การแต่งตัวที่ธรรมดาอย่างกางเกงยีนเสื้อยืดแต่มันก็ทำให้เขาสะดุดตา มันแปลกดีนะ พวกสาว ๆ ที่ใส่สายเดี่ยวเกาะอกเขาไม่ยักจะติดใจจะเพ่งมองด้วยซ้ำ ... แต่กลับไปสนใจกับท่าทีเงอะงะนั้น
... ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าของใครบางคนขึ้นมาทันที ... หน้าคล้ายกันมาก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เสียงหวานกระซิบถาม และมองตามสายตานั้นเช่นกัน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มดูจะมองและสนใจคนกลุ่มใหญ่นั้นนานเกินไปแล้ว
“เปล่า ...”
ชายหนุ่มละสายตาแล้วกลับมาคว้าแก้วไวน์ยกดื่มพรวดเดียวหมดแก้วกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง
“สนใจใครในกลุ่มนั้นหรือเปล่า?”
เสียงหวานยังเอ่ยต่อ ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุ้งน้อย ๆ
โชคดีที่คนพูดอย่างทีเล่นทีจริงไม่ได้หันมาสนใจคู่สนทนา หากสายตายังจับจ้องหนุ่มสาวกลุ่มนั้นไม่วางตา แต่แล้วสายตาของหล่อนเหมือนจะสะดุดกับสาวร่างบาง แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวใช้ที่พบเมื่อตอนเช้า แต่รูปร่างหน้าตาหล่อนจำได้ติดตา
นั่นมันแม่คนใช้บ้านคุณใหญ่นิ แล้วคุณใหญ่ไม่เห็นหรือไงว่าคนใช้ในบ้านออกมาหาความสำราญในที่แบบนี้ มันไม่สมควร ...
สาวสวยอย่างเมรีเหยียดยิ้ม เมื่อแน่ใจว่าตัวเองจำไม่ผิดคนไม่ผิดตัว แผนอยากแกล้งใครบางคนก็เริ่มผุดขึ้น อย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
“อุ๊ย!! คุณใหญ่คะ”
เสียงเรียกเหมือนคนตกใจดังขึ้น พร้อมกับมือเรียวจับหมับที่แขนแกร่งอย่างรู้หน้าที่
“มีอะไรหรือเมย์?”
ตาคมจ้องสาวสวยตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“คุณใหญ่ไม่เห็นจริง ๆ หรือคะ?”
คำถามที่ตอบกลับมา ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งเพิ่มสีหน้าแปลกใจเข้าไปอีก
“แล้วคุณเมย์จะให้ผมเห็นอะไรในที่แบบนี้อีกล่ะ?”
แม้จะรู้สึกขัดใจกับคำตอบ แต่หล่อนก็ไม่อยากขัดใจชายหนุ่มตอนนี้
คำตอบกวน ๆ นั้นไม่อาจทำให้อารมณ์หล่อนแปรเปลี่ยนไปจากความคิดเดิม ยิ้มในใจ เป็นอย่างที่หล่อนคาดไว้ ธาดาไม่เห็นคนใช้ของตัวเองจริงด้วย เสร็จละงานนี้ ...
“ในนี้ไม่มีอะไรแปลกหรือน่าสนใจเท่าผู้หญิงในกลุ่มนั้นหรอกค่ะ”
พูดจบสาวสวยก็ชี้นิ้วไปยังกลุ่มที่เธอกำลังพูดถึง
ชายหนุ่มก็อยากรู้เหมือนกันว่าอะไร ในกลุ่มคนพวกนั้นที่ทำให้คนอย่างเมรีสนใจได้ แล้วเขาก็เพ่งมองตามนิ้วเรียวไปจนสุดปลายนิ้ว แล้วเลยตรงไปตามรัศมีความตรงของนิ้ว
คิ้วหนาย่นเข้าหากันเพื่อเพ่งมองคนตรงหน้าที่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ หญิงสาวที่เขาเพิ่งละสายตาไปไม่นานเท่าไหร่ ตอนนี้กลับมาอยู่ในสายตาเขาอีกครั้ง
แล้วผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงทำให้เมรีสนใจได้ล่ะ หรือหล่อนเกิดเขม่นกับเมรีหรือ ... ชายหนุ่มคิด แต่เมื่อมองไปสักพัก สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“มนธิรา!!!”
ชายหนุ่มเอ่ยเค้นเสียงเบา ๆ แต่คนที่นั่งอยู่ใกล้ได้ยินถนัด รับรู้ถึงพลังและน้ำเสียงนั้นได้ดี
นั่นแหละตัวจริงของเขาละ ในความเย็นชานั้น มันน่ากลัว ...
“...”
สายตาคมเพ่งมองเบิกกว้าง หากผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงอื่นเขาคงมองผ่านเลยไป แต่นี่มันเป็นผู้หญิงในบ้านของเขาชัด ๆ
แล้วหล่อนออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ...
แล้วหล่อนออกมากับใคร? ...
เท่านั้นในความคิดชายหนุ่ม อารมณ์บางอย่างก็พุ่งพรวดเข้ามา กรามหนาขบเป็นสันนูน เขาไม่เคยโกธรอะไรใครเท่านี้มาก่อน
ชายหนุ่มไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ที่ทำให้เขารู้สึกโกรธมากอย่างนี้ แต่ที่รู้ตอนนี้เขารู้ได้อย่างเดียวว่าความรู้สึกเหมือนคนโดนหักหลังมันไม่เจ็บเท่านี้
เขาต้องจัดการกับหล่อน ...
อาการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของชายหนุ่ม ทำให้เมรีที่นั่งมองอยู่กระตุกยิ้มพอใจ งานนี้มีลุ้น ...
สาวสวยคิดแล้วมองตามสายตาคมที่ยังจับจ้องหนุ่มสาวในกลุ่ม อยากรู้นักว่าชายหนุ่มที่เอาจริงกับงานทุกอย่าง จะจัดการยังไงกับคนใช้ในบ้านที่หนีออกมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้
“ให้มันได้อย่างนี้สิ!”
ชายหนุ่มสบถ แล้วลุกขึ้นเต็มความสูง โดยมีสายตาสาวสวยมองตามอย่างใจจดใจจ่อ ว่าชายหนุ่มจะทำยังไงต่อ
“กลับ!!”
“อะ อะไรนะ?”
เสียงแหลมเล็กดังอย่างตกใจ พอๆ กับสีหน้าที่ตกใจ จนทำให้ผู้หญิงสวยลืมสวยไปชั่วขณะ
ผิดคาด ... ผิดแผนได้ไง!
“กลับบ้าน! ผมจะไปส่ง หรือจะกลับเอง”
เสียงทุ้มห้าว ๆ เอ่ยอย่างคนที่กำลังเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้เต็มที่ แล้วผู้หญิงตรงหน้ากำลังจะทำให้มันระเบิดออกมา เหมือนหล่อนเป็นต้นเหตุของอารมณ์โกรธในครั้งนี้ ความซวยเมรีจึงรับไปเต็ม ๆ
เจ้าสาวกวาดตามองไปทั่วด้านหน้าแล้วโปรยยิ้มหวานออกมาเหมือนถูกใจกับคนด้านล่างเวที“ณี”เจ้าสาวบนเวทีที่เอ่ยเรียกเบาๆ อย่างดีใจ แม้จะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้น แต่ก็สื่อความหมายกันเข้าใจ ตาสบตา แล้วหันหลังให้กลุ่มสาวๆ ด้านล่างเวที กุหลาบสีแดงช่องามในมือเรียวถูกยกขึ้น พร้อมย่อเข่าลงเล็กน้อยสองสามครั้งเพื่อหยั่งน้ำหนักของในมือไปในตัว ก่อนจะส่งแรงเหวี่ยงไปทางด้านหลังทันทีช่อกุหลาบลอยละลิ่ว พร้อมเสียงวี้ดว้ายร้องด้วยความตื่นเต้นของสาวสวยทั้งหลายถูกปล่อยออกมา มีเพียงสาวสวยในชุดเกาะอกยาวระพื้นที่ไม่ได้กรีดร้องเหมือนคนอื่น สายตาจับจ้องช่อดอกไม้สีสดที่ลอยอยู่กลางอากาศ มือเรียวถูกยกขึ้นพร้อมกับรอรับอย่างรู้จังหวะ“ว้าย!”เธอกรีดร้อง โดยมือคว้าช่อกุหลาบงามไว้ได้อย่างเหมาะเหม็ง แต่เธอไม่ได้ทุ่มสุดตัว หากแต่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ...สาวสวยที่ชวดช่อกุหลาบถึงกับเบะปากก็มี แต่บางคนก็ยิ้มเจื่อน ๆ มองผู้หญิงที่โชคดีได้ช่อกุหลาบ แต่ ... ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายน่ะสิทุกคนเริ่มถอยออกห่าง บางคนกลับไปนั่งโต๊ะของตัวเอง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยังยืนตะลึงค้าง แต่ภาพที่เห็นมันชัดเจนว่าคนที่รับช่อดอกไม้ได้ ล้มลงไปนอนแอ้งแ
ชายหนุ่มส่งเสียงคราง ร่างกายตึงเขม็ง อุ้งมือหนากำลังบีบเคล้นคลึงที่ทรวงอกจนล้นปลิ้นไปตามซอกนิ้วยาวแกร่ง ก่อนจะเปลี่ยนจากมือหนากลายเป็นปากหนานุ่มดูดกลืนบัวตูมที่กำลังชูช่อเด่น ดูดดึงซ้ายทีขวาทีจนหญิงสาวต้องบิดร่างกายส่ายไปมาเหมือนต้องการขับไล่ความเสียวซ่านให้บรรเทาเบาบางลง“คุ ... คุณใหญ่ บีไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”ร่างบางเอ่ยบอกเสียงกระเส่า สั่นสะท้าน หัวใจหวามหวิว เมื่อมือข้างหนึ่งกำลังลูบคลำไปยังส่วนล่างของบ่อน้ำหวาน ใช้นิ้วสะกิดยอดแหลมกลางกลีบกุหลาบที่กำลังแย้มบานถี่รัว ขาเรียวแยกออกจากกันอย่างลืมตัว สะโพกมนยกส่ายไปมารอรับเชิญชวนให้อีกคนเติมเต็มชายหนุ่มผละตัวออกห่างจัดการช่วงกลางลำตัวที่กำลังปวดร้าว ยกสะโพกผายที่เปิดอ้าอย่างท้าทายสอดแทรกความใหญ่โตเข้าเติมเต็มในกลีบกุหลาบที่กำลังชุ่มฉ่ำเสียงหวานกรีดร้องเบา ๆ ยามที่เจ้าสิ่งนั้นถูกเจ้าของสอดแทรกเข้าไป ก่อนจะขยับเนิบช้าและเพิ่มความเร็วขึ้น ทุกสัมผัสขยับกายในแต่ละครั้ง มีเสียงครางสุขสมขับกล่อมเป็นเสียงดนตรีไพเราะรุกเร้าเข้าหากันอย่างไม่ขาดตอนชายหนุ่มพ่นลมหายใจรู้สึกอึดอัดกับความคับแน่น ถอนกายแกร่งออกมาแล้วกระแทกเข้าไปใหม่ ขยับกระแทกเข้าอ
ร่างหนาลืมเรื่องชวนปวดหัวก่อนหน้านี้เสียสนิท ก้าวเท้าไปยังเตียงนุ่มหมายจะจัดการความร้อนในกายด้วยร่างกายที่กำลังนอนหลับอยู่ เขาก้มตัวไปหาร่างบาง มือหนาเอื้อมจับไหล่บางก่อนจะลากมือสาก ๆ ไปตามแขนเรียวงามอย่างปรารถนา“อือ ...”ร่างบางคราง สะบัดไหล่เหมือนรู้สึกรำคาญกับการถูกรบกวนเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัว คนหน้ามึนจัดการก้มกระซิบข้าง ๆ หู“บีฉันรักเธอนะ และรักลูกของเราด้วย”แม้คนที่นอนอยู่จะครึ่งหลับครึ่งตื่นหรือไม่ ชายหนุ่มก็รู้เขินอายกับการกระทำของตัวเอง“อื้อ ... จริงหรือคะ”เสียงหวานเอ่ยออกมาเบา ๆ เหมือนคนละเมอ ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิงสาวนิ่ง สังเกตว่าหล่อนยังหลับตาอยู่ แต่เหมือนหล่อนจะตอบสนองกับคำพูดของเขาได้ดีตกลงหล่อนหลับแล้วละเมอ หรือหล่อนแกล้งหลับกันแน่ ... ชายหนุ่มไม่แน่ใจ ยื่นมือหนาจับปลายคางมนอีกครั้งแล้วขยับไปมาจนหน้าหวานหันไปตามแรงขยับ ท่าทางของคนหลับทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจคนอะไรหลับก็ยังตอบคำถามได้ ...เมื่อตั้งใจว่าจะบอกรักให้คนหลับฟังไม่ได้ผล ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นและเดินอ้อมเตียงไปอีกด้าน ทรุดตัวลงนั่งเต็มแรงจนเตียงยวบไปตามน้ำหนัก ทอดกายลงนอนแทรกไปใต้ผ้าห่มผืนหนาที่มีร่างบาง
คำบอกกล่าวที่เอ่ยยาวจนคนที่ฟังอยู่ รู้สึกเหมือนกำลังฟังครูบรรยายเหตุการณ์อะไรสักอย่างอยู่หน้าห้องที่ยาวนานมาก แต่คำพูดสุดท้ายมันทำให้ความรู้สึกนั้นพลันหายไปวินาทีถัดมา มันทำให้สมองเบลอร่างกายเบาโหวงเหมือนกำลังล่องลอยไร้แรงโน้มถ่วงของพื้นโลก แต่แล้วแรงสั่นสะเทือนทั้งหมดก็ไปกองอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย หญิงสาวถึงกับเซเข่าอ่อนมือหนาคว้าแขนเรียวเอาไว้ โดยหญิงสาวก็คว้าแขนแกร่งไว้เช่นกัน“คุณใหญ่ ... ไม่จริงใช่ไหม คุณใหญ่แกล้งบีใช่ไหม?”เสียงเบาแหบแห้ง สีหน้าไร้ความรู้สึกตื่นเต้นใด ๆ เอ่ยถามคนตัวโต“ทุกคำพูดเป็นเรื่องจริง”ชายหนุ่มยืนยันสีหน้าจริงจัง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาหวังไว้อย่างน้อย ๆ หากเขาเอ่ยประโยคสำคัญออกไป หญิงสาวคงดีใจโผเข้ากอดเหมือนผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ถูกคนรักขอแต่งาน จะต้องกระโดดกอดคอและหอมแก้มคนรักอย่างที่ควรจะเป็น แต่นี่ผู้หญิงที่เขาขอแต่งงานกลับเหมือนคนไร้ซึ่งความรู้สึก“หากเพราะคิดจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำมา และไถ่โทษด้วยการขอผู้หญิงแต่งงานโดยปราศจากความรัก คุณใหญ่ เก็บคำนั้นเอาไว้เถอะ”หล่อนพูดถึงประโยคขอแต่งงาน“บี ... ที่พี่พูดมาทั้งหมดมันชัดเจนแล้วนะว่าพี่ต้องการบี แล้วบีจะ
ใบหน้าขาวนวลกลายเป็นแดงซ่าน อยากข่วนหน้านั้นให้หายหล่อแต่ก็ได้แค่คิด เมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นพ่อยิ้มเหมือนรู้ความสัมพันธ์ของเธอและชายหนุ่มดีหล่อนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ หากมีพื้นที่ที่ให้หล่อนได้แทรกกายหนี หล่อนอยากจะแทรกหายไปซะเดี๋ยวนั้นนิพาหันสบตากับสามี ถอนหายใจเบา ๆ แม้จะไม่ค่อยชอบใจท่าทางของชายหนุ่มที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจนออกหน้าออกตาทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่งการด้วยซ้ำ แต่กลับมาประกาศจะนอนห้องเดียวกับหญิงสาวเสียอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นสามีไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับการกระทำของชายหนุ่ม นางจึงปล่อยเลยตามเลยไป“เสร็จแล้วขึ้นห้องเลยไหม ป้าจะพาไป”น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยถามลูกเลี้ยงสาว ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังมองนางอยู่เช่นกัน เหมือนอยากให้อีกคนเอ่ยชวนตัวเองด้วย แต่นางก็ไม่ได้ตอบสนองสายตานั้น แล้วก็จริงดังคาด เมื่อชายหนุ่มทำสีหน้าเหมือนคนผิดหวัง“ตามขึ้นไปพร้อมกันเลยครับคุณธาดา เดี๋ยวผมจะให้เด็กเอาชุดนอนผมไปให้ คุณคงพอใส่ได้”เสียงทุ้มของว่าที่พ่อตา ทำเอาชายหนุ่มที่หน้าหุบหันขวับไปมอง ปากหยักหนาได้รูปฉีกยิ้มกว้างทันที พร้อมพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบสองหญิงต่างวัยหันมาส่งค้อนให้คู่ของต
ความเป็นห่วงลูก รู้สึกโกรธเจ้าของรถคันนั้นยิ่งนัก“ไปดูสิว่าใคร”เสียงทุ้มเอ่ยสั่งคนขับรถที่ยืนดูอยู่อีกฝั่งของรถออกไป คนถูกสั่งทำตามทันทีแสงไฟจากหน้ารถของคันที่วิ่งเข้ามาใหม่กระทบกับสายตาทำเอาหล่อนกับพ่อต้องหรี่ตาและเอามือป้องหน้าเอาไว้สองพ่อลูกมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ แต่ลักษณะของรถมันดูคุ้นๆ สำหรับหญิงสาว“คุณใหญ่!”เสียงแหลมเล็กเอ่ยอย่างตกใจปรับสีหน้าจากที่ตกใจเมื่อครู่กับการมาของชายหนุ่มให้กลับสู่สภาพปกติ“มาได้ยังไง...?”เสียงหวานเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ยังมึน ๆ อยู่“ก็ขับรถตามมา ไม่เห็นแปลก ...”ตอบทำสีหน้าขรึม เหมือนอยากให้อีกคนรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจกับการกระทำของหล่อนอยู่“แล้วก็มารับบีกลับไร่ด้วย”ใบหน้าเรียบตึงกว่าเก่าพร้อมกับคำพูดเฉียบขาด ไม่อยากให้หล่อนรู้ว่าเขาดีใจแค่ไหนที่เห็นหล่อนในสภาพปลอดภัย“บีไม่กลับ”ขยับกระชับอ้อมแขนกอดผู้เป็นพ่อแน่นขึ้น“เชิญคุณใหญ่กลับไปคนเดียวเถอะ”ปากบางเอ่ยไล่ หล่อนไม่คิดจะเสียใจกับคำพูดที่ได้ยินมาอีกแล้ว เพราะหล่อนเสียน้ำตาไปมากและย้ำกับตัวเองเสมอว่าต้องมีสักวันมันจะต้องลงเอยแบบนี้ และหล่อนคิดว่าหล่อนทำถูกแล้ว“ได้ไง บีไม่กลับ ผมก็ไม่กลับ”เสีย