Share

14

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-11-03 20:47:09

กลิ่นฉุนของผงยาพิษยังคงคละคลุ้งไปทั่วห้องบรรทม ความเร่าร้อนและความต้องการที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาที่น่ากลัวกว่าน้ำแข็ง ความรักที่อวี้เหยียนเพิ่งจะยอมรับถูกหักหลังอย่างรุนแรงที่สุด!

“ตอบข้ามา!” อวี้เหยียนคำราม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากการถูกทรยศ เขาไม่สนใจแล้วว่าเธอจะเจ็บหรือไม่ เขาต้องการคำตอบเดียวเท่านั้น!

อวิ๋นซินเยว่รู้ดีว่าตอนนี้ ฮองเฮาคนเก่าถูกมัดด้วยข้อหา ‘สมคบคิดกับกบฏเพื่อปลงพระชนม์’! ซึ่งมีโทษสถานเดียวคือ ‘ประหารเจ็ดชั่วโคตร’!

[หม่าม๊า! ห้ามพูดความจริงเรื่องยาพิษเด็ดขาด!

ให้ใช้ความจริงที่‘องค์ชายสิบสามให้สร้อย’แต่ตีความว่ามันเป็น‘การข่มขู่’!เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของหม่าม๊า!] เสี่ยวหลิงส่งคำสั่งเร่งด่วนที่สุด

อวิ๋นซินเยว่พยายามรวบรวมสติ เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด และพยายามสร้างความรู้สึกหวาดกลัวอย่างจริงใจ

“ฝ่าบาท…พระองค์ทรงเชื่อว่าหม่อมฉันจะทำเช่นนั้นจริงหรือเพคะ!” เธอถามเสียงสั่นเครือ ราวกับถูกแทงด้วยความเจ็บปวดจากการถูกเข้าใจผิด

“หลักฐานอยู่ตรงหน้า! ยาพิษที่อยู่กับเจ้า! และความสัมพันธ์ลับกับองค์ชายสิบสาม! อย่าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องเครื่องประดับไร้ค่าของเจ้า! นี่คือแผนการของพวกเจ้า! ส่งเจ้าเข้ามาเพื่อใช้ตระกูลอวิ๋นสนับสนุนให้ข้าขึ้นครองบัลลังก์ แล้วจึงใช้สร้อยพิษนี้สังหารข้าในภายหลังใช่หรือไม่!”

อวี้เหยียนบีบคางของเธอแน่น “ตอบมา! สิ่งที่เจ้าแสดงออกทั้งหมด! ความอ่อนโยน! ความห่วงใย! คือการแสดงละครเพื่อเป้าหมายนี้ใช่หรือไม่!”

“ใช่! หม่อมฉันมีความสัมพันธ์กับองค์ชายสิบสาม!” อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจ เธอเลือกที่จะสารภาพ ‘ความจริงทางอารมณ์’ ในอดีตของเจ้าของร่างเดิม เพื่อทำลายความสงสัยเรื่อง ‘แผนปลงพระชนม์’!

คำสารภาพนั้นทำให้ร่างของอวี้เหยียนแข็งทื่อ ความเจ็บปวดจากความหึงหวงนั้นรุนแรงจนบดบังความโกรธเรื่องยาพิษไปชั่วขณะ

“แต่!” อวิ๋นซินเยว่กล่าวต่ออย่างรวดเร็ว “มันเป็นความสัมพันธ์ที่ ‘จบไปแล้ว’ ตั้งแต่ที่พระองค์ขึ้นครองราชย์! พระองค์ทรงรับหม่อมฉันเป็นพระชายาเอก หม่อมฉันก็ทำหน้าที่ของภรรยาเอกอย่างเต็มที่! และองค์ชายสิบสาม… ทรงมอบสร้อยนี้ให้หม่อมฉันเพื่อ ‘ข่มขู่’ ต่างหากเพคะ!”

อวี้เหยียนนิ่งงัน “ข่มขู่?”

“ใช่เพคะ!” อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจโกหกเพื่อให้รอด “องค์ชายสิบสามทราบดีว่าหม่อมฉันมีความทะเยอทะยาน! ทรงรู้ว่าหม่อมฉันต้องการตำแหน่งฮองเฮา! สร้อยนี้…มิใช่ยาพิษเพื่อสังหารพระองค์ แต่เป็น ‘ยาที่ให้หม่อมฉันฆ่าตัวตาย’ เพื่อรักษาความภักดีต่อตระกูลของหม่อมฉัน! หากหม่อมฉันคิดจะทรยศต่อพระองค์! ทรงรับสั่งให้หม่อมฉันใช้มันจบชีวิตตัวเองเพื่อป้องกันตระกูลถูกกำจัด! มันเป็น ‘โซ่ตรวนแห่งความภักดี’ ที่ทรงมอบให้! ไม่ใช่เครื่องมือลอบสังหาร!” เธอเน้นย้ำถึงโซ่ตรวนและความภักดีต่อตระกูลซึ่งเป็นสิ่งที่อวี้เหยียนเข้าใจโลกการเมืองนี้ดีที่สุด!

“หม่อมฉันไม่เคยคิดจะทรยศพระองค์! หม่อมฉันต้องการตำแหน่งฮองเฮา! หม่อมฉันทำทุกอย่างเพื่อเกียรติยศของตระกูลอวิ๋น! และการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมา…มิใช่เพื่อทำลายพระองค์! แต่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพระองค์! เพราะหม่อมฉันไม่ต้องการเป็นเพียงฮองเฮาไร้ค่า ที่ถูกลืมเลือนไปในวังหลังอันหนาวเหน็บนี้!”

คำพูดของอวิ๋นซินเยว่ฉลาดล้ำลึก เธอใช้ความจริงทางการเมืองของฮองเฮาคนเก่าเพื่อลบล้างความสงสัยเรื่องการเป็นกบฏ เธอทำให้สร้อยยาพิษกลายเป็นเพียงประกันชีวิตเพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลอวิ๋นถูกทำลาย

อวี้เหยียนปล่อยข้อมือของเธอ เขาหอบหายใจอย่างหนัก ความโกรธของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นความสับสนอีกครั้ง แต่ความเจ็บปวดเรื่องที่เธอมีความรู้สึกให้องค์ชายสิบสามนั้นยังคงกัดกินเขาอยู่

“แม้แต่ตอนนี้…เจ้าก็ยังโกหกข้า” เขาถามเสียงต่ำ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความริษยาที่ยังไม่ดับ

“หม่อมฉันไม่ได้โกหกเพคะ! หากหม่อมฉันคิดจะสังหารพระองค์จริง หม่อมฉันคงทำไปนานแล้ว! หม่อมฉันเป็นถึงฮองเฮา! หม่อมฉันมีโอกาสนับร้อยนับพัน! แต่สิ่งที่หม่อมฉันทำคือ…การทำซุปบำรุง! การส่งอาหารให้พระองค์! การพยายามทำให้พระองค์หันมามองหม่อมฉัน! หม่อมฉันต้องการความสนใจและ ความรัก ของพระองค์! นี่คือความจริงใจที่พระองค์เพิ่งเห็นเมื่อครู่! และทรงพยายามปฏิเสธมัน!”

อวี้เหยียนไม่สามารถหาจุดที่นางโกหกได้ การแสดงความต้องการทางอำนาจของเธอมันดูจริงใจในฐานะฮองเฮาคนเก่าที่ทะเยอทะยาน! และนั่นเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือกว่าความรักที่บริสุทธิ์

พระองค์ก้มลงไปเก็บผงยาพิษที่แตกกระจายบนพื้นอย่างรวดเร็ว มือของเขาเปื้อนผงยาพิษ! แต่เขาไม่สนใจ เขานำมันไปใส่ไว้ในถุงเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อ

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง” อวี้เหยียนกล่าวเสียงเย็น “สร้อยเส้นนี้…คือหลักฐานที่ชี้ว่าเจ้าทรยศต่อข้า และเจ้าถูก ‘ผูกมัด’ ด้วยคำข่มขู่ขององค์ชายสิบสาม ดังนั้น…ข้าจะกำจัด ‘พันธนาการ’ ที่ทำให้เจ้าหวาดกลัวนี้เอง!”

เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการครอบครองที่ไม่มีใครเทียบได้

“แต่นับจากนี้ไป! คนที่เจ้าต้องภักดี! คนที่เจ้าต้องมอบชีวิตให้! คือข้าเพียงผู้เดียว! เจ้าจะต้องพิสูจน์ความภักดีนี้ ด้วยการอยู่เคียงข้างข้า ทุกวัน! ทุกคืน! จนกว่าความภักดีของเจ้าจะมั่นคงจนทำให้ข้าไม่อาจสงสัยได้อีก!”

อวี้เหยียนดึงร่างของอวิ๋นซินเยว่เข้ามาในอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่กอดที่อ่อนโยน…แต่เป็นการพันธนาการ! ใบหน้าของเขาซบลงบนไหล่ของเธอ อารมณ์ทั้งหมดของเขายังคงสับสนและรุนแรง

“จำไว้! ฮองเฮา!” เขากระซิบเสียงต่ำข้างหูของเธอ “นี่คือบทลงโทษของเจ้า! โทษฐานที่กล้าทำให้ข้าเป็นเช่นนี้

“หากเจ้าคิดจะทรยศข้าอีกแม้แต่เพียงเสี้ยววินาที! ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายอย่างง่ายดายด้วยยาพิษขององค์ชายสิบสาม! แต่ข้าจะพันธนาการเจ้าไว้ด้วย ความเมตตาของข้าเอง! และเจ้าจะต้องอยู่เพื่อดูความพินาศของตระกูลอวิ๋นและองค์ชายสิบสามที่ยังซ่อนตัวอยู่ที่แดนเหนือ! เจ้าเข้าใจหรือไม่!”

อวิ๋นซินเยว่ตัวสั่นเทิ้ม! คำพูดของเขาไม่ใช่เพียงแค่การขู่…แต่มันคือคำสัญญาที่น่ากลัวที่สุด! ความคลั่งรักของเขากำลังจะกลายเป็นโซ่ตรวนที่พันธนาการเธอไว้!

[ติ๊ง! คำเตือน! ระดับความคลั่งรัก(PossessiveLove)ของฝ่าบาทถึงขีดสุด!

มิชชันหลัก:กล่อมเกลาความรัก…ล้มเหลว!

มิชชันใหม่เปิดใช้งาน: ภารกิจกู้โลกเข้าสู่โหมด พันธนาการรัก(ChainedAffection)

เป้าหมายคือ:กล่อมเกลาความคลั่งรักของพระเอกให้กลับมาเป็นความรักที่บริสุทธิ์(PureLove)ภายใน50วัน!]

“ห้าสิบวัน!” อวิ๋นซินเยว่กรีดร้องในใจ เวลาของเธอกระชั้นชิดลงอย่างน่ากลัว! เธอถูกพันธนาการไว้กับจักรพรรดิทรราชผู้คลั่งรักแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   22

    ค่ำคืนนั้นวังทั้งวังเหมือนกลายเป็นทะเลสาบแข็ง ไม่มีลม ไม่มีเสียงก้าวเท้าเพียงเสียงพู่กันของเธอที่ลากผ่านแผ่นผ้าไหมทีละเส้นอวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว เปลวเทียนส่องแสงอุ่นที่ปลายโต๊ะ กลีบเหมยขาวหล่นหนึ่งกลีบ วางอยู่ข้างถ้วยชาเย็นชืด[บันทึกภารกิจ: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมาย “จักรพรรดิอวี้เหยียน”][อัตราความสับสนทางอารมณ์: 47%][สถานะ: ไม่คงที่]เสียงเสี่ยวหลิงดังขึ้นเหมือนเคย แต่ในความปกตินั้น มีบางอย่างแปลกไป...เล็กน้อยเกินจะบอกได้“เสี่ยวหลิง” ซินเยว่วางพู่กันลง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”[ข้อมูลจากระบบวัดโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสงสัยความแม่นยำ]น้ำเสียงมันเหมือนเดิมแต่มี โทนสูงขึ้นครึ่งจังหวะ ตอนพูดคำว่า “สงสัย” เธอขมวดคิ้วบาง ๆ“แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่าระดับของเขาไม่เกินสามสิบห้า”[ฐานข้อมูลอัปเดตอัตโนมัติ...ตามพฤติกรรมล่าสุดของเป้าหมาย]“ล่าสุด?” เธอพึมพำ “หมายถึง...วันนี้?”[ยามเที่ยง วันนี้...ฝ่าบาททอดพระเนตรภาพเหมยขาวในแจกันระดับอารมณ์แปรปรวนขึ้นสิบสองเปอร์เซ็นต์]"ภาพเหมยขาว?” เธอก้มมองแจกันตรงหน้า กลีบดอกที่ร่วงจากกิ่งนั้นมีอยู่แค่หนึ่งกลีบ[ระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   21

    ยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสูง ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางในชุดทางการสีดำแดง อวี้เหยียนประทับอยู่เบื้องบน แสงเช้าสะท้อนบนฉลองพระองค์ทองเข้มจนแสบตา ใต้แสงนั้น พระเนตรคมเหมือนคมมีด ไม่มีใครกล้ามองตรง ๆ เลยสักคนเดียว “เริ่มประชุม” พระสุรเสียงเย็นเรียบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายคำนับ “กราบทูลฝ่าบาทรายงานข่าวจากชายแดนเหนือ พบว่ากองทัพของเสนาบดีอวิ๋นเคลื่อนกำลังเกินแนวลาดตระเวนตามสัญญา...จึงขอพระราชทานอนุญาตตรวจสอบให้ละเอียดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังในหมู่ขุนนาง “ข่าวแน่นะ?” “ใช่ ข้าก็ได้ยินว่าตระกูลอวิ๋นมีการเก็บเสบียงเพิ่ม" แต่ก่อนเสียงจะขยายออกไป ประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงก็ถูกผลักเปิดออก ปัง! เสียงนั้นดังพอให้ทุกคนหันมองและสิ่งที่เห็น...ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ ร่างสะโอดสะองในชุดผ้าแพรสีงาช้าง ก้าวเข้ามาช้า ๆ ใบหน้างามนั้นสงบ แววตาแน่วแน่ ทุกฝีเท้าเต็มไปด้วยความตั้งใจ ปนความท้าทาย “ฮองเฮา!?” “พระองค์ทรง..” "นางมาทำอะไรที่นี่" "นี่มันผิดธรรมเนียมนะ ใครปล่อยให้พระนางเข้ามา" เสียงขุนนางหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน เหวินหรงแทบจะถลาออกมา “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่..” “ท้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   20

    สายลมต้นฤดูหนาวพัดกรูเข้ามาตามเฉลียง ธงราชสำนักปลิวแรงจนผ้าสีทองสะบัดเหมือนเปลวเพลิง ขันทีหลวงคุกเข่ากลางโถงตำหนักคุนหนิง เสียงประกาศก้องดังสะท้อน “พระราชโองการจากฝ่าบาท ให้ซูกุ้ยเฟยเป็นผู้ดูแลกิจการวังหลังทั้งหมด จนกว่าฮองเฮาจะฟื้นพระพลานามัยอย่างสมบูรณ์ พระราชโองการนี้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!” เสียงแผ่นทองคำสลักพระนามกระทบกันเบา ๆ เงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่บนตั่งไม้หอม ดวงหน้าสงบจนผิดธรรมชาติ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางกำนัลสองคนที่คอยอยู่ข้างหลังเริ่มตัวสั่น “ฝ่าบาท...หมายความว่า...” เสียงพวกนางขาดหายเมื่อฮองเฮามองมาททงพวกนาง “วังนี้ช่างเมตตานัก” เธอพูดเสียงเรียบ “ข้าเพียงล้มป่วยไม่กี่วัน ก็มีคนมาช่วยแบ่งภาระ” ขันทีที่ถือพระราชโองการอยู่แทบกลั้นหายใจ ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีถ้วยชาแตก ไม่มีคำปฏิเสธ มีเพียงรอยยิ้มบางบนริมฝีปากที่สงบจนน่ากลัว “ถวายพระพรฝ่าบาท” เธอกล่าวช้า ๆ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” เสียงของเธออ่อนโยน แต่แววตาในยามที่มองพระราชโองการนั้นเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำแข็ง ราวกับเธอมองกระดาษทองคำแผ่นนั้นเป็นเพียง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   19

    เสียงฝนหยุดลงในยามเกือบรุ่งเหลือเพียงกลิ่นดินชื้นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหมยขาวที่ยังติดอยู่ในอากาศ เงาในตำหนักหลวงยาวเหยียด และพระองค์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหวินหรงก้าวเข้ามาช้า ๆ “ฝ่าบาท...ทรงควรเปลี่ยนฉลองพระองค์พ่ะย่ะค่ะ ฝนหยุดแล้ว” ไม่มีคำตอบ เพียงพระหัตถ์ที่ยกขึ้นช้า ๆ มองรอยเลือดบนฝ่ามือของตนเอง รอยที่เกิดจากเล็บจิกแน่นเมื่อครู่ หยดเลือดเล็ก ๆ ตกลงบนพื้นหิน เย็นและหนักเหมือนความเงียบที่กดทับอยู่ในอก “เหวินหรง” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เจ้ารู้ไหม...ตอนที่นางพูดว่า ‘หม่อมฉันเพียงไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่าบาทไม่ไว้ใจ’” พระสุรเสียงนั้นเบา ราวกระซิบให้ตัวเองฟัง “ข้ารู้สึก...เหมือนถูกใครสักคนบีบคอ” เหวินหรงนิ่งงัน “ฝ่าบาท...นางพูดด้วยใจจริงพ่ะย่ะค่ะ” “ใจจริงงั้นหรือ” อวี้เหยียนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นขมจนเจ็บ “ใจจริงของนาง...หรือใจของข้าที่อยากเชื่อจนโง่” พระองค์ทรุดลงนั่งบนขั้นบัลลังก์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งจับขมับ “เหวินหรง เจ้าเคยรู้ไหม เวลาคนพยายามไม่รู้สึกอะไร...มันเหนื่อยยิ่งกว่าการแสดงออกไปตรง ๆ มันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” “พ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเฒ่าก้มต่ำ “ข้าคือจักรพรรดิ.

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   18

    อวิ๋นซินเยว่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอจะเสียใจขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยวหลิงทักนั่นเอง เธอถึงได้รู้สึกตัว [หม่าม๊า ร้องไห้ทำไมครับ] เด็กชายในรูปลักษณ์โฮโลแกรมลอยเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาวที่ขณะนี้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปจากดวงตาและใบหน้าของตัวเองอย่างลวก ๆ "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" [ถ้าหากหม่าม๊าหมายถึงฝ่าบาทแล้วล่ะก็ ผมจะตรวจสอบให้ครับ ... .. . สถานะความชอบ 5 แต้ม ความไว้วางใจ -1 มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของร่างโฮสต์ที่หม่าม้าอยู่ตอนนี้ครับ] "อันตรายมากจริง ๆ เฮ้ออ ถึงแม้ว่าฉันจะมาอยู่ได้ไม่นาน และยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาที่เป็นครอบครัวของฮองเฮาเลยสักนิด แต่จากที่อยู่ในร่างนี้และโลกนี้มา นางก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าจะผิด ก็ผิดที่เลือกสามีผิดล่ะนะ" [หม่าม๊าจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ หญิงสาวในยุคนี้ไม่ได้เหมือนหญิงสาวในยุคของหม่าม๊า พวกนางไม่สามารถเลือกชีวิตตนเองได้ ครอบครัวอย่างพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ และผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง] "เฮ้ออ เอาเถอะ มาคิดหาทางรอดให้พวกเขากันดีกว่า ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ไม้แข็งเลยละกัน" อวิ๋นซินเยว่พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   17

    ความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก เสียงพระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนยังสะท้อนอยู่ในหัว ของอวิ๋นซินเยว่ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ “ข้าไม่เคยไว้ใจนาง...ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง” เพียงคำเดียว...อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ เสี่ยวหลิงส่งเสียงในหัวทันที [ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78%] [คำเตือน: หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น 10 หน่วย ภารกิจ “ฟื้นฟูพระเอก” จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว] อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว “ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “หนูคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของหนูเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status