ทั้งสามเดินมาถึงบริเวณลานก่อสร้าง ก็เห็นอวี๋ว่านกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มือถือถ้วยอาหารที่หลิวซื่อส่งมาให้ซ่างชิวเองก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา โดยมีซ่างตงเยว่นั่งอยู่ด้านข้างอีกคนสองพ่อลูกกำลังกินโจ๊กในชามอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับผัดมะเขือยาวเจี่ยนอันอันไม่เห็นจ้าวอู่และจ้าวลิ่ว คาดว่าพวกเขาคงกลับไปกินข้าวที่บ้านแล้วเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันมาถึง ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็ยิ้มทักทายนางอวี๋ว่านรีบร้องเรียกเจี่ยนอันอัน “แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ พวกท่านมากินข้าวด้วยกันสิ ภรรยาข้าทำอาหารอร่อยมากเลยนะ”ซ่างตงเยว่เงยหน้าขึ้นเห็นเจี่ยนอันอันมาถึง ก็รีบลุกขึ้นยืนทันที“ฮูหยินน้อยรองเจ้าคะ วันนี้ข้าไม่ได้ไปหาท่าน ท่านคงไม่โกรธข้าใช่ไหมเจ้าคะ”เจี่ยนอันอันยิ้มพลางกล่าวว่า “ช่วงนี้เจ้าอยู่ดูแลพ่อของเจ้าเถิด ไม่จำเป็นต้องมาทุกวันหรอก”พูดจบ นางก็หันไปมองอวี๋ว่าน“พี่อวี๋กำลังกินอะไรอยู่หรือ ดูน่ากินดีนะ”อวี๋ว่านหัวเราะพลางตอบอย่างถ่อมตัว “บ้านข้าก็ไม่มีอะไรมากหรอก ภรรยาข้าทำผัดไข่กับผัดมะเขือยาว แต่ฝีมือภรรยาข้าดีนัก ทำอะไรก็หอมอร่อยไปหมด”อวี๋ว่านพูดพลางหันไปมองซ่างชิวและซ่างตงเยว่“เมื่อครู่
เจี่ยนอันอันไม่ได้อยู่ต่อนาน ก็นำเหยียนซวงกลับบ้านพร้อมฉู่จวินสิงทั้งสามคนเดิมทีก็ไม่ได้กินข้าวมากเท่าไหร่ ดีที่เหล่าสาวใช้เก็บอาหารเอาไว้ให้พวกเขาพวกเขานั่งลงตรงโต๊ะ เจี่ยนอันอันกินข้าวไปพลาง แล้วนำความคิดของตนเองพูดออกมาแน่นอนว่าฉู่จวินสิงย่อมต้องเห็นด้วยเขาไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะช่วยคิดให้กับทุกคนเช่นนี้ความรักที่มีต่อเจี่ยนอันอันในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกหลายส่วนและในตอนที่ทั้งสามคนกำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น เสียงล้อหมุนก็ดังขึ้นไม่นานนักฉู่จวินหลุนก็ควบคุมรถเข็นมาหยุดที่หน้าโต๊ะฉู่จวินหลุนส่งเสียงพูดออกมา “จวินสิง เจ้าพูดความจริงกับข้ามา ตกลงแล้วเจ้ารังแกอันอันหรือไม่?”ฉู่จวินสิงหันไปมองทางพี่ใหญ่ ก็เห็นว่าพี่ใหญ่กำลังมองมาทางเขาด้วยสีหน้าจริงจังเจี่ยนอันอันเองก็อดที่จะหันไปมองไม่ได้ ในใจคิดว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงได้จู่ๆ ก็ถามเช่นนี้ออกมา?“พี่ใหญ่ ท่านว่าข้าดูเหมือนคนที่จะรังแกอันอันอย่างนั้นหรือ?”ฉู่จวินสิงทั้งโกรธและขบขันอยู่เล็กน้อย ก่อนหน้านั้นท่านแม่ก็ถามคำถามนี้มาก่อนทำไมพี่ใหญ่ถึงได้ถามออกมาเช่นกัน“หึ ทางที่ดีเจ้าก็อย่าได้มี มิฉะนั้นแล้วข้าที่เป็นพี่ใ
“เอาล่ะ เอาล่ะ” เจี่ยนอันอันพูดขึ้น จูบลงไปบนใบหน้าของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงชี้ไปยังริมฝีปากของตนเอง “ที่นี่ก็ต้องการ”เจี่ยนอันอันเพื่อให้ฉู่จวินสิงสบายใจ จูบลงไปบนริมฝีปากของฉู่จวินสิงราวกับว่าข้างๆ นั้นไม่มีใครอยู่การกระทำที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองคน ทำให้เหยียนซวงรู้สึกอิจฉาขึ้นมานางก็หวังว่าตัวเองจะมีสามีเช่นนี้ในใจของเหยียนซวง ทันใดนั้นก็ปรากฏใบหน้าของเสิ่นจือเจิ้งขึ้นมานางรีบส่ายศีรษะอย่างแรง แล้วแอบคิดว่าตนเองเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้จู่ๆ ก็คิดถึงชายหนุ่มคนนั้นขึ้นมาหลังจากที่เจี่ยนอันอันบอกลากับฉู่จวินสิงแล้ว ก็นำเหยียนซวงขึ้นรถม้าไปเจี่ยนอันอันขับรถม้า มุ่งหน้าไปทางอำเภอไถหยางระหว่างทางเจี่ยนอันอันหันไปมองยังเหยียนซวง ก็เห็นว่านางเหมือนกำลังมีเรื่องในใจให้ครุ่นคิดเจี่ยนอันอันเองก็ไม่ได้คิดมาก ก็คิดเพียงว่าเหยียนซวงกำลังกังวลในความปลอดภัยของน้องชายนางเหวี่ยงแส้ม้า อย่างคิดจะให้รถม้าไปให้เร็วยิ่งขึ้น“แม่นางเจี่ยน คนผู้นั้นคือใครกัน? ข้าเห็นว่าพวกท่านทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันไม่เลวเลย เขาเป็นอะไรกับท่านอย่างนั้นหรือ?”“ใคร?” เจี่ยนอันอันไม่เข้าใจ และหันกลับไปมองเ
เหยียนซวงไม่รู้ว่าหนิงเจิ้นและเตียวเฉียงเป็นคนกลุ่มเดียวกันนางไม่อยากให้เจี่ยนอันอันติดร่างแหเข้าไปในข้อขัดแย้งนี้ขณะที่นางกำลังจะกระโดดลงจากรถม้าเพื่อโต้เถียงกับหนิงเจิ้นนั้นกลับถูกเจี่ยนอันอันยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ถึงแม้ว่าเจี่ยนอันอันจะไม่รู้ว่าหนิงเจิ้นมีความสัมพันธ์กับเตียวเฉียง ทว่านางเกลียดคนที่ไม่แยกแยะถูกผิดมากที่สุดนางไม่รู้จักหนิงเจิ้น ทว่านางรู้จักเตียวเฉียงคนสารเลวอย่างเช่นเตียวเฉียงนั้น เพียงแค่เตะจนไม่อาจคงความเป็นคนต่อไปได้นั้น ก็ถือว่าให้เปรียบเขาแล้วเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าใช้ตาข้างไหนกัน ที่เห็นว่านางเตะคนผู้นั้น?”หนิงเจิ้นรู้มานานแล้วว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนปากคอเราะร้าย เขาจึงไม่อยากพูดไร้สาระกับเจี่ยนอันอันให้มากในเมื่อเจี่ยนอันอันขับรถม้าออกเดินทางมา บนกายของนางจะต้องนำเงินออกมามากพอเขาต้องการจะขโมยเงินนั้นเป็นเรื่องจริง ส่วนสองคนนี้ เขาไม่สนใจว่าจะมีอีกสองชีวิตตายเพิ่มในมือเขา“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เอาเงินออกมา ข้าจะนำคนผู้นั้นไปรักษาในเมือง”เจี่ยนอันอันเริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้ว ว่าคนที่พบเห็นเรื่องอยุติธรรมระหว่างทางนั้นเป็นเรื่องที่แ
เหยียนซวงใช้กริชในมือออกไปสกัดกั้น แต่แส้หนังจู่ๆ ก็พันเข้ากับข้อมือของเหยียนซวงหนิงเจิ้นดึงไปอย่างแรง เหยียนซวงเสียการทรงตัว กระโจนกายไปทางด้านของหนิงเจิ้นเหยียนซวงกำหมัดแน่น แล้วโจมตีไปยังใบหน้าของหนิงเจิ้นหนิงเจิ้นเองก็ไม่ใช่พวกฝีมือธรรมดา เขาคว้าหมัดของเหยียนซวงที่จู่โจมเข้ามาไว้แน่น“นังแพศยา เจ้าตายแน่!”หนิงเจิ้นพูดขึ้น แล้วเตะเข้าไปที่ท้องของเหยียนซวงเหยียนซวงถูกเตะจนล้มลงกับพื้นในปากของเหยียนซวง ทันใดนั้นก็กระอักเอาเลือดสดๆ ออกมาความเจ็บปวดตรงท้อง ทำให้ทั่วทั้งกายของเหยียนซวงสั่นเทา ทว่านางกลับไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยนางคิดจะลุกขึ้นแล้วมาต่อสู้ต่อ ทว่าเมื่อนางเคลื่อนไหวขึ้นมา ช่องท้องก็เกิดความเจ็บปวดจนยากจะอดทนขึ้นมาได้หนิงเจิ้นตะคอกออกมาอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่สนใจเหยียนซวงอีก หมุนกายมองไปทางด้านของเจี่ยนอันอัน“เอาเงินออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”คำของหนิงเจิ้น กลับทำให้เจี่ยนอันอันหัวเราะออกมาเบาๆ“เจ้าคางคกหาว ช่างปากกว้างคุยโวเสียจริงนะ”เจี่ยนอันอันพูดขึ้น แล้วก็กระโดดขึ้นจากรถม้า“ข้าว่าเจ้ากับเตียวเฉียงเป็นพวกเดียวกัน ที่เจ้าจะช่วยรักษาให้เขาเป็น
กู้มั่วหลีที่ยืนอยู่บนต้นไม้ตลอดเวลา เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านล่างนั้น ล้วนแต่อยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้นกู้มั่วหลีเดินก้าวมาเบื้องหน้าของหนิงเจิ้น ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา“ผู้บัญชาการหนิงที่เคยผ่านการสู้รบมานับร้อยครั้ง แต่กลับไปไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงสองคนได้”“ลูกน้องของฉู่ชางเหยียน หรือว่าจะมีแต่เศษสวะอย่างเจ้าเช่นนี้หรือ?”ในตอนที่กู้มั่วหลีพูดขึ้นนั้น รอยยิ้มตรงมุมปากก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงทว่ารอยยิ้มของเขากลับไปไม่ถึงดวงตากู้มั่วหลีมองออกว่าหนิงเจิ้นถูกพิษเขามองไปยังร่างที่จากไปของเจี่ยนอันอัน มุมปากยกเป็นยิ้มเกียจคร้านขึ้นมา“เจี่ยนอันอัน น่าสนใจขึ้นมาแล้ว”กู้มั่วหลีในตอนนี้ ยิ่งเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเขาดึงสายตากลับมาที่กายของหนิงเจิ้น ก่อนจะย่อกายลงมาอุ้มหนิงเจิ้น ทันใดนั้นก็หายไปจากเนินเขาสือหลี่เจี่ยนอันอันไม่ได้หันกลับไปมอง มิเช่นนั้นนางจะต้องพบถึงการมีอยู่ของกู้มั่วหลีเหยียนซวงนั่งลงบนรถม้า สายตาก็ตกลงบนกายของเจี่ยนอันอัน“ขอบคุณแม่นางเจี่ยนที่ช่วยชีวิตข้าเมื่อครู่นี้”“บุญคุณของท่าน ข้าจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต”วันนี้หากไม่ใช่เพรา
รอจนเมื่อเหยียนซวงเปลี่ยนเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันจึงเก็บผ้าสีแดงแล้วใช้ผงสลายศพ โรยลงบนผ้าที่เพิ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อครู่นี้ทันใดนั้นผ้าก็เปลี่ยนเป็นแอ่งน้ำทันทีเหยียนซวงไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่รังเกียจที่นางสกปรก ยังช่วยนางทำลายผ้าที่เลอะประจำเดือนของนางอย่างใส่ใจในใจของนางยิ่งรู้สึกของคุณเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหยียนซวงยังคงยืนอึ้งตะลึงอยู่ที่นั่น นางก็ตบไปยังไหล่ของเหยียนซวง“พวกเรารีบไปอำเภอไถหยางกันเถอะ น้องชายของเจ้ายังรอให้เจ้ากลับไป”เมื่อคิดว่าน้องชายยังคงรอนางอยู่ที่บ้าน เหยียนซวงก็รีบเร่งฝีเท้าขึ้นทั้งสองคนนั่งบนรถม้า ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเหยียนซวงเป็นคนขับรถม้านางไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเหนื่อยล้าอีก นอกจากนี้แล้วเจี่ยนอันอันยังช่วยนางมากมายนางรับบทคนขับรถ รีบเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันเหลือบมองไปยังคราบเลือดบนรถม้า นางอาศัยโอกาสที่เหยียนซวงไม่ได้หันมามองนางรีบหยิบขวดน้ำออกมาจากห้วงมิติ แล้วล้างคราบเลือดทั้งหมดออกไปจนสะอาดเพราะว่าเหยียนซวงรีบกลับไปหาน้องชาย รถม้าก็ถูกนางขับไปอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วยามผ่านไป
เจี่ยนอันอันไม่คุ้นเคยกับอำเภอไถหยาง แต่นางก็ไม่อยากไปหาเซิ่งฟางที่ที่ว่าการอำเภอเพราะอย่างไรแล้วเซิ่งฟางก็เป็นถึงนายอำเภอ แต่ละวันก็มีภาระหน้าที่ราชการพัวพัน จะไปมีเวลาว่างที่ไหนเพื่อนำนางไปหาโรงโอสถกันนางคิดถึงจงซิ่นขึ้นมา บางทีเขาอาจจะช่วยเหลือนางได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็พูดขึ้น "ข้าจะไปหาผู้เฒ่าจง เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนน้องชายเถิด"เจี่ยนอันอันพูดเสร็จก็จะออกไป กลับได้ยินเหยียนซวงพูดขึ้น "ข้าอยากไปกับท่านด้วย"เหยียนซวงเหลือบมองไปยังเหยียนอวี่ เขายังคงหลับตาอยู่ โดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลยและต่อให้นางจะคอยเฝ้าอยู่ข้างกายของเหยียนอวี่ ก็ทำได้เพียงแค่ร้อนรนอยู่ไม่สู้ไปด้วยกันกับเจี่ยนอันอัน เผื่อว่าอาจจะช่วยเหลืออะไรนางได้บ้าง"เช่นนั้นก็ดี เจ้าไปกับข้า"เจี่ยนอันอันพูดขึ้น พลางเดินก้าวใหญ่ออกไปจากห้องทั้งสองคนนั่งบนรถม้า มุ่งหน้าไปทิศทางเรือนของจงซิ่นและเพิ่งจะเดินทางไปได้เพียงแค่ครึ่งทางเท่านั้น ก็พบว่าตรงที่ไม่ไกลออกไปนั้น มีกลุ่มคนบางส่วนคอยรุมล้อมกันอยู่เจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจ นางขับรถม้ามุ่งหน้าต่อไปยังเบื้องหน้าทว่าในตอนที่รถม้ามาถึงข้างๆ ข
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ