Share

บทที่ 9 ไม่ต้องกลัว

last update Last Updated: 2025-10-29 21:08:29

ช่วยด้วย...

ฉันได้แต่ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในใจ ตอนนี้ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้แล้วดิ้นให้แรงที่สุดเพื่อให้หลุดจากไอ้สองตัวนรกนี่ให้ได้ พวกมันเอามือสากๆ มาปิดปากฉันเอาไว้แน่น บีบจนฉันเจ็บร้าวไปทั้งกะโหลก ทั้งยังพยายามฉุดกระชากลากถูฉันเข้าไปในซอยมืดๆ นั่น โดยที่เด็กคนนั้นยืนมองนิ่งไม่พูดอะไรเลย

นังเด็กบ้า เพราะอยากช่วยแกแท้ๆ เลยทำให้ฉันต้องจบลงอย่างนี้ ถ้าฉันหลุดไปได้ไม่เอาแกไว้แน่

“อย่าดิ้นสิวะอีนี่ ตัวก็นิดเดียวแรงเยอะจังวะ”

“อื้อ อ่อยอั๊น!!!” ไม่ดิ้นก็โง่น่ะสิ ให้ตายฉันก็ไม่มีวันยอมตกเป็นเมียสวะอย่างพวกแกเด็ดขาด!

“กูบอกว่าอย่าดิ้น!”

ตุ้บ!

ความรู้สึกจุกหน่วงที่ท้องน้อยทำให้เรี่ยวแรงของฉันหายไปในทันที แม้แต่แรงจะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ยังไม่มี วินาทีนี้เองที่ฉันเริ่มใจเต้นรัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะถูกข่มขืนโดยไอ้เลวสองคนนี้

ฉันกลัว...เป็นครั้งแรกเลยที่กลัวมากขนาดนี้ หัวใจมันสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในใจพยายามอ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอให้ส่งใครสักคนมาช่วยฉันที

แวบหนึ่ง...แค่แวบหนึ่งจริงๆ ที่ฉันคิดถึงไนธ์ขึ้นมา คนที่ทะเลาะกันไม่หยุดตลอดสองวันที่ผ่านมานี้ คนที่เขาคงดีใจที่ฉันหายไปจากโลก คนที่เกลียดฉันเข้ากระดูกดำคนนั้น

แค่หวังว่าเขาคงทำหน้าที่บอดี้การ์ดอย่างการเข้ามาช่วยฉันไว้เหมือนทุกครั้ง แต่ความคิดนั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ เพราะตอนนี้เขาคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันหายไป

ทำไมฉันมันโง่อย่างนี้นะ...

“ลากมันไป กูอยากจะตายแล้วเนี่ย”

“เออๆ อีหลินไปดูต้นทาง พวกกูจะเอามัน”

“ดะ...ได้”

ฮึก...ขอร้องล่ะ ไนธ์...ช่วยฉันที ฉันสาบานจะไม่ด่านายอีกเลยต่อจากนี้ จะไม่หนีแล้วด้วย ขอร้อง...

นั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันร้องขอได้ ต่อให้รู้ว่าเขาจะไม่มีวันมาก็ตาม

────────❅❀❅────────•

[Nithe’s part]

อยู่ที่ไหนนะ ดึกขนาดนี้แล้ว

ผมตามสัญญาณมือถือของเรนนี่ที่ก่อนหน้านี้ได้แอบแฮกเอาไว้ ก่อนจะพบว่าเธอมาที่ห้างแห่งนี้ที่อยู่ไกลจากบ้านราวๆ 50 กิโลฯได้ ผมรู้ว่าเธอคงไม่กล้าไปไหนไกล แต่พอมาถึงก็มึนตึ้บ เพราะสัญญาณได้หายไปแล้ว

“บ้าเอ๊ย”

“เอาไงดีลูกพี่ แถวนี้กลางคืนโคตรเปลี่ยว มีการปล้นจี้บ่อยด้วย คุณหนูมีเงินติดตัวบ้าง คงจะไปนอนโรงแรมแล้วมั้ง” เจ็ดออกความคิดเห็น หลังจากเราวนรถหาตามที่ต่างๆ นานนับชั่วโมงแล้วไม่เจอ

“เป็นอย่างนั้นก็ดีสิ คิดว่าเรียนจบเมืองนอกเมืองนามาคงจะมีสมองอยู่บ้าง ไม่ทำอะไรโง่ๆ อย่างการมาเดินคนเดียวดึกๆ ห‍ร‍อ‍กมั้ง”

เราสองคนมองหน้าแล้วพยักหน้าให้กัน ถ้าหาที่ถนนแล้วไม่เจอคงต้องหาตามโรงแรมแถวนี้ หวังว่าคงยังไม่ออกไปจังหวัดอื่นไม่งั้นคงหาตัวยากแล้ว

แต่อีกใจหนึ่งผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้น ยิ่งเธอออกห่างจากบ้านหลังนี้มากเท่าไหร่ ก็คงเป็นเรื่องดีต่อเธอมากเท่านั้น

เจ็ดวนรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงแรมแรกที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ทว่าจังหวะที่พ้นสะพานลอยมาได้สักสองร้อยเมตร จู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตรงมาทางพวกเรา พร้อมทั้งโบกไม้โบกมือคล้ายจะขอความช่วยเหลือ

“ไอ้เจ็ด จอดๆๆๆ”

“ครับลูกพี่”

ผมรีบลงจากรถก่อนจะตรงไปหาเด็กคนนั้นในทันที ทั้งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้มีลางสังหรณ์ว่านี่อาจเกี่ยวกับเรนนี่

“พี่คะ ช่วยด้วย” สีหน้าเป็นกังวลของเธอพลอยทำให้ผมใจคอไม่ดีไปด้วย

“เกิดอะไรขึ้น”

“คือว่าพี่สาว พี่สาวเขา...” เด็กหญิงตรงหน้าผมมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย เหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา “พี่สาวเขา...”

“พี่สาวอะไร ใช่ผู้หญิงสวยๆ ที่ผมสีน้ำตาลยาวๆ หรือเปล่า”

ในแววตาของเด็กหญิงกระตุกวูบ เธอกำลังจะอ้าปากตอบคำถามของผม แต่ทันใดนั้นกลับมีเสียงกรีดร้องดังมาจากซอยมืดไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก

“กรี๊ด!!”

นั่นมัน...เสียงเรนนี่นิ

ผมไม่รอช้าวิ่งตรงไปทางนั้นในทันที ตามด้วยไอ้เจ็ดที่วิ่งตามมาด้วยกัน ทันทีที่เข้ามาถึงความมืดทำให้ผมมองเห็นตรงนี้ได้ไม่ชัดนัก แต่เงาตะคุ่มๆ บวกกับเสียงเหมือนคนถูกตบอย่างแรงหลายทีมันทำให้ผมใจสั่นไปหมด

เพียะ!!

“กูบอกให้เงียบ!”

“ฮึก...อย่าทำ...ฉันเลย”

วินาทีนั้นผมถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เสียงที่ได้ยินคือเรนนี่อย่างแน่นอน ผมไม่รอช้าพุ่งเข้าไปกระชากตัวไอ้เลวที่คร่อมร่างเธออยู่ออกมาแม้ว่าจะมืดจนเกือบมองไม่เห็นก็ตาม

“เห้ย! อะไรวะ กูบอกให้ต่อคิวไง”

“ต่อคิวบ้านพ่อมึงสิไอ้กร๊วก”

ผัวะ!!!

หมัดที่หนึ่งเข้าหน้ามันเต็มๆ จนร่างมันลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตร อีกคนที่รอต่อคิวเห็นว่าเพื่อนถูกต่อยก็พยายามเข้ามาช่วย

ผัวะ!!!!

แต่ก็โดนไปอีกหนึ่งหมัด เสียงร้องโอดโอยดังไปทั่วบริเวณ ดังกว่าเสียงกรีดร้องของเรนนี่หลายเท่า ผมไม่เห็นห‍ร‍อ‍กแต่รู้ว่ามันคงเจ็บพอสมควร แต่แค่นี้มันยังไม่พอ

“ไปต่อคิวกันลงนรกนะพวกมึง วันนี้ถ้ามึงไม่ตายกูไม่หยุดแน่”

ว่าแล้วผมก็กระชากไอ้สารเลวตัวแรกมาคร่อมเอาไว้ ก่อนจะรัวหมัดไปที่หน้าของมันแบบไม่เว้นจังหวะให้ได้หายใจ

“ตายซะ ไปตายซะเถอะมึง!!”

“อ้ากกก!!”

เสียงร้องดังขึ้นที่ด้านหลังของผม ทันในนั้นก็มีวัตถุหนักๆ ฟาดเข้ามาอย่างจังที่กลางหลัง

ตุ้บ!

“กล้าดียังไงมาทำพวกกู มึงนั่นแหละต้องไปตาย”

คิดว่าแค่นี้ทำให้ผมเจ็บปวดได้แล้วเหรอ? ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น เมื่อรู้สึกได้ว่าคนที่ถูกต่อยแน่นิ่งไปจึงได้ลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนเป้าหมายในทันที

“ทะ...ทำไมไม่เป็นไรเลยวะ มึงเป็นคนแน่ป่าวเนี่ย”

“กูก็คนเหมือนมึงนั่นแหละ กูแค่ปกติกว่ามึง”

“ไม่จริง กูฟาดไปแรงขนาดนั้น อั้ก!!!”

ก็ทำได้แค่ฟาดนั่นแหละ แค่ในเวลาไม่กี่วินาทีที่ผมก้าวเข้าไปถึงตัวมันแล้วสอดมือเข้าไปจับคอมันบีบ มือที่จับไม้ก่อนหน้านี้ก็อ่อนแรงจนทำไม้ร่วงพื้นไป

“อย่า...ทำ...กู...เลย” เสียงแหบพร่าพยายามร้องขอชีวิต แต่นั่นยิ่งทำให้ผมบีบมือแน่นยิ่งกว่าเดิม

“ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นขอ มึงก็ไม่คิดจะหยุดนี่”

“อั้ก...กู ผิด ไป แล้ว”

“เออ กูรู้ แต่กูไม่ให้อภัย”

ริมาทำร้ายผู้หญิงคนนี้ แค่ทำให้เจ็บหรือพิการมันยังน้อยไป ไอ้สองคนนี้มันต้องได้ชดใช้ทุกอย่างที่ทำกับเรนนี่อย่างสาสม!

“นะ...ไนธ์” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาทว่าผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน มือที่บีบคอไอ้เลวนี่แน่นได้คลายออกเล็กน้อย

ผมอยากจะฆ่าพวกมันใจแทบขาด แต่พอคิดถึงปัญหาที่จะตามมาต่อจากนี้ก็ต้องหยุดมือเอาไว้ก่อน พวกมันทั้งคู่หายใจรวยริน ขนาดว่ามองไม่เห็นผมยังรู้ว่าสภาพดูไม่จืดอย่างแน่นอน

ทันทีที่วางมือจากสองคนนั้นมาได้ ผมรีบตรงไปยังที่ที่เรนนี่อยู่ก่อนหน้านี้ในทันที แสงจันทร์เลือนรางทำให้ผมเห็นว่าตอนนี้เธอลุกขึ้นมานั่งกอดเข่า ร่างกายบอบบางสั่นเทิ้มเจือไปด้วยเสียงสะอื้น

“เรนนี่...”

“ฮึก...นาย มาช้า...”

เสียงสั่นเครือที่ตอบกลับมาทำให้ผมชาหนึบไปทั้งตัว ผมมองไม่เห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ แต่กลับรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับเป็นอย่างดี

“ขอโทษที่มาช้า”

“ฉันเกลียดตัวเองจัง ทำไมต้องเป็นฉันที่เจอเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ ด้วย ฉันผิดไหมที่ไม่อยากต้องมาทนแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก ฉันผิดไหมที่แค่อยากออกมาจากบ้านที่ไม่ยินดีต้อนรับฉันเพื่อเริ่มต้นใหม่ ฉันผิดไหมที่แค่พยายามทวงทุกอย่างของฉันคืนมาเอง ทำไมโลกนี้ต้องทำเหมือนฉันพยายามไปเอาของคนอื่นมาแล้วลงโทษฉันด้วย”

‘มึงต้องทำทุกอย่างให้เรนนี่ได้สิ่งที่เป็นของเธอคืนมา ไม่ว่านั่นจะหมายถึงการทรยศคนอย่างไอ้เดชก็ตาม’

จู่ๆ คำพูดของคุณตาของเธอก็แวบเข้ามาในหัวของผม วันนั้นผมรับปากแล้ว สัญญาแล้วว่าจะทำทุกอย่างให้รณเดชไว้ใจ ทำทุกอย่างเพื่อเข้าใกล้เขาแล้วหาทางให้เรนนี่ได้กลับไปนั่งตำแหน่งประธานอีกครั้ง แต่วันนี้ยังเจอเธอได้เพียงสองวัน ผมก็ทำให้เธอหลุดมือเพราะความประมาทของตัวเอง จนทำให้เธอต้องเจ็บปวด...

ผมที่ทำหน้าที่ตัวเองได้แย่ขนาดนี้ จะยังมีหน้ากลับไปทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้เธอต่ออีกไหมนะ

“นายช่วยเข้ามาใกล้ๆ หน่อยได้ไหม ฉันรู้ว่ามันงี่เง่า ฉันรู้ว่านายเกลียดฉัน แต่เข้ามาใกล้ๆ ที”

ผมทำตามที่เธอร้องขอด้วยการเขยิบเข้าไปใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรก็มีแขนเล็กเอื้อมมาดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น ก่อนที่เธอจะร้องไห้โฮออกมาโดยไม่สนเลยว่าคนตรงหน้าคือคนที่เธอเกลียดมากแค่ไหน

“ฮึก...ฮือ นายมาช้า มาช้ามากๆ ฉันกลัวมากเลยไนธ์ ฉันกลัว...”

เสียงสะอึกสะอื้นพูดแทบไม่เป็นภาษา เธอตัวสั่นเหมือนลูกนก ทั้งหวาดกลัวทั้งบอบบางจนผมไม่กล้าแม้แต่จะกอดตอบ กลัวว่าจะเผลอทำเธอเจ็บ

“พวกนั้นมันลากฉันมา ฉันโดนเด็กนั่นหลอก ฉันมาช่วยเธอแต่จะถูกข่มขืน ฉัน...”

“เด็ก? คุณหมายถึงเด็กไหน?”

คำพูดขาดหายไปชั่วครู่ ทว่าเสียงสะอื้นยังคงอยู่ ผมรับรู้ได้ถึงใบหน้าที่เงยขึ้นมามองผมแม้ว่าจะมองไม่เห็นก็ตาม

“เด็กผู้หญิง เธอเอาเงินฉันไปแล้วไม่ซื้อเสื้อมาให้ จนฉันต้องไปแอบในห้องน้ำ แล้วพอฉันออกมา เธอก็ถูกฉุด ฉันเลย...”

“พอแล้วล่ะ”

ยิ่งเธอพูดเธอก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผมควรพาเธอออกไปจากที่นี่ อย่างน้อยๆ ก็ให้ไกลจากสิ่งเลวร้ายที่เธอต้องเจอ

“ผมจะพาคุณกลับ ไปเถอะ”

“ฉันไม่กลับบ้าน ฉันอุตส่าห์หนีออกมาได้แล้ว เจ็บตัวขนาดนี้แล้ว ฉันไม่กลับไปเด็ดขาด”

“รู้แล้ว งั้นไปโรงพยาบาลกัน”

“ไม่เอา ไม่ไป”

“เรนนี่ อย่าดื้อ”

เธอได้ยินแล้วก็เงียบไป ก่อนที่อ้อมกอดที่โอบรัดผมไว้จะคลายออกอย่างช้าๆ

คงรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังดื้ออย่างที่ผมว่าจริงๆ

“ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไร ให้บอกผมก่อน ผมมีหน้าที่ดูแลคุณ จำได้ไหม?”

“นายมีหน้าที่จับตาดูฉัน ฉันรู้ห‍ร‍อ‍ก”

“ผมไม่ได้พูด อย่าคิดไปเอง”

เอาเถอะ ในเมื่อเธออยากคิดผมก็จะไม่ห้าม ยังไงตอนนี้เราก็มีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ

“กลับกันเถอะ ไม่ไปบ้านก็ได้ ผมจะพาคุณไปที่อื่น”

ผมพยายามจะพยุงเธอลงมาจากตรงนั้น แต่กลับถูกเรนนี่สะบัดมือทิ้งแล้วเธอก็ลงเดินไปด้วยตัวเอง ลืมท่าทีที่กอดผมแน่นก่อนหน้านี้ไปเสียสนิท

แต่ก็ดีแล้วล่ะ เห็นเธอไม่เป็นอะไรแบบนี้ก็ดีแล้ว

────────❅❀❅────────•

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   ตอนจบ ด้วยรัก...คุณ

    [Nithe’s part]งานแต่งตั้งประธานเป็นอะไรที่วุ่นวายไม่น้อย ผมเดินตามเรนนี่ตลอดเวลาทำหน้าที่บอดี้การ์ดของตัวเองที่ห่างหายไปหลายเดือน ยอมรับว่าเป็นความรู้สึกที่แปลกอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นใบหน้าที่ยิ้มกว้างของเรนนี่อย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน ผมเองก็อดยิ้มตามเธอไม่ได้เธอดูมีความสุขมากจริงๆ มากกว่าเมื่อก่อนมาก ผมดีใจที่พอผมกลับเข้ามาในชีวิตสิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มของเธอ และหวังว่าจะได้เห็นมันไปนานๆ ตลอดไปเลยยิ่งดี“คลั่งรักเมียนะมึงอะ มองไม่พัก มองขนาดนี้แล้ววันนั้นหมาตัวไหนครับบอกว่าถ้าได้เอาคนนี้เอาหมาดีกว่า”เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาที่ข้างตัว ผมเกือบลืมไปว่าวันนี้เชิญเพื่อนสุดที่รักมาด้วย หันไปเจอไอ้ ชาวี เพื่อนรักตัวแสบยืนทำหน้าแป้นน่าถีบอยู่ข้างๆ เห็นแล้วอยากจะหันไปแจกหมัดให้สักทีสองที“คนพูดนั่นไม่ใช่กูครับเพื่อน” ผมตอบยิ้มๆ สายตาก็มองกลับเข้าไปในงาน เรนนี่กำลังทักทายแขกเหรื่อในงานโดยมีไอ้เจ็ดเดินตามไม่ห่าง ผมเลยถือโอกาสหันมาคุยกับเพื่อนบ้างวันนี้มากัดหมดทั้ง นาวี ชาวี รวมทั้งไอ้นักรบ แล้วไหนจะสาวๆ เมียพวกมันอีกครบทีม ผมคิดว่างานสำคัญอย่างนี้พาพวกเธอมาเจอกันหน่อยก็ดี ซ้ำคุณหนูเอวา[1] เอ

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   บทที่ 33 ในฐานะ...บอดี้การ์ด

    ฉันมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก หญิงสาวในเ‍ด‍ร‍สสีแดงสดแต่งหน้าจัดเต็มทาปากสีนู้ด ผมยาวสลวยถูกย้อมเป็นสีดำขลับแล้วรีดตรงทำให้เธอดูสง่าและภูมิฐานกว่าเมื่อก่อนเป็นไหนๆ สไตลิสของฉันวนรอบตัวแล้วปรบมือแล้วปรบมืออีกด้วยความภาคภูมิใจ ที่หล่อนสามารถเปลี่ยนลุคของฉันจากสก๊อยเป็นท่านประธานสาวได้สำเร็จ“สวย เริ่ด ปัง”“พอเถอะ เธออวยจนฉันเริ่มจะอึดอัดแล้ว”“ฉันอวยตัวเองเถอะ เมื่อก่อนเธอแต่งตัวไม่มีคลาสเอาซะเลย ตอนนี้เหรอ เหอะ อย่าว่าแต่มองเหลียวหลัง ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องวิ่งเข้ามากราบขอเป็นผัวค่ะ”“ขนาดนั้นเชียว?”เราสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยอย่างที่ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม คงเพราะอายุไม่ห่างกันมาก แล้วก็ทะเลาะกันมาตลอดเลยทำให้สนิทกันง่าย ทุกวันนี้การมีไข่มุกอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่แย่เท่าไหร่“เธอไปแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวไปพร้อมกัน” ฉันว่าพลางกลับมานั่งเล่นมือถือที่โซฟา ไม่ลืมที่จะถอดส้นสูงออกเพราะรู้ว่าไปงานยังไงก็คงไม่ได้ถอดไปอีกหลายชั่วโมง“ไม่เอาล่ะ เธอไปเถอะ ฉันเป็นแค่สไตลิสจะไปทำไม”“เธอเป็นเมียพ่อฉัน เป็นแม่เลี้ยงฉันนี่”“เธอ...ไม่ใช่ลูกของคุณเดชไม่ใช่เหรอ?”“อือ แล้วไงล่ะ ฉันก็เรียก

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   บทที่ 32 คำที่อยากฟัง

    [Nithe’s part]ขอโทษ...คำนี้มันคงจะสายเกินไปที่จะพูดแล้วในตอนนี้ แหวนที่เธอคืนให้มา มันคือการตัดความสัมพันธ์อย่างชัดเจนแต่ผมกลับไม่สามารถมูฟออนไปได้เลย“ผมเข้าใจนะว่าลูกพี่กำลังอกหัก แต่ดื่มเยอะๆ อย่างนี้มันไม่ดีนะพี่ คุณหนูเขามีความสุขแล้ว ผมเองก็ดูแลให้อย่างดี”คงมีแต่ไอ้เจ็ดที่เข้าใจว่าผมรู้สึกยังไง เรื่องที่เราเลิกกันไม่ได้ประกาศออกไป เลยมีแค่คนที่ผมสนิทที่สุดเท่านั้นที่รู้ แม้แต่นาวี ชาวี หรือแม้แต่ไอ้นักรบก็ไม่รู้เรื่องนี้ หลายครั้งที่เจอกันพวกมันยังแซวเรื่องของผมกับเรนนี่อยู่เลย ผมเองก็ไม่อยากบอกใครว่าจริงๆ ความสัมพันธ์นั้นมันได้จบลงแล้ว“กูไม่ได้อกหัก” ผมปฏิเสธคำพูดของไอ้เจ็ด ด้วยไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเลิกกับเธอแล้วจริงๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกระดกเหล้าเพียวๆ เข้าปากอีกอึกไม่รู้ว่าตัวเองดื่มจนเมาปลิ้นอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้ว รู้แค่ว่าทุกวันหากคิดถึงเธอ รสขมปร่าของเหล้าเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยผมได้ดื่มแล้วก็เมา เมาแล้วก็นอน นอนแล้วก็ตื่นมาดื่มใหม่ ชีวิตผมเป็นอย่างนี้มาสามเดือนแล้ว โคตรขี้แพ้เลยเนอะไอ้เจ็ดก็เลิกงานเมื่อไหร่เป็นต้องมาดื่มเป็นเพื่อนผม บางวันมันก็บ่นว่าดื่มไม่ไหวแล้วขอก

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   บทที่ 31 ของขวัญสุดท้าย

    ฉันไม่เคยรู้สึกเลยว่าตัวเองเสียไปหมดทุกอย่าง จนกระทั่งตัวเองมาเจอเรื่องนี้เมื่อก่อนฉันเสียแม่ เสียตา แต่ยังมีเป้าหมายในการทวงทุกอย่างคืนมาจากพ่อพอให้ได้มีแรงสู้ต่อ แต่วันนี้ฉันได้ทุกอย่างคืนมาแล้ว แม้แต่ตาก็อยู่กับฉัน แต่กลับไม่มีความสุขเลย“ตรงนี้อ่านว่า กอ อา กา แค่นี้ก็ไม่รู้เนอะ”“ก็เราไม่เคยเรียนหนังสือนี่”“ไม่เอาน่าหลานๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ”อีกอย่างที่ฉันได้มา นั่นก็คือครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ฉันว่าบ้านหลังนี้มันใหญ่เกินกว่าจะอยู่คนเดียว เลยให้ยัยไข่มุกย้ายกลับเข้ามา ด้วยเหตุผลแรกคือ ฉันอยากให้ร‍า‍อุ‍ลได้เรียนที่ดีๆ มีสังคมดีๆ ไม่ต้องลำบาก สองคืออยากให้หลินหลินได้มีเพื่อนอ้อ ฉันรับหลินหลินเป็นลูกบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ถึงจริงๆ เธอจะเรียกฉันว่าพี่สาวก็เถอะตอนนี้ในบ้านฉันเลยเต็มไปด้วยเสียงของเด็กสองคนทะเลาะกันแทบทุกวัน ตามด้วยเสียงคุณตาที่บอกว่าอย่าทะเลาะกันส่วนฉันก็มีงานใหญ่ต้องทำ“ชุดเห่ย”ยัยแม่เลี้ยงปากเสียว่าพลางมองฉันหัวจรดเท้า เธอเบะปากให้ชุดเ‍ด‍ร‍สสีแดงเรียบๆ ที่ฉันเลือกมาด้วยความตั้งอกตั้งใจยัยไข่มุกรับหน้าที่เป็นสไตลิสชั่วคราวให้ฉัน เพราะช่วงนี้ฉันยังไม่อยากพบเจอผู้คน

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   บทที่ 30 ความจริงที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้

    ‘แม่คะ อันนี้ดอกอะไรคะแม่ สวยมากเลย’‘ไซคลาเมนลูก ความหมายของมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ห‍ร‍อ‍ก บางคนก็เชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของการจากลา แต่สำหรับแม่ หมายถึงความรักของแม่ จะยังคงอยู่ตลอดไป แม้ว่าจะตายจากกัน’‘แม่อย่าพูดถึงเรื่องตายแบบนั้นสิคะ เรนไม่ชอบเลย’‘เรนนี่ลูก วันหนึ่งคนเราก็ต้องจากกัน แค่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่หนูไม่ต้องห่วงนะ ถ้าแม่ไปก่อน แม่จะไปรอลูกอยู่ที่นั่นนะจ๊ะ’ภาพของแม่ที่ฉันไม่เคยฝันถึงเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันมองรูปของแม่ทุกวัน หวังว่าจะได้เจอแม่ในฝันสักครั้ง แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นความว่างเปล่า มีเพียงคราบน้ำตาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในทุกคืนแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ฝันถึงแม่ แม่ที่ตายจากไปแล้วหลายปี ฉันถามแม่ว่าคุณตาอยู่ไหน แต่ท่านก็ไม่ตอบแล้วเดินไกลออกไป‘แม่คะ...อย่าทิ้งหนูไป’ เสียงของฉันในความฝันเรียกชื่อแม่ สองขาพยายามวิ่งตามท่าน แต่เหมือนว่ายิ่งวิ่งมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งห่างไกลกันมากขึ้นเรื่อยๆแม่...อย่าทิ้งหนูไป“แม่คะ...แม่อย่าทิ้งหนู”“เรนนี่” เสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในความฝัน ฉันหันหลังไปแล้วก็เจอกับใบหน้าของชายหนุ่มที่เหมือนจะคุ้นเคย แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเ

  • พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย   บทที่ 29 ชัยชนะที่ไม่ชนะ

    “เรื่องการเข้ารับตำแหน่งที่บริษัท ฉัตรจะจัดการให้เองนะคะคุณหนูไม่ต้องห่วง ตอนนี้พักผ่อนไปก่อน เอาสุขภาพตัวเองเป็นหลักนะคะ”คงเป็นความโชคดีของฉันอย่างหนึ่ง คือตอนที่ฉันรู้สึกแย่ฉันไม่เคยต้องอยู่คนเดียว ตอนที่เพื่อนไม่ว่างและฉันต้องการกำลังใจ ก็มีคุณฉัตรที่คอยเป็นธุระให้แทบทุกอย่าง แล้วยังอาสามาอยู่เป็นเพื่อนในบางวันเธอช่วยฉันตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จนไม่รู้แล้วว่าต้องเริ่มขอบคุณเธอจากตรงไหนดี“ขอบคุณนะคะคุณฉัตร แค่นี้ก็ลำบากคุณมากพออยู่แล้ว” ฉันกล่าวขอบคุณออกไปอย่างจริงใจ นั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้“ไม่รบกวนห‍ร‍อ‍กค่ะ ยังไงฉันก็ต้องทำงานให้คุณในฐานะทนายในการแต่งตั้งประธานบริษัทอยู่แล้ว ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวเพื่อจะไปแสดงตัวว่าเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉัตรเตรียมเอกสารไว้ให้แล้ว คุณเรนค่อยดูตอนที่รู้สึกดีขึ้นนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”“งั้นวันนี้ฉัตรจะรอเมย์บีมาก่อนค่อยไป คุณเรนอยากดื่มอะไรสักหน่อยไหมคะ ฉัตรไปชงให้”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”เฮ้อ...ฉันต้องอยู่คนเดียวให้ได้ ต้องไม่จิตตก ต้องไม่คิดถึงเขาสิรู้ไหมว่าอะไรยากที่สุดของการอยู่คนเดียว คือเมื่อเราได้มีใครสักคนเข้ามาในชี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status