@บนรถ
หญิงสาวนั่งคิดไปถึงวันเวลาเก่า ๆ ของเธอและพี่ชายที่เคยมีร่วมกัน แม้ว่าเธอจะบอกตัวเองอีกสักกี่พันรอบว่าเขาไม่ใช่พี่ชายเธออีกแล้ว แต่ภายในใจก็ยังคงคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขาและเธออยู่ดี หญิงสาวอยู่บนรถปาเจโร สปอร์ต ที่กำลังจอดติดไฟแดง จุดมุ่งหมายคือมหาวิทยาลัย วิทยายังคงเป็นคนไปรับ-ส่งพวกเธออยู่แม้ว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม ในขณะที่เธอกำลังนั่งรถไปเรียนอยู่นั้น… “ยายเจ้า ๆ มานี่ ๆ มาดูนี่ นั่นใช่พี่พยัคฆ์หรือเปล่า ?” เสียงของวีวี่ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ วีวี่ชี้ไม้ชี้มือไปยังชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดซูตสีดำทั้งตัวดูภูมิฐาน รูปร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง ผิวไม่ถึงกับขาวแต่ก็ไม่ดำ และหน้าตาของเขานั้นทำให้เธอนิ่งอึ้งไป สมองของเธอขาวโพลน หัวใจแทบกระเด็นออกมา ใช่ ! เป็นเขาจริง ๆ พี่พยัคฆ์ พี่ชายที่หายไปจากชีวิตเธอ 2 ปีเต็ม ! ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าตึกตึกหนึ่งที่ใหญ่โตมากทีเดียว เธอจำได้เมื่อ 2 ปีก่อน ตึกนี้กำลังก่อสร้างอยู่เลย ข้าง ๆ เขามีผู้หญิงคนหนึ่ง ! ผู้หญิง ? ที่ดูสวย สง่า ขาว ขายาวเรียว และที่สำคัญนมใหญ่มาก หล่อนใส่ชุดมินิเดรสสีดำแขนยาว เธอยิ้มหัวเราะอยู่กับเขา เขาเองก็พูดคุยด้วยสีหน้าแช่มชื่นเป็นกันเองแบบสุด ๆ ดี๊ด๊าดีเหลือเกินนะพ่อคุณ ! “คงใช่มั้ง…ไม่ได้เจอเขานานแล้ว ฉันก็จำไม่ค่อยได้” เธอตอบตามจริง ก็คนไม่ได้เจอกันเป็นปี หน้าตาเป็นอย่างไรเธอก็เกือบลืมไปแล้วเหมือนกัน “พ่อคะ พี่พยัคฆ์เขามาทำอะไรที่นี่กันคะ” วีวี่ถามผู้เป็นพ่อ “อ้าว ! ลุงเหมไม่ได้บอกเหรอ พยัคฆ์มันมาเปิดบริษัทของตัวเองที่นี่ รายนั้นเขาเป็นท่านประธานไปแล้ว ไอ้เหมก็พลอยสบายไปเลย ยกธุรกิจทุกอย่างให้พยัคฆ์มัน ตัวมันเองก็ไปอยู่ต่างประเทศ สงสัยไปอยู่กับเมียใหม่มันที่นู่นแล้วละมั้ง ฮ่า ๆ ๆ” วิทยาพูดแล้วหัวเราะร่าแต่คนด้านหลังกลับขำไม่ออก เป็นอย่างนี้เองสินะ เหตุผลที่เขาไม่ติดต่อฉันเลย เขามีแฟนแล้ว ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นแฟนเขา เขาเรียนจบได้รับการยอมรับจากป๋า ได้ดูแลธุรกิจ ชีวิตสบาย ๆ อย่างเขาจะมาสนใจน้องบุญธรรมอย่างฉันทำไมกันล่ะ ! เมื่อรู้แบบนี้แล้วหญิงสาวก็ละสายตาจากตรงนั้น หันหน้ามองตรง ไม่อยากจะรับรู้หรือเห็นหน้าเขาอีกต่อไป ความรู้สึกเจ็บปวดราวกับน้ำพุทะลักออกมา ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำ พยายามข่มกลั้นไม่ให้ไหลออกมา เธอไม่แน่ใจตัวเองว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเขา คลื่นความสับสนประเดประดังเข้ามาในหัวสมองจนยุ่งเหยิงไปหมด @Zeeza Night Club “I’m looking forward to working with you in the future. See you around” (ผมตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับคุณในอนาคต แล้วพบกันครับ) ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณชายวัยกลางคนชาวอเมริกันกับพรรคพวกอีก 2 คน พวกเขาพึ่งคุยตกลงเรื่องธุรกิจกันเสร็จ “พยัคฆ์คะ พรุ่งนี้คุณมีนัดกับมิสเตอร์เจมส์ตอน 9 โมงเช้า และคุณชิฮิโระตอนบ่าย 3 ให้โทร.ไปคอนเฟิร์มเลยไหมคะ” หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นหลังจากกดดูตารางงานในไอแพดให้ผู้เป็นหัวหน้าฟัง “อืม…คุณคงเหนื่อยมาก กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ผมจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก” ชายหนุ่มพูดพลางใช้มือคลึงหน้าผากตัวเอง เขาเองก็เหนื่อย เหนื่อยมาก ๆ…กว่าจะทำให้ตัวเองมาอยู่จุดจุดนี้ได้มันยากเย็นจริง ๆ “คุณอย่าเครียดจนเกินไปเลย ตอนนี้อะไร ๆ ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว มีอะไรก็บอกฉันได้นี่คะ ฉันจะคอยอยู่ช่วยคุณเอง” หญิงสาวพูดปลอบ มือข้างหนึ่งของเธอแตะที่ไหล่เขา เธอลูบเบา ๆ ให้เขารู้สึกดีขึ้น ผู้ชายคนนี้ให้ตายเถอะ เขาอึด ถึกจริง ๆ ! ‘ตรีรดา’ เธอเป็นเลขานุการของพยัคฆ์และยังเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขา หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเป็นห่วง ช่วงนี้พยัคฆ์ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับบริษัทนี้มาก เพราะเป็นบริษัทแรกที่เขาทุ่มเททำด้วยมือตัวเองโดยไม่มีเงินทุนของผู้เป็นพ่อ กว่าจะสำเร็จได้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาทางธุรกิจต่าง ๆ มากมาย แต่สุดท้าย เขาก็ทำมันสำเร็จภายในระยะเวลา 2 ปี และนอกจากเขาจะก่อตั้งบริษัทขึ้นเองแล้ว ยังต้องดูแลบริษัทในเครืออีกมากมายทั้งในและต่างประเทศ ไหนจะไร่ผลไม้และฟาร์มปศุสัตว์ที่แม่ฮ่องสอนอีก เขาทำเองทั้งหมด แบบนี้ไม่เรียกว่าอึดถึกแล้วจะเรียกอะไรได้อีก “ขอบคุณ ผมโอเค คุณไปเถอะ” “แต่ว่า…” “ผมไหว ไม่ต้องห่วง ขอเวลาผมหน่อย” “ก็ได้ค่ะ…งั้นรดาไปก่อนนะคะ มีอะไรโทร.มานะ” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบ เขาเพลียมากจริง ๆ วันนี้ทั้งวันเขาแทบไม่ได้พักผ่อนเลย ทั้งประชุมเช้า สาย บ่าย ตกเย็นต้องมาพบลูกค้าอีก…มันเหนื่อยมากจริง ๆ และ…เขาก็คิดถึงเธอมากด้วย คิดถึงเธอแทบใจจะขาดแล้ว…เจ้าขาของพี่“หยุดร้องไห้แล้วฟังแม่…ที่แม่ตีเพราะต้องการให้ลูกรู้ ว่าการโกหกมันไม่ใช่เรื่องดี แล้วยิ่งโกหกปู่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ลูกเองก็ยังเล่นสนุกสนานบนความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไง พร้อมพบ ไม่ว่าใครชวนทำอะไรไม่ดี หนูก็ต้องปฏิเสธไม่ใช่เข้าร่วม แถมยังเป็นคนคิดให้คนอื่น ๆ โกหกปู่อีก และอีกอย่าง เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดของตัวเอง ไม่ใช่โบ้ยความผิดให้พี่เขา มันไม่ดีเลยนะลูก ส่วนพายุ ลูกเป็นพี่คนโต ต้องคอยดูแล ปกป้องน้อง ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีของน้อง ๆ สิลูก ไม่ใช่พาน้องไปเล่นพิเรนทร์แบบนี้ พวกลูกเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันไว้ อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้น ก็มีแต่พวกเราพี่น้องเท่านั้นที่จะช่วยเหลือกันและกัน เข้าใจที่แม่พูดไหม ?” เด็กน้อยทั้งหลายพยักหน้าเข้าใจพลางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย“เอาละ ๆ เข้าใจแล้วก็ดี ปู่เองก็ไม่ได้อยากให้ทำโทษหลาน ๆ หรอก เพียงแต่แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง” “ไม่ได้หรอกค่ะพ่อ เดี๋ยวแกจะเคยตัว โตขึ้นเป็นแบบพี่ยักทำไงล่ะคะ” หญิงสาวพูดทำเอาคนโดนพาดพิงหันขวับ เขาไปเกี่ยวไรด้วยว้า !“มาหลาน ๆ มาหาปู่มา เดี๋ยวเราไปอาบน้ำล้างตัวกัน เดี๋ยวปู่เอาสระลมยางให้เล่น”
8 ปีต่อมา…“แยกขาหน่อยสิจ๊ะเมียจ๋า” ชายหนุ่มสั่งขณะที่เขากำลังดันแก่นกายอันใหญ่โตเข้าไปในกายเนื้อหญิงสาวที่นอนหงายอยู่ด้านล่าง หญิงสาวว่าง่ายยอมทำตามโดยไม่อิดออด เสียงเร่งเร้าของเธอทำให้ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกายเขา ทันทีที่สอดเข้าไป…ความใหญ่โตทำให้หญิงสาวร้องครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“ร้องดัง ๆ เลยค่ะที่รัก วันนี้ลูกไม่อยู่ บ้านนี้เป็นของเราแล้ว ร้องดัง ๆ สิคะ !” ชายหนุ่มบอก มือของยังเขากอบกุมที่เนินเนื้อของเมียสาวที่นอนครางกระเส่าอย่างได้อารมณ์ “ที่รัก…ขา…หนู…สะ...เสียวมากเลย” “อย่างนั้นแหละจ้ะยาหยี” ชายหนุ่มเร่งเครื่องความเร็วเดินหน้าเต็มกำลัง นานหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้จัดเมียตัวเอง ตั้งแต่มีลูก...เมียก็เริ่มสนใจแต่ลูก ซึ่งลูกก็มีแต่ผู้ชาย เขาที่อยากมีลูกผู้หญิงก็พยายามหาเวลาเพื่อที่จะผลิตให้ได้สักคน แต่ก็เจอมารผจญ มารที่ว่าก็คือ ลูก ๆ ของเขาเอง ทุกครั้งที่เขาจะทำเรื่องอย่างว่า ก็เหมือนไอ้ 3 หน่อมันจะรู้ทุกครั้ง ครั้งนี้พ่อเขากลับมา ก็ได้โอกาสฝากลูก ๆ ไว้กับพ่อชั่วคราว ส่วนเขาเองก็จะได้มีเวลาปั๊มลูกสาวสักที...แต่ไม่ทันจะได้เสร็จสม…เสียงเรียกจากด้านนอกก็ดังขึ้น“ไอ้ย้ากกก…ม
@งานวัดประจำปีวันนี้เป็นวันลอยกระทง พยัคฆ์พาแฟนสาวไปเที่ยวงานประจำปีที่วัดแถวบ้าน เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เขาและเธอก็พากันไปงานวัดบ่อย ๆ ชายหนุ่มพาแฟนสาวเดินเที่ยวภายในงาน บรรยากาศค่อนข้างครึกครื้น แสงไฟจากร้านค้าต่าง ๆ หรือซุ้มขายของต่างก็ติดไฟเรียกผู้คนกันระนาว เสียงเพลงบรรเลงอย่างอื้ออึง ซุ้มการละเล่นต่าง ๆ มีคนมุงล้อมเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาจากทั่วทุกที่ ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น หรือแม้แต่คนเฒ่าคนแก่ก็มาร่วมงานวัดครั้งนี้ด้วย เพราะมีซุ้มให้ทำบุญอยู่ตรงมุมโบสถ์ของวัด ทั้ง 2 คนเดินมาเรื่อยก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขนมสายไหม “อยากกินเหรอคะ ?” ชายหนุ่มถามแฟนสาวตรงหน้า หญิงสาวระบายยิ้มหวาน พยักหน้าหงึก ๆ เป็นการให้คำตอบ เขาซื้อให้เธอ 1 ไม้ใหญ่สีชมพูฟูฟ่อง หญิงสาวกัดลงคำหนึ่งก็หลับตาปี๋ รสชาติความหวานแล่นถึงโสตประสาท “ขอพี่ชิมมั่ง” หญิงสาวกำลังจะยื่นสายไหมในมือให้แฟนหนุ่มชิม แต่เขากลับเอาหน้าเข้ามาใกล้แล้วตวัดลิ้นเลียที่ริมฝีปากเธอหน้าตาเฉย ทำเอาเจ้าตัวตกใจฟาดมือเล็ก ๆ ไปที่อกเขาอย่างจัง“พี่ยัก ! อายคนเขา”“อายทำไมคะ เขาจะได้รู้ว่าหนูมากับแฟนไง”“แค่ใส่เสื้อคู่เขาก็รู
@บ้านเหมราช“หนูไม่ต้องไปหรอกค่ะ อยู่นี่แหละเดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว” พยัคฆ์พูด ก่อนจะเตรียมตัวออกไปทำบุญครบรอบวันตายของแม่เขา“ทุกครั้งเลย วันครบรอบวันตายแม่พี่ทีไรหนูไม่เคยได้ไปเลย ทำไมเหรอคะ กลัวหนูไปรู้อะไรเข้าเหรอ ?” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างทะเล้น“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นว่าต้องไปดูไร่ชาไม่ใช่หรือไง พี่ไปเดี๋ยวเดียวเอง”“หนูก็อยากทำบุญให้แม่พี่บ้างนี่คะ ตอนเด็ก ๆ ก็ยังไปได้เลย ทำไมตอนนี้ถึงไปไม่ได้แล้วล่ะคะ” “ไปแล้วห้ามซนนะ ถ้าพี่ไม่ให้ไปตรงไหนก็ห้ามไปล่ะ เข้าใจไหมคะ ?” “เข้าใจค่า…พี่ย้ากกก” หญิงสาวเขย่งปลายเท้าจุมพิตเบา ๆ ที่แก้มแฟนหนุ่ม เขายิ้มมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยท่าทีมีความสุขล้น จากนั้นทั้ง 2 คนก็ออกเดินทางไปยังวัดแถวบ้าน @วัดหลังจากถวายสังฆทาน สวดมนต์ นำอาหารและเครื่องดื่มมาถวายพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว เหมราชก็นำพยัคฆ์และเจ้าขาไปที่อัฐิของ ‘ลลิน’ หรือแม่ของพยัคฆ์ เพื่อจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ที่หน้ารูป“ป๋า ผมขอถามอะไรหน่อยสิ” พยัคฆ์พูดขึ้นหลังจุดธูปเทียนและวางดอกไม้เรียบร้อยแล้ว “ถามอะไร ?”“แม่ไม่ได้ป่วยตายใช่ไหมป๋า”“ใครบอกเอ็ง”“ไม่มีใครบอก แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าน
หลังจากที่ฟังผู้เป็นพ่อพูด เรื่องราวที่อัศวเคยเข้าใจกับที่พ่อเล่า มันทำให้เขาหยุดชะงักราวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกหยุดหมุนไปโดยปริยาย เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าแม่ทิ้งเขาไปเพราะมีชู้ และไม่ยอมรับเขาไปเพราะรังเกียจเขา ที่แท้เป็นเพราะพ่อแท้ ๆ ของเขาเองต่างหากที่ทำผิดต่อแม่ พ่อทิ้งแม่ไปแต่งงานใหม่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ! ทำไมเขาต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ตอนนี้ด้วย ! เขารู้สึกดีใจที่แม่ไม่ได้คิดจะทิ้งเขา แต่กลับต้องมาเสียใจเพราะคนที่ทิ้งแม่ไปก็คือพ่อเขาเอง “ทำไมพ่อทำแบบนี้ ทำไมถึงทิ้งแม่ไป ทำไมถึงต้องมาพรากแม่ไปจากผม” ชายหนุ่มร้องไห้กอดหญิงสาวตรงหน้าด้วยความอาลัยและคิดถึงผู้เป็นแม่ที่เขารักมากที่สุด“พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ อภัยให้พ่อด้วย พ่อเองก็เสียใจ และจมอยู่กับมันมามากพอควรกับเรื่องนี้ พ่อขอรับผิดทุกอย่างไว้เอง แกปล่อยน้องเขาลงมาเถอะนะ ถือว่าพ่อขอ” อดิสรเอ่ยปลอบลูกชายปล่อยเธอ ปล่อยเธอไป…ทำไมเขาถึงไม่มีความรู้สึกอยากจะปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดคนนี้ให้ออกจากอ้อมแขนเลย ราวกับว่าเธอคนนี้เป็นของเขามานานแล้ว“ผมปล่อยไม่ได้พ่อ” เพราะเขารักเธอเข้าแล้วจริง ๆ ความจริงรักตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ หญิงส
“จะดีเหรอวะ...มึงเดี้ยงซะขนาดนี้...ยังจะมาดวลอะไร” อัศวมองน้องชายต่างพ่อตรงหน้าราวกับเป็นขยะชิ้นหนึ่ง“กูไหว...ถ้ามึงแพ้กู…มึงต้องปล่อยเจ้าขาไป” พยัคฆ์ตอบ เขาพยายามจะรวบรวมสติและกำลังกายของตัวเองให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง แม้ร่างกายตอนนี้จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ใจเขาเชื่ออย่างสุดใจว่าสามารถทำได้ เขาต้องยื้อมันไว้ระหว่างที่พ่อกำลังมา“เฮอะ…สภาพอย่างมึงยังมีหน้ามาต่อรองกูอีก”“หรือมึงกลัวแพ้ ?”“ปากดี...อยากตายก็มาเถอะ กูจะสงเคราะห์ให้” อัศวทิ้งปืนในมือ สาวเท้าเข้าไปปล่อยหมัดหนัก ๆ ปะทะที่ใบหน้าคมคายของผู้เป็นน้อง ความเจ็บปวดพลุ่งพล่านเข้าไปยังโสตประสาทของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่บนพื้น“พี่ยัก !! อย่าทำอะไรเขานะ” หญิงสาวที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ตะโกนเสียงดังออกมา “ออกมาแล้วเหรอคนสวย” อัศวหันมองเธอ…เขาจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิตของเธอ “เจ้าอย่าออกมา…กลับไปที่เดิม !!” ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้น เขาอาศัยจังหวะที่อัศวมองแฟนสาวของเขา จัดการเตะเข้าที่ขาตามด้วยการพุ่งหมัดปะทะที่ใบหน้าผู้เป็นพี่จนหงายหลังไป อัศวนอนหงายหายใจหอบ เขาถุยเลือดลงบนพื้นและเช็ดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วปะทะกันอ