“ที่ป้ากับลุงมาวันนี้ ป้าบอกตามตรงเลยนะ หนูชมพู่ ป้าอยากได้หนูไปเป็นลูกสะใภ้ ลูกชายของป้าก็ยังไม่มีแฟน ถ้าหนูชมพู่ไม่รังเกียจ ป้าอยากจะให้หนูลองศึกษาดูใจ และหมั้นหมายกับลูกชายของป้า แต่ถ้าหนูไม่ได้คิดอะไร ป้าก็ไม่ได้บังคับ แต่ป้าอยากให้หนูลองทำความรู้จักกับลูกชายของป้าดูก่อน หนูชมพู่คงจะไม่รังเกียจลูกชายป้าใช่ไหมลูก”
คุณนายพิมพ์พรรณเอ่ยถามอลิสาหลังจากที่ทุกคนทานข้าวเสร็จเรียบร้อย “เอ่อ...พู่ขอทำความรู้จักกับพี่พัฒน์ก่อนนะคะคุณป้า จะให้พู่ตอบตอนนี้ก็ยังไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา” อลิสาพยายามที่จะรักษาน้ำใจคุณนายพิมพ์พรรณ ทั้งๆที่เธออยากจะปฏิเสธตอนนี้เสียด้วยซ้ำ “ชมพู่ พาพี่พัฒน์ไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้หลังบ้านสิลูก ผู้ใหญ่จะคุยกัน ลูกก็จะได้ทำความรู้จักกับพี่เขาให้มากขึ้น” “พี่เห็นด้วยกับชม เด็กๆจะได้ทำความรู้จักกัน” คุณนายชมจันทร์บอกลูกสาว ส่วนคุณนายพิมพ์พรรณเอ่ยสำทับตามหลัง “ค่ะ งั้นพู่ขออนุญาตพาพี่พัฒน์ไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านนะคะ ไปค่ะพี่พัฒน์” อลิสาแสดงกิริยามารยาทอย่างนอบน้อม ทั้งๆที่เธอรู้สึกรังเกียจว่าที่คู่หมั้นอย่างสิ้นเชิง หมอพีรพัฒน์เดินตามหลังอลิสาไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่หลังบ้าน เมื่อลับตาผู้ใหญ่ เขาเอาแต่แสดงท่าทางเบื่อหน่ายและรำคาญ ต่างจากพฤติกรรมตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ “ฉันไม่คิดเลยว่าลูกชายของคุณป้าพิมพ์พรรณจะเป็นนาย” อลิสาพูดพร้อมกับมองชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกรังเกียจ “ฉันก็ไม่คิดว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่หมั้นของฉันคือเธอ ยัยโรคจิต ฉันยังไม่ได้สะสางเรื่องที่เธอมาแอบดูฉันเลย” พีรพัฒน์ยืนกอดอกกัดฟันจ้องหน้าอลิสา “ไอ้บ้ากาม บ้าไม่เลือกที่ ใครใช้ให้นายไปทำเรื่องบ้าๆในลานจอดรถ เอาไม่เลือกที่ ผู้ชายปากร้ายก้าวร้าว เสือผู้หญิงอย่างนายน่ะเหรอ ที่จะมาเป็นคู่หมั้นของฉัน พ่อกับแม่ของฉันคิดได้ยังไงนะ ถึงอยากได้ผู้ชายอย่างนายมาเป็นลูกเขย น่ารังเกียจที่สุด” “ถ้าเธอคิดว่าฉันเป็นผู้ชายน่ารังเกียจขนาดนั้น เธอก็ไปบอกพ่อกับแม่ของเธอให้ยกเลิกเรื่องหมั้นสิ เธอคิดว่าฉันอยากจะได้ผู้หญิงปากดีอย่างเธอมาเป็นเมียหรือไง อย่าคิดว่าเธอรังเกียจฉันฝ่ายเดียวนะ ฉันเองก็รังเกียจเธอไม่น้อยเหมือนกัน!” พีรพัฒน์กระแทกเสียงใส่คนตรงหน้า “นายนี่มันปากร้ายกว่าผู้หญิงเสียอีก ผู้หญิงคนนั้นคงบ้าไปแล้วที่มาเอากับนาย ไอ้คนทุเรศ” “ยัยโรคจิต ชีวิตของเธอคงไม่มีปัญญาหาผัวสินะ ถึงได้อยากจะมาเป็นเมียฉัน” “ฉันไปอยากได้นายมาเป็นผัวตอนไหน พูดให้ดีๆนะ” อลิสารู้สึกโกรธไม่น้อย เมื่อถูกหมอพีรพัฒน์ใช้คำพูดเหยียดหยาม “แล้วถ้าไม่อยากได้ฉัน เธอทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะ จะมาขอเวลาทำไม ปฏิเสธไปตอนนั้นก็จบ” “แล้วทำไมนายไม่ปฏิเสธเอง วิ่งถ่อมาถึงบ้านฉันทำไม นายมาเองนะ ฉันไม่ได้บังคับให้นายมา ฉันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ใครมันจะไปอยากได้ผู้ชายอย่างนายวะ” “ไม่อยากได้ก็ดี ไปสิ ไปบอกพ่อกับแม่ของเธอ ว่าเธอไม่ชอบฉัน ผู้ใหญ่จะได้ไม่ต้องมาจับคู่ ฉันรู้สึกเกลียดขี้หน้าผู้หญิงอย่างเธอเต็มทน” “ฉันก็จะอ้วกเหมือนกันที่เห็นหน้านาย ฉันถามหน่อยเถอะ ทำไมนายไม่ปฏิเสธไปเองตั้งแต่แรกวะ” “ก็ฉันไม่เคยขัดใจคุณแม่ เพราะฉะนั้นเธอต้องไปพูดให้ทุกอย่างมันจบ” “เออๆ ตามฉันมาสิ ในเมื่อนายรังเกียจฉันมาก ฉันก็ขยะแขยงนายเต็มทน เราก็ไม่จำเป็นต้องมาหมั้นหมายหรือแต่งงานกัน” อลิสาเดินกระแทกเท้ากลับมาในบ้าน หมอพีรพัฒน์เดินตามหลังมาติดๆ “คุณแม่คุณพ่อ คุณป้าคุณลุงคะ พู่มีเรื่องอยากจะพูดตอนนี้ค่ะ” ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนหันมามองที่อลิสาด้วยท่าทางฉงน เพราะท่าทางอลิสาในเวลานี้ เหมือนกับคนที่ไปกินรังแตนมาหมาดๆ “ว่ามาสิลูก ชมพู่มีอะไรก็พูดมาเลย” คุณนายชมจันทร์บอกลูกสาว “พู่กับพี่พัฒน์เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง พู่ไม่อยากหมั้นกับพี่พัฒน์ค่ะ” คำพูดของอลิสาทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนต้องหันไปมองหน้ากัน “ทำไมถึงไม่อยากหมั้นล่ะลูก” คุณนายชมจันทร์หันหน้ามาคุยกับลูกสาวอีกครั้ง “พู่ไม่อยากหมั้นกับพี่พัฒน์ เพราะพู่อยากแต่งงานกับพี่พัฒน์มากกว่าหมั้นค่ะ” “ยัยบ้า!”หมอพีรพัฒน์ถึงกับโพล่งคำหยาบออกมาอย่างลืมตัว ทุกคนต่างมองมาที่หมอพีรพัฒน์ด้วยความงุนงงและตกใจที่เขาพูดออกมาแบบนั้น ----------------------------------ตอนที่ 7 เดทแรก ฟันแล้วทิ้งร่างบางในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดหมู ดูสวยสง่าปนเซ็กซี่เล็กน้อย ผมยาวม้วนลอนปล่อยสยาย ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูสวยงาม ความสวยของอลิสาในตอนนี้ ดั่งมนต์สะกดให้หมอพีรพัฒน์ถึงกับตกตะลึงจ้องมองอย่างไม่ลดละ “จะไปเลยไหมคะ หรือจะนั่งมองอยู่แบบนี้”อลิสาเอ่ยถามพร้อมกับใช้สายตายั่วเย้าเล็กน้อย หมอพีรพัฒน์ถึงกับสะดุ้งจากภวังค์“ผมขออนุญาตพาลูกสาวคุณน้าไปทานอาหารนอกบ้านนะครับ”เขาเอ่ยขออนุญาตด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ“ตามสบายจ้ะ ชมพู่อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก”คุณนายชมจันทร์บอกลูกสาว นางรู้ดีว่าอลิสา มีนิสัยซุกซนดื้อรั้นในเวลาที่ลับตาผู้ใหญ่“ค่ะคุณแม่ เดทแรกของพู่และพี่พัฒน์ พู่จะทำให้พี่เขาประทับใจที่สุดเลยค่ะ”อลิสาเหยียดยิ้มให้คนที่กำลังลุกขึ้นยืน เขายังคงทำหน้าท่าทางสุขุมนุ่มลึก ไม่แสดงท่าทีร้ายกาจออกมาทั้งสองเดินมายังรถสปอร์ต Ferrari Roma คันสีน้ำเงิน “ฉันนึกว่านายจะเอารถBMWคันนั้นมารับฉันเสียอีก”อลิสาพูดออกมาในขณะที่หมอพีรพัฒน์กำลังขับรถไปตามท้องถนน“ทำไม หรือเธออยากจะลองขึ้นรถคันนั้นสักครั้ง”“แล้วทำไมฉันต้องอยากขึ้นรถคันนั้นด้วย พูดอะไรของนาย”“แล้
ตอนที่ 6 ด่ามาจูบกลับร่างสูงเดินเข้าประชิดร่างเล็กพร้อมกับใช้มือหนาทั้งสองข้างรวบรัดเอวบางเอาไว้ อลิสาถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ“ปล่อยฉันนะ นายจะทำบ้าอะไร”เธอถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ก็จับเธอทำเมียไง ไหนๆเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว ฉันขอเช็คช่วงล่างของเธอก่อน อยากรู้จริงๆ เครื่องมันจะฟิตสตาร์ทติดง่ายหรือเปล่า”เขาพูดพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์สำรวจที่ใบหน้าของอลิสา ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองที่เนินอก หน้าอกเต่งตึงกำลังบดเบียดที่หน้าท้องหนา แม้จะมีเสื้อผ้าปกปิด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าขนาดของของมัน ใหญ่เกินตัว“ปล่อยนะ ไอ้บ้ากาม”อลิสาพยายามดีดดิ้น ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งโอบรัดร่างเธอไว้แน่น“ด่าอีกสิ ดิ้นอีก ฉันจะจับเธอปล้ำจริงๆ เธอคิดว่าคนอย่างฉันทำได้ไหมล่ะ”“...”อลิสาทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เธอกลัวว่าเขาจะทำแบบที่เขาขู่จริงๆ ขนาดในรถเขายังทำได้โดยไม่แคร์ว่าใครจะเดินผ่านไปเห็น“ไง ยัยปากดี ยืนตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกเลย ฉันเตือนแล้วนะ เธอต้องไปบอกพ่อกับแม่ของเธอว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ถ้าเธอยังคิดจะเล่นตลกลองดีกับฉัน ฉันจับเธอปล้ำจริงๆลองดูไหม”(พรึ่บ)“ว้าย! ป
ตอนที่ 5 จับปล้ำกลางสวนดอกไม้“เอ่อ...คือ”พีรพัฒน์ถึงกับพูดไม่ออก ไปต่อไปไม่เป็น เมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังแสดงท่าทางและคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าผู้ใหญ่“เมื่อกี๊ลูกพูดอะไร ไหนพูดใหม่สิหมอพัฒน์”คุณนายพิมพ์พรรณถามลูกชายพร้อมกับจ้องหน้าอย่างคาดโทษ“คือ...ผมดีใจน่ะครับคุณแม่ ผมไม่คิดว่าน้องชมพู่จะมาบอกความจริงกับทุกคนเร็วขนาดนี้”หมอพีรพัฒน์ต้องพูดในทำนองแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน มารดาของเขาถึงกับโล่งอก เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา “แล้วตกลงยัยพู่เคยไปเจอกับพี่พัฒน์ตอนไหนล่ะลูก ทำไมแม่ถึงไม่รู้เรื่อง”คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวทันที“เจอเมื่อคืน...”“เจอตอนน้องชมพู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับ คืนนั้นน้องชมพู่ไม่สบาย ผมอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเป็นคนตรวจอาการน้องชมพู่น่ะครับ เราเลยได้รู้จักกัน พูดคุยถูกชะตากันน่ะครับ ก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นลูกสาวของคุณน้า มันบังเอิญจริงๆเลยนะครับ จริงไหมน้องชมพู่”หมอพีรพัฒน์ชิงพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง พร้อมกับก้าวขาขยับขึ้นมายืนข้างๆอลิสา จากนั้นจริงใช้นิ้วหยิกที่สะโพกของหญิงสาว“โอ๊ย!...เอ่อ...จริงค่ะ”อลิสาตอบและฝืนยิ้มแหย ทั้งๆที่เธอกำลังโกรธที่เขาบังอาจหยิกสะโ
ตอนที่ 4 ไม่มีปัญญาหาผัว“หมอพัฒน์ถึงกับตะลึงในความสวยของน้องชมพู่เลยเหรอลูก”คุณนายพิมพ์พรรณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอ่ยแซว เมื่อเห็นลูกชายกำลังตกตะลึง และกำลังจ้องมองลูกสาวเจ้าของบ้านอย่างไม่ละสายตา “ชมพู่ ไหว้สวัสดีพี่พัฒน์สิลูก พี่พัฒน์เป็นลูกชายของป้าพิมพ์น่ะ”คุณนายชมจันทร์ใช้ปลายนิ้วสะกิดที่แขนของลูกสาว พร้อมกับบอกให้ลูกสาวไหว้สวัสดีชายที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม “สวัสดีค่ะ พี่พัฒน์”อลิสาพนมมือไหว้สวัสดีหมอพีรพัฒน์ด้วยความนอบน้อม ก่อนที่เธอจะใช้สายตามองเขาด้วยท่าทางที่เย้ยหยันและเหยียดยิ้มจนหมอพีรพัฒน์ต้องมองจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง“สวัสดีครับ น้องชมพู่”พีรพัฒน์กลั้นใจตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ ในขณะที่เขากำลังกัดฟันจนสันกรามนูนเด่น“สงสัยลูกชายป้าจะถูกชะตากับหนูชมพู่ตั้งแต่แรกเจอ มองน้องตาไม่กระพริบเชียวนะตาพัฒน์”คุณนายพิมพรรณเอ่ยแซวลูกชายอีกครั้ง ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองคิดต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง“พู่ก็ถูกชะตากับพี่พัฒน์ค่ะ ให้ไปเจอข้างนอก ไม่ใช่ที่นี่ พู่ก็จำได้ค่ะ จำติดตาเลย”อลิสาตอบกลับพร้อมกับยิ้มเยาะใส่คนตรงหน้า ยิ่งทำให้หมอพีรพัฒน์รู้สึกหมั่นไส้
ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง(กริ๊งกริ๊ง)เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในห้องหรู ของโดมิเนียมกลางกรุง(กริ๊งกริ๊ง)“อื๊อ...ใครมากดกริ่งรบกวนตั้งแต่เช้าเนี่ย”ร่างบางลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงที่ปลายเตียงนอนพร้อมกับบ่นพึมพำ ในขณะที่เสียงกริ่งยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของห้องถึงกับมีอาการหงุดหงิดพอสมควร จากนั้นจึงเดินกระแทกเท้าไปหยุดยืนส่องดูที่ช่องตาแมว แล้วรีบเปิดประตูทันที(แอ๊ดดดด)“ยัยชมพู่!”“คุณแม่มีอะไรคะ จะมาทำไมไม่โทรบอกพู่ก่อน”อลิสาถามมารดาขณะที่ทั้งสองเดินไปนั่งยังโซฟาภายในห้องหรู“แม่โทรหาลูกจะเป็นร้อยสายแล้ว แต่ลูกไม่ยอมรับสายแม่”“อ๋อ สงสัยพู่ลืมเปิดเสียงมือถือน่ะค่ะ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”“แม่มาตามพู่กลับบ้าน พู่เรียนจบก็หลายเดือนแล้วนะ ไม่คิดจะทำงานทำการบ้างเลยเหรอลูก”“โธ่ คุณแม่ขา พู่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กตั้งหลายปี เรียนก็เหนื่อย เวลาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี พู่ขอพักผ่อนสักปีไม่ได้เหรอคะ พู่เพิ่งจะเรียนจบได้แค่สามเดือนเอง”อลิสาตอบกลับมารดาพร้อมกับทำหน้าง้ำงอราวกับเด็กน้อยที่กำลังงอแง“นิสัยขี้เกียจเมื่อไหร่จะหายไปสักที วันๆทำอะไรบ้าง นอกจากนอนอยู่แต่ในห้อง แม่ไม่เห็นว่าม
ตอนที่ 2 ว่าที่เมีย(เอี๊ยดดด)เสียงเบรคหนักของรถยนต์BMW i8 ดังมาจากโรงจอดรถภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ สไตล์โมเดิร์น ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ในช่วงเวลาตีสี่กว่าๆ ร่างสูงประมาณ 178 เซนติเมตร ก้าวขาลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ท่าทางเหมือนคนเพิ่งจะสร่างเมา“ไหนบอกว่ามีเคสผ่าคลอดไง โกหกแม่อีกแล้วใช่ไหมหมอพัฒน์!”เสียงของหญิงวัยหกสิบปลายๆกำลังแผดเสียงมาจากชั้นสองของบ้าน จนคนที่เพิ่งจะก้าวขาเข้าบ้านถึงกับสะดุ้ง“คุ...คุณแม่ ตื่นแต่เช้าเลยนะครับ”“ใครบอกว่าแม่ตื่นแต่เช้า แม่ยังไม่นอนต่างหาก”คุณนายพิมพ์พรรณยืนกอดอกจ้องหน้าลูกชายที่กำลังเดินขึ้นบันได หมอพีรพัฒน์ถึงกับถอนหายใจเบาๆ เขาไม่คาดคิดว่ามารดาจะตื่นขึ้นมาในเวลานี้ “ผมผ่าคลอดเสร็จเร็วน่ะครับ คนท้องเจ็บท้องช่วงเย็นพอดีและตรงกับวันนัด เด็กไม่ได้อยู่ในท่ากลับหัว ก็เลยผ่าคลอดตั้งแต่ช่วงเย็น กะว่าจะกลับบ้าน เพื่อนโทรมาชวนไปดื่มงานวันเกิด ผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธเพื่อน นานๆทีจะได้เจอกัน”หมอพีระพัฒน์บอกกับมารดา“แน่ใจนะว่าไปงานวันเกิดเพื่อนจริงๆ”คุณนายพิมพ์พรรณจ้องหน้าลูกชายตาเขม็ง ในขณะที่หมอพีรพัฒน์หยุดยืนอยู่ตรงหน้ามารดา “ผมจะโกหกคุณแม