Share

9

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-08-28 19:17:06

รุ่งอรุณสาดแสงสีทองผ่านม่านบาง ๆ ของตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่ลุกขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำสิ่งใดสักอย่างเพื่อตอบแทนพระเมตตาเมื่อคืนที่ผ่านมา จากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เสี่ยวหลิงเล่าให้ฟัง ประกอบกับคำพูดของนางกำนัลถึงสิ่งที่ฝ่าบาททำให้ แม้จะไม่รู้ว่าคืนนั้นฝ่าบาทได้ยินอะไรไปบ้าง แต่หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้

“เตรียมสมุนไพรบำรุงร่างกาย ข้าจะลงมือทำซุปด้วยตัวเอง” นางสั่งเสียงหนักแน่น

ไม่นาน กลิ่นหอมละมุนของซุปสมุนไพรค่อย ๆ ลอยอบอวลไปทั่วตำหนัก มือเรียวเล็กยกถาดทองเหลืองขึ้นมั่นคง มุ่งตรงไปยังตำหนักหยางซิน ที่พำนักขององค์จักรพรรดิอวี้เหยียน

ภายในท้องพระโรง อวี้เหยียนประทับบนบัลลังก์มังกรสูงสง่า แววตาคมคายยังเย็นเฉียบไม่ต่างจากผืนน้ำแข็งพันปี เมื่อเห็นฮองเฮาก้าวเข้ามาพร้อมถาดในมือ พระเนตรหรี่ลงแวบหนึ่ง

“หม่อมฉัน…ทำซุปบำรุงมาถวายเพคะ” อวิ๋นซินเยว่เอ่ยเสียงอ่อนโยน แววตาเปี่ยมความจริงใจ

ขันทีข้างพระวรกายรีบรับถาดมาวางตรงหน้าพระองค์ แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยต่อ เสียงถ้วยกระแทกแตกกระจายก็ดังก้องไปทั่วตำหนัก

เพล้ง!

อวี้เหยียนตวัดพระหัตถ์ผลักถ้วยซุปกระเด็นแตกกระจาย เศษถ้วยปลิวว่อนจนเสี้ยวหนึ่งของขอบคมกริบบาดลงที่แก้มขวาของอวิ๋นซินเยว่เป็นรอยยาว เลือดสีแดงสดผุดซึมออกมาจากบาดแผล

ทุกคนในที่แห่งนั้นนิ่งค้างด้วยความตกตะลึง!

แววตาขององค์จักรพรรดิฉายแววตกใจเพียงแวบเดียว เมื่อเห็นรอยเลือดบนแก้มของฮองเฮา ร่างกายกระตุก มือขวาเหยียดยาวออกไป ราวกับใจหนึ่งอยากลุกขึ้นไปประคองนาง แต่แล้วเพียงเสี้ยวอึดใจนั้น ความเย็นชาก็กลับคืน พระพักตร์แข็งกร้าวดังเดิม

“หึ…มารยาสตรี มันใช้ได้ผลกับผู้อื่น แต่ไม่ใช่กับข้า!” พระสุรเสียงแผ่วต่ำ ทว่าทุกถ้อยคำเย็นยะเยือกแทงใจ

อวิ๋นซินเยว่กำมือแน่น เจ็บทั้งกายและใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางหรืออุตส่าห์ตั้งใจทำเพื่อตอบแทนน้ำใจ ไม่ได้หวังสิ่งอื่นใด เขากลับมีท่าทีเช่นนี้ ช่างคาดเดาอารมณ์ยากเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นฮ่องเต้ทรราช ไม่ใส่ใจทุกข์สุขผู้ใด ทำตามอารมณ์ตัวเอง

'ไม่ได้ ข้าจะร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ยิ่งไม่ควรให้เขาเห็นน้ำตา เขาจะยิ่งรังเกียจเรา" อวิ๋นซินเยว่คิดได้แบบนั้นก็เชิดหน้าขึ้นอย่างสง่างาม แม้เลือดแดงสดกำลังไหลลงมาตามแก้มขาวผ่อง

ขันทีชราข้างกายฝ่าบาท ทำสีหน้ากระอักกระอ่วน แม้เขาจะเห็นใจฮองเฮาอย่างไร แต่ก็ทำได้เพียงแค่มองส่งนางเท่านั้น ในใจหวังเพียงว่านางจะไม่โกรธเคืองฝ่าบาท

อวิ๋นซินเยว่กลับตำหนักคุนหนิงด้วยแผลบนแก้ม นางกำนัลรีบเข้ามาช่วยเช็ดเลือด แต่เธอกลับนิ่งสงบ ราวกับต้องการเก็บศักดิ์ศรีสุดท้ายไว้

'ตราบใดที่ยังต้องอยู่ในวัง ฉันจะไม่ยอมแพ้ให้เขามองว่าฉันเป็นแค่สตรีที่ไร้ค่า'

[ติ๊ง! “คะแนนค่าความชอบของฝ่าบาทกำลังดิ่งลงอย่างมาก

หากหม่าม๊ายังปล่อยไว้เช่นนี้ จากกำหนดเวลาเดิมก่อนที่โลกนี้จะแตกคือ 365 วัน อาจลดลงมาเหลือ 60 วันนะครับ])

"อะไรนะ! กว่าคะแนนจะขึ้นแต่ละแต้ม โคตะระยากเลย แต่พอนึกจะลดก็ลดฮวบฮาบเลยเนี่ยนะ" อวิ๋นซินเยว่ว่าพลางยกสองมือขยุ้มผมตัวเองไปมาจนผมยุ่งไปหมด

[หม่าม๊าต้องรีบคิดหาทางเยียวยาจิตใจพระเอก และใกล้ชิดจนพระเอกตกหลุมรักให้ได้ก่อนเวลาจะหมดนะครับ ไม่อย่างนั้น...]

"ไม่อย่างนั้น?"

[ไม่อย่างนั้น หม่าม๊าก็ต้องติดในโลกนี้และตายไปพร้อมกับพระเอกครับ]

"ย่ะ! ไม่ต้องย้ำหรอก เฮ้อออ... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเอาใจใครเลย แม้แต่พ่อแม่ก็โอ๋ฉันจะตาย แต่อีตาพระเอกบ้านี่เอาใจโคตรยาก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เฮ้ออ" อวิ๋นซินเยว่นั่วกอดเข้าอยู่บนเตียงของตัวเองในตำหนักคุนหนิง

หลังจากเสี่ยวหลิงเงียบไปแล้ว รอบด้านก็กลับมาเป็นปกติ เหล่านางกำนัลและข้ารับใช้ก็กลับมาเดินเหินทำหน้าที่ตนเองเช่นเดิม

จื่อเยว่นางกำนัลคนสนิทเห็นเจ้านายนเองมีท่ททีเหม่อลอย ซ้ำยังนั่งโดยไม่ระวังกิริยาเช่นนั้น นางก็รีบเอ่ย

"พระนางนั่งเช่นนั้นได้อย่างไรเพคะ เอาขาลงมาเถิดเพคะ" ว่าพลางชาวยจับขาทั้งสองข้างของอวิ๋นซินเยว่ลงมาพร้อมจัดท่าทางให้ผู้เป็นนาย ส่วนอวิ๋นซินเยว่นั้นก็ทำเพียงนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ภายในหัวกำลังคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้อวี้เหยียนสนใจและหลงรักตน

.......

หลังความโกรธผ่านพ้นไป ในหัวของจักรพรรดิอวี้เหยียนมักปรากฏภาพเลือดบนแก้มของอวิ๋นซินเยว่ สายตาเจ็บปวดของนาง และริมฝีปากน้อย ๆ ที่ขบเม้มเข้าหากันแน่นราวกับพยายามข่มกลั้นอารมณ์บางอย่าง เขาไม่ชอบความรู้สึกเช่นนี้เลย เขาบีบพระหัตถ์แน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน ขันทีเฒ่าที่คอยรับใช้ข้างพระวรกายสังเกตเห็นเช่นนั้น ก็ได้แต่คิดในใจว่า 'ฝ่าบาทมิได้ไร้ใจ เพียงแต่กำแพงสูงเกินไป'

สายลมยามเย็นพัดผ่านหน้าต่างตำหนักคุนหนิง กลิ่นไม้หอมจาง ๆ ลอยคลุ้ง ขันทีเฒ่าเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มือเหี่ยวย่นกุมห่อผ้าเล็ก ๆ ไว้อย่างทะนุถนอม

นางกำนัลทั้งหลายต่างหยุดการกระทำทุกอย่างลงพลางก้มศีรษะย่อตัวลงทำความเคารพแก่ผู้รับใช้ใกล้ชิดองค์จักรพรรดิ เมื่อกงกงยกมือไล่ให้ทุกคนถอยออกไป เหลือเพียงสองนางกำนัลผู้ใกล้ชิดฮองเฮาเพียงเท่านั้น เขายื่นห่อผ้าให้พลางเอ่ยเสียงต่ำ

“นี่คือยาทาชั้นดีฝ่าบาทส่งประทานให้แก่ฮองเฮา หาได้ยากยิ่ง… ยานี้เพียงแต้มเล็กน้อยก็สามารถสมานแผลให้หายได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งรอย” จื่อเยว่เบิกตากว้าง ก่อนจะเอื้อมไปรับ แต่เสียงของกงกงกลับดังขึ้นอีกครั้ง ทุ้มแผ่วแต่แฝงอำนาจ

“แต่พวกเจ้า ห้ามบอกฮองเฮาว่ายานี้มาจากไหน… หากฮองเฮาสงสัย ก็จงบอกไปว่า เจ้าส่งคนไปขอจากสำนักหมอหลวงมา”

จื่อเยว่และนางกำนัลอีกคนรีบพยักหน้ารับคำ สีหน้าฉายความประหลาดใจปนไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยคำถาม

ขันทีชราหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้ายจะพูดกับตนเองมากกว่าจะบอกผู้อื่น

“ฝ่าบาท…ทรงเมตตาเงียบ ๆ เช่นนี้แหละ ดีแล้ว”

เมื่อขันทีข้างกายฝ่าบาทหมุนกายจากไป เหลือนางกำนัลถือห่อผ้าไว้ในอ้อมแขน หัวใจสั่นระรัว พวกนางต่างรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา หากพระองค์ไม่ทรงใส่ใจฮองเฮาเลย เหตุใดจะต้องประทานยาลับมาด้วยวิธีเช่นนี้กันเล่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   13

    เสียงหัวเราะชื่นชมจากบรรดาสนมดังระงมไปทั่วลาน เมื่อ ซูกุ้ยเฟย ยกกลอนที่เพิ่งแต่งเสร็จขึ้นถวายไทเฮา ท่วงทำนองอ่อนหวาน เปรียบดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ สละสลวยจนแม้แต่ขุนนางฝ่ายในที่นั่งอยู่ด้วยยังพยักหน้ารับ ซูกุ้ยเฟยยกยิ้มบาง ก่อนหันไปทางซินเยว่พลางเอื้อนเอ่ยเสียงใส “กลอนของหม่อมฉันหาได้พิเศษอันใดไม่… ผู้ที่มีความสามารถแท้จริงด้านบทกวีคือฮองเฮาต่างหากเพคะ” ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็หันมาจับจ้องยัง อวิ๋นซินเยว่ หัวใจเธอกระตุก เพราะตัวเองแต่งกลอนไม่เป็นแม้แต่นิดเดียว! [ติ๊ง! สถานการณ์อันตรายระดับ 95%! หากตอบไม่ได้ = ค่าศักดิ์ศรีฮองเฮาลดฮวบ! ถูกผู้คนหัวเราะเยาะทั้งงาน และไทเฮาจะผิดหวังในตัวท่านมากขอรับ] “เอ่อ…หม่อมฉันกลัวว่า หากแต่งกลอนออกมา…จะไปไม่ถึงครึ่งของกุ้ยเฟยเพคะ” เสียงกระซิบดังระงม หลายคนชะงักนึกว่าฮองเฮาจะถอยหนี แต่เธอกลับหันไปยิ้มกว้างต่อหน้าทุกคน ไทเฮาเลิกพระขนงเล็กน้อย คล้ายสนใจอยากฟัง อวิ๋นซินเยว่สูดหายใจลึก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใส “ดอกไม้อาจงดงามเพราะฤดูกาล แต่ก็เหี่ยวเฉาไปเพราะฤดูกาลผันผ่านเช่นกัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   12

    และแล้ววันจัดงานชมบุปผาก็มาถึง เสียงกลองเบา ๆ จากเหล่านักดนตรีด้านนอกดังมาเป็นสัญญาณ งานเลี้ยงชมบุปผาที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ภายในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางกำนัลนับสิบต่างรุมล้อม ใส่เสื้อคลุมชั้นแล้วชั้นเล่า สีสันสดใสราวท้องฟ้ายามรุ่งอรุณกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม ชุดปักดิ้นเงินลายหงส์สยายปีกโอบล้อมไปทั่วร่าง ผมดำถูกรวบขึ้นอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกมรกตระยิบระยับ เมื่อเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายถูกเสียบลง เธอถูกดันให้นั่งต่อหน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพสะท้อนเบื้องหน้าทำให้เธอถึงกับตะลึง “นี่…คือข้าจริง ๆ หรือ?” อวิ๋นซินเยว่อ้าปากค้างเล็กน้อย กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนมองคนแปลกหน้า ผิวที่ปกติซีดขาวบัดนี้เจือสีแดงนวลอย่างสุขภาพดี ริมฝีปากทาด้วยชาดสีแดงอ่อนดูงามละมุน สายตาที่เคยสดใสราวเด็กสาวกลับกลายเป็นวาววับดั่งหญิงสูงศักดิ์ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาแต่แววซุกซนยังไม่หายไป ทำให้ความสง่างามนั้นยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าใคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   11

    ลมฤดูใบไม้ผลิพัดกลีบดอกเหมยปลิวเข้ามาในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ท่ามกลางกองบันทึกพิธีและตำรามารยาทสูงเป็นตั้ง ดวงตาคมกวาดมองทีละบรรทัดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางพึมพำเบา ๆ “งานชมดอกไม้… มิใช่เพียงเรื่องความงาม หากแต่สะท้อนศักดิ์ศรีของฮองเฮา หากข้าพลาดเพียงนิดเดียว ซูกุ้ยเฟยจะต้องใช้เป็นข้ออ้างโจมตีข้าแน่” ทันใดนั้น แสงสีฟ้าใสสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ เสี่ยวหลิง ระบบเอไออัจฉริยะปรากฏร่างจำลองขึ้นมาพร้อมเสียงแจ่มใสที่ตัดกับบรรยากาศตึงเครียด “หม่าม๊า อย่ากังวลไปเลย ข้าได้สแกนบันทึกงานราชพิธีเก่า ๆ ทั้งหมดแล้ว พบว่ามีจุดอ่อนอยู่หลายอย่างที่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ท่านได้เปรียบ!” อวิ๋นซินเยว่เงยหน้ามองด้วยสายตาวาบประกายความหวัง “เจ้ามีแผนอะไรหรือ เสี่ยวหลิง?” ภาพเสมือนคล้ายแผนผังสามมิติถูกฉายขึ้นกลางห้อง แสดงการจัดวางตำแหน่งโต๊ะสำรับ น้ำชา ดนตรี และตำแหน่งดอกไม้ในสวน เสี่ยวหลิงเอ่ยเสียงกระตือรือร้น “หากท่านเลือกพันธุ์ดอกไม้ที่ยังไม่เบ่งบานเต็มที่ พอถึงวันงานมันจะผลิบานพร้อมกันพอดี สร้างความประทับใจได้มากกว่าซูกุ้ยเฟยที่มัวแต่เน้นความหรูหราเกินจำเป็น” นางพยักหน้าอย่างครุ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   10

    เสียงฆ้องเบา ๆ ดังขึ้นสามครั้ง ก่อนที่ม่านกำมะหยี่สีแดงขลิบทองในห้องโถงของตำหนักคุนหนิงจะถูกเลิกขึ้นอย่างช้า ๆ แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาตกต้องกับอาภรณ์สีม่วงทองระยับตา ไทเฮาปรากฏกายอย่างสง่างามเรือนพระเกศาที่ขาวแซมเพียงเล็กน้อยถูกเกล้าอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกชั้นสูง สายตาคมกริบของนางกวาดมองเหล่าสนมและพระสนมชั้นสูงที่คุกเข่าลงและนั่งเรียงรายอยู่เบื้องหน้า ทันใดนั้น บรรยากาศทั้งตำหนักอี้คุนก็เหมือนถูกตรึงด้วยไอเย็นแห่งอำนาจของสตรีที่เคยได้ชื่อว่ามีอำนาจที่สุดในวังหลังของจักรพรรดิองค์ก่อนเสียงขันทีขานพระนามกังวานก้อง “ไทเฮาเสด็จ”เหล่าสตรีในวังหลังที่มียศต่ำต่างหมอบลงจนหน้าผากแตะพื้น อวิ๋นซินเยว่เองก็ยืนขึ้นเช่นกัน เพียงประสานมือค้อมตัวลงต่ำอย่างนอบน้อม แต่ในใจกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังกดทับมาบนบ่าไทเฮา ก้าวลงจากบัลลังก์ย่อม ๆ แท่นสูง เสียงรองเท้าปักมุกกระทบพื้นไม้ดังก้องอย่างสง่างามนางทอดพระเนตรมายังอวิ๋นซินเยว่ ริมฝีปากโค้งเพียงน้อย แต่เต็มไปด้วยนัยลึกล้ำ “ฮองเฮา… อีกเจ็ดวันจะมีงานเลี้ยงชมบุปผา เจ้าคงรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เพียงงานรื่นเริง แต่เป็นงานที่แสดงเกียรติยศและเป็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   9

    รุ่งอรุณสาดแสงสีทองผ่านม่านบาง ๆ ของตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่ลุกขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำสิ่งใดสักอย่างเพื่อตอบแทนพระเมตตาเมื่อคืนที่ผ่านมา จากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เสี่ยวหลิงเล่าให้ฟัง ประกอบกับคำพูดของนางกำนัลถึงสิ่งที่ฝ่าบาททำให้ แม้จะไม่รู้ว่าคืนนั้นฝ่าบาทได้ยินอะไรไปบ้าง แต่หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ “เตรียมสมุนไพรบำรุงร่างกาย ข้าจะลงมือทำซุปด้วยตัวเอง” นางสั่งเสียงหนักแน่น ไม่นาน กลิ่นหอมละมุนของซุปสมุนไพรค่อย ๆ ลอยอบอวลไปทั่วตำหนัก มือเรียวเล็กยกถาดทองเหลืองขึ้นมั่นคง มุ่งตรงไปยังตำหนักหยางซิน ที่พำนักขององค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ภายในท้องพระโรง อวี้เหยียนประทับบนบัลลังก์มังกรสูงสง่า แววตาคมคายยังเย็นเฉียบไม่ต่างจากผืนน้ำแข็งพันปี เมื่อเห็นฮองเฮาก้าวเข้ามาพร้อมถาดในมือ พระเนตรหรี่ลงแวบหนึ่ง “หม่อมฉัน…ทำซุปบำรุงมาถวายเพคะ” อวิ๋นซินเยว่เอ่ยเสียงอ่อนโยน แววตาเปี่ยมความจริงใจ ขันทีข้างพระวรกายรีบรับถาดมาวางตรงหน้าพระอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   8

    เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอวี้เหยียนสะท้อนก้องไปทั่วห้อง อวิ๋นซินเยว่เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก ฝ่าบาทมาถึงหน้าประตูแล้ว แต่เหตุใดมิมีผู้ใดรายงาน! อวิ๋นซินเยว่ตื่นตระหนกแล้ว! "ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ" เธอย่อตัวลง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะเดินผ่านหน้าไป ก่อนจะนั่งลงที่เตียงของเธอ "มาเถิด" สีหน้าเรียบนิ่งขององค์จักรพรรดิทำให้อวิ๋นซินเยว่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน หญิงสาวกวาดสายตามองหาเสี่ยวหลิง แต่เจ้าระบบตัวดีกลับไม่อยู่ให้เห็น 'ดีนี่ เสี่ยวหลง! เวลาสำคัญแบบนี้กลับหายหัว ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ' เธอคิดในใจ ร่างบางเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงข้างกายเจ้าแผ่นดิน อวิ๋นซินเยว่ไม่กล้าสบสายตา แต่เธอรู้สึกได้ว่าคนข้างกายตอนนี้กำลังต้องมองนางอยู่ 'โอ๊ย อึดอัดชะมัด จะจ้องเงียบ ๆ อีกนานมั้ยเนี่ย' อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ฝ่าบาท…เมื่อครู่ทรงหัวเราะสิ่งใดหรือเพคะ?” แววตาคมเข้มตวัดลงมาสบกับนาง ริมพระโอษฐ์ยกขึ้นน้อย ๆ คล้ายจะขบขัน คล้ายจะเย้า สายตาของเธอที่เผลอเหลือบมอง เมื่อเห็นเช่นนั้นยิ่งชวนให้หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก “เปล่า”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status