Share

2

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-08-13 19:40:51

เสียงโลหะเสียดสีกันดัง แกร๊ก... ก้องสะท้อนในความเงียบ

หลินซินเยว่เบิกตากว้าง หัวใจเต้นถี่รัวราวกลองศึก

จากเงามืดเบื้องหลังม่านผ้าแพรแดง สายตาคมดุราวสัตว์ป่าก็ปรากฏขึ้น

ร่างชายชุดดำพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวปีศาจร้าย เงาของดาบคมวาววับสะท้อนกับแสงตะเกียง

เป้าหมายนั้นชัดเจน: คอของเธอ!

“กรี๊ดดดดด!!”

เสียงกรีดร้องของนางกำนัลดังสนั่นไปทั่วตำหนัก ร่างเล็ก ๆ พากันวิ่งหนีตายจนล้มลุกคลุกคลาน ต่างพากันหนีเอาตัวรอดด้วยความตกใจกลัวสุดขีด

[ระบบ: แจ้งเตือนอันตราย! อัตรารอดชีวิตใน 3 นาทีข้างหน้า = 12%]

“12% บ้าอะไร๊! นี่มันน้อยกว่าคะแนนสอบคณิตของฉันอีกนะ!!”

มือสังหารก้าวย่างเข้ามาอีก กลิ่นเหล็กจากดาบแผ่ความเย็นยะเยือกจนซึมเข้ากระดูก

หลินซินเยว่ถอยกรูดหลังแทบติดผนัง มองซ้ายมองขวา...สิ่งเดียวที่อยู่ใกล้มือคือ หมอนอิงปักดิ้นทอง

“ตายแน่ ๆ นี่มันไม่ใช่ Hunger Games แต่เป็น Final Destination ต่างหาก!”

นางคว้าหมอนขึ้นมาฟาดใส่หน้าคนชุดดำสุดแรง หมอนนั้นกระแทกดาบดัง เคร้ง! พอให้คมมีดเฉียดปลายเส้นผมของเธอไป

[ระบบ: คะแนนเอาตัวรอด +1 แต่ความน่าขันพุ่งถึงขีดสุด]

“นี่มันเวลามาล้อเล่นเรอะ!”

มือสังหารขยับตัวอีกครั้ง รวดเร็วราวกับพยัคฆ์ตะครุบเหยื่อ

ในจังหวะที่ปลายดาบกำลังจะฝังลึกลงบนร่างเธอ

เสียงแผ่วต่ำเย็นเยียบก็ดังขึ้นตรงประตูตำหนัก

“...ใครกล้ามาแตะต้องฮองเฮาของเรา”

เงายาวทอดเข้ามาในห้อง ก่อนที่ขันทีและทหารองครักษ์หลายสิบบุกเข้ามาล้อม มือสังหารชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังพุ่งเข้าหาเธอเป็นครั้งสุดท้าย

“ตายซะ!”

หลินซินเยว่หลับตาปี๋ รอความตายที่จะมาถึง

เคร้ง!

เสียงดาบกระทบกันดังก้องสะท้อน แรงปะทะสะเทือนจนแสงตะเกียงดับวูบ

เมื่อเธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่เห็นคือ...

จักรพรรดิอวี้เหยียนกำลังยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมกริบจ้องศัตรูไม่กะพริบ ดาบในพระหัตถ์ปัดคมมีดของมือสังหารออกอย่างเฉียบขาด

เพียงหนึ่งกระบวนท่ามือสังหารก็ถูกสยบ นอนแน่นิ่งอยู่แทบเท้า

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในอากาศ...

เธอยังคงหอบหายใจถี่รัวไม่หยุด ขาทั้งสองแทบไร้เรี่ยวแรงจนยืนไม่อยู่

แผ่นหลังกว้างนั้นบดบังทุกสิ่งจากสายตาเธอ

เสียงพระสุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้...กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ต่างออกไป

“...เราบอกแล้วใช่หรือไม่ ว่าตำหนักคุนหนิงของเจ้า...คือแหล่งปัญหา”

สายตาเฉียบคมคู่นั้นปรายมองเธอเพียงชั่ววูบ

หลินซินเยว่ถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้ทันทีว่า...

คืนนี้ยังไม่ใช่ตอนจบของฝันร้าย แต่เพิ่งเป็น การเริ่มต้นของเกมอันตรายระหว่างเธอกับจักรพรรดิผู้เย็นชาเท่านั้น...

(มุมมองจักรพรรดิอวี้เหยียน

เสียงกรีดร้องดังไปทั่วตำหนักคุนหนิง

กลิ่นคาวเลือดปะปนกับกลิ่นชาดอกเหมยชวนคลื่นเหียน แต่สิ่งที่สะกิดความรู้สึกของอวี้เหยียนไม่ใช่กลิ่นเลือด... หากเป็นเสียงร้องโหยหวนของสตรีที่ผู้คนต่างขานเรียกว่า ฮองเฮา

ในยามที่คมดาบกำลังจะฉีกผ่านลำคอของนางนั้นเอง

หัวใจที่เขาคิดว่าตายด้านไปแล้วกลับสะท้านราวถูกสายฟ้าฟาด!

ร่างกายขยับเร็วกว่าความคิด เขาก้าวเข้าไปขวางโดยไม่ทันชั่งน้ำหนักผลลัพธ์ใด ๆ

ฉึบ!

เสียงโลหะเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ ดาบในมือของเขาปัดแรงโจมตีออกไปอย่างง่ายดาย

ชายชุดดำล้มแน่นิ่งแทบเท้าของเขาภายในพริบตา

สายตาของอวี้เหยียนกวาดผ่านเลือดบนพื้น ก่อนหยุดลงตรงหญิงสาวร่างบางที่ทรุดกายลง หอบหายใจถี่รัว ริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้างดงามซีดเผือด แต่ยังฝืนสบตากับเขา ดวงตาคู่นั้น...เต็มไปด้วยความตื่นกลัว

หัวใจเขากระตุกวูบอีกครั้ง

ความรู้สึกบางอย่างพุ่งวาบขึ้นมาในอก อันตรายกว่าคมดาบใด ๆ

“...เราบอกแล้วใช่หรือไม่ ว่าตำหนักคุนหนิงของเจ้า คือแหล่งปัญหา”

ถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาที่เขาจำต้องปิดล็อคหัวใจตัวเองอย่างแน่นหนา

แต่ภายใน เขาเองกลับไม่เข้าใจว่าทำไมถึงหงุดหงิดนัก

หงุดหงิด…ที่เห็นนางเกือบถูกพรากลมหายใจต่อหน้า

หงุดหงิด…ที่เห็นดวงตานั้นสั่นไหวเพราะความกลัว ไม่ใช่เพราะเขา...แต่เพราะคนอื่น

เขากัดฟันกรอด ข่มอารมณ์ที่ตีวนอยู่ภายใน

นางไม่ใช่คนสำคัญอะไร ไม่ควรมีผลอะไรต่อความคิดและจิตใจของเขา

ทว่าภาพนางที่ทรุดลงกับพื้นยังคงติดตา ราวตรึงไว้ในจิตใจ

...น่าชิงชังนัก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   22

    ค่ำคืนนั้นวังทั้งวังเหมือนกลายเป็นทะเลสาบแข็ง ไม่มีลม ไม่มีเสียงก้าวเท้าเพียงเสียงพู่กันของเธอที่ลากผ่านแผ่นผ้าไหมทีละเส้นอวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว เปลวเทียนส่องแสงอุ่นที่ปลายโต๊ะ กลีบเหมยขาวหล่นหนึ่งกลีบ วางอยู่ข้างถ้วยชาเย็นชืด[บันทึกภารกิจ: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมาย “จักรพรรดิอวี้เหยียน”][อัตราความสับสนทางอารมณ์: 47%][สถานะ: ไม่คงที่]เสียงเสี่ยวหลิงดังขึ้นเหมือนเคย แต่ในความปกตินั้น มีบางอย่างแปลกไป...เล็กน้อยเกินจะบอกได้“เสี่ยวหลิง” ซินเยว่วางพู่กันลง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”[ข้อมูลจากระบบวัดโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสงสัยความแม่นยำ]น้ำเสียงมันเหมือนเดิมแต่มี โทนสูงขึ้นครึ่งจังหวะ ตอนพูดคำว่า “สงสัย” เธอขมวดคิ้วบาง ๆ“แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่าระดับของเขาไม่เกินสามสิบห้า”[ฐานข้อมูลอัปเดตอัตโนมัติ...ตามพฤติกรรมล่าสุดของเป้าหมาย]“ล่าสุด?” เธอพึมพำ “หมายถึง...วันนี้?”[ยามเที่ยง วันนี้...ฝ่าบาททอดพระเนตรภาพเหมยขาวในแจกันระดับอารมณ์แปรปรวนขึ้นสิบสองเปอร์เซ็นต์]"ภาพเหมยขาว?” เธอก้มมองแจกันตรงหน้า กลีบดอกที่ร่วงจากกิ่งนั้นมีอยู่แค่หนึ่งกลีบ[ระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   21

    ยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสูง ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางในชุดทางการสีดำแดง อวี้เหยียนประทับอยู่เบื้องบน แสงเช้าสะท้อนบนฉลองพระองค์ทองเข้มจนแสบตา ใต้แสงนั้น พระเนตรคมเหมือนคมมีด ไม่มีใครกล้ามองตรง ๆ เลยสักคนเดียว “เริ่มประชุม” พระสุรเสียงเย็นเรียบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายคำนับ “กราบทูลฝ่าบาทรายงานข่าวจากชายแดนเหนือ พบว่ากองทัพของเสนาบดีอวิ๋นเคลื่อนกำลังเกินแนวลาดตระเวนตามสัญญา...จึงขอพระราชทานอนุญาตตรวจสอบให้ละเอียดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังในหมู่ขุนนาง “ข่าวแน่นะ?” “ใช่ ข้าก็ได้ยินว่าตระกูลอวิ๋นมีการเก็บเสบียงเพิ่ม" แต่ก่อนเสียงจะขยายออกไป ประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงก็ถูกผลักเปิดออก ปัง! เสียงนั้นดังพอให้ทุกคนหันมองและสิ่งที่เห็น...ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ ร่างสะโอดสะองในชุดผ้าแพรสีงาช้าง ก้าวเข้ามาช้า ๆ ใบหน้างามนั้นสงบ แววตาแน่วแน่ ทุกฝีเท้าเต็มไปด้วยความตั้งใจ ปนความท้าทาย “ฮองเฮา!?” “พระองค์ทรง..” "นางมาทำอะไรที่นี่" "นี่มันผิดธรรมเนียมนะ ใครปล่อยให้พระนางเข้ามา" เสียงขุนนางหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน เหวินหรงแทบจะถลาออกมา “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่..” “ท้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   20

    สายลมต้นฤดูหนาวพัดกรูเข้ามาตามเฉลียง ธงราชสำนักปลิวแรงจนผ้าสีทองสะบัดเหมือนเปลวเพลิง ขันทีหลวงคุกเข่ากลางโถงตำหนักคุนหนิง เสียงประกาศก้องดังสะท้อน “พระราชโองการจากฝ่าบาท ให้ซูกุ้ยเฟยเป็นผู้ดูแลกิจการวังหลังทั้งหมด จนกว่าฮองเฮาจะฟื้นพระพลานามัยอย่างสมบูรณ์ พระราชโองการนี้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!” เสียงแผ่นทองคำสลักพระนามกระทบกันเบา ๆ เงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่บนตั่งไม้หอม ดวงหน้าสงบจนผิดธรรมชาติ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางกำนัลสองคนที่คอยอยู่ข้างหลังเริ่มตัวสั่น “ฝ่าบาท...หมายความว่า...” เสียงพวกนางขาดหายเมื่อฮองเฮามองมาททงพวกนาง “วังนี้ช่างเมตตานัก” เธอพูดเสียงเรียบ “ข้าเพียงล้มป่วยไม่กี่วัน ก็มีคนมาช่วยแบ่งภาระ” ขันทีที่ถือพระราชโองการอยู่แทบกลั้นหายใจ ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีถ้วยชาแตก ไม่มีคำปฏิเสธ มีเพียงรอยยิ้มบางบนริมฝีปากที่สงบจนน่ากลัว “ถวายพระพรฝ่าบาท” เธอกล่าวช้า ๆ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” เสียงของเธออ่อนโยน แต่แววตาในยามที่มองพระราชโองการนั้นเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำแข็ง ราวกับเธอมองกระดาษทองคำแผ่นนั้นเป็นเพียง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   19

    เสียงฝนหยุดลงในยามเกือบรุ่งเหลือเพียงกลิ่นดินชื้นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหมยขาวที่ยังติดอยู่ในอากาศ เงาในตำหนักหลวงยาวเหยียด และพระองค์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหวินหรงก้าวเข้ามาช้า ๆ “ฝ่าบาท...ทรงควรเปลี่ยนฉลองพระองค์พ่ะย่ะค่ะ ฝนหยุดแล้ว” ไม่มีคำตอบ เพียงพระหัตถ์ที่ยกขึ้นช้า ๆ มองรอยเลือดบนฝ่ามือของตนเอง รอยที่เกิดจากเล็บจิกแน่นเมื่อครู่ หยดเลือดเล็ก ๆ ตกลงบนพื้นหิน เย็นและหนักเหมือนความเงียบที่กดทับอยู่ในอก “เหวินหรง” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เจ้ารู้ไหม...ตอนที่นางพูดว่า ‘หม่อมฉันเพียงไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่าบาทไม่ไว้ใจ’” พระสุรเสียงนั้นเบา ราวกระซิบให้ตัวเองฟัง “ข้ารู้สึก...เหมือนถูกใครสักคนบีบคอ” เหวินหรงนิ่งงัน “ฝ่าบาท...นางพูดด้วยใจจริงพ่ะย่ะค่ะ” “ใจจริงงั้นหรือ” อวี้เหยียนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นขมจนเจ็บ “ใจจริงของนาง...หรือใจของข้าที่อยากเชื่อจนโง่” พระองค์ทรุดลงนั่งบนขั้นบัลลังก์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งจับขมับ “เหวินหรง เจ้าเคยรู้ไหม เวลาคนพยายามไม่รู้สึกอะไร...มันเหนื่อยยิ่งกว่าการแสดงออกไปตรง ๆ มันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” “พ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเฒ่าก้มต่ำ “ข้าคือจักรพรรดิ.

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   18

    อวิ๋นซินเยว่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอจะเสียใจขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยวหลิงทักนั่นเอง เธอถึงได้รู้สึกตัว [หม่าม๊า ร้องไห้ทำไมครับ] เด็กชายในรูปลักษณ์โฮโลแกรมลอยเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาวที่ขณะนี้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปจากดวงตาและใบหน้าของตัวเองอย่างลวก ๆ "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" [ถ้าหากหม่าม๊าหมายถึงฝ่าบาทแล้วล่ะก็ ผมจะตรวจสอบให้ครับ ... .. . สถานะความชอบ 5 แต้ม ความไว้วางใจ -1 มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของร่างโฮสต์ที่หม่าม้าอยู่ตอนนี้ครับ] "อันตรายมากจริง ๆ เฮ้ออ ถึงแม้ว่าฉันจะมาอยู่ได้ไม่นาน และยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาที่เป็นครอบครัวของฮองเฮาเลยสักนิด แต่จากที่อยู่ในร่างนี้และโลกนี้มา นางก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าจะผิด ก็ผิดที่เลือกสามีผิดล่ะนะ" [หม่าม๊าจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ หญิงสาวในยุคนี้ไม่ได้เหมือนหญิงสาวในยุคของหม่าม๊า พวกนางไม่สามารถเลือกชีวิตตนเองได้ ครอบครัวอย่างพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ และผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง] "เฮ้ออ เอาเถอะ มาคิดหาทางรอดให้พวกเขากันดีกว่า ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ไม้แข็งเลยละกัน" อวิ๋นซินเยว่พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   17

    ความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก เสียงพระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนยังสะท้อนอยู่ในหัว ของอวิ๋นซินเยว่ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ “ข้าไม่เคยไว้ใจนาง...ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง” เพียงคำเดียว...อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ เสี่ยวหลิงส่งเสียงในหัวทันที [ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78%] [คำเตือน: หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น 10 หน่วย ภารกิจ “ฟื้นฟูพระเอก” จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว] อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว “ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “หนูคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของหนูเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status