LOGIN@คริสตัลมอล
มิเกลเดินเข้ามาดูเสื้อผ้าในห้างด้วยความเบื่อหน่าย อาจจะเพราะใกล้จะเรียนจบละมั้ง พักหลังๆมานี้ก็ไม่ค่อยมีเรียนสักเท่าไหร่ เลยทำให้เธอว่าง นานๆทีก็จะเจอเพื่อนที แถมเพื่อนของเธออย่างเอวาก็ยุ่งๆ กับเรื่องแต่งงานที่พ่อแม่จับให้แต่งอีกด้วย เลยทำให้เธอจำต้องใช้ชีวิตสันโดษอยู่แบบนี้
"เบื่อชะมัดเลย..."ปากก็บ่นแต่สายตาก็มองๆ หาชุดที่แขวนอยู่บนราว พร้อมกับใช้มือเลื่อนๆ ไม้แขวนดูชุดไปเรื่อยๆหวังแก้เซ็ง
หมับ!!
มือเล็กของเธอแตะเข้ากับมือนุ่มๆของใครอีกคน โดยจุดมุ่งหมายคือชุดเดรสสีชมพูบนราวที่เธอดันสะดุดตาเช่นกัน
"อุ๊ย...ขอโทษค่ะ"หญิงสาวดวงหน้าจิ้มลิ้มเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับชักมือออกจากชุดที่เธอจับทันที โค้งตัวให้เธอเล็กน้อยด้วยทีท่าถ่อมตนสุดๆ
"เอ่อ...คุณเอาไปก่อนเลยค่ะ..."มิเกลกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะผายมือให้เธอเอาชุดนั้นไป "มันเหมาะกับคุณมากกว่าฉันค่ะ..."
"อะ...เอ่อ...ขอบคุณนะคะ...งั้น...คุณเลือกมาสักชุดสิคะ...เดี๋ยวฉันจ่ายให้...อยากขอบคุณ ที่คุณมีน้ำใจเสียสละชุดนี้ให้ฉัน"เธอคนนั้นกล่าว
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ...ฉันแค่มาเดินเล่นแก้เบื่อ...ไม่ได้คิดจะซื้อหรอกค่ะ..."มิเกลตอบ กลับ จากนั้นก็เตรียมหมุนตัวออกจากร้านไป
หมับ!!
"เดี๋ยวก่อนสิคะ...เอ่อ...คุณชื่ออะไรคะ...เผื่อเจอกันอีก"เธอคนนั้นวิ่งมารั้งแขนเธอเอาไว้ซะก่อน
"เอ่อ...มิเกลค่ะ"
"ฉันชิดตะวัน...เรียกตะวันเฉยๆ ก็ได้ค่ะ..."หญิงสาวนามว่าชิดตะวันแนะนำตัวบ้าง
"ค่ะ...ขอตัวนะคะ"จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากร้าน ไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนดี ความรู้สึกตอนนี้มันเบื่อเอามากๆ แถมเธอก็ดันเพื่อนน้อยซะด้วย พอเพื่อนไม่ว่างก็เลยต้องอยู่คนเดียวไปตามระเบียบ
หลายวันต่อมา...
"แกรู้ไหมว่าฉันเบื่อมากๆ ไปปาร์ตี้กันไหมคืนนี้?"มิเกลเอ่ยถามเอวาเพื่อนสาวเพียงคนเดียวในรั้วมหาลัย หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวัน
"ช่วงนี้ฉันต้องรีบปั่นโปรเจคจบน่ะเกล...เซ็งชะมัดเลยแก้ไปเป็นร้อยรอบแล้ว ก็ยังไม่ผ่าน..."
"เราเจอกันน้อยมากเลยนะ..."มิเกลทำหน้างอน้อยใจเพื่อน แต่ก็เข้าใจเพราะใกล้จบแล้วต้องรีบทำโปรเจคให้เสร็จไม่งั้นจะยื่นเรื่องจบไม่ได้
"แกน่ะฉลาด แถมทำโปรเจคจบไปก่อนฉันกับจีโน่อีก...เอ้า...แล้วนี่จีโน่ไปไหน?"เอวาถาม ทั้งที่เมื่อกี้ก็นั่งเรียนด้วยกันอยู่เเท้ๆ แต่พอเลิกเรียนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับนินจา
"ไปซื้อน้ำมั้ง...แล้วนี่จะกลับเลยหรอ...พี่ซันมารับเหมือนเดิมหรือเปล่า"
"อื้ม..."
หมับ!!
แขนของจีโน่คว้าหมับเข้าที่ต้นคอของมิเกลอย่างจัง พร้อมกับท่าทีเหนื่อยหอบ ใบหน้าสวยเฉี่ยว มองการกระทำที่ใกล้ชิดของจีโน่ก็เผลอใจเต้นแรงทุกครั้ง อีกแล้ว ทั้งที่พยายามเซฟความรู้สึกของตัวเองแล้วเชียว แต่สุดท้ายก็ใจสั่นทุกที
"นี่ไอ้โน่...มันหนัก...เอาแขนแกออกไปเลย"มิเกลโวยวายพร้อมกับจับแขนของจีโน่ออก
"เดี๋ยวไปกินข้าวเย็นด้วยกัน...แต่ขอไปส่งเอวาก่อน...แกไปรอฉันที่รถนะ"หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหว เมื่อจีโน่บอกว่าจะไปส่งเอวาเพื่อนรักของเธอ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนรักของเธอจะต้องแต่งงานกับคนที่พ่อแม่จับคู่ให้ แต่จีโน่ก็ยังจะดันทุรังที่จะรอ ส่วนเธอที่แอบรักและคอยอยู่ใกล้ๆ มาตลอดเกือบ4ปี แถมยังถูกมองข้าม ไม่เห็นค่ากันบ้างเลย
พอเธอคิดที่จะถอยออกมาเพื่อเซฟหัวใจตัวเอง จีโน่ก็ทำเหมือนว่าไม่อยากให้เธอหายไปซะงั้น ทำเหมือนว่าแคร์กัน จนเธอเองก็คิดว่ามีความหวัง แต่มันก็แค่เหมือนนั่นแหละ
อีกด้าน...
หมับ!!
"เฮียคิม...คิดถึงจังเลยค่ะ"
"ตะวัน!! มากอดเฮียแบบนี้ได้ไง...โตเป็นสาวแล้วนะ"คิมหันต์เอ่ยดุน้องสาวตัวเล็กที่มากอดเขาจากด้านหลังด้วยน้ำเสียงดุดัน
"แหมเฮีย...ตะวันก็กอดเฮียมาตั้งแต่เด็กแล้ว...อีกอย่างเราสายเลือดเดียวกันนะ"ชิดตะวันกล่าวก่อนที่จะถอนกอดออกด้วยทีท่างอนๆ
"แล้วทำไมมาหาเฮียได้...ไม่มีเรียนหรอ...หรืออยากได้เงิน?"
"แหมเฮีย...รู้ทันตะวันอีกแล้ว...น่ารักที่สุดเลย"หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทีทะเล้น
"รอบที่แล้วเอาไปล้านนึงหมดแล้วหรอ?"
"หมดแล้วสิเฮีย...แค่ล้านเดียวจะไปพออะไรคะ"
"เพิ่งจะปี2 ทำไมใช้เงินเปลืองขนาดนี้...เฮียจะฟ้องป๊า"คิมหันต์ขู่น้องสาว
"อย่านะเฮีย...ถ้าฟ้องป๊า...ป๊าต้องให้ตะวันไปอยู่ฮ่องกงกับเฮียเหมแน่ๆ ไม่เอาหรอก!"ทำขนลุกขนพอง
"งั้นก็ประหยัด...เดือนนี้เฮียจะให้รอบสุดท้ายแล้วนะ"พูดจบคิมหันต์ก็หยิบเช็กขึ้นมาเขียนๆ แล้วยื่นให้น้องสาวคนสวยทันที
"5แสน!!..."
"มากไปหรอ..งั้นเอาคืนมา"คิมหันต์เตรียมจะหยิบคืนแต่มือเล็กดึงเอาไว้ก่อน
"มากอะไรล่ะเฮีย...น้อยไป...อีกตั้ง15วันกว่าจะถึงเดือนหน้า...มันไม่พอหรอกเฮีย"ร่างเล็กโวยวายขึ้นเสียงดัง
"จะเอาไม่เอา?"
"เฮียใจร้าย...ตะวันจะไปขอเฮียเหมเพิ่ม...เฮียคิมขี้งก!"
"ใช่สิไอ้เหมมันสายเปย์นี่...ไปขอมันเลยสิ...ต่อไปก็ไม่ต้องมาขอเฮีย..."คิมหันต์ทำทีท่างอนน้องสาว
"โอ๋ๆ ...ไม่งอนน้า...เดี๋ยวหาสาวสวยให้เอาปะ..."คำพูดของชิดตะวันทำเอาคิมหันต์ตาลุกวาว ยกยิ้มร้ายขึ้นอย่างถูกอกถูกใจ
"ร้ายนัก!!"
"เมื่อกี้ตะวันไปซื้อเสื้อผ้า เจอผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากๆ เลยแถมยังนิสัยน่ารักอีก...ตะวันกับเขาหยิบเสื้อผ้าตัวเดียวกันแล้วมันเหลือแค่ตัวเดียวด้วย แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เสียสละให้...อื้ม...จำชื่อไม่ได้แล้ว...แต่น่าจะอายุใกล้ๆ กับตะวันเนี่ยแหละ"เล่าเป็นฉากเป็นตอนด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วราวกับนกกาละเวกก็ไม่ปาน
"สวยขนาดนั้นเชียว?"คิมหันต์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมถาม
"ใช่ อยากได้มาเป็นพี่สะใภ้เลย..."เธอเล่าด้วยทีท่าตื่นตาตื่นใจ "ตัวเล็ก ปากนิด จมูกหน่อย น่ารัก ปนเซ็กซี่ หุ่นก็ดี ผิวก็เนียน ตัวก็หอมด้วยนะ"อธิบายซะเห็นภาพเลย คิมหันต์คิด
"ชักอยากเห็นหน้าแล้วสิ"คิมหันต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับจินตนาการตามที่น้องสาวบอก แต่ไม่ว่าจะจินตนาการยังไงทำไมถึงได้ไปจินตนาการถึงยัยนั่นได้ก็ไม่รู้ กลิ่นตัวของเธอในคืนนั้น มันยังติดตราตึงใจเขาไม่จางหาย
"เข้าไปข้างในกัน..."คิมหันต์เดินมาจับมือมิเกลแล้วจูงเข้าไปในห้อง แต่ก่อนที่คิมหันต์จะเปิดประตู แต่มิเกลก็ขืนมือเอาไว้ไม่ยอมเข้าไป พร้อมกับส่ายหน้าไปมา"ไม่เข้าได้ไหม...เดี๋ยวเกลรอด้านนอก""เข้าไปเคลียร์...""ท่านป่วยอยู่...เอาไว้วันหลังนะคะ...เดี๋ยวจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่""พ่อเกลก็ป่วยอยู่เหมือนกัน...แล้วไม่ใช่เพราะพ่อพี่หรือไงที่ทำให้พ่อเกลต้องเข้าโรงพยาบาล""พี่คิม...อย่าเพิ่งเลยนะ...เรื่องนั้นค่อยคุยก็ได้...ยังไงเราก็ต้องสู้ไปด้วยกันอยู่แล้ว...เกลไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น...ให้ท่านดีขึ้นก่อนเถอะนะคะ...เชื่อเกลเถอะ!"คิมหันต์มองแววตาของแฟนสาว นี่ขนาดโดนกระทำขนาดนี้ ยังมีกระจิดกระใจคิดถึงคนอื่น ในขณะที่พ่อตัวเองทำไม่ดีกับเธอ โดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ของมันเลยด้วยซ้ำ"ก็ได้...นี่เพราะเกลขอนะพี่ถึงยอม"คิมหันต์ยอมจำนนต่อความคิดเธอแอ๊ดด!!"เข้ามาทำไม...ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายไปเลย!"น้ำเสียงของวสันต์เอ่ยขึ้นเชิงประชดประชันและคำพูดนั้นทำเอาคิมหันต์บีบมือเล็กของมิเกลไว้แน่น เพราะกลัวว่าเธอจะกดดัน"จะปล่อยให้ตายได้ยังไงล่ะคะคุณพ่อสามี...ถึงคุณพ่อจะไม่ชอบหนูเพราะหนูจน...แต่หนูก็ไม่ใจร้ายปล่อยให้คุณพ่อสามี
กรุงเทพมหานคร...@คฤหาสน์หิรัญวัฒนาสกุล (บ้านพ่อคิมหันต์)"แกมาทำไม!!"เสียงเข้มของวสันต์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายและผู้หญิงของลูกชายเข้ามาในบ้านวสันต์มองมือคิมหันต์ที่จับมือมิเกลแน่น ก่อนจะหันไปมองหน้าทั้งคู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"ผมก็ไม่ได้อยากมาหาคุณหรอกครับคุณวสันต์ ถ้าคุณไม่ไปทำเรื่องสกปรกกับครอบครัวของเมียผม!!"คิมหันต์กล่าวเสียงดุดัน แววตาฉายแววเดือดดาล บ่งบอกว่าตอนนี้เขาพร้อมปะทะกับคนตรงหน้า"แกพูดเรื่องอะไร? "แต่แล้ววสันต์กลับเลิกคิ้วมอง อย่างไม่เข้าใจ"คุณรู้อยู่แก่ใจว่าคุณทำอะไร...ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าแม้แต่จะคิดไปแตะต้องครอบครัวของเมียผม...""ฉันไม่รู้เรื่อง...แล้วก็พาเมียแกออกไปจากบ้านของฉันด้วย...ฉันจะพักผ่อน...เลิกพูดจาไร้สาระแล้วก็ออกไปกันได้แล้ว"พูดจบวสันต์ก็เดินหันหลังเตรียมจะก้าวออกไปจากห้องนั่งเล่น แต่แล้ว...อยู่ๆ วสันต์ก็หน้ามืดแล้วค่อยๆ ล้มลงต่อหน้าต่อตามิเกลและคิมหันต์พรึ่บ พลั่ก!!"คุณลุง!!""พ่อ!!""เอือก!...อย่ามายุ่งกับฉัน...ออกไป...ไสหัวออกไปให้หมด!!"วสันต์ตวาดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะมีแรง แถมยังพยายามปัดมือของลูกชายและมิเกลออกไปให้ห่างจากตัวเขาอีก"พี่คิม.
"เรื่องพ่อ...ถ้ากลับไปแล้วพี่จะจัดการให้...ส่วนเรื่องสวนพี่จะรับผิดชอบทั้งหมด...เดี๋ยวพี่ให้เจ้าหน้าที่กรมเกษตรมาดูแลสวนให้ทั้งหมดเอง""ค่ะ...นี่ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าของพ่อ...พี่คิมไปอาบน้ำแล้วก็พักผ่อนก่อน...เรื่องนั้นค่อยคิด"พูดจบเธอก็ยื่นผ้าเช็ดตัวพร้อมกับเสื้อผ้าให้คิมหันต์บ้านของเธอถือว่ามีฐานะพอสมควรในพื้นที่อำเภอนี้ เพราะเป็นสวนผลไม้ใหญ่ แต่จะเน้นส้มเป็นหลัก แต่จริงๆ จะมีสวนองุ่นอยู่ข้างกันซึ่งนั่นจะเป็นหน้าที่ลุง ที่เป็นคนดูแล บ้านของเธอมีที่ดินเยอะกว่าหลายร้อยไร่ เป็นมรดกจากรุ่นคุณปู่ที่จัดแจงให้ก่อนตาย และลูกก็ได้มาเท่าๆกัน หน้าที่ดูแลสวนส้มนั้นเป็นของพ่อและแม่เธอ ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็ขายบ้าง ย้ายไปอยู่เมืองนอกบ้าง ที่เป็นสวนเดิมๆ เลยจะมีแค่ลุงและพ่อนี่แหละที่ยังคงสานต่อคิมหันต์มองบ้านหลังใหญ่ของมิเกล จริงๆแล้วเธอก็มีฐานะแต่ถ้าสำหรับคนที่เป็นพ่อของเขาแล้ว แค่นี้มันคงไม่พอใช้เวลาไม่นานมากนัก ร่างสูงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงสามส่วน ไม่น่าเชื่อว่าพออยู่บนตัวเขามันกลับดูดีเฉยเลย ไม่แก่เลยสักนิด"ทำอะไรอยู่เหรอ? "คิมหันต์เอ่ยถามแฟนตัวเล็กที่อยู่หน้าจอคอมพ
สายๆ ของอีกวัน...@โรงพยาบาลเชียงใหม่"มิเกล!!"เสียงหญิงวัยกลางค่อนไปทางสูงวัยเอ่ยเรียกชื่อลูกสาวที่ไม่ได้เจอหน้าคร่าตากันหลายปีด้วยแววตาดีใจ"แม่...ป้อเป๋นจะไดพ่อง (แม่...พ่อเป็นยังไงบ้าง) ""ปลอดภัยแล้ว...บ่ต้องกึ๊ดนักเน้อ...นี่ไผก๊ะ? (ปลอดภัยแล้ว...ไม่ต้องคิดมากนะ...นี่ใครเหรอ?) "แม่เอ่ยถามเมื่อพลันสายตาไปมองชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาราวเทพปั้นที่ยืนอยู่ข้างกายลูกสาวของเขา ด้วยสีหน้ากังวลปนเศร้า"เอ่อ...อ้ายเพิ่นเป๋นหัวหน้าตี้ทำงานน้องน่ะแม่ (พี่เขาเป็นหัวหน้าที่ทำงานหนูน่ะแม่) ""สวัสดีครับคุณน้า"คิมหันต์เอ่ยทักทายมีนาแม่ของมิเกลด้วยท่าทีอ่อนน้อม"สวัสดีจ้าวป้อหนุ่ม...ขับรถมาเมิน...พาปี้ไป๋ปั๊กเตอะลูก (สวัสดีพ่อหนุ่ม...ขับรถมานาน...พาพี่เขาไปพักเถอะลูก) ""เอ่อ...อ้ายเพิ่นจะปิ๊กบ้านแล้วจ้าวแม่ (พี่เขาจะกลับบ้านแล้วค่ะแม่) ""บ่อิดก๊ะ (ไม่เหนื่อยเหรอ) "มีนาหันไปถามคิมหันต์ ซึ่งคิมหันต์ยืนขมวดคิ้วด้วยความงวยงงกับภาษาเหนือที่มีบางคำไม่เข้าใจ"บ่อิดๆ อ้ายเพิ่นแข็งแฮงขนาดนัก...จะมาอิดได่จะได (ไม่เหนื่อยๆ ...พี่เขาแข็งแรงขนาดนี้จะมาเหนื่อยได้ยังไง) ""แม่พูดว่าอะไรเหรอ...แปลให้ฟังบ้างสิ"ค
อีกด้าน..."พี่เหนือชนๆ ...น่านแหละ...หมดแก้วเลยๆ "ชิดตะวันคะยั้นคะยอให้แสงเหนือกระดกแก้วแอลกอฮอล์ ครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ใช่แค่แสงเหนือที่เมา แต่เป็นเธอเองด้วยที่เผลอเล่นตามแผนเนียนไปหน่อย จนเผลอกินเข้าไปด้วย บวกกับที่เธอเป็นสาวสายปาร์ตี้อยู่แล้ว จึงอดใจไม่ได้ที่จะดื่ม บอกแล้วว่าจ้างร้อยชิดตะวันเล่นล้าน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าทั้งคู่หัวราน้ำไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย"ตะวัน...พี่ไม่ไหวแล้ว...ปะเดี๋ยวพี่ไปส่งครับ"แสงเหนือกล่าวเสียงยานครางพร้อมกับพยายามพยุงตัวเองขึ้นและเดินตรงไปดึงร่างเล็กขึ้นมากอดคอออกไปที่รถของตัวเอง แม้จะเมาอยู่บ้างแต่แสงเหนือไม่เคยขาดสติ ถึงขั้นไปเกิดอุบัติเหตุ เขาพยายามคุมสติเพื่อที่จะขับรถไปยังโรงแรมที่จองไว้ใกล้ๆ นี้ใช้เวลาไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงโรงแรม แต่เมื่อแสงเหนือเข้าไปส่งชิดตะวันในห้อง แสงไฟสีวอร์มไวท์ กลับทำให้สาวผิวขาวจัดอย่างชิดตะวัน ให้ดูดีมีเสน่ห์ ขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงไฟ เป็นเพราะเขาเมา หรือเป็นเพราะเธอสวยจริงๆ มันดึงดูดให้เขาอยากเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ และทั้งสองร่างก็มาอยู่บนเตียงโดยมีแสงเหนือขึ้นมาคร่อมร่างบางตั้งแต่เมื่อ
"พี่ตัดความสัมพันธ์กับที่บ้านแล้ว...เกลไม่ต้องกลัวแล้ว""พี่คิม!!!...พี่ทำบ้าอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า...นั่นพ่อพี่นะ...ส่วนเกลเป็นคนอื่น...พี่อย่ามาทำแบบนี้นะ...กลับไปหาท่านแล้วเลิกยุ่งกับเกล!!""เกลไม่ใช่คนอื่น...เกลเป็นเมียพี่...พี่ไม่ยอมปล่อยเกลไปหาไอ้เหนือเด็ดขาด...ขอร้องเดินจับมือไปด้วยกันเถอะนะ...นะเกลนะ!!"เสียงทุ้มสั่นอ้อนวอน มือหนาจับมือเล็กทั้งสองข้างมากุมเอาไว้ การกระทำของคิมหันต์มันทำให้มิเกลหวั่นไหว~เสียงโทรศัพท์มิเกล~'แม่'"จ้าวแม่"[มิเกล...ป้อ...ฮึก...ป้อ...อยู่โฮงยา (พ่ออยู่โรงพยาบาล) ] เสียงปลายสายสะอึกสะอื้นจนร่างเล็กรู้สึกใจคอไม่ดี[ป้อ...ป้อเป๋นอะหยัง (พ่อเป็นอะไร) ] น้ำเสียงมิเกลสั่นเครือ เมื่อแม่โทรมาบอกว่าพ่อของเธอเข้าโรงพยาบาล และมันทำให้คิมหันต์ที่ยืนมองเธออยู่ รู้สึกเป็นกังวลไปด้วย"ป้อเส้นเลือดในสมองตีบ...ป้อเกี้ยดแฮง (พ่อเครียดมาก) ...จั๊กไผปล่อยแมลงลงสวนหมากไม้เฮา... (ไม่รู้ใครปล่อยแมลงลงสวนผลไม้เรา) ...หมากไม้เสียหายไป๊เคิงสวน (ผลไม้เสียหายไปครึ่งสวน) "คำพูดของแม่ทำเอามิเกลคิดหนัก พร้อมกับมองหน้าตัวต้นเหตุตรงหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อเขาแล้วจะเป็นใคร!!! เพรา







