LOGIN“ท่านอ๋อง ตื่นเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงปลุกจากคนสนิทดังขึ้น ทำให้เซียวชิงฉีที่กำลังหลับพักผ่อนบนเตียงนุ่มต้องพลิกตัวหนีเสียงนั้นด้วยความหงุดหงิด
“ข้าเพิ่งจะได้นอนเองนะ เฉินฟู่” เซียวชิงฉีดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้า ราวกับต้องการตัดขาดไม่ได้ยินเสียงใดอีกต่อไป
เฉินฟู่ “โธ่ ท่านอ๋อง ก็ท่านร่ำสุรากับเจ้าเมืองชางหลินถึงยามโฉ่ว ท่านจึงเพิ่งจะได้บรรทมอย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวชิงฉีนิ่งเงียบไป ทำให้เฉินฟู่เข้าใจว่า ชายหนุ่มกำลังคิดทบทวนคำที่เขากล่าว จนกระทั่งได้ยินเสียงกรนเบา ๆ ลอดออกมาจากผ้าห่ม เขาจึงได้รู้ว่า ท่านอ๋องของเขาบรรทมหลับสนิทไปอีกแล้ว
“ท่านอ๋อง” เฉินฟู่ลากเสียงอย่างละเหี่ยใจ พลางครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อนึกถึงจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของฉีอ๋อง “หนิงซูเฟยเสด็จมาแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องมิยอมตื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
“ห้ะ! อะไรนะ ข้าตื่นแล้ว ข้าตื่นแล้ว หมู่เฟย” ใบหน้าหล่อเหลาที่เร่งรีบปัดผ้าห่มลงจากตัว เบิกสองตาออกกว้าง เพื่อยืนยันว่าตนเองตื่นเต็มสองตาดีแล้ว &ldq
ดวงตาดอกท้อเปล่งประกายวิบวับ เขาผละริมฝีปากออกจากยอดถันที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำลาย แล้วยันร่างสูงใหญ่ของตัวเองขึ้น สองฝ่ามือโอบกระชับเอวคอดกิ่วให้ลอยขึ้นจากเตียงแล้วจับร่างนางให้พลิกคว่ำ อวดแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่แดงก่ำ“อ๊ะ!” ฉินเจียวเยี่ยนร้องอุทาน เมื่อรู้สึกว่าโลกกำลังพลิกคว่ำ โชคดีว่าปลายเชือกมีความยาวเพียงพอ ทำให้นางสามารถหมุนตัวมานอนคว่ำ ฟุบใบหน้าลงบนหมอนนุ่มได้อย่างง่ายดายแผ่นหลังนวลเนียนและบั้นท้ายกลมกลึงถูกเซียวชิงเฟิงใช้สายตาและฝ่ามือลูบไล้โลมเลียอย่างเป็นเจ้าของ ก่อนที่เขาจะบังคับให้นางคุกเข่าลงบนเตียง เพื่ออวดช่วงล่างให้เขาเชยชม“อา... ฮูหยินน้อย...” เสียงครางแหบพร่าดังขึ้น ก่อนที่สะโพกได้รูปของเซียวชิงเฟิงจะขยับดั่งใจหมายสวบ“อื้อ! อ่ะ อ่า อา....” ฉินเจียวเยี่ยนสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกเขาแทรกกายเข้ามาประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั่วร่างสั่นสะท้านจนเขายังรู้สึกได้ภายในของฉินเจียวเยี่ยนตอบรับเขาด้วยการบีบรัดและดูดกลืนเขาทุกอณู จนเซียวชิงเฟิงทนไม่ไหว ต้องขยับสะโพกตอบรับความรักนั้นอย่างแรงด้วยการกะแทกเข้าห
‘เสี่ยวเฟิง? เหมือนที่ข้าแอบเรียกท่านพี่ในใจเลย...’มุมปากของเซียวชิงเฟิงวาดเป็นรอยโค้ง ก่อนที่จะเริ่มขยับมือไปที่จุดต่อไป “อากาศวันนี้ช่างอบอ้าวนัก ให้ข้าช่วยถอดอาภรณ์ดีกว่านะขอรับ”เมื่อฉินเจียวเยี่ยนถูกตรึงข้อมือไว้แล้ว จึงไม่อาจขยับหนีหรือปัดป้องมือปีศาจที่ปลดเปลื้องอาภรณ์บนตัวของนางได้เลย โดยที่เซียวชิงเฟิงก็ทำเพียงแค่กระตุกปมของชุด แล้วแหวกผ้าเนื้อดีออกจากกันราวกับแกะกล่องของขวัญอันล้ำค่า เปิดเผยเนื้อตัวขาวผุดผ่องทั่วร่างของคนตัวเล็ก“ฮูหยินน้อยรู้หรือไม่ขอรับ? ข้าอุตส่าห์ไปร่ำเรียนวิชามัดใจชายของไท่จื่อเฟยถึงหอไป่ฮวาเลยนะขอรับ อีกทั้งยังตั้งใจนำของเล่นเหล่านี้มาดูแลฮูหยินน้อยเป็นการเฉพาะอีกด้วย”เซียวชิงเฟิงไม่พูดเปล่า เขาชูผ้าปิดตาสีดำขึ้นสูง ก่อนจะวางทาบลงปิดดวงตาจิ้งจอกที่ฉินเจียวเยี่ยนคอยย่นคอหลบหนี หากแต่ก็หนีไม่พ้น ถูกสวามีปิดกั้นการมองเห็นอย่างสิ้นเชิง“ท่านพี่...”“อ๊ะ อ๊ะ ข้าน้อยมีนามว่า เสี่ยวเฟิง” เซียวชิงเฟิงร้องแย้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเร้นลึก โดยที่ฉินเจียวเยี่ยนไม่มีโอกาสได้เห็น “ฮูหยินน้อยเรียกผิดเช่นนี้ จะต้องโดน
“หื้ม? ท่านพี่จะเป็นเจ้าของที่นี่ได้อย่างไร?”“แล้วเจ้าคิดว่า สหายของเจ้าจะสามารถหาเสี่ยวเอ้อร์หน้าตาดีจำนวนมากเหล่านี้ได้จากที่ใด หากมิใช่เพราะข้าช่วยหา”‘เออ... ใช่’ ฉินเจียวเยี่ยนกลอกตาไปมา เมื่อคิดตามความเป็นจริง‘ท่านพี่เป็นคนที่มีเส้นสายในด้านบุรุษมากที่สุดแล้ว เพราะต้องหาไพร่พลมาฝึกซ้อมทหาร ดังนั้น ถ้าหากเจอบุรุษกำยำแล้วนำตัวมาฝึกฝนให้เป็นทหาร แล้วบังเอิญเจอหนุ่มหน้าตาดีไปด้วย ก็แค่แยกส่งเขาให้มาทำงานที่นี่แทนสินะ...’ฉินเจียวเยี่ยนอดมองค้อนไม่ได้ “แล้วท่านพี่รู้ได้อย่างไรว่า หม่อมฉันกับอาหงสร้างโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอแห่งนี้ขึ้นมา?”เซียวชิงเฟิงเม้มริมฝีปากแล้วข้าจะบอกเจ้าได้อย่างไร ว่าข้าได้ยินเสียงความคิดของเจ้าตั้งแต่แรกตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มคิดจะฝังเสาเข็มของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอในความคิดนั่นแล...“เจ้าเป็นคนบอกข้าเองนะ เสี่ยวเยี่ยน”ฉินเจียวเยี่ยนขมวดคิ้วมุ่น พลางนึกทบทวนว่า ตนเองเผลอพลั้งปากหลุดความลับสุดยอดเช่นนี้ออกไปเมื่อใด “หม่อมฉันนึกมะ... อุ๊บ!”เซียวชิงเฟิงไม่เปิดโอกาสให้ฉินเจ
ฉินเจียวเยี่ยนอ้าปากค้างตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นสวามีของตนเองในชุดเสี่ยวเอ้อร์ของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอ ก็มือไม้อ่อนจนเผลอปล่อยถ้วยเปล่าและตะเกียบให้ร่วงหล่นจากมือลงกระทบโต๊ะเคร้ง!“อ๊ะ! ร้อน!” มือเล็กสะบัดไปมา เมื่อถูกน้ำซุปในถ้วยกระเด็นใส่ เซียวชิงเฟิงเห็นดังนั้นก็รีบเดินเข้ามาดูอาการที่มือเล็กอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเห็นเพียงแค่หยดน้ำซุปเล็กน้อยที่กระเด็นโดนมือของนาง เขาจึงได้ใช้แขนเสื้อของตนเช็ดให้อย่างอ่อนโยน“เหตุใดจึงไม่ระวังเอาเสียเลย” เซียวชิงเฟิงดุเสียงอ่อน ก่อนจะคว้าจอกชาสาดดับถ่านไม้ไผ่ที่กำลังลุกโชนฉินเจียวเยี่ยนยู่ปากใส่ “ก็เพราะท่านพี่มานั่นแหละเพคะ ทำหม่อมฉันตกใจจนเผลอปล่อยถ้วยให้ตกเลย”‘ต้องโยนความผิดให้ท่านพี่ ท่านพี่จึงจะไม่สามารถเอาผิดข้าได้...’มุมปากของเซียวชิงเฟิงกระตุกประเสริฐนัก ช่วงนี้ ทั้งแม่ทั้งลูกต่างก็จ้องจะเอาผิดเขาอยู่ฝ่ายเดียว...“เพราะข้ามาจึงทำให้เจ้าตกใจ แล้วเจ้าเล่า?” เซียวชิงเฟิงย้อนถาม “เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?”ฉินเจียวเยี่ยนสูดลมหายใจลึก “จิบน้ำชา!! หม่อมฉันมาจิบ
“ไหนจะสามีอีก การที่ได้ไท่จื่อหรือกู้ซื่อจื่อมาเป็นคู่ครองก็นับว่าเป็นวาสนาของพวกเจ้าที่หลายคนอิจฉาแล้ว ข้าไม่คิดว่า ตนเองจะโชคดีอย่างพวกเจ้าหรอก” หลี่ชิงหงผงกศีรษะไปทางประตู “ในสมัยโบราณเช่นนี้ บุรุษที่ดีมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย มิเช่นนั้น ลูกค้าของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอจะมากมายป่านนี้รึ?”“ข้ามีโอกาสได้นั่งคุยกับฮูหยินหลายคน มีไม่น้อยที่สามีหลงอนุจนละเลยภรรยา รับอนุเข้ามาจนเต็มจวน ไปแอบมีอนุที่นอกเรือน ซ้ำร้าย หากภรรยาและอนุทะเลาะกัน เขายังเข้าข้างอนุ ตบตีภรรยาเอกเสียด้วยซ้ำ”“หากสามีไม่หลงอนุก็ตั้งใจทำงานจนละเลยภรรยา มองภรรยาเป็นเพียงไม้ประดับเรือนที่ต้องมีไว้ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของจวน หากแต่ลับหลังแล้ว พวกนางจะเป็นอยู่อย่างไรก็ไม่สนใจ”“ยิ่งบรรดาฮูหยินที่ไม่อาจมีบุตรชายให้แก่จวนของสามีได้อีก กลายเป็นแม่ไก่ที่ไม่สามารถออกไข่ได้ ก็เป็นที่รังเกียจของตระกูลสามีอีก โอ๊ย! สารพัดปัญหาหากคิดจะแต่งงานมีคู่ครอง”ฉินเจียวเยี่ยน “...”ข้าถามเจ้าเพียงประโยคเดียว ไยเจ้าจึงสรุปปัญหาชีวิตคู่ของคนทั้งเมืองมาให้ข้าฟังเล่า?“เช่นนั้น เจ้าจึงเลือกที่จะสนุกกับ
“...” ฉินเจียวเยี่ยนขมวดคิ้ว “เจ้าเพิ่มชาบูเข้าไปเช่นนั้น ลูกค้าจะไม่มึนงงสับสนหรือ?”หลี่ชิงหงเลิกคิ้วแปลกใจ “มึนงงสิ่งใด? ข้าว่า ดีมิดี ลูกค้าบางส่วนก็ตั้งใจมากินชาบูเสียด้วยซ้ำ”ฉินเจียวเยี่ยนถามอย่างสงสัย ในขณะที่คีบเห็ดขึ้นมาจากหม้อทองแดง “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”“เฮ้อ... ข้าเป็นเจ้าของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอนะ” หลี่ชิงหงเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ข้าดูแลที่นี่มาตั้งแต่ยามตั้งไข่ แรกเริ่มเดิมทีมีลูกค้าเสียที่ใด น้ำชาเจ้ารสเลิศมากหรือ? ขนมที่เจ้าขายแปลกประหลาดจนมีแต่ที่นี่ที่เดียวหรือ?”เมื่อเห็นฉินเจียวเยี่ยนส่ายหน้าปฏิเสธ นางจึงเอ่ยต่อ “เพราะที่นี่ไม่ได้มีสิ่งใดที่พิเศษกว่าที่อื่นเลยอย่างไรเล่า? ข้าจึงต้องมองหาจุดขายอย่างอื่นมากเพิ่มเติม”“เจ้าจึงเลือกชาบู?” ฉินเจียวเยี่ยนเลิกคิ้วบางถาม ในขณะที่แอบคีบเนื้อแพะที่หลี่ชิงหงเป็นผู้คีบลงไปต้ม“ก็ใช่น่ะสิ” หลี่ชิงหงพยักหน้าหงึกหงักกับความคิดของตน “โชคดีว่าได้อาลี่คอยช่วยเหลือด้วย นับว่านางเป็นลูกค้าคนแรกของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอก็ว่าได้ นางชวนกู้ฮูหยินให้มาลิ้มลองชาบูที่นี่ก่อนเป็นรายแรก”







