Share

10

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-08-28 19:17:06

รุ่งอรุณสาดแสงสีทองผ่านม่านบาง ๆ ของตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่ลุกขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำสิ่งใดสักอย่างเพื่อตอบแทนพระเมตตาเมื่อคืนที่ผ่านมา จากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เสี่ยวหลิงเล่าให้ฟัง ประกอบกับคำพูดของนางกำนัลถึงสิ่งที่ฝ่าบาททำให้ แม้จะไม่รู้ว่าคืนนั้นฝ่าบาทได้ยินอะไรไปบ้าง แต่หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ ความรู้สึกที่ว่าเธอกำลังก้าวเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้สำเร็จ

“เตรียมสมุนไพรบำรุงร่างกาย ข้าจะลงมือทำซุปด้วยตัวเอง” นางสั่งเสียงหนักแน่น วันนี้ต้องไม่พลาดไม่นาน กลิ่นหอมละมุนของซุปสมุนไพรที่ใช้ ‘สกิลข้าวกล่องฮองเฮา’ ทำอย่างพิถีพิถัน ค่อย ๆ ลอยอบอวลไปทั่วตำหนัก มือเรียวเล็กยกถาดทองเหลืองขึ้นมั่นคง มุ่งตรงไปยังตำหนักหยางซิน ที่พำนักขององค์จักรพรรดิอวี้เหยียน

ภายในท้องพระโรง อวี้เหยียนประทับบนบัลลังก์มังกรสูงสง่า ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด แววตาคมคายยังเย็นเฉียบไม่ต่างจากผืนน้ำแข็งพันปี เมื่อเห็นฮองเฮาก้าวเข้ามาพร้อมถาดในมือ พระเนตรหรี่ลงแวบหนึ่ง ความหงุดหงิดและความสับสนปะปนอยู่ในแววตา

“หม่อมฉัน…ทำซุปบำรุงมาถวายเพคะ” อวิ๋นซินเยว่เอ่ยเสียงอ่อนโยน แววตาเปี่ยมความจริงใจขันทีข้างพระวรกายรีบรับถาดมาวางตรงหน้าพระองค์ แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยต่อ เสียงถ้วยกระแทกแตกกระจายก็ดังก้องไปทั่วตำหนัก

เพล้ง!

อวี้เหยียนตวัดพระหัตถ์ผลักถ้วยซุปกระเด็นแตกกระจาย ความรุนแรงนั้นผิดปกติ เศษถ้วยปลิวว่อนจนเสี้ยวหนึ่งของขอบคมกริบบาดลงที่แก้มขวาของอวิ๋นซินเยว่เป็นรอยยาว เลือดสีแดงสดผุดซึมออกมาจากบาดแผลทุกคนในที่แห่งนั้นนิ่งค้างด้วยความตกตะลึง!

แววตาขององค์จักรพรรดิฉายแววตกใจอย่างรุนแรง เพียงแวบเดียว เมื่อเห็นรอยเลือดบนแก้มของฮองเฮา ร่างกายกระตุก มือขวาเหยียดยาวออกไป ราวกับใจหนึ่งอยากลุกขึ้นไปประคองนาง แต่แล้วเพียงเสี้ยวอึดใจนั้น ความเย็นชาก็กลับคืนมาอย่างแข็งกร้าวที่สุด

“หึ…มารยาสตรี มันใช้ได้ผลกับผู้อื่น แต่ไม่ใช่กับข้า!” พระสุรเสียงแผ่วต่ำ ทว่าทุกถ้อยคำเย็นยะเยือกแทงใจ

“ความเมตตาของข้า…มิใช่สิ่งที่เจ้าจะนำมาเล่นสนุก!”

อวิ๋นซินเยว่กำมือแน่น เจ็บทั้งกายและใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางหรืออุตส่าห์ตั้งใจทำเพื่อตอบแทนน้ำใจ ไม่ได้หวังแม้แต่คำขอบคุณ เขากลับมีท่าทีเช่นนี้ ช่างคาดเดาอารมณ์ยากเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นฮ่องเต้ทรราช ไม่ใส่ใจความรู้สึกผู้ใด…ทำตามอารมณ์ตัวเอง

'ไม่ได้! ข้าจะร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ไม่ได้! ยิ่งไม่ควรให้เขาเห็นน้ำตา! เขาจะยิ่งรังเกียจเราและคิดว่าเรากำลังใช้มารยาเรียกร้องความสนใจ!’ อวิ๋นซินเยว่เชิดหน้าขึ้นอย่างสง่างาม ทนทานต่อความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ แม้เลือดแดงสดกำลังไหลลงมาตามแก้มขาวผ่องขันทีชราข้างกายฝ่าบาททำสีหน้ากระอักกระอ่วน ในใจคิดเพียงว่าฝ่าบาทกำลังทำร้ายตนเองมากกว่าจะทำร้ายฮองเฮาเสียอีก

......

อวิ๋นซินเยว่กลับตำหนักคุนหนิงด้วยแผลบนแก้ม นางกำนัลรีบเข้ามาช่วยเช็ดเลือด แต่เธอกลับนิ่งสงบ ความเงียบที่น่ากลัวนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง

‘ตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่ในร่างนี้…ฉันจะไม่ยอมแพ้ให้เขามองว่าฉันเป็นแค่สตรีที่ไร้ค่า!

[ติ๊ง! คะแนนค่าความชอบของฝ่าบาทกำลังดิ่งลงอย่างมาก!

คำเตือนระดับอันตราย!

-25องศาในครั้งเดียว!

คะแนนความชอบต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มต้นภารกิจ!]

[หากหม่าม๊ายังปล่อยไว้เช่นนี้ จากกำหนดเวลาเดิมก่อนที่โลกนี้จะแตกคือ 365 วัน อาจลดลงมาเหลือ 60วันนะครับ!]

"อะไรนะ! กว่าคะแนนจะขึ้นแต่ละแต้ม โคตะระยากเลย! แต่พอนึกจะลดก็ลดฮวบฮาบเลยเนี่ยนะ! แถมยังลดเวลาทำภารกิจอีก จะบ้าตายรายวัน" อวิ๋นซินเยว่ว่าพลางยกสองมือขยุ้มผมตัวเองไปมาจนผมยุ่งไปหมด ความตื่นตระหนกเข้าครอบงำเธออย่างรวดเร็ว

[หม่าม๊าต้องรีบคิดหาทางเยียวยาจิตใจพระเอก และใกล้ชิดจนพระเอกตกหลุมรักให้ได้ก่อนเวลาจะหมดนะครับ ไม่อย่างนั้น...]

"ไม่อย่างนั้น?"

[ไม่อย่างนั้น หม่าม๊าก็ต้องติดในโลกนี้และตายไปพร้อมกับพระเอกครับ]

"ย่ะ! ไม่ต้องย้ำหรอก เฮ้อออ... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเอาใจใครเลย แม้แต่พ่อแม่ก็โอ๋ฉันจะตาย แต่อีตาพระเอกบ้านี่เอาใจโคตรยาก! เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย! ฉันจะประสาทกินแล้วนะ!" อวิ๋นซินเยว่นอนกอดเข่าอยู่บนเตียงของตัวเองในตำหนักคุนหนิง

จื่อเยว่เห็นเจ้านายมีท่าทีเหม่อลอยและนั่งโดยไม่ระวังกิริยา นางก็รีบเอ่ย “พระนางนั่งเช่นนั้นได้อย่างไรเพคะ เอาขาลงมาเถิดเพคะ” ว่าพลางช่วยจัดท่าทางให้ผู้เป็นนาย อวิ๋นซินเยว่นั้นก็ทำเพียงนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ภายในหัวกำลังคิดอย่างหนักว่า เธอจะหาทางรุกคืบเข้าไปในกำแพงน้ำแข็งของอวี้เหยียนได้อย่างไร

.......

ในหัวของจักรพรรดิอวี้เหยียนมักปรากฏภาพเลือดบนแก้มของอวิ๋นซินเยว่ สายตาเจ็บปวดที่นางไม่ยอมให้ใครเห็น และริมฝีปากน้อย ๆ ที่ขบเม้มเข้าหากันแน่นราวกับพยายามข่มกลั้นอารมณ์บางอย่าง เขาไม่ชอบความรู้สึกเช่นนี้เลย! ความรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นสัตว์ประหลาด…ที่ทำร้ายคนที่ปรารถนาดี

เขาบีบพระหัตถ์แน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน‘ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนาง! นางต่างหากที่มาทำลายความสงบในใจของข้า!’ เขาพยายามโทษเธอ แต่ไม่เป็นผลสายลมยามเย็นพัดผ่านหน้าต่างตำหนักคุนหนิง กลิ่นไม้หอมจาง ๆ ลอยคลุ้ง

ขันทีเฒ่าเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มือเหี่ยวย่นกุมห่อผ้าเล็ก ๆ ที่ทำจากผ้าต่วนเนื้อดีไว้อย่างทะนุถนอมนางกำนัลทั้งหลายต่างหยุดการกระทำทุกอย่างลงพลางก้มศีรษะย่อตัวลงทำความเคารพ เมื่อกงกงยกมือไล่ให้ทุกคนถอยออกไป เหลือเพียงสองนางกำนัลผู้ใกล้ชิดฮองเฮาเพียงเท่านั้น เขายื่นห่อผ้าให้พลางเอ่ยเสียงต่ำ

“นี่คือยาทาชั้นดี ยาจากตำหนักลับ ฝ่าบาททรงประทานให้แก่ฮองเฮา หาได้ยากยิ่ง… ยานี้เพียงแต้มเล็กน้อยก็สามารถสมานแผลให้หายได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งรอย” จื่อเยว่เบิกตากว้าง ก่อนจะเอื้อมไปรับ แต่เสียงของกงกงกลับดังขึ้นอีกครั้ง ทุ้มแผ่วแต่แฝงอำนาจ

“แต่พวกเจ้า ห้ามบอกฮองเฮาว่ายานี้มาจากไหน… หากฮองเฮาสงสัย ก็จงบอกไปว่า เจ้าส่งคนไปขอจากสำนักหมอหลวงมา ”จื่อเยว่และนางกำนัลอีกคนรีบพยักหน้ารับคำ สีหน้าฉายความประหลาดใจปนไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยคำถามขันทีชราหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้ายจะพูดกับตนเองมากกว่าจะบอกผู้อื่น

“ฝ่าบาท…ทรงเมตตาเงียบ ๆ เช่นนี้แหละ ดีแล้ว หากให้ทรงแสดงความเมตตาต่อหน้า…เกรงว่ากำแพงที่ทรงพยายามปกป้องใจตนเองอยู่จะพังทลายลงในไม่ช้า”

เมื่อขันทีข้างกายฝ่าบาทหมุนกายจากไป เหลือนางกำนัลถือห่อผ้าไว้ในอ้อมแขน หัวใจสั่นระรัว พวกนางต่างรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา หากพระองค์ไม่ทรงใส่ใจฮองเฮาเลย เหตุใดจะต้องประทานยาลับมาด้วยวิธีเช่นนี้กันเล่า

จื่อเยว่เดินเข้าไปหาผู้เป็นนายอย่างระมัดระวัง พร้อมนำยาออกมาบรรจงป้ายลงบนบาดแผลที่แก้มของฮองเฮา ทันทีที่เนื้อยาแตะกับบาดแผล ความรู้สึกเย็นซ่านก็แผ่กระจายไปทั่ว ความปวดร้าวลดลงอย่างรวดเร็ว

“ยานี้วิเศษยิ่งเพคะ! ฝ่าบาท…เอ่อ… สำนักหมอหลวงให้มา” จื่อเยว่รีบแก้คำพูดตามที่ได้รับสั่งมา อวิ๋นซินเยว่พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะในหัวเธอกำลังยุ่งอยู่กับการวางแผน แต่ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่คุ้นเคยจากเนื้อยา!‘กลิ่นนี้!’มันเป็นกลิ่นหอมเย็น ๆ ที่คล้ายกับกลิ่นสมุนไพรหายากที่เธอเคยใช้

[ติ๊ง! คำเตือนระดับสีเหลือง!

ส่วนผสมของยานี้...คือส่วนผสมที่ใช้ในการถอนพิษที่หม่าม๊าถูกวางยาเมื่อคืนก่อนนั้น!

และยานี้คือยาที่ฝ่าบาททรงนำมาป้อนหม่าม๊าด้วยพระองค์เอง!]

“จื่อเยว่! เจ้าเอายานี้มาให้ข้าดูใกล้ ๆหน่อยสิ” อวิ๋นซินเยว่สั่งด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงผิดปกติเธอรับตลับยามาถือไว้ในมือ ใจเต้นระรัว ฝ่ามือเธอสั่นเทา กลิ่นของยานี้...ยืนยันสิ่งที่เสี่ยวหลิงบอก!พระองค์ไม่ได้ผลักไสเธอเพราะเกลียดชังแต่พระองค์ผลักไสเธอ...เพราะกลัวที่จะต้องเสียเธอไปอีกครั้ง!และที่สำคัญกว่านั้น…

[คำถาม: ใครเป็นคนปรุงยานี้? ยาถอนพิษที่หายากที่สุดในแคว้นอวี้?] คำตอบ : มีเพียงหมอหลวงคนเดียวที่ทำได้…และวัตถุดิบมาจากคลังหลวงที่ฝ่าบาทเก็บไว้ใช้ส่วนพระองค์เท่านั้น!

นี่คือความใส่ใจที่มาจากใจจริง!]

ความจริงที่ว่าจักรพรรดิผู้เย็นชาทำร้ายเธออย่างรุนแรง…แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งยาลับที่แพงที่สุดและใกล้ชิดที่สุดของเขามาให้...มันทำให้หัวใจของอวิ๋นซินเยว่สั่นคลอนอย่างรุนแรง!เขาไม่ได้เกลียดเธอเลย! เขาแค่กลัวที่จะรักเธอ!เธอต้องทำลายความกลัวนั้นให้ได้!

“พรุ่งนี้…เตรียมชุดที่งดงามที่สุด ข้าจะไปพบฝ่าบาทที่ตำหนักหยางซิน และครั้งนี้…ข้าจะไปในฐานะของ ‘ฮองเฮา’ ผู้ประกาศสิทธิ์ในตัวพระสวามี!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   66

    ความเงียบเข้าปกคลุมสมรภูมิราวกับเวลาถูกหยุดนิ่ง ทหารทั้งสองฝ่ายต่างลดอาวุธลงด้วยความสับสน สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่บุรุษสองคนที่ยืนประจันหน้ากัน คนหนึ่งอยู่ในชุดเกาะมังกรที่สง่างาม อีกคนหนึ่งสวมชุดเกราะสีดำทมิฬที่เปื้อนเลือด แต่ใบหน้าของทั้งคู่กลับเหมือนกันประหนึ่งเงาในกระจกอวี้เหยียน รู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้าง ความเจ็บปวดจากการเพิ่งฟื้นไข้เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่กลางอกเมื่อเห็นใบหน้าของแม่ทัพศัตรูอวี้เหยียนเสียงสั่นพร่า “เจ้า... เจ้าบอกว่าข้าเสวยสุขบนความตายของพี่น้องงั้นหรือ เจ้ามีสิทธิ์อะไร! ที่ข้าได้มานั่งตำแหน่งนี้ ล้วนเพราะพวกพี่น้องของข้ามันเข่นฆ่ากันเองทั้งนั้น ข้าหาได้ทำอันใดผิดไม่" บุรุษผู้นั้นหัวเราะอย่างขมขื่นหยัน แววตาที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยไฟแค้นที่ถูกสุมทุมมานานกว่ายี่สิบปี“พี่ชายผู้สูงส่ง... เจ้าถูกเลี้ยงมาในกล่องทองคำที่ฉาบด้วยคำโกหกของไทเฮาและอดีตฮ่องเต้! เจ้ารู้หรือไม่ว่าในราชวงศ์อวี้... การมี โอรสแฝด คือลางร้ายที่ต้องถูกกำจัด คนหนึ่งถูกเลือกให้เป็นมังกร ส่วนอีกคน... ต้องถูกปลิดชีพตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเพื่อมิให้บัลลังก์สั่นคลอน!” เขาชี้กระบี่มาที่อวี้เหยียน มื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   65

    กำแพงเมืองชั้นนอก ยามโพล้เพล้เสียงกลองศึกดังสนั่นกัมปนาทราวกับฟ้าจะถล่มดินจะทลาย กลิ่นเขม่าควันไฟเริ่มลอยอบอวลไปทั่วชั้นบรรยากาศที่เคยสงบเงียบของเมืองหลวงแคว้นอวี้ ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีครามยามเย็นบัดนี้กลับอาบชโลมด้วยสีแดงฉานจากเปลวเพลิงที่ลุกโหมอยู่บนหอคอยทิศตะวันตก เสียงโห่ร้องของทหารแคว้นเยี่ยนดังก้องมาจากเบื้องล่าง ผสมปนเปไปกับเสียงเครื่องยิงหินที่พุ่งเข้ากระทบกำแพงเมืองจนสั่นสะเทือนบนยอดกำแพงสูง แม่ทัพเฉินหรง ยืนเด่นเป็นสง่า มือหนึ่งกุมกระบี่แน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ใบหน้าที่ผ่านศึกมาโชกโชนบัดนี้เต็มไปด้วยหยดเหงื่อและความกังวล“พวกมันบุกมาเร็วเกินไป! ราวกับว่าพวกมันรู้เส้นทางการเดินทัพลับและจุดอ่อนของค่ายกลป้องกันเมืองเราอย่างทะลุปรุโปร่ง! ใคร... ใครกันที่เป็นคนทรยศส่งข่าวนี้ให้แคว้นเยี่ยน!”ท่ามกลางความโกลาหล ทหารนายหนึ่งวิ่งมารายงานด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า“รายงานท่านแม่ทัพ! แม่ทัพหน้าของฝ่ายศัตรู... เขาไม่ได้ใช้ยุทธวิธีปกติพ่ะย่ะค่ะ! เขาเข่นฆ่าองครักษ์หน้าประตูเมืองราวกับพยัคฆ์เข้าขย้ำฝูงแกะ ที่สำคัญ... เขาใส่หน้ากากเงินและใช้เพลงกระบี่ที่... ที่เหมือนกับฝ่าบาทและอ๋องอวี้ไม่มีผิดเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   64

    คุกใต้ดินหลวง ยามค่ำ ความเย็นยะเยือกของอิฐหินที่เปียกชื้นซึมผ่านอาภรณ์หรูหราของฮองเฮาจนถึงผิวหนัง อวิ๋นซินเยว่ ถูกจองจำอยู่ในห้องขังลึกที่สุดของวังหลวง ที่นี่ไม่มีแสงตะวัน มีเพียงเสียงหยดน้ำที่กระทบพื้นหินสม่ำเสมอรราวกับเสียงเข็มนาฬิกาที่นับถอยหลังสู่ความตาย นางนั่งนิ่งอยู่บนกองฟางแห้ง ดวงตาเรียบเฉยแต่สมองกลับทำงานอย่างรวดเร็วราวกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “เสี่ยวหลิง... รายงานสถานะปัจจุบันของฝ่าบาทและกองทัพชายแดน!” [ติ๊ง! รายงานสถานะครับหม่าม๊า! สัญญาณชีพของฝ่าบาทเริ่มอ่อนแรงลง 5%... สารประกอบหญ้าลืมอายุ ในยาที่ซูกุ้ยเฟยป้อนซ้ำเข้าไปกำลังเริ่มเผาผลาญพลังชีวิตสำรองของพระองค์ ส่วนทางชายแดน... กองทัพแคว้นเยี่ยนปะทะกับหน่วยกักกันโรคของแม่ทัพเฉินหรงแล้ว!สถานการณ์ตึงเครียดมากครับ ถ้าภายใน 24 ชั่วโมงนี้ไม่มีคำสั่งเด็ดขาดจากส่วนกลาง ป้อมหิมะขาวอาจจะแตก!] อวิ๋นซินเยว่กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความเจ็บปวดทางกายเทียบไม่ได้เลยกับความเดือดดาลในใจ “ซูกุ้ยเฟยคิดว่าขังฉันไว้ที่นี่แล้วจะจบเรื่องงั้นเหรอ นางคงลืมไปว่าในยุคที่ฉันจากมา... การสื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ปากต่อปาก!” นางดึงปิ่นป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   63

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์ ยามวิกาลที่มืดมิดที่สุดกลิ่นกำยานหอมอ่อน ๆ ที่เคยทำให้จิตใจสงบ บัดนี้กลับถูกกลบด้วยกลิ่นขื่นปร่าของสมุนไพรเคี่ยวเข้มข้นที่ลอยอบอวลไปทั่วห้องบรรทม แสงเทียนวูบไหวสะท้อนเงาของร่างสูงสง่าบนเตียงมังกรที่บัดนี้ดูเปราะบางราวกระเบื้องเคลือบที่พร้อมจะแตกสลาย องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ทรงบรรทมสนิท ลมหายใจแผ่วเบาจนน่าใจหาย พระพักตร์ที่เคยคมคายและเปี่ยมด้วยอำนาจ บัดนี้ซีดเผือดราวกับคนหลงทางในม่านหมอกอวิ๋นซินเยว่ นั่งอยู่ข้างเตียง มือเรียวบางกุมพระหัตถ์ที่เย็นเฉียบของเขาไว้แน่น นางไม่ได้หลับมาสามวันสามคืนแล้ว ขอบตาที่รื้นแดงไม่ได้เกิดจากความอ่อนล้า แต่เกิดจากความวิตกกังวลที่อัดแน่นอยู่ในอก“เสี่ยวหลิง... เริ่มการสแกนขั้นสูงอีกครั้ง ฉันต้องการผลวิเคราะห์ที่แม่นยำ 100% ห้ามมีความผิดพลาดแม้แต่มิลลิกรัมเดียว!”[ติ๊ง!ระบบกำลังวิเคราะห์องค์ประกอบของยาถอนพิษชุดล่าสุด...ประมวลผลเสร็จสิ้น98 เปอร์เซ็นต์] หน้าจอเสมือนสีฟ้าใสที่เห็นได้เพียงนางคนเดียวปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ข้อมูลโครงสร้างทางเคมีของสมุนไพรโบราณถูกจำแนกออกมาเป็นตัวเลขและกราฟที่น่าสะพรึงกลัว[ผลการวิเคราะห์พบสารสกัดจาก‘หญ้าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   62

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์สามวันหลังจากการแต่งตั้งกุ้ยเฟยบรรยากาศในตำหนักดูเคร่งเครียดกว่าปกติ องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน กำลังเข้าสู่ช่วง วิกฤตการรักษาตามที่ ซูกุ้ยเฟย ได้เตือนไว้ พระวรกายของพระองค์ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ไข้สูงกลับมาเป็นระยะ และทรงหลับลึกกว่าปกติ... ราวกับสลบไป!อวิ๋นซินเยว่ เฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง นางยังคงใช้ศาสตร์ทางการแพทย์จากโลกปัจจุบันผสมผสานกับความรู้จากซูกุ้ยเฟยผ่านตำราที่ไทเฮาเก็บรักษาไว้ เพื่อประคองชีพพระองค์ไว้!ซูกุ้ยเฟย เข้ามาตรวจดูอาการทุกวัน นางปฏิบัติต่อองค์จักรพรรดิอย่างเคร่งครัดและเป็นมืออาชีพ แต่สายตาที่มองมายังฮองเฮายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาและความไม่ไว้วางใจ!“ฮองเฮา! พระอาการของฝ่าบาทเป็นไปตามที่ตำราระบุ! ในช่วงเจ็ดวันต่อจากนี้... พิษเก่ากำลังถูกกำจัดอย่างรุนแรง! พระองค์จะไม่สามารถทรงงานได้เลยแม้แต่น้อย! หากมีความผิดพลาดในการรักษาแม้เพียงเล็กน้อย... พระวรกายอาจจะไม่อาจฟื้นคืนมาได้อีก!”“กุ้ยเฟย! ข้าทราบดี! ข้าในฐานะฮองเฮา จะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามารบกวนฝ่าบาทในช่วงวิกฤตนี้! เจ้าจงดูแลการจัดหาตัวยาทั้งหมดให้ถูกต้องตามตำราที่ไทเฮาเก็บไว้! ถ้ามีสมุนไพรใดขาดไป..

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   61

    ท้องพระโรงลับ ยามอรุณรุ่งพิธีการสถาปนา สนมซูเหมยเยว่ ขึ้นเป็น กุ้ยเฟย ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วนในท้องพระโรงส่วนพระองค์ มีเพียงไทเฮา เสนาบดีซู และขุนนางคนสำคัญที่วางใจได้เท่านั้นที่เข้าร่วมพิธี เพื่อป้องกันมิให้ข่าวการประชวรของจักรพรรดิรั่วไหลองค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ประทับอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าซีดเซียว ยาถอนพิษชุดแรกทำให้พระวรกายอ่อนล้าอย่างหนัก แต่ดวงตาของพระองค์ยังคงเปี่ยมด้วยอำนาจ ข้างกายของพระองค์คือ อวิ๋นซินเยว่ ในชุดฮองเฮาเต็มยศ... นางยืนอย่างมั่นคงราวกับเสาหลักของบัลลังก์!“สนมซูเหมยเยว่! เจ้าได้แสดงความซื่อสัตย์ต่อแคว้นอวี้... และต่อชีวิตของข้า! บัดนี้ข้าขอแต่งตั้งเจ้าขึ้นเป็น ‘กุ้ยเฟย’ ผู้ซึ่งมีศักดิ์สูงสุดรองจากฮองเฮา! และขอพระราชทาน ‘ตราเหยี่ยวเงิน’ ให้แก่เจ้า! ตรานี้จะมอบอำนาจในการดูแลพิธีการทั้งหมดในวังหลวง... และควบคุมพระราชทรัพย์ส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดูแลพระวรกายของข้า! ขอให้เจ้าจงภักดีต่อข้า... และต่อแคว้นอวี้ไปชั่วชีวิต!” สนมซูเหมยเยว่ คุกเข่ารับตำแหน่งด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยเกียรติยศ แต่นางยังคงมองไปยัง อวิ๋นซินเยว่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวง! นางรู้ดีว่าอำนาจที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status