แชร์

12

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-02 13:04:26

ในท้องพระโรงที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์คลั่งรักแบบทำลายล้าง เสียงหอบหายใจของอวิ๋นซินเยว่ดังชัดเจนในความเงียบงัน ริมฝีปากของเธอชา ความรู้สึกทั้งหมดถูกเผาผลาญด้วยเปลวไฟขององค์จักรพรรดิ

อวี้เหยียนถอยห่างออกมาเพียงเล็กน้อย ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟราคะที่ถูกจุดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ความต้องการที่ฝังลึกและถูกกดทับมานานนับปี พุ่งพล่านออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่แล้ว...มันก็ถูกดับลงอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวที่คุ้นเคย

เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน ราวกับบุรุษผู้แข็งแกร่งกำลังต่อสู้กับปีศาจร้ายในจิตใจของตนเอง เขาพยายามหาความรังเกียจในตัวเธอ...แต่กลับพบเพียงความเข้าใจและความท้าทาย

“ออกไป” พระสุรเสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก เขาหันหลังให้เธอทันที มือทั้งสองข้างบีบเข้าหากันจนกระดูกลั่น เพื่อควบคุมความต้องการที่จะคว้าเธอมากอดไว้ให้แนบแน่นที่สุด

อวิ๋นซินเยว่ไม่รอช้า เธอรู้ดีว่าเธอได้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว เธอได้รับคำสารภาพรัก...ในรูปแบบของความต้องการที่รุนแรงที่สุดของเขา เธอทำลายกำแพงของเขาได้สำเร็จ!

“หม่อมฉันทูลลาเพคะ” เธอค้อมกายอย่างสง่างาม แม้ขาจะอ่อนเปลี้ยแทบยืนไม่ไหว เธอก้าวออกจากท้องพระโรงไปอย่างช้า ๆ ทิ้งให้จักรพรรดิผู้ทรงอำนาจยืนนิ่งอยู่เบื้องหลัง สับสนและอ่อนแอที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

อวิ๋นซินเยว่กลับมาถึงตำหนักคุนหนิงด้วยอาการใจเต้นรัว เธอแทบล้มตัวลงนอนทันที ใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์ของจูบที่เร่าร้อนนั้น

[อ๊ากกก หม่าม๊า! ภารกิจจีบพระเอกก้าวหน้า50 เปอร์เซ็นต์แล้ว]

เสี่ยวหลิงกรีดร้องอย่างตื่นเต้น

“ฉันรู้…เขาไม่ได้จูบฉันด้วยความรัก เขาจูบฉันด้วยความโกรธที่ควบคุมตัวเองไม่ได้” อวิ๋นซินเยว่พึมพำ “แต่...มันได้ผล”

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นและเร่งรีบก็ดังเข้ามาในตำหนักคุนหนิง มันเป็นเสียงขององค์จักรพรรดิอวี้เหยียน! พระองค์มาถึงตำหนักคุนหนิงเร็วกว่านางเสียอีก!

อวี้เหยียนก้าวเข้ามาในห้องบรรทมด้วยสีหน้าถมึงทึง แววตาของเขาเต็มไปด้วยพายุอารมณ์ที่ยังไม่สงบ ความเขินอายและความต้องการทำให้เขาดูอันตรายอย่างยิ่ง

“ฝ่าบาท…” จื่อเยว่และนางกำนัลทุกคนรีบคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความตกตะลึง

อวี้เหยียนไม่สนใจใครทั้งสิ้น เขาก้าวเข้ามาหาเตียง จับข้อมือของอวิ๋นซินเยว่ที่ยังชาอยู่ดึงขึ้นมาทันที

“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการใช่หรือไม่!” เขากล่าวเสียงต่ำ “เจ้าอยากให้ข้าทำลายกำแพงที่ข้าสร้างไว้เพื่อปกป้องตัวเองใช่หรือไม่! เจ้าคิดว่าได้ชัยชนะแล้วงั้นรึ!”

“หม่อมฉัน…หม่อมฉันเพียงแค่ต้องการดูแลพระองค์เพคะ” เธอตอบอย่างกล้าหาญ แม้จะกลัวจนตัวสั่น

“ดูแลข้าอย่างนั้นรึ!” อวี้เหยียนยิ้มเยาะ รอยยิ้มของเขาทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ “ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลข้าให้ดี! ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป! เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกตำหนักนี้! ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่ใดก็ตามที่ข้าไม่อนุญาต! และที่สำคัญที่สุด! เจ้าไม่อนุญาตให้พูดคุยกับบุรุษอื่นคนใด! แม้แต่ขันทีหรือองครักษ์! เจ้าเป็นของข้า! ฮองเฮา!” พระองค์ไม่ได้ข่มขู่...แต่กำลัง ‘ประกาศพันธนาการ’ ต่อหน้าข้ารับใช้ทุกคน! นี่คือการแสดงความเป็นเจ้าของที่บ้าคลั่งที่สุดที่เขาเคยทำ!

อวี้เหยียนไม่รอคำตอบ เขาอุ้มร่างของอวิ๋นซินเยว่ขึ้นอย่างรวดเร็ว วางเธอลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าแพรชั้นดี ก่อนจะปลดเปลื้องเครื่องประดับหนัก ๆ บนศีรษะของเธอออกอย่างเร่งรีบ ในแววตาของเขามีเพียงความต้องการที่ถูกจุดติดอย่างบ้าคลั่ง

จื่อเยว่และนางกำนัลทุกคนถูกสั่งให้ถอยออกไป ประตูถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ของทั้งสองพระองค์ในความเงียบสงัด

“เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้วใช่หรือไม่!” อวี้เหยียนก้มลงมาจ้องเธอด้วยดวงตาที่ลุกโชน เขาใช้มือบีบคางเธอเบา ๆ บังคับให้เธอมองใบหน้าของเขา “จงจำไว้! สิ่งที่เจ้านำมาให้ข้า…คือพันธนาการ! และข้าจะตอบแทนมันด้วยความคลั่งไคล้ที่ไม่มีวันจบสิ้น!”

เขาจูบเธออีกครั้ง ครั้งนี้เร่าร้อนและยาวนานกว่าครั้งแรกหลายเท่า ริมฝีปากของเขาครอบครองเธออย่างบ้าคลั่ง มือของเขาเริ่มรุกล้ำเข้าไปใต้ชุดอันงดงามของเธอ อวิ๋นซินเยว่ตอบรับจูบนั้นด้วยความสับสนและเร่าร้อนไม่แพ้กัน เธอไม่คาดคิดว่าการประกาศสิทธิ์จะนำไปสู่ฉากที่บ้าคลั่งขนาดนี้! ความปรารถนาที่รุนแรงของเขาทำลายตรรกะทั้งหมดที่เธอเคยมี! เธอตอบรับเขาในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง...ที่กำลังถูกพิชิตด้วยความปรารถนาที่ถูกกดทับมานานนับปี!

[ติ๊ง! คำเตือน! ระดับอุณหภูมิความรู้สึกเข้าสู่ระดับวิกฤต!

ระบบไม่สามารถควบคุมการทำงานของฮอร์โมนได้!

ระบบกู้โลกเข้าสู่โหมดรักษาเสถียรภาพ!..รอการคำนวณใหม่!]

แสงตะวันยามบ่ายสาดส่องเข้ามาในห้องบรรทมผ่านม่านแพรปักลายหงส์ เตียงที่เคยเรียบตึงบัดนี้ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าอันงดงามถูกฉีกทึ้งอย่างไม่ใยดี อวี้เหยียนนอนกอดร่างเปลือยเปล่าของอวิ๋นซินเยว่ไว้แน่น ใบหน้าของเขาไม่ได้เย็นชาอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าและความพึงพอใจที่ปิดบังไม่มิด เขาจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่ลุ่มลึกและเป็นเจ้าของอย่างที่สุด

“ฮองเฮา…” พระองค์เอ่ยเสียงแหบพร่า เขาจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน “เจ้าเป็นของข้า”

“หม่อมฉันรู้เพคะ” เธอตอบอย่างแผ่วเบา “และพระองค์ก็เป็นของหม่อมฉันเช่นกัน” คำพูดนั้นทำให้พระองค์ชะงัก ดวงตาของเขามืดมิดลงอีกครั้ง พระองค์ไม่เคยคิดว่าจะถูกตอบกลับด้วยความต้องการที่ทัดเทียมกันเช่นนี้

“จำไว้” เขากระซิบเสียงต่ำ คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำสัญญาที่น่ากลัว “ในโลกนี้…ไม่มีสิ่งใดที่จะพรากเจ้าไปจากข้าได้! ไม่มี! แม้แต่ความตาย! หรือ…ใครก็ตามที่เจ้าเคยรัก!” อวิ๋นซินเยว่ตัวแข็งทื่อ ใครก็ตามที่เธอเคยรัก? เขารู้สึกถึงภัยคุกคามจากอดีตที่เธอไม่เคยเปิดเผยหรือ?

ทันใดนั้น มือของอวี้เหยียนก็เลื่อนมาจับไปที่สร้อยหยกที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมที่ยับยู่ยี่ของเธอ สร้อยที่เธอไม่เคยถอดเลย

“นี่คือของใคร!” พระสุรเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดที่เธอเคยได้ยิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความริษยาและความโกรธที่น่ากลัวอย่างยิ่งยวด!

อวิ๋นซินเยว่ตื่นตระหนก ก็แค่สร้อยเส้นเดียว ทำไมเขาถึงได้โมโหถึงเพียงนี้ แล้วเธอควรจะตอบว่ายังไง หากตอบผิดขึ้นมาเขาคงไม่หักคอเธอด้วยมือเปล่าใช่ไหม!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   22

    ค่ำคืนนั้นวังทั้งวังเหมือนกลายเป็นทะเลสาบแข็ง ไม่มีลม ไม่มีเสียงก้าวเท้าเพียงเสียงพู่กันของเธอที่ลากผ่านแผ่นผ้าไหมทีละเส้นอวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว เปลวเทียนส่องแสงอุ่นที่ปลายโต๊ะ กลีบเหมยขาวหล่นหนึ่งกลีบ วางอยู่ข้างถ้วยชาเย็นชืด[บันทึกภารกิจ: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมาย “จักรพรรดิอวี้เหยียน”][อัตราความสับสนทางอารมณ์: 47%][สถานะ: ไม่คงที่]เสียงเสี่ยวหลิงดังขึ้นเหมือนเคย แต่ในความปกตินั้น มีบางอย่างแปลกไป...เล็กน้อยเกินจะบอกได้“เสี่ยวหลิง” ซินเยว่วางพู่กันลง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”[ข้อมูลจากระบบวัดโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสงสัยความแม่นยำ]น้ำเสียงมันเหมือนเดิมแต่มี โทนสูงขึ้นครึ่งจังหวะ ตอนพูดคำว่า “สงสัย” เธอขมวดคิ้วบาง ๆ“แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่าระดับของเขาไม่เกินสามสิบห้า”[ฐานข้อมูลอัปเดตอัตโนมัติ...ตามพฤติกรรมล่าสุดของเป้าหมาย]“ล่าสุด?” เธอพึมพำ “หมายถึง...วันนี้?”[ยามเที่ยง วันนี้...ฝ่าบาททอดพระเนตรภาพเหมยขาวในแจกันระดับอารมณ์แปรปรวนขึ้นสิบสองเปอร์เซ็นต์]"ภาพเหมยขาว?” เธอก้มมองแจกันตรงหน้า กลีบดอกที่ร่วงจากกิ่งนั้นมีอยู่แค่หนึ่งกลีบ[ระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   21

    ยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสูง ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางในชุดทางการสีดำแดง อวี้เหยียนประทับอยู่เบื้องบน แสงเช้าสะท้อนบนฉลองพระองค์ทองเข้มจนแสบตา ใต้แสงนั้น พระเนตรคมเหมือนคมมีด ไม่มีใครกล้ามองตรง ๆ เลยสักคนเดียว “เริ่มประชุม” พระสุรเสียงเย็นเรียบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายคำนับ “กราบทูลฝ่าบาทรายงานข่าวจากชายแดนเหนือ พบว่ากองทัพของเสนาบดีอวิ๋นเคลื่อนกำลังเกินแนวลาดตระเวนตามสัญญา...จึงขอพระราชทานอนุญาตตรวจสอบให้ละเอียดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังในหมู่ขุนนาง “ข่าวแน่นะ?” “ใช่ ข้าก็ได้ยินว่าตระกูลอวิ๋นมีการเก็บเสบียงเพิ่ม" แต่ก่อนเสียงจะขยายออกไป ประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงก็ถูกผลักเปิดออก ปัง! เสียงนั้นดังพอให้ทุกคนหันมองและสิ่งที่เห็น...ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ ร่างสะโอดสะองในชุดผ้าแพรสีงาช้าง ก้าวเข้ามาช้า ๆ ใบหน้างามนั้นสงบ แววตาแน่วแน่ ทุกฝีเท้าเต็มไปด้วยความตั้งใจ ปนความท้าทาย “ฮองเฮา!?” “พระองค์ทรง..” "นางมาทำอะไรที่นี่" "นี่มันผิดธรรมเนียมนะ ใครปล่อยให้พระนางเข้ามา" เสียงขุนนางหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน เหวินหรงแทบจะถลาออกมา “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่..” “ท้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   20

    สายลมต้นฤดูหนาวพัดกรูเข้ามาตามเฉลียง ธงราชสำนักปลิวแรงจนผ้าสีทองสะบัดเหมือนเปลวเพลิง ขันทีหลวงคุกเข่ากลางโถงตำหนักคุนหนิง เสียงประกาศก้องดังสะท้อน “พระราชโองการจากฝ่าบาท ให้ซูกุ้ยเฟยเป็นผู้ดูแลกิจการวังหลังทั้งหมด จนกว่าฮองเฮาจะฟื้นพระพลานามัยอย่างสมบูรณ์ พระราชโองการนี้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!” เสียงแผ่นทองคำสลักพระนามกระทบกันเบา ๆ เงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่บนตั่งไม้หอม ดวงหน้าสงบจนผิดธรรมชาติ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางกำนัลสองคนที่คอยอยู่ข้างหลังเริ่มตัวสั่น “ฝ่าบาท...หมายความว่า...” เสียงพวกนางขาดหายเมื่อฮองเฮามองมาททงพวกนาง “วังนี้ช่างเมตตานัก” เธอพูดเสียงเรียบ “ข้าเพียงล้มป่วยไม่กี่วัน ก็มีคนมาช่วยแบ่งภาระ” ขันทีที่ถือพระราชโองการอยู่แทบกลั้นหายใจ ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีถ้วยชาแตก ไม่มีคำปฏิเสธ มีเพียงรอยยิ้มบางบนริมฝีปากที่สงบจนน่ากลัว “ถวายพระพรฝ่าบาท” เธอกล่าวช้า ๆ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” เสียงของเธออ่อนโยน แต่แววตาในยามที่มองพระราชโองการนั้นเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำแข็ง ราวกับเธอมองกระดาษทองคำแผ่นนั้นเป็นเพียง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   19

    เสียงฝนหยุดลงในยามเกือบรุ่งเหลือเพียงกลิ่นดินชื้นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหมยขาวที่ยังติดอยู่ในอากาศ เงาในตำหนักหลวงยาวเหยียด และพระองค์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหวินหรงก้าวเข้ามาช้า ๆ “ฝ่าบาท...ทรงควรเปลี่ยนฉลองพระองค์พ่ะย่ะค่ะ ฝนหยุดแล้ว” ไม่มีคำตอบ เพียงพระหัตถ์ที่ยกขึ้นช้า ๆ มองรอยเลือดบนฝ่ามือของตนเอง รอยที่เกิดจากเล็บจิกแน่นเมื่อครู่ หยดเลือดเล็ก ๆ ตกลงบนพื้นหิน เย็นและหนักเหมือนความเงียบที่กดทับอยู่ในอก “เหวินหรง” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เจ้ารู้ไหม...ตอนที่นางพูดว่า ‘หม่อมฉันเพียงไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่าบาทไม่ไว้ใจ’” พระสุรเสียงนั้นเบา ราวกระซิบให้ตัวเองฟัง “ข้ารู้สึก...เหมือนถูกใครสักคนบีบคอ” เหวินหรงนิ่งงัน “ฝ่าบาท...นางพูดด้วยใจจริงพ่ะย่ะค่ะ” “ใจจริงงั้นหรือ” อวี้เหยียนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นขมจนเจ็บ “ใจจริงของนาง...หรือใจของข้าที่อยากเชื่อจนโง่” พระองค์ทรุดลงนั่งบนขั้นบัลลังก์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งจับขมับ “เหวินหรง เจ้าเคยรู้ไหม เวลาคนพยายามไม่รู้สึกอะไร...มันเหนื่อยยิ่งกว่าการแสดงออกไปตรง ๆ มันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” “พ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเฒ่าก้มต่ำ “ข้าคือจักรพรรดิ.

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   18

    อวิ๋นซินเยว่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอจะเสียใจขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยวหลิงทักนั่นเอง เธอถึงได้รู้สึกตัว [หม่าม๊า ร้องไห้ทำไมครับ] เด็กชายในรูปลักษณ์โฮโลแกรมลอยเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาวที่ขณะนี้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปจากดวงตาและใบหน้าของตัวเองอย่างลวก ๆ "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" [ถ้าหากหม่าม๊าหมายถึงฝ่าบาทแล้วล่ะก็ ผมจะตรวจสอบให้ครับ ... .. . สถานะความชอบ 5 แต้ม ความไว้วางใจ -1 มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของร่างโฮสต์ที่หม่าม้าอยู่ตอนนี้ครับ] "อันตรายมากจริง ๆ เฮ้ออ ถึงแม้ว่าฉันจะมาอยู่ได้ไม่นาน และยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาที่เป็นครอบครัวของฮองเฮาเลยสักนิด แต่จากที่อยู่ในร่างนี้และโลกนี้มา นางก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าจะผิด ก็ผิดที่เลือกสามีผิดล่ะนะ" [หม่าม๊าจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ หญิงสาวในยุคนี้ไม่ได้เหมือนหญิงสาวในยุคของหม่าม๊า พวกนางไม่สามารถเลือกชีวิตตนเองได้ ครอบครัวอย่างพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ และผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง] "เฮ้ออ เอาเถอะ มาคิดหาทางรอดให้พวกเขากันดีกว่า ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ไม้แข็งเลยละกัน" อวิ๋นซินเยว่พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   17

    ความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก เสียงพระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนยังสะท้อนอยู่ในหัว ของอวิ๋นซินเยว่ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ “ข้าไม่เคยไว้ใจนาง...ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง” เพียงคำเดียว...อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ เสี่ยวหลิงส่งเสียงในหัวทันที [ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78%] [คำเตือน: หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น 10 หน่วย ภารกิจ “ฟื้นฟูพระเอก” จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว] อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว “ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “หนูคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของหนูเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status