ตอนที่ 11 เดทแรก
"อิ่มหรือยัง" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าก๋วยเตี๋ยวในชามของเด็กสาวนั้นหมดเกลี้ยงหลังจากที่เขานั่งเฝ้าอยู่นาน
"อิ่มแล้วค่ะ ร้านนี้อร่อยมากเลยหนูไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวร้านไหนที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก คงจะอร่อยเหมือนที่เธอพูดจริง ๆ นั่นแหละเพราะดูจากจำนวนคนที่นั่งเต็มร้านและปริมาณการกินของอิงดาววันนี้เป็นเครื่องยืนยันเรื่องฝีมือและรสชาติได้เป็นอย่างดี
"ไม่อร่อยสิแปลก เธอทานไปสองชามยัยเด็กอ้วน" ลีออนจูงมือเด็กสาวออกจากร้านเดินตรงไปขึ้นรถทันที ระหว่างนั้นเสียงสนทนาของชายหนุ่มกับเด็กสาวเรียกรอยยิ้มจากเหล่าบรรดาลูกน้องที่คอยดูแลความปลอดภัยแทบทุกคน เพราะปกติคนเป็นนายจะนิ่งเงียบราวหุ่นยนต์วันนี้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเจ้านายเขาพูดเยอะกว่าแต่ก่อน 3 วันรวมกันด้วยซ้ำ
"พี่พายัพ ดูเหมือนวันนี้นายจะพูดเยอะนะ" หนึ่งในลูกน้องของลีออนพูดขึ้นเมื่อหัวหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างพายัพขึ้นนั่งประจำตำแหน่งข้างคนขับบนรถอีกคันเมื่อส่งเจ้านายขึ้นรถเสร็จ
"เจอเด็กช่างพูด นิ่งยังไงไหว" พายัพคนที่อ่านใจเจ้านายออกย่อมรู้ว่าตอนนี้เจ้านายรู้สึกยังไงกับเด็กสาวคนนี้
"เด็กคนนี้เป็นใครพี่ ดูเจ้านายจะตามใจเธอมากทีเดียว" ความอยากรู้อยากเห็นจึงสั่งการให้ถามออกไป โดยไม่รู้เลยว่าลูกพี่อย่างพายัพนั้นกำลังกดเปิดไมค์สื่อสารและลีออนที่กำลังขับรถอยู่อีกคันได้ยินชัดเจนทุกคำ
"กูจ้างมึงมาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของกูหรือไง" เสียงดังก้องจากลำโพงภายในรถทำให้เหล่าลูกน้องที่นั่งมาในรถคันเดียวกันกับพายัพถึงกับขนลุก ไม่คาดคิดว่าลูกพี่อย่างพายัพจะเล่นงานแบบนี้
"ขอโทษครับนาย" มือหนาที่กำลังกำพวงมาลัยแน่นบัดนี้สั่นเทาอย่างหวาดกลัวเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าลีออนไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว ให้ทำราวกับว่าหูหนวกตาบอดเลยยิ่งดี
"ทีหลังอย่าเสือกเรื่องของเจ้านาย เป็นลูกน้องไม่ควรยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ถ้าเกิดว่ามีครั้งหน้าอีกกูจะส่งมึงกลับไปฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น" คำขู่ของพายัพย่อมได้ผลเสมอเพราะไม่มีใครอยากกลับไปฝึกแบบนั้นอีกเพราะกว่าทุกคนจะได้มาทำหน้าที่บอดี้การ์ดอยู่ตรงนี้ต้องผ่านการฝึกหลักไม่ต่างจากหน่วยรบพิเศษมาทุกคน
ระหว่างทางนั่งรถกลับบ้าน
ภายในรถเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์เป็นบางครั้งที่ชายหนุ่มเร่งเครื่องทำความเร็ว สายตาของอิงดาวแอบชำเลืองมองชายหนุ่มเป็นระยะ ใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันคิ้วเข้มดกดำบวกกับริมฝีปากหยักได้รูปช่างเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เด็กสาวเหมือนต้องมนต์สะกดจึงเผลอจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างหลงใหลอยู่นานอย่างลืมตัว
"คืนนี้ฉันต้องเดินทางไปอังกฤษ..น่าจะไปหลายวัน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบปลุกให้เด็กสาวตื่นจะภวังค์
"คะ? คุณบอกหนูทำไม" อิงดาวถามกลับอย่างไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะบอกเธอทำไมเพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด
"พรุ่งนี้ไปมหาลัยยังไง" ไร้ซึ่งคำตอบจากลีออนเพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมที่ต้องบอกให้เด็กสาวรับรู้ แต่สมองสั่งการให้พูดออกไป จำต้องทำราวกับว่าประโยคคำถามของอิงดาวเป็นเพียงประโยคบอกเล่าที่ไม่ต้องการคำตอบ หรือชายหนุ่มจะไม่เข้าใจภาษาไทยแต่ก็คงไม่เพราะลีออนพูดภาษาไทยค่อนข้างชัดและที่สำคัญชายหนุ่มมีแม่เป็นคนไทย
"ถึงบ้านแล้วปลุกหนูด้วยนะคะ..คุณคงจำทางไปบ้านหนูได้" ไร้ซึ่งคำตอบจากเด็กสาว อิงดาวไม่เพียงเงียบและไม่สนใจสิ่งที่ลีออนเอ่ยถามออกมาเมื่อสักครู่ ทั้งยังตั้งท่าจะหลับโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าลีออนจะรู้สึกอย่างไรจะโกรธเธอหรือเปล่า
"ฉันถามไม่ได้ยินเหรออิงดาว ทำไมไม่ตอบ" เสียงทุ้มกดต่ำบ่งบอกว่าเขาเริ่มจะโมโห
"หนูจะนอนอย่ากวน" มือเล็กเลื่อนไปปรับเบาะให้เอนลงเพื่อจะได้นอนสบายขึ้นโดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มข้างๆ กำลังหงุดหงิดและโมโหขนาดไหน จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมภายในรถอีกครั้งมีเพียงเสียงลมหายใจเข้า-ออกสม่ำเสมอของเด็กสาว ที่บัดนี้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้วราวกับเด็กที่กินอิ่มแล้วก็นอน นี่สินะที่เขาชอบพูดกันหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนลีออนได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความขี้เซาของเด็กสาว
"หึ กินแล้วก็นอนยัยเด็กอ้วน" มาเฟียหนุ่มชำเลืองมองดูเด็กสาวที่หลับคอพับอยู่ข้าง ๆ เป็นระยะจนเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ความเร็วรถถูกลดระดับลงอย่างต่อเนื่องจนลูกน้องที่ขับตามมาติด ๆ แปลกใจถึงความผิดปกติ
"นายครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ" เสียงพายัพดังผ่านเครื่องมือสื่อสารสอบถามคนเป็นนายด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มีอะไร ขับตามมาเงียบๆ" น้ำเสียงราบเรียบตอบกลับลูกน้องคนสนิทก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับมาสนใจเด็กสาวที่นอนหลับอยู่ข้างๆ
"อิงดาวถึงบ้านแล้ว" มือหนาสะกิดร่างบางที่กำลังหลับสบายให้ตื่นขึ้นเมื่อรถจอดสนิทอยู่หน้าบ้านไม้หลังเล็กสักพัก
"ถึงแล้วเหรอคะ ฮาววว.." อิงดาวงัวเงียตื่นพร้อมกับหาวหวอดๆ
"ถึงตั้งนานแล้วเธอมัวแต่หลับ" ชายหนุ่มบ่นพึมพำไม่ใส่ใจนัก เป็นเขาเองที่ไม่อยากปลุกให้เธอตื่น ใจจริงอยากอุ้มขึ้นเครื่องบินไปอังกฤษด้วยซ้ำไป
"ขอบคุณที่มาส่ง..สวัสดีค่ะ" อิงดาวเมื่อรู้สึกตัวจึงปรับเบาะให้อยู่ในสภาพปกติก่อนจะกระชับกระเป๋าใบเล็กตั้งท่ากำลังจะเปิดประตูลงจากรถ แต่มีมือหนาของใครบางคนดึงรั้งไว้ไม่ให้ลงจากรถ
"อุ๊บ อื้อ..อือ" เมื่อโดนชายหนุ่มจู่โจมแบบไม่คาดคิดและไม่ทันตั้งตัว ทันทีที่ปากหยักได้รูปประกบจูบริมฝีปากบาง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเล็กกำชายเสื้อแน่น ร่างบางตัวแข็งต่อต้านสัมผัสจากชายหนุ่ม จากนั้นค่อยๆ คล้อยตาม จูบตอบอย่างเงอะงะเวลาผ่านไปสักพักชายหนุ่มผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
"ฉันโทรมารับสายด้วย" เสียงเอ่ยราวกระซิบดังขึ้นเมื่อริมฝีปากทั้งสองแยกออกจากกัน ถ้อยคำเหล่านั้นดังก้องอยู่ในหัว รับสายฉันด้วย อิงดาวรับสายฉันด้วย
"ฉันจะรีบไปรีบกลับ ขึ้นบ้านซะดึกมากแล้ว" ชายหนุ่มจำต้องผละออกอย่างหักห้ามใจเพราะมีงานสำคัญรออยู่ ถ้าขืนปล่อยเลยตามเลยมีหวังพรุ่งนี้เช้าก็ยังไม่ได้ขึ้นเครื่อง ถ้าเป็นแบบนั้นต้องโดนเพื่อนรักโทรมาด่าเป็นแน่
"นายครับ คนของคุณเมกะอยู่ที่นี่ 2 คนครับ" พายัพเดินเข้ามารายงานคนเป็นนายเมื่อแน่ใจว่าเด็กสาวเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว
ทางด้านเมกะ
"นายครับคนของเรารายงานว่าคุณลีออนพาอิงดาวกลับมาส่งที่บ้านเมื่อสักครู่ครับ" ภัทรลูกน้องคนสนิทรีบรายงานเจ้านายทันทีเมื่อวางสายจากลูกน้องที่ส่งไปคอยติดตามอิงดาวที่พึ่งส่งข่าวมา
"หนึ่งชั่วโมง..ถือว่ามันยังรักษาเวลา ยังคิดได้ว่าพรุ่งนี้อิงดาวเปิดเรียนวันแรก" เมกะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาตอนนี้เข็มสั้นชี้ไปที่เลข 1 เข็มยาวชี้ที่เลข 12 นั่นหมายความว่าลีออนพาอิงดาวหายไปและกลับมาส่งภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเศษๆ พอดี
"นายจะเอายังไงต่อครับ" ภัทรถามขึ้นเมื่อเจ้านายนั้นเงียบไป
"ลีออนมันจะบินไปอังกฤษคืนนี้น่าจะไปประมาณหนึ่งอาทิตย์หรือมากกว่านั้น ช่วงนี้ก็ให้คนของเราตามดูแลอิงดาวอยู่ห่าง ๆ แล้วเจมันจะกลับมาวันไหน" ชายหนุ่มสีหน้าคลายกังวลลงเล็กน้อยเพราะยังพอมีเวลาคิดหาทางออกกับเรื่องนี้ เห็นทีเขาต้องปรึกษาเฟมโตเพราะลำพังเขาคนเดียวคงไม่สามารถจัดการคนอย่างลีออนได้
"พรุ่งนี้เช้าครับ ผมบอกให้มันเข้ามาที่ผับเลย"
"อือ มึงก็ไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้ฝากไปรับอิงดาวกับอิงฟ้าไปส่งที่มหาวิทยาลัยด้วย" ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกขึ้นสาวเท้าเดินตรงไปยังห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องทำงานอีกฝั่งก่อนที่ไฟในห้องจะดับลง
01:45 น. ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ลีออนดังขึ้น จากการคาดเดาปลายสายคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเซนติเพราะตอนนี้เลยเวลานัดมาแล้ว 15 นาทีเพราะลีออนไม่เคยมาสายเลยสักครั้งเดียวนี่เป็นครั้งแรกเซนติคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเพื่อนจึงรีบยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหา
"มึงอยู่ไหน ปกติไม่เคยสาย" น้ำเสียงร้อนรนกระวนกระวายจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวเพื่อนจะเกิดเรื่องจนต้องทำให้มาไม่ตรงเวลาแบบนี้
"กำลังไปอีก 10 นาที" ลีออนพูดจบก็กดตัดสายทันทีโดยไม่ให้เหตุผลว่าทำไมตอนนี้ยังอยู่บนถนนทั้ง ๆ ความจริงแล้วน่าจะอยู่บนเครื่องบินลำใหญ่ที่จอดรออยู่ที่สนามตั้งนานแล้ว
เวลา 02:00น.
เด็กสาวผู้โดนขโมยจูบแรกไป บัดนี้ยังนั่งเหม่อนึกถึงแต่ใบหน้าชายหนุ่มที่มอบรสจูบให้เธอไปหมาดๆ ตอนนี้เขาน่าจะอยู่บนท้องฟ้าที่ไหนสักที่มาเฟียหนุ่มผู้ป่าเถื่อนที่กระทำต่อเธออย่างหยาบโลนกลับปลุกหัวใจเธอให้เต้นแรงทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเธอควรที่จะเกลียดการกระทำที่เขาทำกับเธอแบบนั้น..แต่เธอกลับรู้สึกตรงข้าม
ติ๊ด ติ๊ด เสียงเตือนข้อความดังขึ้น
‘นอนได้แล้วยัยเด็กอ้วน อย่ามัวแต่นั่งเพ้อง’ ข้อความจากชายหนุ่มปรากฏบนหน้าจอ..เมื่อเปิดอ่านถึงกับหน้าร้อนผ่าวราวกับว่าเขาอยู่ใกล้เธอตลอดเวลา
‘คุณรู้ได้ยังไงว่าหนูยังไม่นอน คุณกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ’ คิ้วโค้งมนได้รูปบัดนี้ได้ผูกเป็นโบเข้าหากันเป็นที่เรียบร้อย ใบหน้าได้รูปที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มหัวไปหมด
‘ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ รีบปิดไฟนอนซะ’ เสียงดุจากปลายสายแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้วเด็กน้อยของเขายังไม่มีทีท่าว่าจะปิดไฟนอน
‘คุณอยู่ไหน’ ร่างบางที่ตอนแรกนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงบัดนี้ได้ลุกขึ้น เท้าเล็กก้าวลงจากเตียงด้วยความไว สาวเท้าตรงไปยังหน้าต่างบานใหญ่สายตากวาดมองบริเวณรอบ ๆ บ้านอย่างจดจ่อเพียงแค่ต้องการมั่นใจว่าชายหนุ่มได้กลับไปแล้วจริงๆ
‘ไม่ต้องอยากเจอหน้าฉันขนาดนั้นกลับไปนอน’ เสียงทุ้มต่ำยังออกคำสั่งอย่างต่อเนื่อง มือเรียวเล็กยังกดโทรศัพท์พิมพ์ข้อความตอบกลับชายหนุ่ม แต่สายตาก็ไม่ลดละยังพยายามมองหาจุดที่คิดว่าชายหนุ่มนั้นแอบซ่อนตัวอยู่
ครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์ในมือดังขึ้นอิงดาวตกใจโทรศัพท์แทบร่วงหลุดมือ
‘อิงฉันบอกให้เธอปิดไฟแล้วเข้านอนได้แล้ว เวลานี้เธอควรที่จะหลับอยู่บนเตียงไม่ใช่มาชะเง้อหาผู้ชายอยู่ริมหน้าต่างแบบนี้’ สรรพนามเรียกที่เปลี่ยนไปพร้อมกับน้ำเสียงดูอ่อนลงยิ่งทำให้เด็กสาวหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
‘หนูนอนแล้ว..คุณนั่นแหละโทรมากวนหนูทำไม’ เด็กสาวพยายามปรับน้ำเสียงให้ดูเป็นปกติเพราะคิดว่าชายหนุ่มน่าจะแกล้งเธอเล่นเพราะเธอมั่นใจว่าเห็นรถของลีออนขับออกไปด้วยความเร็วหลังจากที่ส่งเธอขึ้นบ้านเรียบร้อยแล้ว
‘เด็กเลี้ยงแกะ’ ลีออนว่ากลับแบบไม่ใส่ใจนัก
‘คุณอยู่ไหนกันแน่คุณทำให้หนูกลัวอีกแล้วนะ แล้วอย่างนี้หนูจะนอนหลับได้ยังไง’ ชายหนุ่มเผลอยิ้มอย่างลืมตัวดูมีความสุขทุกครั้งที่ทำให้เด็กน้อยอย่างอิงดาวโกรธ
‘ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่จำเป็นต้องกลัวฉัน’ น้ำเสียงจริงจังเอ่ยบอกออกไปว่าหมายความตามที่พูดจริงๆ
‘แล้วคุณอยู่ไหนทำไมคุณรู้ตลอดว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่’ ไม่รอช้าเด็กสาวถามกลับอย่างสงสัยเพราะขืนถ้าปล่อยค้างคาใจไว้แบบนี้มีหวังเธอต้องนอนไม่หลับเป็นแน่
‘โอเคเลิกแกล้งแล้วฉันอยู่บนเครื่อง กำลังจะไปอังกฤษ นอนซะไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น หลับฝันดีเด็กน้อยของฉัน’ ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจทำให้ทุกคนที่อยู่บนเครื่องรวมถึงเซนติถึงกลับแปลกใจที่เห็นลีออนหัวเราะออกมาราวกับคนกำลังมีความสุข หลังจากนั้นลีออนก็กดวางสายและเปิดดูอะไรสักอย่างในมือถือและนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
บทสนทนาเมื่อสักครู่ที่ชายหนุ่มคุยกับคนปลายสายว่าแปลกแล้วจนเซนติที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักอยากเห็นหน้าหญิงสาวคนที่สามารถทำให้เพื่อนเขากลับมาเป็นคนปกติที่มีหัวใจและความรู้สึกอย่างที่คนธรรมดาเขามีกัน ไม่ใช่วัน ๆ อยู่แต่กับคลังอาวุธจนเขาคิดว่ามันจะเอาปืนทำเมีย นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเขามาสายในวันนี้