ภาพตรงหน้าไม่มีเงาร่างของฉู่ชางเหยียนอีก เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงจึงถอดแว่นตาล่องหนออกเจี่ยนอันอันหัวเราะจนตาหยี ทราบว่าเรื่องด้านนั้นของฉู่ชางเหยียนมีปัญหา นางมีความสุขยิ่งกว่าเวลาไหนฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันหัวเราะถึงขนาดนั้น ใบหน้าเขาก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมา“ไยเจ้าจึงดีใจขนาดนี้?”“ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว ในที่สุดฮ่องเต้สุนัขก็ได้รับผลกรรมเสียที ข้าดีใจกว่าแม่แท้ๆ ของเขาเสียอีก”ฉู่จวินสิงถูกคำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้นึกขันจนหลุดหัวเราะออกมาผู้ชายคนหนึ่งไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่าได้เป็นความอัปยศสูงสุดต่อความภาคภูมิใจของลูกผู้ชายเลยทีเดียวฉู่จวินสิงย่อมอารมณ์ดีมากเหมือนกันเหมือนที่เจี่ยนอันอันพูดไว้ นี่คือกรรมตามสนองที่ฉู่ชางเหยียนทำเรื่องชั่วร้ายลงไปตลอดหลายปีมานี้สุดท้ายคนทั้งสองก็พกพาอารมณ์อันเบิกบานนอนหลับไปด้วยความสบายใจเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังจากทั้งคู่ตื่นขึ้นก็มาออกบริหารร่างกายในลานเรือนจ้าวอู่และจ้าวลิ่วกินมื้อเช้าเสร็จแล้วก็มาที่เรือนสกุลฉู่ เพื่อมาเรียนรู้วรยุทธ์กับเหยียนเซ่าและเวินอี๋หลังการฝึกฝนติดต่อกันหลายวัน วรยุทธ์ของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมากแม้
“อันอันหัวเราะอะไรหรือ คงไม่ได้คิดถึงเรื่องน่ายินดีอันใดกระมัง?”เสียงพูดของฉู่จวินสิงดึงสายตาเจี่ยนอันอันกลับมาในทันใดนางหยิบแว่นตาล่องหนอีกอันจากในมิติออกมาให้ฉู่จวินสิงใส่เจี่ยนอันอันกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉู่ชางเหยียนทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้ เรื่องนี้น่าขันกว่าเรื่องตลกไหนที่ข้าเคยได้ยินมาเสียอีก”ฉู่จวินสิงออกจะประหลาดใจ เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดสำหรับบุรุษเลยก็ว่าได้หลังจากที่เขาสวมแว่นตาล่องหน ภาพของตำหนักหลงเหอก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตาเจียงหวยเดินเข้ามาในตำหนักหลงเหอก็เห็นฉู่ชางเหยียนนั่งอยู่บนแท่นมังกรด้วยสีหน้าโกรธกริ้ว“ฝ่าบาท ท่านอย่ากริ้วให้เสียสุขภาพไปเลยพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้เซวียนเฟยถูกลงโทษแล้ว บ่าวไปเรียกสนมคนอื่นมารับใช้ฝ่าบาทดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เจียงหวยเดินมาถึงหน้าแท่นมังกรด้วยสีหน้าเป็นห่วง อยากปลอบใจฉู่ชางเหยียนสักหน่อยแต่เขายังพูดไม่จบก็เห็นฉู่ชางเหยียนตวัดสายตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็งมาด้วยความขุ่นขึ้ง“ในวังของเรามีสนมมากมายปานนั้น เหตุใดจึงไม่มีใครสามารถทำให้เรามีความสุขได้เลยสักคน?”เจียงหวยยืนอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็พลันพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
พวกเขาเพิ่งกินข้าวเสร็จ อาหารยังร้อนฉุยอยู่เลยเจี่ยนอันอันกลับถึงในห้องก็นั่งลงหน้าโต๊ะแล้วเริ่มกินข้าวตอนนี้นางหิวโซยิ่งจึงกินข้าวรวดเดียวสองถ้วยพูนในที่สุดหลังจากกินอิ่มแล้ว เจี่ยนอันอันก็เช็ดมุมปากพลางลูบหน้าท้องที่ค่อนข้างกลมของตัวเองยังคงเป็นอาหารที่บ้านอร่อยกว่าจริงๆ ด้วยฉู่จวินสิงยิ้มมองเจี่ยนอันอัน เห็นนางมีสีหน้าพึงพอใจ ในใจเขาก็มีความสุขยิ่งนักหลังจากที่พวกสาวใช้เก็บถ้วยชามไปแล้วก็ปิดประตูห้องให้คนทั้งสองคนสกุลฉู่ไม่ได้มารบกวนทั้งคู่ แม้พวกเขาจะอยากรู้มากว่าวันนี้คนทั้งสองไปทำอะไรมาก็ตามทีแต่พวกเขาก็รู้ว่าตอนนี้ดึกเกินไปแล้ว คำถามพวกนี้เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยถามก็ยังไม่สายเจี่ยนอันอันนอนอยู่บนเตียง จิตใต้สำนึกเข้าสู่ห้วงมิติ นำอุปกรณ์ดำน้ำสองชุดไปขายมือสองสุดท้ายได้เงินมาสี่แสนตำลึงทองแม้นางจะใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อซื้ออุปกรณ์ดำน้ำ แต่สามารถได้ป้ายประกาศิตสวรรค์มาก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วฉู่จวินสิงนอนลงข้างกายเจี่ยนอันอัน เขาเอ่ยถาม “เจ้าคิดอย่างไรต่อรัชทายาท?”เจี่ยนอันอันคว่ำปาก “ไร้ความรู้สึก”หลังจากได้ยินคำพูดของเจี่ยนอันอันแล้ว มุมปากฉู่จวินสิงก็ยกขึ้นเล็กน
“รัชทายาท ไหนบอกว่าจะให้พี่กวนซินค้นตัวข้ามิใช่หรือ?”“เช่นนั้นก็จงเริ่มค้นเถอะ ข้าต้องกลับบ้านไปกินข้าวอีก”ฉู่เทียนหัวพลันนึกถึงเรื่องป้ายประกาศิตขึ้นมา เขาปล่อยมือจากกวนซิน พลางกล่าวเสียวขรึม“ซินเอ๋อร์ เจ้าไปค้นตัวเจี่ยนอันอัน ดูว่าในตัวนางมีป้ายประกาศิตสวรรค์อยู่หรือไม่”กวนซินมองหน้าพวกเขาด้วยความฉงน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องให้นางค้นตัวเจี่ยนอันอันฉู่เทียนหัวจึงกล่าว “เจ้าค้นตัวนางก่อน อีกประเดี๋ยวข้าค่อยอธิบายให้ฟัง”กวนซินรับคำว่า “อ้อ” พร้อมกล่าวด้วยความเกรงใจ “อันอัน ต้องขออภัยด้วย”เจี่ยนอันอันพยักหน้าราวกับไม่แยแส “ไม่เป็นไร พี่กวนซินเชิญค้นได้เลย”กวนซินจึงเริ่มจับไปตามเสื้อผ้าของเจี่ยนอันอัน ด้วยอาการมือสั่นเทา ต่อหน้าทุกคนในที่นั้นนางค้นจากบนลงล่างไปหนึ่งรอบ แต่ไม่พบป้ายประกาศิตตามที่ฉู่เทียนหัวกล่าวมากวนซินหันหลังไป พร้อมส่ายหน้าให้ฉู่เทียนหัว “รัชทายาท ในตัวอันอันไม่มีป้ายอันใด”ฉู่เทียนหัวได้ยินดังนี้จึงแอบสะดุ้งในใจ หรือว่าเจี่ยนอันอันงมหาป้ายประกาศิตไม่พบจริงๆ?หากเป็นเช่นนั้นจริง ป้ายนั้นคงยังอยู่ในแม่น้ำจื่อสุ่ยเป็นแน่แท้วันหน้าหากมีโอกาส เขาต้อง
กวนซินเพิ่งได้สติกลับมา พลางรีบใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่ใบหน้านางสูดจมูกเล็กน้อย พยายามกล้ำกลืนมิให้มีน้ำตาไหลอีก“องค์ชายรีบเข้ามาก่อนเถอะ เราไปคุยในบ้าน”กวนซินกล่าวพลาง ดึงตัวฉู่ตั๋วตัวให้มาอยู่ข้างตน พร้อมเบี่ยงกายให้มีทางเดินที่ประตูฉู่เทียนหัวกล่าวต่อสือเจี้ยที่คุกเข่าอยู่ “เจ้าก็ลุกขึ้นด้วย”สือเจี้ยรับคำ พร้อมรีบลุกขึ้นยืนทุกคนพากันเดินเข้าลานบ้าน ชิวเหลียนเห็นผู้ที่เข้ามาคือคุณชายรองและฮูหยิน ซ้ำยังพารัชทายาทมาอีกนางจึงรีบย่อตัวลงคารวะฉู่เทียนหัว “ชิวเหลียนคารวะรัชทายาท”ฉู่เทียนหัวเหลียวมองชิวเหลียน รู้สึกว่านางไม่คุ้นหน้า ไม่ใช่สาวใช้ในจวนรัชทายาทเป็นแน่“เจ้าเป็นใครกัน” ฉู่เทียนหัวขมวดคิ้วเล็กน้อยชิวเหลียนรีบกล่าวตอบ “เรียนรัชทายาท ข้าเป็นสาวใช้ของตระกูลฉู่ รับบัญชาจากฮูหยินน้อยรองให้มาปรนนิบัติแม่นางกวนน่ะเจ้าค่ะ”หลายวันที่ผ่านมา ชิวเหลียนเรียกกวนซินว่าแม่นางกวนจนชินปากแล้วแต่ครั้งนี้เมื่อนางเผลอหลุดปากออกไป ทำให้นึกอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเสียเพราะเดิมกวนซินเป็นชายารองของรัชทายาท ตามหลักเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ชาย ก็ควรเรียกนางว่าพระชายาจึงจะถูกเคราะห์ดีที่
ฉู่เทียนหัวล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ พลางลูบเศษเงินที่ค้นได้จากตัวของทหารหลายคนมาพลางถอนหายใจเบาๆ นึกแล้วก็ให้หงุดหงิดนักเศษเงินเล็กน้อยเหล่านี้ หากเป็นสมัยก่อน เขาแทบไม่เหลียวแลให้เปลืองนัยน์ตาเสียด้วยซ้ำแต่ยามนี้เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องเก็บเศษเงินเหล่านี้ไว้ให้ดีเจี่ยนอันอันบอกให้ฉู่จวินสิงควบรถม้า มุ่งตรงไปบ้านพักของกวนซินก่อนฉู่จวินสิงเข้าใจดี นางต้องการพิสูจน์ว่าตนไม่ได้เอาป้ายประกาศิตสวรรค์ไปเขาจึงไม่พูดจา เพียงควบรถม้ารีบไปถึงหน้าประตูบ้านกวนซินเจี่ยนอันอันลงจากหลังม้าแล้ว ตรงไปเคาะประตูลานบ้านฉู่เทียนหัวลงตามมาเช่นกัน เขามองดูกำแพงบ้านที่ค่อนข้างทรุดโทรม ในใจคล้ายจะหลั่งโลหิตนับแต่นี้เขาอาจต้องมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้แล้วเพียงไม่นานจึงมีคนมาเปิดประตู สือเจี้ยเห็นว่าเป็นเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมาถึง ใบหน้าจึงผุดรอยยิ้มออกมาทันที“คุณชายฉู่ แม่นางเจี่ยน พวกท่านมาหาฮูหยินใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเอ่ยปากถาม “พี่กวนซินอยู่ข้างในใช่ไหม?”สือเจี้ยแสดงสีหน้าลำบากใจ “ต้องขออภัย ฮูหยินเพิ่งพาเสี่ยวตั๋วตั่วออกไปข้างนอก”ฉู่เทียนหัวได้ยินว่ากวนซินพาฉู่ตั๋วตั