะรีบบอกคุณผู้หญิงคนแรกเลยครับ”หลินเยี่ยนจือจึงยอมและกลับมาพักผ่อนที่บ้านแต่ระหว่างที่กำลังจะก้าวเข้าบ้านกลับได้ยินเหมือนเสียงคนทะเลาะกันดังออกมาจากบ้านพักของเฉินลี่หยาง“ย่าเสียน! เธอมาทำอะไรที่นี่”“เยี่ยนจือช่วยฉันด้วย!” ย่าเสียนวิ่งเข้ามากอดเพื่อนสาวไว้เธออยากกลับไปอยู่บ้านแต่เขาก็ไม่ยอม ความเสียใจบวกกับความโกรธทำให้เธอขาดสติทำร้ายเขา“เกิดอะไรขึ้น!” หญิงสาวมองเจ้าของบ้านที่สภาพไม่ต่างจากคนที่เพิ่งไปกัดกับสุนัขมา หลินเยี่ยนจือมองทั้งสองคนสลับกันไปมาต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ฉันอยากกลับไปหาพี่ชายฉัน ฮึก”“คุณทำอะไรเพื่อนฉัน” หญิงสาวหันมาถามเฉินหลี่ยางเธออยากถามเขาแต่ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องของหลี่ย่าเสียนเสียก่อน“ผมเปล่านะ
หลินเยี่ยนจือถูกพาตัวออกมาจากบ้านพัก หญิงสาวมองไปรอบๆ เห็นคนของซ่งห้าวอี้กำลังลำเลียงอาวุธขึ้นเรือ ดวงตาสบประสานกันกับหลี่ซืออี้ เวลานี้เธอมองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดีอีกต่อไปไม่ได้ “พามันขึ้นเรือไปด้วย” “ถ้าเราถึงจุดหมายปลายแล้วจะทำยังไงครับ” “ยิงมันทิ้งหรือไม่ก็ยกให้พวกบ้ากาม” ซ่งห้าวอี้มองหลินเยี่ยนจือด้วยแววตาที่สมน้ำหน้า “ไปกันเถอะ” “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” หญิงสาวขยับตัวหนีเพื่อไม่ให้หลี่ซืออี้เข้ามาจับตัว เธอแค่ขอให้เขามาช่วยเธอไว้ได้ทัน “คุณพ่อช่วยลูกด้วยนะคะ” “เจ้านายครับ! รถเที่ยวสุดท้ายถูกตำรวจจับไว้ได้ครับ” เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้หญิงสาวพยายามที่จะฟัง ลูกน้องของซ่งห้าวอี้มารายงานว่ารถบรรทุกเที่ยวสุดท้ายถูกจับได้แล้ว “ไหนมึงบอกว่าตำรวจไม่เคยตรวจจุดนี้วะ” ซ่งห้าวอี้อารมณ์เสียขึ้นมา เพราะมูลค่าความเสียหายนั้นมากพอสมควร “ตำรวจตั้งด่านเต็มเมืองไปหมดเลยครับ เราต้องรีบแล้วไม่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมงตำรวจแห่กันมาแน่” “รีบขนขึ้นเรือ!” เขาจะต้องไม่ถูกจับเวลาไม่ถึงสิบนาทีตำรวจหลายสิบนายบุกเข้ามา พร้อมกับคนที่เขาอยากจะเจอหน
เยี่ยนจือค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบากเหตุการณ์ต่างๆ หลั่งไหลเข้ามา หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นนั่งมือยังคงถูกมัดอยู่ที่หัวเตียง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แอด หญิงสาวหันไปที่ประตูที่เปิดออกตามมาด้วยคนตัวสูงที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว หลินเยี่ยนจือจำเขาได้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลี่ซืออี้ ตอนนี้เธอกำลังสับสนว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร “หลี่ซืออี้เกิดอะไรขึ้น” “พี่ขอโทษเยี่ยนจือพี่จำเป็นต้องทำ” หากเขาไม่ทำตัวเขาและน้องสาวก็จะตกอยู่ในอันตรายเขาเชื่อว่ายังไงเฉินเหยียนเฟยจะต้องมาตามหาหญิงสาว พรุ่งนี้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี “คุณทำงานให้ใครหรือ?” เขาไม่น่าจะใช่คนแบบนั้นแต่คนเราก็ไม่สามารถหยั่งรู้ภายในจิตใจมนุษย์ได้ “เอาไว้เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง ต่อจากนี้ทำตามที่พี่บอกก็พอเธอจะได้ไม่ลำบาก” “ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำแบบนี้” “พี่ทำเพื่อครอบครัว” หลี่ซืออี้เห็นสายตาที่ผิดหวังของหลินเยี่ยนจือก็รู้สึกเจ็บแต่พยายามที่จะเก็บอาการไว้ ยังไงเขาก็ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว “กินข้าวเถอะพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทาง” “เดินทาง? เราจะไปไหน”
“คุณจะไปไหนเหรอ” เฉินเหยียนเฟยเห็นหญิงสาวกำลังเตรียมของเหมือนจะออกไปข้างนอก แต่วันนี้เขามีประชุมงานจึงไม่สามารถออกไปได้ “ฉันจะไปหาคุณพ่อค่ะ” “แน่ใจว่าไปแค่นั้น” ไม่ใช่ว่าไปยืนอาลัยให้คนรักเก่าหรอกนะ เขาไม่ยอมเด็ดขาด อยู่กับเขาก็ต้องลืมคนรักเก่า “ค่ะ คุณจะให้ฉันไปไหนได้” “ระวังตัวด้วยนะผมเป็นห่วงคุณกับลูก” “คุณดูแลตัวเองดีๆ นะคะเดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา” หญิงสาวแก้มเขาและส่งเขาขึ้นรถ ส่วนเธอเตรียมตัวออกไปที่หลุมฝั่งร่างของบิดา วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันและลมแรงทำให้หลินเยี่ยนจือต้องกระชับผ้าคลุมไว้แน่น เธอเดินถือดอกไม้มาวางไว้ที่หน้าชื่อของบิดา “คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะตอนนี้หนูสบายดีค่ะและกำลังจะมีหลานให้คุณพ่อด้วย” หญิงสาวนั่งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาสักพักเมื่อได้สติจึงจะกลับไปรอเฉินเหยียนเฟยที่บ้าน แต่ไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนมีชายฉกรรค์เดินมาขวางทางเธอไว้ “พวกคุณเป็นใคร!” หญิงสาวมองไปที่ลูกน้องของเฉินเหยียนเฟยที่สลบอยู่ที่พื้นหญ้าไม่ไกลจากรถที่จอดรอรับเธอ หลินเยี่ยนจือรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย “ไปกับพวกผมดีๆ จะได้