Share

13

Penulis: RainyStarSea
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-02 13:15:49

เสียงหอบหายใจของอวิ๋นซินเยว่ยังไม่ทันสงบ ความอ่อนโยนที่องค์จักรพรรดิอวี้เหยียนแสดงออกมาเมื่อครู่ก็อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น!

ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟแห่งความริษยาและความโกรธที่น่ากลัวที่สุด เขากำสร้อยหยกเส้นเล็กนั้นแน่นอยู่ในมือ ราวกับต้องการบดขยี้มันให้แหลกคามือ“ตอบข้ามา!” พระสุรเสียงของเขาเยือกเย็นจนน่ากลัว

“สร้อยเส้นนี้…ของใคร! เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับเจ้าของมัน! เจ้ากำลังโกหกข้า! และแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ใจกับข้าใช่หรือไม่!”

อวิ๋นซินเยว่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันที่สุด เธอไม่รู้ว่าสร้อยนี้มาจากใคร และความเงียบของเธอยิ่งทำให้อวี้เหยียนเข้าใจผิดไปไกลแสนไกล ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำจากจูบเมื่อครู่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีซีดขาวด้วยความกลัว

[หม่าม๊า! ตอบไปเลย! ห้ามโกหก! ความเสี่ยงอยู่ที่ 99%!

เขาคิดว่าหม่าม๊าถูกส่งมาเพื่อฆ่าเขา!] เสี่ยวหลิงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกที่สุด

“หม่อมฉัน…หม่อมฉันไม่รู้เพคะ” เธอตอบอย่างซื่อตรง น้ำเสียงสั่นเครือ ความจริงที่ว่าเธอไม่รู้ทำให้อวี้เหยียนเดือดดาลยิ่งกว่าการโกหกเสียอีก!

“โกหก!” เขาตวาดลั่น แรงบีบที่ต้นแขนของเธอเพิ่มขึ้น “อย่าคิดว่าการแสร้งทำเป็นโง่งมจะใช้ได้ผลกับข้าอีก! มีแต่เจ้าของเท่านั้นที่จะใส่สร้อยหยกชั้นดีนี้ไว้ในที่ลับที่สุดเช่นนี้! ตอบมา! มันคือขององค์ชายสิบสามใช่หรือไม่!”เมื่อได้ยินพระนามนั้น อวิ๋นซินเยว่ก็เข้าใจสถานการณ์ทันที ข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาในหัวทะลักล้นจนเธอมึนไปหมดด้วยข้อมูลสดใหม่ นี่คือคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของเขา และเป็นคู่แข่งทางหัวใจที่เขาเกลียดชังที่สุด!

เธอต้องใช้ความจริงที่ถูกบิดเบือนเข้าช่วย!

“ใช่เพคะ…” เธอตอบอย่างแผ่วเบา “องค์ชายสิบสาม…ทรงมอบมันให้หม่อมฉัน ก่อนที่พระองค์จะถูกส่งไปยังป้อมหิมะขาว”

อวี้เหยียนเบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึก องค์ชายสิบสาม ผู้ที่เกือบแย่งบัลลังก์ไปจากเขา บัดนี้กลับมาแย่งชิงสตรีที่ทำให้หัวใจที่เย็นชาของเขาเต้นรัวอีกคน! ความรู้สึกของการถูกทรยศและถูกทิ้งให้อยู่เดียวดายในวัยเด็กกลับมากัดกินเขาอีกครั้ง!

“เจ้า…ยังเก็บของของเขาไว้ทำไม!” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ร้าวรานที่สุด ไม่ใช่เสียงของจักรพรรดิ…แต่เป็นเสียงของบุรุษที่กำลังเจ็บปวดนี่คือโอกาสของเธอ! อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจสวมบทบาทฮองเฮาร่างเดิม ที่เห็นแก่ตัวและไร้เดียงสาในความรัก

“ฝ่าบาท…” เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจถึงความสำคัญของสร้อยคอ “หม่อมฉันเป็นใครเพคะ! หม่อมฉันเป็นฮองเฮา! หม่อมฉันคือบุตรสาวของเสนาบดีอวิ๋น! องค์ชายสิบสามทรงมอบให้ก็เพราะมันเป็นสร้อยหยกเนื้อดีเท่านั้น และเมื่อมันงดงามและมีราคา หม่อมฉันก็ย่อมเก็บไว้เป็นธรรมดาเพคะ! นี่มันเป็นเรื่องของผู้หญิงกับเครื่องประดับ! ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักสักหน่อย!”

“สร้อยของท่านอ๋อง! ไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า ‘สร้อยคอธรรมดา’ เส้นหนึ่งสำหรับหม่อมฉันเพคะ! หม่อมฉันเก็บไว้เพราะมันมีค่าและสวยงาม…เหมือนกับที่หม่อมฉันเก็บผ้าไหมดี ๆ ไว้ในหีบเท่านั้น! เพราะความจริงแล้ว… คนเดียวที่หม่อมฉันอยากให้ความสนใจที่สุด…คือฝ่าบาทเพคะ!”

คำพูดที่ห่างไกลจากความจริง แต่กลับสอดคล้องกับบุคลิกเดิมของฮองเฮา และความคิดที่ต้องการพิชิตเขา! มันทำให้ความโกรธของอวี้เหยียนชะงัก! เขาพยายามค้นหาการโกหกในดวงตาของเธอ…แต่พบเพียงความมุ่งมั่นที่ต้องการให้ความสนใจของเขาหยุดอยู่ที่เธอเท่านั้น!

[ติ๊ง! ยุทธศาสตร์สำเร็จ! จักรพรรดิอวี้เหยียนไม่สามารถหาความไม่จริงใจได้!

ระดับความริษยาลดลง 10% (แต่ยังอยู่ในระดับอันตราย!)]

“ไร้สาระ!” อวี้เหยียนยังคงไม่ยอมเชื่อทั้งหมด เขาใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการและความไม่ไว้วางใจจ้องมองสร้อยหยกนั้น เขาไม่สามารถปล่อยให้สัญลักษณ์แห่งความห่วงใยขององค์ชายสิบสามยังอยู่บนกายของสตรีที่เขาเพิ่งประกาศสิทธิ์ในการครอบครองได้!

เขาเงื้อสร้อยหยกนั้นขึ้นเหนือศีรษะ!“ในเมื่อมันเป็นเพียงเครื่องประดับที่ไร้ความหมาย!” อวี้เหยียนกล่าวเสียงต่ำ เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “ข้าจะทำลายมัน!”

“ไม่ได้นะ!” อวิ๋นซินเยว่กรีดร้อง เธอรู้โดยสัญชาตญาณว่าต้องห้ามเขา เธอไม่รู้ว่ามันคือยาพิษ แต่เธอจำได้ว่าองค์ชายสิบสามมีความรู้สึกที่ดีต่อฮองเฮาคนก่อน และสร้อยนี้อาจเป็นสิ่งสำคัญที่เธอต้องใช้ในอนาคต!

แต่เธอช้าไป!

เพล้ง!

อวี้เหยียนออกแรงบีบสร้อยหยกด้วยความเกรี้ยวกราด สร้อยหยกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ จี้หยกที่แตกละเอียดเผยให้เห็น ผงสีดำสนิทที่ไหลออกมา พร้อมกับกลิ่นฉุนที่รุนแรงและอันตรายที่ลอยคลุ้งไปทั่วห้องบรรทม! ยาพิษที่ร้ายแรงที่สุดในแคว้นอวี้! ผงยาที่สามารถสังหารคนทั้งกองทัพได้ในระยะประชิด!

อวี้เหยียนและอวิ๋นซินเยว่นิ่งค้างไปพร้อมกัน แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง !อวิ๋นซินเยว่ตกตะลึงจนตัวแข็ง เธอเห็นภาพความทรงจำได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่องค์ชายสิบสามให้มาเพื่อป้องกันตัวแต่การที่องค์จักรพรรดิเห็นยาพิษในตอนนี้…มันจะกลายเป็น หลักฐานการทรยศต่อราชบัลลังก์!

ตอนนี้ใบหน้าของอวี้เหยียนเปลี่ยนเป็นสีดำทะมึน ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธที่ถึงขีดสุด ความรู้สึกทั้งหมดที่เขาเคยมีต่อเธอ…หายไปหมดสิ้น เหลือเพียงความรู้สึกของการถูกทรยศหักหลังครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต!

นี่ไม่ใช่แค่ความริษยา…แต่มันคือการวางแผนปลงพระชนม์!

“ยาพิษ!” พระองค์คำรามเสียงต่ำ ทุกคำเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเชื่อมั่นในความจริงที่น่ากลัวที่สุด

“องค์ชายสิบสาม! ให้ยาพิษกับเจ้า! แล้วเจ้า...ยังเก็บมันไว้ข้างกาย! เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่! เจ้าเก็บมันไว้เพื่อสังหารข้า! หรือ…เก็บไว้เพื่อฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความภักดีต่อมัน!”อวี้เหยียนไม่ให้โอกาสเธอตอบ! เขาคว้าข้อมือของเธออย่างรุนแรงจนเธอเจ็บ! กระชากร่างของเธอเข้ามาใกล้!

“ตอบข้ามา! ฮองเฮา! ความรักที่เจ้าเคยแสดงออกมาทั้งหมด…คือแผนการอันชั่วร้ายที่องค์ชายสิบสามวางไว้ให้เจ้าใช่หรือไม่!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   22

    ค่ำคืนนั้นวังทั้งวังเหมือนกลายเป็นทะเลสาบแข็ง ไม่มีลม ไม่มีเสียงก้าวเท้าเพียงเสียงพู่กันของเธอที่ลากผ่านแผ่นผ้าไหมทีละเส้นอวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว เปลวเทียนส่องแสงอุ่นที่ปลายโต๊ะ กลีบเหมยขาวหล่นหนึ่งกลีบ วางอยู่ข้างถ้วยชาเย็นชืด[บันทึกภารกิจ: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมาย “จักรพรรดิอวี้เหยียน”][อัตราความสับสนทางอารมณ์: 47%][สถานะ: ไม่คงที่]เสียงเสี่ยวหลิงดังขึ้นเหมือนเคย แต่ในความปกตินั้น มีบางอย่างแปลกไป...เล็กน้อยเกินจะบอกได้“เสี่ยวหลิง” ซินเยว่วางพู่กันลง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”[ข้อมูลจากระบบวัดโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสงสัยความแม่นยำ]น้ำเสียงมันเหมือนเดิมแต่มี โทนสูงขึ้นครึ่งจังหวะ ตอนพูดคำว่า “สงสัย” เธอขมวดคิ้วบาง ๆ“แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่าระดับของเขาไม่เกินสามสิบห้า”[ฐานข้อมูลอัปเดตอัตโนมัติ...ตามพฤติกรรมล่าสุดของเป้าหมาย]“ล่าสุด?” เธอพึมพำ “หมายถึง...วันนี้?”[ยามเที่ยง วันนี้...ฝ่าบาททอดพระเนตรภาพเหมยขาวในแจกันระดับอารมณ์แปรปรวนขึ้นสิบสองเปอร์เซ็นต์]"ภาพเหมยขาว?” เธอก้มมองแจกันตรงหน้า กลีบดอกที่ร่วงจากกิ่งนั้นมีอยู่แค่หนึ่งกลีบ[ระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   21

    ยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสูง ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางในชุดทางการสีดำแดง อวี้เหยียนประทับอยู่เบื้องบน แสงเช้าสะท้อนบนฉลองพระองค์ทองเข้มจนแสบตา ใต้แสงนั้น พระเนตรคมเหมือนคมมีด ไม่มีใครกล้ามองตรง ๆ เลยสักคนเดียว “เริ่มประชุม” พระสุรเสียงเย็นเรียบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายคำนับ “กราบทูลฝ่าบาทรายงานข่าวจากชายแดนเหนือ พบว่ากองทัพของเสนาบดีอวิ๋นเคลื่อนกำลังเกินแนวลาดตระเวนตามสัญญา...จึงขอพระราชทานอนุญาตตรวจสอบให้ละเอียดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังในหมู่ขุนนาง “ข่าวแน่นะ?” “ใช่ ข้าก็ได้ยินว่าตระกูลอวิ๋นมีการเก็บเสบียงเพิ่ม" แต่ก่อนเสียงจะขยายออกไป ประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงก็ถูกผลักเปิดออก ปัง! เสียงนั้นดังพอให้ทุกคนหันมองและสิ่งที่เห็น...ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ ร่างสะโอดสะองในชุดผ้าแพรสีงาช้าง ก้าวเข้ามาช้า ๆ ใบหน้างามนั้นสงบ แววตาแน่วแน่ ทุกฝีเท้าเต็มไปด้วยความตั้งใจ ปนความท้าทาย “ฮองเฮา!?” “พระองค์ทรง..” "นางมาทำอะไรที่นี่" "นี่มันผิดธรรมเนียมนะ ใครปล่อยให้พระนางเข้ามา" เสียงขุนนางหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน เหวินหรงแทบจะถลาออกมา “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่..” “ท้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   20

    สายลมต้นฤดูหนาวพัดกรูเข้ามาตามเฉลียง ธงราชสำนักปลิวแรงจนผ้าสีทองสะบัดเหมือนเปลวเพลิง ขันทีหลวงคุกเข่ากลางโถงตำหนักคุนหนิง เสียงประกาศก้องดังสะท้อน “พระราชโองการจากฝ่าบาท ให้ซูกุ้ยเฟยเป็นผู้ดูแลกิจการวังหลังทั้งหมด จนกว่าฮองเฮาจะฟื้นพระพลานามัยอย่างสมบูรณ์ พระราชโองการนี้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!” เสียงแผ่นทองคำสลักพระนามกระทบกันเบา ๆ เงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่บนตั่งไม้หอม ดวงหน้าสงบจนผิดธรรมชาติ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางกำนัลสองคนที่คอยอยู่ข้างหลังเริ่มตัวสั่น “ฝ่าบาท...หมายความว่า...” เสียงพวกนางขาดหายเมื่อฮองเฮามองมาททงพวกนาง “วังนี้ช่างเมตตานัก” เธอพูดเสียงเรียบ “ข้าเพียงล้มป่วยไม่กี่วัน ก็มีคนมาช่วยแบ่งภาระ” ขันทีที่ถือพระราชโองการอยู่แทบกลั้นหายใจ ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีถ้วยชาแตก ไม่มีคำปฏิเสธ มีเพียงรอยยิ้มบางบนริมฝีปากที่สงบจนน่ากลัว “ถวายพระพรฝ่าบาท” เธอกล่าวช้า ๆ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” เสียงของเธออ่อนโยน แต่แววตาในยามที่มองพระราชโองการนั้นเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำแข็ง ราวกับเธอมองกระดาษทองคำแผ่นนั้นเป็นเพียง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   19

    เสียงฝนหยุดลงในยามเกือบรุ่งเหลือเพียงกลิ่นดินชื้นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหมยขาวที่ยังติดอยู่ในอากาศ เงาในตำหนักหลวงยาวเหยียด และพระองค์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหวินหรงก้าวเข้ามาช้า ๆ “ฝ่าบาท...ทรงควรเปลี่ยนฉลองพระองค์พ่ะย่ะค่ะ ฝนหยุดแล้ว” ไม่มีคำตอบ เพียงพระหัตถ์ที่ยกขึ้นช้า ๆ มองรอยเลือดบนฝ่ามือของตนเอง รอยที่เกิดจากเล็บจิกแน่นเมื่อครู่ หยดเลือดเล็ก ๆ ตกลงบนพื้นหิน เย็นและหนักเหมือนความเงียบที่กดทับอยู่ในอก “เหวินหรง” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เจ้ารู้ไหม...ตอนที่นางพูดว่า ‘หม่อมฉันเพียงไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่าบาทไม่ไว้ใจ’” พระสุรเสียงนั้นเบา ราวกระซิบให้ตัวเองฟัง “ข้ารู้สึก...เหมือนถูกใครสักคนบีบคอ” เหวินหรงนิ่งงัน “ฝ่าบาท...นางพูดด้วยใจจริงพ่ะย่ะค่ะ” “ใจจริงงั้นหรือ” อวี้เหยียนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นขมจนเจ็บ “ใจจริงของนาง...หรือใจของข้าที่อยากเชื่อจนโง่” พระองค์ทรุดลงนั่งบนขั้นบัลลังก์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งจับขมับ “เหวินหรง เจ้าเคยรู้ไหม เวลาคนพยายามไม่รู้สึกอะไร...มันเหนื่อยยิ่งกว่าการแสดงออกไปตรง ๆ มันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” “พ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเฒ่าก้มต่ำ “ข้าคือจักรพรรดิ.

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   18

    อวิ๋นซินเยว่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอจะเสียใจขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยวหลิงทักนั่นเอง เธอถึงได้รู้สึกตัว [หม่าม๊า ร้องไห้ทำไมครับ] เด็กชายในรูปลักษณ์โฮโลแกรมลอยเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาวที่ขณะนี้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปจากดวงตาและใบหน้าของตัวเองอย่างลวก ๆ "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" [ถ้าหากหม่าม๊าหมายถึงฝ่าบาทแล้วล่ะก็ ผมจะตรวจสอบให้ครับ ... .. . สถานะความชอบ 5 แต้ม ความไว้วางใจ -1 มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของร่างโฮสต์ที่หม่าม้าอยู่ตอนนี้ครับ] "อันตรายมากจริง ๆ เฮ้ออ ถึงแม้ว่าฉันจะมาอยู่ได้ไม่นาน และยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาที่เป็นครอบครัวของฮองเฮาเลยสักนิด แต่จากที่อยู่ในร่างนี้และโลกนี้มา นางก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าจะผิด ก็ผิดที่เลือกสามีผิดล่ะนะ" [หม่าม๊าจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ หญิงสาวในยุคนี้ไม่ได้เหมือนหญิงสาวในยุคของหม่าม๊า พวกนางไม่สามารถเลือกชีวิตตนเองได้ ครอบครัวอย่างพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ และผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง] "เฮ้ออ เอาเถอะ มาคิดหาทางรอดให้พวกเขากันดีกว่า ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ไม้แข็งเลยละกัน" อวิ๋นซินเยว่พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   17

    ความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก เสียงพระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนยังสะท้อนอยู่ในหัว ของอวิ๋นซินเยว่ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ “ข้าไม่เคยไว้ใจนาง...ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง” เพียงคำเดียว...อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ เสี่ยวหลิงส่งเสียงในหัวทันที [ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78%] [คำเตือน: หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น 10 หน่วย ภารกิจ “ฟื้นฟูพระเอก” จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว] อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว “ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “หนูคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของหนูเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status