หน้าหลัก / วาย / ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน / ตอนที่ 12 ข้อเสียของคนขี้ใจอ่อนคือโกรธใครได้ไม่นาน

แชร์

ตอนที่ 12 ข้อเสียของคนขี้ใจอ่อนคือโกรธใครได้ไม่นาน

ผู้เขียน: Ferylin79
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-27 16:13:51

อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงป้ายรถประจำทางแล้ว ทว่าข้อมือข้างหนึ่งกลับถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน ผมหันไปมอง ก่อนจะเบนสายตาหลบไปด้านข้าง “มีอะไรหรือเปล่า”

“โกรธเหรอ”

ไต้ฝุ่นถามออกมา แม้น้ำเสียงจะดูเรียบเฉย ทว่าผมกลับรู้สึกว่ามันแปลกกว่าปกติเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจสักหน่อย ท่าทางของผมตอนนี้คงมีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ดูไม่ออก

เขาคงเห็นว่าผมเงียบไป ไม่มีทีท่าว่าจะคุยด้วย ไต้ฝุ่นจึงพูดออกมาอีกประโยค “ขอโทษนะ ฉันแค่กลัวว่าถ้าบอกว่าจำได้ไปแล้วนายจะโกรธ”

“ก็โกรธนั่นแหละ” น้ำเสียงของผมเรียบมาก แม้จะสงสารท่าทางหมาหงอยที่มองแทบไม่ออกของอีกฝ่าย แต่ผมก็ยังมีคำถาม “นายตั้งใจหรือเปล่า ตอบความจริง”

ด้วยกลัวว่าเขาจะโกหกกันอีก และหากครั้งนี้เขายังยืนยันแบบเดิม ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

ผมอุตส่าห์เห็นแก่หน้าเขา ยอมตามใจเขาเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องแค่นี้ไต้ฝุ่นยังไม่กล้าบอกความจริง ผมก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเช่นกัน ต่อให้ต้องโดนประจานหรือโดนรุมด่าก็ช่างแม่งแล้ว

“อืม ตั้งใจ”

“เพราะอะไร นายเกลียดฉันเหรอ หรือเกลียดเซฟ”

ผมถามพลางมองใบหน้าอีกฝ่ายเต็มตา แววตามีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด แม้ว่าผมกับไต้ฝุ่นจะเรียนคณะเดียวกัน แต่พวกเราก็ไม่เคยคุยกันเลย ไม่น่ามีอะไรให้เขาไม่ชอบใจนี่นา

หากเป็นเซฟ สองคนนี้รู้จักกันตอนประกวดเดือนก็จริง แต่พวกเขาไม่ได้อยู่คณะเดียวกันนะ แล้วก่อนหน้านี้เซฟก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเกลียดหรือทะเลาะอะไรกับไต้ฝุ่นด้วย เพราะหากมีเรื่องกันจริง ๆ ตอนที่เล่นเกมลงโทษ คนแรกที่จะค้านไม่ให้ผมบอกชอบไต้ฝุ่น ต้องเป็นเซฟแน่นอน

“ฉันไม่ได้เกลียดพวกนาย” ไต้ฝุ่นกำข้อมือของผมแน่นกว่าเดิม ท่าทางอึดอัดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“แล้วทำแบบนั้นทำไม” ผมถามเสียงเรียบ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ไต้ฝุ่นทำสักนิด ถ้ามองจากมุมคนนอก นี่มันเป็นการกระทำที่โคตรแย่เลยนะ

“แค่หมั่นไส้” ไต้ฝุ่นตอบเสียงเบา ดวงตาเบนออกไปทางอื่น ก่อนหันกลับมามองผมอีกครั้ง “ที่พวกนายสนิทกัน”

“หืม” ยิ่งฟังก็ยิ่งงง ผมสนิทกับเพื่อนแล้วเขาหมั่นไส้ทำไม เขาก็มีเพื่อนสนิทนี่

ไต้ฝุ่นเงียบไป ดูก็รู้ว่าง้างออกมามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ผมไม่ใช่พวกเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วยสิ ที่จริงก็แอบใจอ่อนนิด ๆ ตั้งแต่เขาขอโทษแล้วนั่นแหละ

“ช่างเถอะ” ผมถอนหายใจออกมา คนเรามันก็ต้องมีอารมณ์ที่แอบหมั่นไส้คนอื่นบ้างแหละ เพราะหากไต้ฝุ่นเกลียดพวกผม เขาก็ไม่จำเป็นต้องตามมาแก้ตัวแบบนี้ด้วยซ้ำ

เห็นว่าผมคลายอาการมึนตึงแล้ว ไต้ฝุ่นจึงยิ้มบางออกมา “งั้นไปหาข้าวกินกัน เดี๋ยววันนี้เลี้ยงข้าวไถ่โทษนะ”

“ถ้าจะไถ่โทษก็ต้องมีเซฟด้วยสิ”

ผมแกล้งพูดไม่ได้จริงจังอะไรนัก ตอนนี้เซฟเหมือนไฟ ส่วนไต้ฝุ่นเป็นน้ำมัน หากให้มาเจอกันตอนนี้ผมก็กลัวว่าความบาดหมางจะลุกลามมากกว่าเดิม ทว่าไต้ฝุ่นกลับทำท่าทางคิดจริงจัง สักพักก็พยักหน้าออกมา

“ได้”

“...?”

และแล้วพวกเราห้าคนก็ยกทัพกันไปที่ห้างใกล้มหาวิทยาลัย โดยที่ผมนั่งรถไปกับไต้ฝุ่น ส่วนเพื่อนอีกสามคนก็นั่งรถของเปาตามมา

ใช่แล้ว มากันหมดนั่นแหละ

ถ้าจะเลี้ยงข้าวแค่ผมกับเซฟ แล้วไล่เปากับโอบกลับไปก็คงดูไม่ค่อยดีนัก ไต้ฝุ่นเลยเสนอว่าจะเลี้ยงเองทั้งกลุ่มนี่แหละ

“อยากกินอะไร” ไต้ฝุ่นหันมาถามผม

ผมยังไม่ทันได้ตอบ เซฟก็แทรกขึ้นมาอย่างหาเรื่อง “ถามกูด้วยดิ มึงจะเลี้ยงข้าวไถ่โทษไม่ใช่เหรอ ทำไมถามแต่คิริน”

“งั้นมึงเลือก” ไต้ฝุ่นถอนหายใจ ยกมือขึ้นถอดแว่นกันแดด ก่อนจะเหลือบไปมองหน้าเซฟ

“มึงเลือก” เซฟหันมาหาผม

“เอ้า”

ผมยืนอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทของคนทั้งคู่อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี แม้ว่าจะมีการขอโทษกันไปแล้ว และเซฟก็ไม่ได้มีท่าทางว่าอยากจะไปแจกกำปั้นให้ไต้ฝุ่นเหมือนก่อนหน้า แต่พวกเขากลับมึนตึงใส่กันไม่เลิก

วันนี้พวกเราทุกคนไม่มีคลาสเรียนต่อแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร สุดท้ายผมก็เลยเลือกบุฟเฟต์เกาหลีมาร้านหนึ่ง โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดา คนก็เลยไม่เยอะมากนัก รอประมาณสิบนาทีก็ได้คิวพอดี

“อ้าว ไอ้ฝุ่น”

ทั้งหกคนหันไปมองตามเสียงเรียก ผู้ที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนสนิทของคนหล่อข้างผมนี่เอง

“ทัพ เมษา”

“มากินข้าวกันเหรอ แล้วนี่ทำไมคนเยอะจัง” ทัพถามขึ้น พลางไล่สายตามองเพื่อนสามคนของผม

“นี่เพื่อนคิริน” ไต้ฝุ่นตอบสั้น ๆ ไม่ได้คิดจะแนะนำอะไรไปมากกว่านี้ ดูก็รู้ว่าขี้เกียจวุ่นวาย

“ถึงว่า กูโทรไปก็ไม่รับ มากินข้าวกันไม่คิดจะชวนพวกเราเลยนะ” เมษาพูดด้วยรอยยิ้มบาง แม้ปากจะยิ้ม ทว่าแววตาดูมีความหงุดหงิดนิดหน่อย

ผมมองซ้ายทีขวาที ปิดปากเงียบอย่างทำตัวไม่ถูกเท่าไร อย่างว่าแหละ ถ้าเปลี่ยนเป็นผมเห็นเพื่อนสนิทไปเที่ยวกับเพื่อนคนอื่นแล้วไม่ชวน เป็นผมก็คงจะหงุดหงิดเหมือนกันนั่นแหละ

ผมยกมือขึ้นดึงแขนเสื้อไต้ฝุ่น อีกฝ่ายหันมามอง “ชวนเพื่อนนายมากินด้วยกันก็ได้นะ คนเยอะ ๆ ก็น่าสนุกดี”

“อืม ถ้าคิรินโอเคก็ตามนั้น” ไต้ฝุ่นพยักหน้า

“โอเคสิ ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น” ผมพูดยิ้ม ๆ ส่วนเพื่อนสามหน่อของผมไม่ใช่คนเรื่องเยอะอะไรอยู่แล้ว เห็นได้จากการที่พวกมันไม่ได้รู้จักกับไต้ฝุ่นเป็นการส่วนตัว แต่ก็ยังมากินข้าวกับเขาได้หน้าตาเฉย

พวกเราจบลงที่มีคนเพิ่มเข้ามาอีกสองที่ เลยต้องเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ใหญ่กว่าเดิม โชคดีที่โต๊ะใหญ่มีคนออกพอดี ก็เลยไม่ต้องรอนานไปมากกว่านี้

“คิริน มึงไม่ต้องสั่ง” เซฟพูด พลางแย่งเมนูอาหารที่ผมกำลังกางดูออกไปจากมือ

“ไม่เอา” ผมมองหน้าเพื่อนที่นั่งตรงข้ามด้วยสายตาขอความเห็นใจ ทั้งยังเบนสายตาไปที่โอบกับเปา ทว่าได้รับสายตาเย็นชาเหมือนกันเปี๊ยบกลับมา

“ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลย” เปาพูด พลางก้มหน้าสั่งอาหารต่อไป ไม่สนใจผมอีกแล้ว “ให้มึงสั่งอาหารทีไร พวกกูต้องมาตามแดกให้ทุกที สั่งอย่างกับจะเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน”

“มึงก็เวอร์” ผมพึมพำเสียงเบา เห็นเพื่อนสนิทไม่สนใจตัวเองแล้ว ผมเลยเหล่มองไปยังคนด้านข้างแทน ไม่คิดว่าไต้ฝุ่นก็กำลังมองมาทางนี้อยู่เหมือนกัน

“อยากสั่ง?” ไต้ฝุ่นถาม

“อืม” ผมพยักหน้างึกงัก

ไต้ฝุ่นยื่นเมนูมาให้ “งั้นก็สั่ง เดี๋ยวฉันกินกับนาย”

“แล้วมึงจะรู้” เปาพูดลอย ๆ ไม่ได้เจาะจงไปที่ใคร แต่ทำไมผมจะไม่รู้ว่าล่ะว่ามันหมายถึงใคร

“กูไม่ง้อมึงหรอก” ผมเชิดหน้าใส่เพื่อน จนโดนใครสักคนเตะเข้าให้เต็มแข้ง “โอ๊ย! ไอ้เวร”

ผมด่าออกไป ไม่ได้ติดใจอะไรกับการลอบทำร้ายครั้งนี้ จิตใจจดจ่ออยู่กับเมนูตรงหน้า

ขณะสั่งผมก็หันไปถามไต้ฝุ่นด้วยว่า เขาจะกินอะไรหรือไม่กินอะไร คำตอบที่ได้ก็คือสั่งมาเลย เขากินได้หมด ผมก็ไม่เกรงใจ สั่งกระจุยกระจายทันที

แหม อุตส่าห์มาร้านบุฟเฟต์ทั้งที มันก็ต้องสั่งมาลองให้ครบทุกเมนูไม่ใช่หรือไง

รอไม่นานอาหารมากมายก็กองเต็มโต๊ะ พวกเรากินกันอย่างกับแร้งลง ส่วนไต้ฝุ่นก็เอาแต่ย่างแล้วตักใส่ถ้วยผมไม่หยุด

ไหนเขาบอกจะช่วยกินไงวะ

“ไหนว่าจะช่วยกินอะ อย่าเอาแต่ตักมาใส่ถ้วยฉันสิ” ผมคีบกลับไปคืนเขา ซึ่งไต้ฝุ่นก็กินอย่างว่าง่ายไม่ได้อิดออดอะไร

“แหม นี่ถ้ากูไม่รู้ว่า— โอ๊ย!”

ผมรู้ว่าเปามันน่าจะต้องพูดอะไรสักอย่างที่ไม่ควรพูดออกมาแน่ ก็เลยจัดการกระทืบเท้ามันทันที ผมส่งสายตามองเพื่อนอีกสองคน เป็นอันรู้กันว่าเรื่องที่ผมเพิ่งเล่าไป ห้ามพวกมันพูดออกมาเด็ดขาด

“อะ เอ้อ อิจฉาคนมีความรักโว้ย”

เปาเปลี่ยนคำพูดกะทันหัน แต่ทำไมมึงต้องแซวเรื่องนี้ด้วยเนี่ย! ผมมองหน้าเพื่อนจนตาแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว

“อืม กูก็หมั่นไส้มันเหมือนกัน พอมีแฟนแล้วแม่งลืมเพื่อนไปเลย วันนี้ไม่มีเรียน กูกะว่าจะชวนมันไปเที่ยวสักหน่อย”

ทัพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก ทว่าคนที่มีท่าทางจริงจังกลับเป็นเพื่อนร่างเล็กอีกคนแทน

“นั่นสิ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยตอบแชต โทรไปก็ไม่รับ” เมษายิ้มบาง ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันไม่ปกติสักเท่าไร

“มึงก็เบา ๆ ลงบ้างเหอะ ไอ้ฝุ่นมีแฟนแล้ว ก็เลิกไปกวนมันได้ละ” ทัพตักเนื้อย่างให้เมษา ก่อนจะหันมาพูดกับผม “โทษทีนะ เมษามันค่อนข้างติดเพื่อนน่ะ”

“ไม่หรอก” ผมตอบกลับ

พอมานึกย้อนดู หลายวันมานี้ที่อยู่กับไต้ฝุ่น ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะรับสายเพื่อน หรือมีสายเรียกเข้าจากใครเลยสักครั้งจริง ๆ นั่นแหละ

คงไม่ใช่ปิดเสียงเรียกเข้าหรอกนะ แล้วเขาจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 38 มีแฟนทั้งทีไม่อ้อนสักหน่อยก็โคตรเสียชาติเกิด

    ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน แต่ผมกับไต้ฝุ่นกลับถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงเรียกเข้าที่ดังไม่หยุดในช่วงเช้ามืด ริงโทนนี้ไม่ใช่โทรศัพท์ผมแน่นอน“รับโทรศัพท์สิ!” ผมฟาดเข้าที่อกไต้ฝุ่นอย่างไม่เบาแรงด้วยเหตุการณ์เมื่อคืนที่อารมณ์ค้างคา ทั้งยังนอนไม่ค่อยหลับ เพิ่งหลับได้ไม่นานก็ยังโดนปลุกแต่เช้าอีก รวม ๆ แล้วเลยทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกผมพลิกตัวหนีไปอีกทาง ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ซุกหน้าลงกับหมอน ต้องการตัดขาดจากสิ่งรบกวนทั้งหมด“พี่ฝน อือ ทำไมเช้าจัง ผมไม่อยากปลุกคิริน เฮ้อ ก็ได้”แม้จะมุดเข้าผ้าห่ม แต่ก็ยังได้ยินเสียงพูดคุยของไต้ฝุ่นอยู่ดี ถึงจะจับใจความไม่ได้จนเหมือนเสียงหึ่ง ๆ ของแมลง อีกทั้งมือหนายังลูบศีรษะผมไปมา นั่นยิ่งทำให้ผมหลับไม่ลงเท่าไร“คิริน ตื่นเร็ว” ไต้ฝุ่นกระซิบข้างหัว แขนหนายื่นมาดึงผมเข้าไปกอดทั้งตัว“ไม่” ผมตอบสั้น ๆ ในใจหงุดหงิดสุดขีดที่ถูกรบกวนการนอนเมื่อกี้ตอนสายเรียกเข้าดัง ผมลืมตามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นว่าท้องฟ้ายังสลัวอยู่เลย มันน่าจะยังไม่ห

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 37 ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ตลอดชีวิต

    แฟนเก่าเมษาผมกับเดอะแก๊งทำหน้าทึ่ง รู้สึกว้าวมากที่เมษามีแฟนเก่าหล่อขนาดนี้ พึงรู้ไว้ว่าชายรักชายไม่ได้มีกันอยู่เกลื่อนสังคมขนาดนั้น การที่จะหาคนไทป์เดียวกันทั้งยังหน้าตาดีนี่มันยากพอกับการงมเข็มในมหาสมุทรเลยนะ“สเปกเพื่อนมึงนี่สูงใช้ได้” เซฟพูดออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจ“มึงอย่ามองแต่หน้าตา ไอ้ห่านั่นแม่งชอบทำร้ายร่างกาย” ทัพขมวดคิ้วแน่น ทำท่าจะลุกออกไปทว่ากลับโดนไต้ฝุ่นกดบ่าเอาไว้“ตอนนั้นเราช่วยให้เมษามันหลุดออกมาจากไอ้เวรนั่นได้แล้ว มันก็สัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเมษาอีก การที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบนี้ อาจเป็นไปได้ที่เพื่อนมึงกลับไปหามันเอง เพราะงั้นครั้งนี้ให้มันเรียนรู้ด้วยตัวเองซะ หรือมึงจะตามไปช่วยตลอดชีวิตกัน” ประโยคยาวเหยียดถูกกล่าวออกมาสิ่งที่ไต้ฝุ่นพูดออกมาค่อนข้างมีเหตุผลมากเลยทีเดียว“แต่ว่า...” ทัพมีท่าทางลังเลอย่างเห็นได้ชัดผมที่มองอยู่นานก็รู้สึกจนใจแทนเขาเหมือนกัน จากที่ดู ทัพเป็นคนรักเพื่อนมากจริง ๆ ขนาดวันที่เมษาโดนไต้ฝุ่นเปิดโปง หรือแม้แ

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 36 โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ แต่ก็ยังมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้เสมอ

    “ไปกัน”ไต้ฝุ่นมองหน้าผม มือหนาแบออกมาด้านหน้า ไม่ต้องให้พูดซ้ำสองก็รู้ว่าต้องทำอะไร ผมวางมือลงบนฝ่ามืออีกฝ่าย จากนั้นก็ถูกเขาจูงเดินออกไปทางหน้าโรงแรมที่เพื่อน ๆ รออยู่แม้จะมีสายตามากมายทั้งจากพนักงานหรือจากแขกคนอื่นที่มองมา กลับไม่ได้ทำให้ผมกับเขาปล่อยมือออกจากกันแต่อย่างใด ไม่สิ ต้องบอกว่าไต้ฝุ่นไม่ยอมปล่อยต่างหากไอ้ตัวผมมันก็หน้าบางราวกับกระดาษ ส่วนคุณชายด้านข้างนี่ยิ่งกว่าอิฐโบกด้วยปูนเสียอีก นอกจากไม่อายที่มีคนมองแล้ว กลับยังเชิดคอขึ้นท่าทางมั่นใจสุดขีดนี่คือพลังของคนหล่อและรวยสินะ ที่เขาว่ามีตังค์จะทำอะไรก็ไม่ผิดนี่โคตรจริงถึงผมจะสตรีมให้แฟนคลับดูบ่อย ๆ ทว่าตอนนั้นผมไม่ได้เห็นสายตาของพวกเขาเสียหน่อย กระทั่งมาอยู่กับไต้ฝุ่นก็ถูกคนที่มหาวิทยาลัยจ้องตลอด แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชินอยู่ดีคิดอะไรเพลิน ๆ ผมที่เดินหาเศษเหรียญตามพื้นก็ชนเข้ากลางหลังของไต้ฝุ่นเมื่ออีกฝ่ายหยุดกะทันหัน“หยุดทำไม” ผมชะโงกหัวออกไปมอง เห็นเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ถึงผมจะไม่ค่อยตามแฟชั่น แต่ก็มองออกว่าท

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 35 จะไปเที่ยวก็ไม่วายงานเข้าทุกที

    หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลายผ่านพ้นไป ในที่สุดก็มาถึงวันสุดท้ายของการสอบปลายภาคสักที!ชีวิตของผมที่เคยราบเรียบมาตลอด กระทั่งมาเจอเข้ากับไต้ฝุ่นกราฟชีวิตก็กลายเป็นขึ้นลงอย่างกับคลื่นสัญญาณชีพ ทำเอาเหนื่อยสุด ๆ และเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดเทอมวันนี้พวกเราเลยกะว่าจะไปทะเลกัน!ไปมันหลังสอบเสร็จนี่แหละ ขอแค่หลังจากนี้อย่ามีอะไรมาขัดอีกก็พอ ไม่งั้นผมจะลงไปนอนดิ้นกับพื้นแน่นอนตอนนี้ผมกำลังยืนรอแฟนคนนั้นที่ทั้งหล่อและฉลาดทำข้อสอบวิชาสุดท้ายอยู่หน้าห้องจนขาแข็งไปหมด ให้ตายเหอะ เพื่อนเขาออกมากันจนจะหมดแล้ว เมื่อไรเขาจะเสร็จเนี่ย!เมื่อก่อนไต้ฝุ่นมักไปไหนมาไหนกับเพื่อนสนิทเท่านั้น แม้แต่วิชาเรียนก็ลงคล้ายกันหมด แน่นอนว่าในห้องสอบย่อมต้องมีเพื่อนของเขา ทว่าตอนนี้กลับเหลือแค่ทัพคนเดียวเท่านั้น ส่วนเมษาก็หายหน้าไปเลยตั้งแต่วันที่เขามาโวยวายในโรงอาหารวันนั้นจากการเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามอาจารย์ ก็ได้ความว่าเขาดร็อปเรียนไปและก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหนผมพอเข้าใจเขานะ เพราะถ้าลองเปลี่ยนมาเป็นตัวเองก็คงไม่กล้ามาเรีย

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 34 เหนือแฟนยังมีแม่แฟน

    ข้อความพวกนี้เพิ่งถูกโพสต์ได้ไม่นาน ในเมื่อพวกเราเห็นแล้ว คนอื่นย่อมต้องเห็นเช่นกัน โดยเฉพาะคนต้นเรื่องที่กำลังเดินดุ่มเข้ามาในโรงอาหารด้วยใบหน้าโกรธจัด“ไต้ฝุ่น ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย” มาถึงเมษาก็ตรงเข้าหาไต้ฝุ่นทันที ทั้งดวงตาและใบหน้าแดงก่ำ หยาดน้ำตาเอ่อคลอ “มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอ”ไต้ฝุ่นมองหน้าเพื่อนตัวเล็กแล้วพูดเสียงเรียบ “กูไม่เคยเกลียดมึง แต่เป็นมึงที่ทำตัวเองนะ”“กูทำตัวเองยังไง ทั้งหมดมันก็เพราะกูชอบมึงนะไต้ฝุ่น!” ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง นักศึกษาของทั้งคณะแทบจะมากองอยู่ที่นี่กันหมด เพราะงั้นคนที่เห็นเหตุการณ์นี้เรียกได้ว่าไม่น้อยเลย“กูควรดีใจงั้นสิ?” ไต้ฝุ่นประชด “มึงคิดว่าที่ตัวเองทำมันถูกต้องงั้นเหรอ”เมื่อโดนความกดดันจากไต้ฝุ่น เมษาสะอึกก่อนจะเถียงเสียงแข็ง “ถึงมันจะผิด แต่มึงต้องทำขนาดนั้นเลยหรือไง ให้พวกมันออกมาโพสต์ประจาน นี่กะจะไม่ให้กูมีที่ยืนแล้วใช่ไหม!”“แล้

  • ผมเล่นเกมจนได้หนุ่มหล่อเป็นแฟน   ตอนที่ 33  จัดการเรื่องราวฉบับคนมีเงิน

    กลางดึกไต้ฝุ่นก็ถูกพี่สาวบังเกิดเกล้าปล่อยตัวกลับมาในสภาพเดียวกับทหารผ่านศึก พอเห็นว่าผมยังคงเล่นโทรศัพท์อยู่เขาก็รีบพุ่งตัวมานอนทับ พลางถูหน้าไปมากับอกผมอย่างออดอ้อน“เหนื่อย”ถึงจะแอบหนักกับขนาดตัวของเขาที่ใหญ่กว่า แต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรออกไป ผมโอบแขนไปที่หลังเขา มือก็ลูบปลอบไปมาพลางชวนคุยไปด้วย “จะว่าไปแล้ว olive_2 ที่ใช้ตั้งชื่อแชตนี่ชื่อแมวเหรอ ทำไมวันนี้ไม่เห็นเลยละ”นี่เป็นเรื่องที่ผมสงสัยมานานแล้ว ทั้งรูปโพรไฟล์ก็ยังเป็นแมวดำอีกด้วย คนแบบไต้ฝุ่นถ้าไม่ใช่สิ่งที่ชอบจริง ๆ เขาไม่น่าเอามาตั้งแบบนี้แน่นอน“อืม มันชื่อโอลีฟ เป็นแมวตัวแรกแล้วก็ตายไปตอนอายุได้สองขวบ” ไต้ฝุ่นซุกหน้าพูดกับอกผมด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เลยเดาไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไงตอนพูดออกมา“โทษที” ผมกระซิบ เลื่อนมือขึ้นมาลูบศีรษะเขาเบา ๆ“ปลอบหน่อย” จู่ ๆ ไต้ฝุ่นก็เงยหน้าพรวดพลางยื่นหน้ามาหอมแก้มผมเสียเต็มปอด ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ไม่มีเค้าของความเสียใจจนต้องปลอบเลยสักนิด“เอาความเห็นใจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status