แชร์

เจอกันอีกครั้ง

ผู้เขียน: InTheStars
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-27 13:18:49

ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง

(กริ๊งกริ๊ง)

เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในห้องหรู ของโดมิเนียมกลางกรุง

(กริ๊งกริ๊ง)

“อื๊อ...ใครมากดกริ่งรบกวนตั้งแต่เช้าเนี่ย”

ร่างบางลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงที่ปลายเตียงนอนพร้อมกับบ่นพึมพำ ในขณะที่เสียงกริ่งยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของห้องถึงกับมีอาการหงุดหงิดพอสมควร จากนั้นจึงเดินกระแทกเท้าไปหยุดยืนส่องดูที่ช่องตาแมว แล้วรีบเปิดประตูทันที

(แอ๊ดดดด)

“ยัยชมพู่!”

“คุณแม่มีอะไรคะ จะมาทำไมไม่โทรบอกพู่ก่อน”

อลิสาถามมารดาขณะที่ทั้งสองเดินไปนั่งยังโซฟาภายในห้องหรู

“แม่โทรหาลูกจะเป็นร้อยสายแล้ว แต่ลูกไม่ยอมรับสายแม่”

“อ๋อ สงสัยพู่ลืมเปิดเสียงมือถือน่ะค่ะ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“แม่มาตามพู่กลับบ้าน พู่เรียนจบก็หลายเดือนแล้วนะ ไม่คิดจะทำงานทำการบ้างเลยเหรอลูก”

“โธ่ คุณแม่ขา พู่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กตั้งหลายปี เรียนก็เหนื่อย เวลาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี พู่ขอพักผ่อนสักปีไม่ได้เหรอคะ พู่เพิ่งจะเรียนจบได้แค่สามเดือนเอง”

อลิสาตอบกลับมารดาพร้อมกับทำหน้าง้ำงอราวกับเด็กน้อยที่กำลังงอแง

“นิสัยขี้เกียจเมื่อไหร่จะหายไปสักที วันๆทำอะไรบ้าง นอกจากนอนอยู่แต่ในห้อง แม่ไม่เห็นว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไรเลย กับการที่ลูกอยู่แต่ในห้องแบบนี้”

“พู่ก็ออกกำลัง แล้วก็ฟังเพลงไงคะ”

“แต่แม่ต้องการให้ลูกไปเรียนรู้ที่ร้านเพชรของเรา”

คุณนายชมจันทร์พูดพร้อมกับกอดอกมองหน้าลูกสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“แต่พู่ยังไม่พร้อมเลยนะคะคุณแม่ แล้วทำไมพู่ต้องทำงานด้วยล่ะคะ ในเมื่อทรัพย์สินเงินทองของครอบครัวเราก็มีมากมาย พู่ไม่ต้องทำงาน บ้านเราก็มีรายได้มหาศาลอยู่แล้ว”

“ตกลงลูกจะไม่ยอมทำงานใช่ไหม”

“ค่ะ พู่ไม่อยากไปทำงาน น่าเบื่อ ให้อยู่บ้าน ทำอาหาร ทำงานบ้านยังง่ายกว่าอีก”

“ก็ดี ถ้าไม่อยากทำงาน งั้นลูกก็เตรียมตัวแต่งงานได้แล้ว”

“แต่งงาน!”

อลิสาอุทานออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินประโยคที่ออกจากปากของมารดา

“ใช่ ในเมื่อไม่อยากทำงาน พู่ก็ต้องแต่งงานออกเรือน ดีกว่ามานอนขี้เกียจสันหลังยาว วันนี้พู่ต้องกลับไปอยู่บ้าน ถ้ายังไม่กลับแม่จะขายห้องนี้ พู่จะได้ไม่ต้องมานอนขลุกอยู่แบบนี้โดยที่ไม่ยอมทำอะไร ไปเก็บเสื้อผ้ากับไปอยู่บ้านตอนนี้”

“คุณแม่พูดเล่นใช่ไหมคะ ที่บอกว่าจะให้พู่แต่งงาน ไม่จริงใช่ไหมคะ”

“แม่พูดเรื่องจริง เย็นนี้คุณป้าพิมพ์พรรณจะพาลูกชายของเขามาที่บ้านเรา พู่ต้องกลับบ้านกับแม่ ไปเตรียมตัวทำความรู้จักกับหมอพัฒน์ ว่าที่คู่หมั้นของลูก”

“ว่าที่คู่หมั้น! ทำไมคุณแม่ไม่ถามพู่ก่อนล่ะคะ ว่าพู่เต็มใจหรือเปล่า แบบนี้มันเป็นการคลุมถุงชนนะคะ”

“ก็ในเมื่อลูกไม่อยากทำงาน ลูกก็ไปเป็นแม่ศรีเรือนทำงานบ้านทำอาหารให้สามี มันคือทางออกที่ดีที่สุด สำหรับคนขี้เกียจ และอย่าคิดจะปฏิเสธ ถ้าไม่อยากมีปัญหากับคุณพ่อ ครอบครัวเราและครอบครัวป้าพิมพ์พรรณผูกสัมพันธ์ไมตรีกันมาตั้งนาน ถ้าได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ก็น่าจะดี หมอพัฒน์ก็มีหน้าที่การงานที่มี มีชาติตระกูล ตอนนี้ก็คงจะหล่อมาก แม่เห็นเขาตอนที่เรียนมัธยม หน้าตายังหล่อราวกับพระเอกดัง เหมาะสมกับลูกสาวคนสวยของแม่ที่สุด”

คุณนายชมจันทร์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างชื่นชม นางต้องการให้ลูกสาวคนสวยได้เป็นลูกสะใภ้ของเพื่อนสนิท อย่างคุณนายพิมพ์พรรณ

“ตกลงค่ะ พู่จะกลับบ้านกับคุณแม่ พู่ก็อยากจะเห็นหน้าเหลือเกิน เขาต้องเป็นผู้ชายแบบไหนถึงให้พ่อแม่บงการชีวิตด้วยการหาคู่ให้ ผู้ชายคนนั้นเต็มบาทใช่ไหมคะ”

“ว้าย! ยัยชมพู่ อย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะลูก หมอพัฒน์เป็นถึงหมอ เรียนจบจากลอนดอน เอาเป็นว่าเย็นนี้ลูกรอดูเองแล้วกัน ค่อยตัดสินใจ ระวังจะตกหลุมรักพี่เขาตั้งแต่แรกเจอนะลูก”

“ไม่มีทางค่ะ ถ้าพู่ไม่ได้พระเอกซีรีย์เกาหลีหรือพระเอกซีรีย์จีนมาเป็นแฟน พู่ขออยู่เป็นโสดดีกว่า”

“แม่จะคอยดู หมอพัฒน์ก็หล่อไม่น้อยกว่าพวกพระเอกที่ลูกชื่นชอบแล้วกันแหละน่า”

อลิสายอมเก็บเสื้อผ้ากลับมาอยู่ที่บ้านตามความต้องการของมารดา แต่เธอก็ยังยืนยันเรื่องที่เธอไม่พร้อมที่จะทำงาน

“สรุปเราจะไปที่บ้านคุณน้าชมจันทร์จริงๆใช่ไหมครับคุณแม่คุณพ่อ”

ร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์ขากระบอกสีเข้ม เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนครึ่งข้อศอก เดินลงบันไดมายังห้องโถง พร้อมกับเอ่ยถามบิดามารดาที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา

“ก็ไปจริงๆสิลูก แม่จะพูดเล่นไปทำไม ลูกพร้อมแล้วใช่ไหม”

คุณนายพิมพ์พรรณพูด ขณะที่สายตานางไล่สำรวจลูกชายตั้งแต่หัวจดเท้า

“แต่งตัวหล่อ ฉีดน้ำหอมฟุ้งขนาดนี้ พ่อว่าลูกคงพร้อมตั้งนานแล้ว เราไปกันเถอะ”

นายแพทย์ณรงค์ บิดาของเขากล่าว

พีรพัฒน์และครอบครัวเดินทางมาถึงบ้านของคุณนายชมจันทร์ย่านบางนา ในช่วงเย็นวันเสาร์ หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์หรูก็ว่าได้

“คุณนายคะ ครอบครัวคุณหมอณรงค์มาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้รออยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ”

สาวใช้วัยกลางคนเดินเข้ามาบอกคุณนายชมจันทร์ ที่กำลังวุ่นอยู่กับการหาชุดสวยๆให้ลูกสาวคนเดียวของเธอ

“เดี๋ยวฉันลงไป ชมพู่ลูกใส่ชุดนี้นะ ดูสวยหวานน่ารักมาก หมอพัฒน์เห็นคงจะตกหลุมรักลูกสาวแม่ตั้งแต่แรกเจอแน่ๆเลย”

คุณนายชมจันทร์หันไปบอกสาวใช้ ก่อนจะหยิบชุดจากตู้เสื้อผ้าแล้วส่งให้ลูกสาว พร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้อลิสารู้สึกเบื่อหน่าย

“ค่ะ คุณแม่ลงไปเถอะ เดี๋ยวพู่แต่งตัวเสร็จจะตามลงไปค่ะ”

คุณนายชมจันทร์เดินลงบันไดบ้านด้วยใบหน้าเบิกบาน ภายในห้องรับแขกมีคุณผู้ชายของบ้านกำลังนั่งคุยกับแขกที่มาเยือน

“สวัสดีค่ะพี่พิมพ์พรรณ สวัสดีค่ะคุณหมอณรงค์”

คุณนายชมจันทร์ไหว้สวัสดีรุ่นพี่คนสนิททั้งสอง เมื่อครั้งที่เป็นวัยรุ่นเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งสามคนสนิทกันมาก คุณนายชมจันทร์เป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนทั้งคู่ได้มารักกัน จนแต่งงานเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ คุณนายพิมพ์พรรณและคุณนายชมจันทร์ยังเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่วัยเด็ก ครอบครัวทั้งสองสนิทกันมายาวนาน

“สวัดดีครับ คุณน้าชมจันทร์”

หมอพีรพัฒน์ไหว้สวัสดีเพื่อนสนิทของมารดาด้วยความนอบน้อม ยิ่งทำให้นางถูกใจว่าที่ลูกเขยเป็นที่สุด

“สวัสดีจ้ะ น้าไม่เจอหมอพัฒน์หลายปีเลย สบายดีนะลูก”

“สบายดีครับคุณน้า แล้วคุณน้าล่ะครับสบายดีหรือเปล่า”

“สบายดีจ้ะ วันนี้น้าอยากแนะนำให้หมอพัฒน์รู้จักกับน้องชมพู่ลูกสาวของน้า น้องเพิ่งเรียนจบจากอเมริกา พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายสนิทกันมาตั้งนาน แต่ลูกๆไม่เคยมีโอกาสเจอได้ทำความรู้จักกันเลย วันนี้จะได้รู้จักกันสักทีนะคะ”

“ครับ”

หมอพีรพัฒน์ไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกเบื่อหน่ายออกมา เขายังคงวางตัวสุขุมนุ่มลึก ทั้งๆที่ความรู้สึกของเขาไม่ได้อยากจะเจอกับลูกสาวของคุณนายชมจันทร์แม้แต่น้อย

“จริงด้วย พี่ก็อยากให้ลูกๆของเราได้มาทำความรู้จักกันนานแล้วล่ะ แต่หนูชมพู่เองก็ไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย วันนี้เป็นโอกาสที่ดีของครอบครัวเราจริงๆ”

คุณนายพิมพ์พรรณกล่าวสำทับ

(ก๊อกก๊อกก๊อก)

“คุณหนูคะ แต่งตัวเสร็จหรือยังคะ คุณนายให้พี่จ๋ามาตามค่ะ”

สาวใช้คนเดิมขึ้นมาตามอลิสาตามคำสั่งของเจ้านาย

“ค่ะพี่จ๋า พู่จะลงไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”

อลิสาบอกคนที่ยืนอยู่นอกห้อง ก่อนที่เธอจะส่องกระจกมองเรือนร่างตัวเองที่อยู่ในชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีโอรส ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ ผมยาวม้วนลอนถูกมัดรวบหางม้าด้านหน้าปล่อยปอยผมลงมาเล็กน้อย

“หึ เป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ ถึงได้ยอมให้พ่อแม่คลุมถุงชน คิดว่าคนอย่างชมพู่จะยอมแต่งงานกับใครง่ายๆงั้นเหรอ”

อริสาพูดคนเดียวขณะที่เธอยืนส่องกระจก จากนั้นจึงเดินออกจากห้องลงบันไดไปยังห้องรับแขก เท้าเล็กก้าวเดินมานั่งลงโซฟาข้างๆมารดา และมีบิดาของเธอนั่งอยู่ที่โซฟาตัวถัดไป

“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า”

อลิสาไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความนอบน้อม แล้วไหนกันล่ะลูกชายของเขาทั้งสอง ในเวลานี้มีเพียงแค่คุณนายพิมพ์พรรณและหมอณรงค์ที่นั่งคุยกันอยู่กับบิดามารดาของเธอ ทั้งสองรับไหว้หญิงสาวพร้อมกับกล่าวชื่นชม

“หนูชมพู่เหรอนี่ ถ้าลุงไปเจอที่อื่นก็คงจะจำไม่ได้ เคยเห็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ โตเป็นสาวแล้ว”

หมอณรงค์กล่าว

“จริงด้วยค่ะ ตอนเด็กๆว่าน่ารักแล้ว โตเป็นสาวเต็มตัว ทั้งสวยทั้งน่ารัก แบบนี้ตาพัฒน์ของป้าคงจะตกหลุมรักหนูชมพู่ตั้งแต่แรกเจอแน่ๆ”

“แล้วไหนล่ะคะลูกชายของคุณป้า”

อลิสาถามคุณนายพิมพ์พรรณพร้อมกับมองไปรอบๆห้องรับแขก

“พี่พัฒน์ออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก เดี๋ยวก็มาจ้ะ นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี”

ร่างสูงเดินตรงเข้ามานั่งที่โซฟา อลิสาและหมอพีรพัฒน์ต่างสะดุ้งตกใจเมื่อได้เจอหน้ากัน

“!”

“!”

(นี่มันไอ้บ้ากามที่เราเจอเมื่อคืนนี่)

(ให้ตายเถอะ ยัยบ้าโรคจิตนี่เหรอจะมาเป็นคู่หมั้นของฉัน ไม่มีทาง)

ทั้งสองได้เพียงแค่คิดในใจแต่ไม่กล้าที่จะพูดอะไรขึ้นมาตอนนี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   เดทแรกฟันแล้วทิ้ง

    ตอนที่ 7 เดทแรก ฟันแล้วทิ้งร่างบางในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดหมู ดูสวยสง่าปนเซ็กซี่เล็กน้อย ผมยาวม้วนลอนปล่อยสยาย ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูสวยงาม ความสวยของอลิสาในตอนนี้ ดั่งมนต์สะกดให้หมอพีรพัฒน์ถึงกับตกตะลึงจ้องมองอย่างไม่ลดละ “จะไปเลยไหมคะ หรือจะนั่งมองอยู่แบบนี้”อลิสาเอ่ยถามพร้อมกับใช้สายตายั่วเย้าเล็กน้อย หมอพีรพัฒน์ถึงกับสะดุ้งจากภวังค์“ผมขออนุญาตพาลูกสาวคุณน้าไปทานอาหารนอกบ้านนะครับ”เขาเอ่ยขออนุญาตด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ“ตามสบายจ้ะ ชมพู่อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก”คุณนายชมจันทร์บอกลูกสาว นางรู้ดีว่าอลิสา มีนิสัยซุกซนดื้อรั้นในเวลาที่ลับตาผู้ใหญ่“ค่ะคุณแม่ เดทแรกของพู่และพี่พัฒน์ พู่จะทำให้พี่เขาประทับใจที่สุดเลยค่ะ”อลิสาเหยียดยิ้มให้คนที่กำลังลุกขึ้นยืน เขายังคงทำหน้าท่าทางสุขุมนุ่มลึก ไม่แสดงท่าทีร้ายกาจออกมาทั้งสองเดินมายังรถสปอร์ต Ferrari Roma คันสีน้ำเงิน “ฉันนึกว่านายจะเอารถBMWคันนั้นมารับฉันเสียอีก”อลิสาพูดออกมาในขณะที่หมอพีรพัฒน์กำลังขับรถไปตามท้องถนน“ทำไม หรือเธออยากจะลองขึ้นรถคันนั้นสักครั้ง”“แล้วทำไมฉันต้องอยากขึ้นรถคันนั้นด้วย พูดอะไรของนาย”“แล้

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   ด่ามาจูบกลับ

    ตอนที่ 6 ด่ามาจูบกลับร่างสูงเดินเข้าประชิดร่างเล็กพร้อมกับใช้มือหนาทั้งสองข้างรวบรัดเอวบางเอาไว้ อลิสาถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ“ปล่อยฉันนะ นายจะทำบ้าอะไร”เธอถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ก็จับเธอทำเมียไง ไหนๆเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว ฉันขอเช็คช่วงล่างของเธอก่อน อยากรู้จริงๆ เครื่องมันจะฟิตสตาร์ทติดง่ายหรือเปล่า”เขาพูดพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์สำรวจที่ใบหน้าของอลิสา ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองที่เนินอก หน้าอกเต่งตึงกำลังบดเบียดที่หน้าท้องหนา แม้จะมีเสื้อผ้าปกปิด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าขนาดของของมัน ใหญ่เกินตัว“ปล่อยนะ ไอ้บ้ากาม”อลิสาพยายามดีดดิ้น ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งโอบรัดร่างเธอไว้แน่น“ด่าอีกสิ ดิ้นอีก ฉันจะจับเธอปล้ำจริงๆ เธอคิดว่าคนอย่างฉันทำได้ไหมล่ะ”“...”อลิสาทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เธอกลัวว่าเขาจะทำแบบที่เขาขู่จริงๆ ขนาดในรถเขายังทำได้โดยไม่แคร์ว่าใครจะเดินผ่านไปเห็น“ไง ยัยปากดี ยืนตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกเลย ฉันเตือนแล้วนะ เธอต้องไปบอกพ่อกับแม่ของเธอว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ถ้าเธอยังคิดจะเล่นตลกลองดีกับฉัน ฉันจับเธอปล้ำจริงๆลองดูไหม”(พรึ่บ)“ว้าย! ป

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   จับปล้ำกลางสวนดอกไม้

    ตอนที่ 5 จับปล้ำกลางสวนดอกไม้“เอ่อ...คือ”พีรพัฒน์ถึงกับพูดไม่ออก ไปต่อไปไม่เป็น เมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังแสดงท่าทางและคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าผู้ใหญ่“เมื่อกี๊ลูกพูดอะไร ไหนพูดใหม่สิหมอพัฒน์”คุณนายพิมพ์พรรณถามลูกชายพร้อมกับจ้องหน้าอย่างคาดโทษ“คือ...ผมดีใจน่ะครับคุณแม่ ผมไม่คิดว่าน้องชมพู่จะมาบอกความจริงกับทุกคนเร็วขนาดนี้”หมอพีรพัฒน์ต้องพูดในทำนองแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน มารดาของเขาถึงกับโล่งอก เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา “แล้วตกลงยัยพู่เคยไปเจอกับพี่พัฒน์ตอนไหนล่ะลูก ทำไมแม่ถึงไม่รู้เรื่อง”คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวทันที“เจอเมื่อคืน...”“เจอตอนน้องชมพู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับ คืนนั้นน้องชมพู่ไม่สบาย ผมอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเป็นคนตรวจอาการน้องชมพู่น่ะครับ เราเลยได้รู้จักกัน พูดคุยถูกชะตากันน่ะครับ ก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นลูกสาวของคุณน้า มันบังเอิญจริงๆเลยนะครับ จริงไหมน้องชมพู่”หมอพีรพัฒน์ชิงพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง พร้อมกับก้าวขาขยับขึ้นมายืนข้างๆอลิสา จากนั้นจริงใช้นิ้วหยิกที่สะโพกของหญิงสาว“โอ๊ย!...เอ่อ...จริงค่ะ”อลิสาตอบและฝืนยิ้มแหย ทั้งๆที่เธอกำลังโกรธที่เขาบังอาจหยิกสะโ

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   ไม่มีปัญญาหาผัว

    ตอนที่ 4 ไม่มีปัญญาหาผัว“หมอพัฒน์ถึงกับตะลึงในความสวยของน้องชมพู่เลยเหรอลูก”คุณนายพิมพ์พรรณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอ่ยแซว เมื่อเห็นลูกชายกำลังตกตะลึง และกำลังจ้องมองลูกสาวเจ้าของบ้านอย่างไม่ละสายตา “ชมพู่ ไหว้สวัสดีพี่พัฒน์สิลูก พี่พัฒน์เป็นลูกชายของป้าพิมพ์น่ะ”คุณนายชมจันทร์ใช้ปลายนิ้วสะกิดที่แขนของลูกสาว พร้อมกับบอกให้ลูกสาวไหว้สวัสดีชายที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม “สวัสดีค่ะ พี่พัฒน์”อลิสาพนมมือไหว้สวัสดีหมอพีรพัฒน์ด้วยความนอบน้อม ก่อนที่เธอจะใช้สายตามองเขาด้วยท่าทางที่เย้ยหยันและเหยียดยิ้มจนหมอพีรพัฒน์ต้องมองจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง“สวัสดีครับ น้องชมพู่”พีรพัฒน์กลั้นใจตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ ในขณะที่เขากำลังกัดฟันจนสันกรามนูนเด่น“สงสัยลูกชายป้าจะถูกชะตากับหนูชมพู่ตั้งแต่แรกเจอ มองน้องตาไม่กระพริบเชียวนะตาพัฒน์”คุณนายพิมพรรณเอ่ยแซวลูกชายอีกครั้ง ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองคิดต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง“พู่ก็ถูกชะตากับพี่พัฒน์ค่ะ ให้ไปเจอข้างนอก ไม่ใช่ที่นี่ พู่ก็จำได้ค่ะ จำติดตาเลย”อลิสาตอบกลับพร้อมกับยิ้มเยาะใส่คนตรงหน้า ยิ่งทำให้หมอพีรพัฒน์รู้สึกหมั่นไส้

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   เจอกันอีกครั้ง

    ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง(กริ๊งกริ๊ง)เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในห้องหรู ของโดมิเนียมกลางกรุง(กริ๊งกริ๊ง)“อื๊อ...ใครมากดกริ่งรบกวนตั้งแต่เช้าเนี่ย”ร่างบางลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงที่ปลายเตียงนอนพร้อมกับบ่นพึมพำ ในขณะที่เสียงกริ่งยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของห้องถึงกับมีอาการหงุดหงิดพอสมควร จากนั้นจึงเดินกระแทกเท้าไปหยุดยืนส่องดูที่ช่องตาแมว แล้วรีบเปิดประตูทันที(แอ๊ดดดด)“ยัยชมพู่!”“คุณแม่มีอะไรคะ จะมาทำไมไม่โทรบอกพู่ก่อน”อลิสาถามมารดาขณะที่ทั้งสองเดินไปนั่งยังโซฟาภายในห้องหรู“แม่โทรหาลูกจะเป็นร้อยสายแล้ว แต่ลูกไม่ยอมรับสายแม่”“อ๋อ สงสัยพู่ลืมเปิดเสียงมือถือน่ะค่ะ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”“แม่มาตามพู่กลับบ้าน พู่เรียนจบก็หลายเดือนแล้วนะ ไม่คิดจะทำงานทำการบ้างเลยเหรอลูก”“โธ่ คุณแม่ขา พู่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กตั้งหลายปี เรียนก็เหนื่อย เวลาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี พู่ขอพักผ่อนสักปีไม่ได้เหรอคะ พู่เพิ่งจะเรียนจบได้แค่สามเดือนเอง”อลิสาตอบกลับมารดาพร้อมกับทำหน้าง้ำงอราวกับเด็กน้อยที่กำลังงอแง“นิสัยขี้เกียจเมื่อไหร่จะหายไปสักที วันๆทำอะไรบ้าง นอกจากนอนอยู่แต่ในห้อง แม่ไม่เห็นว่าม

  • พยศรักคุณหมอแสนร้าย   ว่าที่เมีย

    ตอนที่ 2 ว่าที่เมีย(เอี๊ยดดด)เสียงเบรคหนักของรถยนต์BMW i8 ดังมาจากโรงจอดรถภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ สไตล์โมเดิร์น ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ในช่วงเวลาตีสี่กว่าๆ ร่างสูงประมาณ 178 เซนติเมตร ก้าวขาลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ท่าทางเหมือนคนเพิ่งจะสร่างเมา“ไหนบอกว่ามีเคสผ่าคลอดไง โกหกแม่อีกแล้วใช่ไหมหมอพัฒน์!”เสียงของหญิงวัยหกสิบปลายๆกำลังแผดเสียงมาจากชั้นสองของบ้าน จนคนที่เพิ่งจะก้าวขาเข้าบ้านถึงกับสะดุ้ง“คุ...คุณแม่ ตื่นแต่เช้าเลยนะครับ”“ใครบอกว่าแม่ตื่นแต่เช้า แม่ยังไม่นอนต่างหาก”คุณนายพิมพ์พรรณยืนกอดอกจ้องหน้าลูกชายที่กำลังเดินขึ้นบันได หมอพีรพัฒน์ถึงกับถอนหายใจเบาๆ เขาไม่คาดคิดว่ามารดาจะตื่นขึ้นมาในเวลานี้ “ผมผ่าคลอดเสร็จเร็วน่ะครับ คนท้องเจ็บท้องช่วงเย็นพอดีและตรงกับวันนัด เด็กไม่ได้อยู่ในท่ากลับหัว ก็เลยผ่าคลอดตั้งแต่ช่วงเย็น กะว่าจะกลับบ้าน เพื่อนโทรมาชวนไปดื่มงานวันเกิด ผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธเพื่อน นานๆทีจะได้เจอกัน”หมอพีระพัฒน์บอกกับมารดา“แน่ใจนะว่าไปงานวันเกิดเพื่อนจริงๆ”คุณนายพิมพ์พรรณจ้องหน้าลูกชายตาเขม็ง ในขณะที่หมอพีรพัฒน์หยุดยืนอยู่ตรงหน้ามารดา “ผมจะโกหกคุณแม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status