หน้าหลัก / รักโบราณ / พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่! / บทที่ 1 สหายที่ดีของเจ้าคือข้าเอง (1/4)

แชร์

บทที่ 1 สหายที่ดีของเจ้าคือข้าเอง (1/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-08 21:48:54

                                                                             1

                                                           สหายที่ดีของเจ้าคือข้าเอง

            เพิ่งจะลองเปิดใจอ่านนิยายเรื่องแรกเพราะการรบเร้าของหลิวอี้หลานเพื่อนรักที่ชอบเพ้อฝันอยากทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายและได้กลายเป็นนางเอกของนิยายเรื่องนั้น แต่เหตุใดนางที่เพิ่งอ่านนิยายเล่มนั้นไปได้เล็กน้อย ถึงได้รับสิทธิ์นั้นกันเนี่ย

            ‘เฮ้อ! นี่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกนิยายแห่งนี้จริง ๆ เหรอ’ สุดท้ายก็ได้แต่ทอดถอนในใจตามลำพัง เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเธอเองแล้ว ว่าต่อให้เธอถูกฆ่าตายในโลกแห่งนี้ เธอก็ไม่มีทางจะกลับไปเป็นพนักงานออฟฟิศที่โสดสนิทเพราะการทำโอทีฟรีเกือบทุกวันอย่างเหอซือซือในยุคสองพันยี่สิบสี่ เพราะเธอตายด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ไม่มีทางจะไปนอนโคม่าอยู่ในห้องไอซียูเช่นนางเอกบางเรื่องที่เพื่อนชอบมาเล่าให้ฟัง

            ‘สวรรค์! คนที่อยากทะลุมิติมาอยู่ในนิยาย แก้ไขชะตาชีวิตของตัวละคร เป็นหลิวอี้หรานไม่ใช่ข้า พวกท่านเข้าใจผิดไปหรือไม่’ แม้จะถอนหายใจหรือเงยหน้ามองท้องฟ้าซ้ำ สุดท้ายเธอก็ไม่ได้รับคำตอบ    

            และเมื่อเวลาผ่านไปหลายวัน เธอก็เริ่มที่จะทำใจและพยายามเค้นสมองคิดถึงเรื่องราวในนิยายที่อ่านยังไม่จบ ว่าตัวประกอบชื่อเดียวกับนางนี้เป็นคนอย่างไร

            ในนิยาย ‘เหอซือซือ’ เป็นคุณหนูนิสัยแย่ที่ชักจูงและสนับสนุนน้องสาวของพระเอกให้กลายเป็นคนร้ายกาจ สุดท้ายพากันไปกลั่นแกล้งสตรีในดวงใจของพระเอกจนนางเกือบตาย จึงโดนพระเอกเอาคืนด้วยการวางยาปลุกกำหนัดแล้วพาตัวไปทิ้งไว้กลางป่า สุดท้ายธาตุไฟเข้าแทรกตายกลางป่าอย่างอนาจ และเธอก็อ่านได้ถึงตรงนี้ก่อนจะสิ้นชีวิตไป

            ‘ข้าตายเพราะเครื่องบินตกจนต้องมาอยู่ในร่างนี้ หลังจากนี้อีกหนึ่งปีก็จะต้องตายเพราะเวรกรรมที่ทำไว้กับผู้อื่นอีกหรือนี่ ไม่มีทาง! ในเมื่อข้ามีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิต ข้าจะไม่มีวันยอมตายเร็วเด็ดขาด’ ต่อจากนี้ข้าจะเป็นเหอซือซือเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิมเอง รับรองคนอ่านอย่างพวกท่านต้องเอ็นดูข้า...

            กว่าจะสามารถปรับตัวและสวมบทบาทเป็นเหอซือซือคุณหนูจวนเหอ บุตรสาวรองเจ้ากรมยุติธรรมได้ เวลาก็ผ่านไปนับสิบวัน

            “คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูเจียงมาขอพบเจ้าค่ะ”

            “คุณหนูเจียง? เจียงเซียวเล่อหรือ” จากความทรงจำในร่างนี้ทั้งสองคนเพิ่งจะได้พบกันในงานเลี้ยงที่จวนเจ้ากรมโยธาเหว่ยเมื่อสิบกว่าวันก่อน

            “เจ้าค่ะ”

            “รีบเชิญเข้ามาเถิด” นางรีบปิดตำราที่กำลังอ่านอยู่แล้วลุกจากตั่งเพื่อจัดอาภรณ์ให้เรียบร้อย

            ไม่กี่ชั่วอึดใจสาวใช้ของตระกูลเหอก็พาสหายคนใหม่ของนางเดินเข้ามาหา

            “ซือซือ ขออภัยที่ข้ามาหาเจ้าโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า” เจียงเซียวเล่อที่เพิ่งพบสหายถูกใจกล่าว

            “เจ้านับข้าเป็นสหายแล้วมิใช่หรือ เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น เป็นสหายกันหากจะพบกันต้องแจ้งล่วงหน้าด้วยหรือ” เหอซือซือ กล่าวพลางเอียงคอทำแก้มป่องอย่างน่ารัก หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย

            “เช่นนั้นต่อจากนี้ข้าสามารถมาหาเจ้าที่จวนบ่อย ๆ ได้ใช่หรือไม่”

            “ย่อมได้ จวนตระกูลเหอยินดีต้อนรับเจ้า” เหอซือซืออมยิ้มกับท่าทางตื่นเต้น คงเป็นเพราะตระกูลเจียงเป็นตระกูลแม่ทัพทั้งบิดาและพี่ชายคนโต ก็ล้วนแต่อยู่ในกองทัพ สหายผู้นี้ที่ไร้มารดาดูแลจึงต้องอยู่ที่จวนกับพี่ชายคนรองเพียงลำพัง และพี่ชายคนนี้ก็ยังเป็นพระเอกของเรื่องนี้ด้วย

            “ข้าดีใจยิ่งนักที่มีเจ้าเป็นสหาย” วันนั้นนางคิดถูกจริง ๆ ที่ตัดสินใจเข้าไปทักทายสตรีที่เอาแต่จ้องมองขนมตรงหน้าด้วยท่าทางตื่นเต้น จากต่างคุณหนูพวกนั้นที่เอาแต่จ้องมองพี่รองด้วยแววตาลุ่มหลง 

            “ข้าก็ดีใจที่สหายคนแรกของเจ้าเป็นข้า” ขอเพียงนางทำดีกับสหายผู้นี้ พี่ชายของเขาก็จะเอ็นดูนางไปด้วย เกาะแข้งเกาะขาพระเอกให้แน่น นางย่อมมีชีวิตยืนยาว

            โชคดีจริง ๆ ที่เข้ามาอยู่ในร่างนี้ตอนที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ ๆ ยังไม่ทันได้ยุยงน้องสาวของพระเอกในเรื่องที่ไม่ดี

            “ข้าให้เจ้า” คุณหนูเจียงยื่นขวดแก้วสลักลวดลายแปลกตาคล้ายเครื่องแก้วโบราณที่นางเคยเห็นในโลกก่อน

            “มันคือสิ่งใดหรือ” นางรับมาก่อนจะเอียงซ้ายมองขวาเจ้าขวดแก้วในมืออย่างพิจารณา

            “น้ำมันหอมเหมยกุ้ย[1]น่ะ เจ้าลองเปิดดมสิชอบหรือไม่”

            “น้ำมันหอมหรือ” แววตาของเหอซือซือเป็นประกาย น้ำมันหอมที่ว่ามันคือน้ำหอมยุคโบราณมิใช่หรือ อยากยกนิ้วให้นักเขียนเสียจริง ที่สร้างสรรค์สิ่งนี้เอาไว้ด้วย

            ‘อืม...จะว่าอย่างไรดีเล่า มันก็หอมอยู่นะ แต่กลิ่นอ่อนไปหน่อย แต่ก็เอาเถิดมันใช้ได้ผลกว่าถุงหอมมากนัก’ นางก้มหน้าคิดพลางดมอย่างพิจารณา ก่อนจะเอาแตะบริเวณข้อมือแล้วถูกันไปมาเพื่อลองดมอีกครั้ง

            ไม่เลวแฮะ ทำได้ดีทีเดียว...

            “หอมหรือไม่” เจียงเซียวเล่อเอ่ยถาม แววตาที่จ้องมองสหายแฝงความคาดหวังเต็มเปี่ยม

            “หอมยิ่งนัก ข้าว่าหอมเร็วกว่าถุงหอมที่พวกเราห้อยเสียอีก มิเชื่อเจ้าลองดมดูสิ” กล่าวจบก็ยื่นข้อมือขาวเนียนไปจ่อที่จมูกของสหาย

            “อ่ะ อืม” คุณหนูจวนแม่ทัพคล้ายจะตกใจเล็กน้อยกับความสนิทสนมที่สหายมีให้ ก่อนจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก

            “เป็นอย่างไรบ้าง หอมหรือไม่”

            “หอม ช่างเหมาะสมกับเจ้ายิ่งนัก ข้าคิดถูกแล้วที่ซื้อมาให้เจ้า” เจียงเซียวเล่อตอบใบหูแดงขึ้นเล็กน้อย

            “เจ้าซื้อจากที่ใดหรือ หากใช้หมดแล้วข้าจะได้ไปซื้อบ้าง”

            “เมื่อหลายวันก่อนข้าเพิ่งไปที่เมืองไห่หยางกับพี่รอง พบพวกโฝหลางจี[2]มาค้าขาย คราแรกเห็นขวดน่าสนใจข้าจึงไปสอบถามพอรู้ได้ลองจึงรู้ว่ามันหอม เลยซื้อมาฝากเจ้าด้วย”

            “คงแพงไม่น้อย”

            “ไม่แพงมากนัก ข้าก็ซื้อให้ตนเองด้วยเป็นน้ำมันหอมหมู่ตาน[3] วันนี้ข้าใส่มันมาด้วยนะ”

            “จริงหรือ ข้าขอดมกลิ่นได้หรือไม่ อยากรู้ว่ามันจะหอมเหมือนเหมยกุ้ยหรือไม่” สิ้นเสียงนางก็ขยับตัวเข้าใกล้ก่อนจะยื่นจมูกดมหากลิ่นน้ำมันหอมบริเวณใกล้ซอกคอทั้งสองฝั่ง เมื่อไม่พบกลิ่นหอมที่ต้องการจึงเปลี่ยนไปจับข้อมือสหายขึ้นมาดม

            ซึ่งคนที่อ่อนประวัติศาสตร์ จะอ่านนิยายก็อ่านได้เพียงครึ่งเรื่องก็ต้องตาย จึงไม่รู้ตัวว่าการกระทำของตนนั้นไม่เหมาะสม จนทำให้สือหลิวและจี้เอ๋อสาวใช้ของคุณหนูตระกูลเจียงรีบวิ่งเข้ามาเพื่อห้ามปราม

            “ขะ ข้าเพิ่งเคยใช้น้ำมันหอมเป็นครั้งแรกจึงหยดใส่อาภรณ์ตรงนี้ไม่กล้าใส่มากเกินไป” เจียงเซียวเล่อรู้สึกเหมือนลมหายใจสะดุด แม้รอยยิ้มจะยังคงประดับบนใบหน้าหวานเล็กน้อยแต่ทว่าใบหูนางกลับแดงอย่างผิดปกติ

            “ไหนข้าขอดม...” นางยังไม่ทันได้ยื่นจมูกเข้าไปใกล้บริเวณสาบเสื้อ สาวใช้ก็รีบเอ่ยถามด้วยสีหน้าร้อนรน

            “คุณหนูกำลังทำอันใดอยู่เจ้าคะ”

            “ข้าก็กำลังจะลองดมน้ำมันหอมของสหายมีอันใดหรือ” เหอซือซือคล้ายจะไม่ทราบว่าตนได้ทำเรื่องไม่เหมาะสมลงไป นางจึงหันไปเอ่ยถามสาวใช้ของตนด้วยสีหน้างุนงง

            “แม้เป็นสตรีเหมือนกันแต่ก็ไม่อาจใกล้ชิด...” จี้เอ๋อกำลังจะช่วยอธิบายแต่ก็ถูกผู้เป็นนายเอ่ยวาจาขัดก่อน

            “ข้าเป็นนายของเจ้ายังไม่เดือดร้อน เจ้าจะมาร้อนรนอันใดกัน” เจียงเซียวเล่อหันไปมองสาวใช้คนสนิทที่บังอาจมาทำลายบรรยากาศดี ๆ เมื่อครู่

            “มีอันใดกันหรือ ข้าทำเรื่องใดไม่เหมาะสมลงไปหรือไม่” นางไม่เข้าใจ ตอนหลิวอี้หรานสหายในโลกโน้นของนางซื้อน้ำหอมมา นางก็ขอดมเช่นนี้ มันก็ไม่ได้ผิดอันใดไม่ใช่หรือ

            “ไม่มี เจ้าอย่าได้สนใจสาวใช้พวกนี้เลย เจ้าเป็นสหายข้า ต่อให้ทำเรื่องไม่เหมาะสมข้าก็ไม่ถือสาหรอก” กล่าวจบก็หันไปส่งสายตาดุให้สือหลิวและจี้เอ๋อ ทั้งสองจึงได้แต่ก้มหน้าแสร้งทำไม่เห็นอีก

[1] ดอกกุหลาบ

[2] คนสมัยราชวงศ์หมิงใช้เรียกชาวโปรตุเกส

[3] โบตั๋นหรือพีโอนี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ : ฮูหยินของท่านประมุข (2)NC++(5/5)

    “ตามใจท่านเจ้าค่ะ” นางโถมกายเข้าหาเขา บดเบียดอกอวบอิ่มลงบนอกเขาด้วยดวงหน้าที่แดงก่ำ ยามถูไถส่วนอ่อนไหวกับแท่งหยกของเขาไม่เพียงแต่ปลุกเร้าความปรารถนาของเขา แต่นางก็ถูกปลุกเร้าไปด้วยเช่นกัน บุรุษรูปร่างกำยำผิวสีเข้มเล็กน้อยโอบอุ้มฮูหยินของตนไปที่เตียง เขาวางนางลงบนเตียงอย่างรีบร้อนก่อนจะจับเรียวขางามแหวกออกเผยให้เห็นดอกเหมยที่ดูคับแน่น เขากดนิ้วแกร่งเคล้นคลึงหวังกระตุ้นน้ำหวาน “ดูเหมือนเจ้าจะปรารถนาในตัวพี่ไม่น้อย” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าเมื่อแตะนิ้วลงไปสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะลื่นไหลจึงยิ่งเคล้นคลึงปลุกเร้าน้ำหวานให้ซึมออกมามากขึ้น “ท่านเล่าเจ้าค่ะปรารถนาในตัวข้าเพียงใด” “มากล้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” สิ้นเสียงเขาก็กดริมฝีปากลงตรงจุดอ่อนไหวลิ

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ : ฮูหยินของท่านประมุข (2)(4/5)

    “ฮูหยิน เจ้าเหนื่อยหรือไม่” “เล็กน้อยเจ้าค่ะ” เพราะชุดเจ้าสาวหนักเกินไปจึงทำให้นางเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง “ให้พี่ปรนนิบัติเจ้าอาบน้ำดีหรือไม่” “ไม่ใช่ต้องเป็นข้าปรนนิบัติท่านอาบน้ำหรือเจ้าคะ” “ให้พี่ปรนนิบัติเจ้าก่อนดีกว่า” กล่าวจบเขาก็โอบอุ้มนางขึ้นแล้วพาไปที่ถังอาบน้ำซึ่งมีน้ำอุ่นอยู่เต็มถัง เขาวางนางลงยืนในถังก่อนจะรีบปลดเปลื้องอาภรณ์เผยให้เห็นแท่งหยกที่แข็งขึงใหญ่โต “ขะ ข้าคิดว่าข้ารีบอาบน้ำดีกว่าเจ้าค่ะ” แม้จะได้เรียนรู้จากพี่สาวนางโลมมาแล้ว ศึกษาตำราปกขาวมาก็ไม่น้อย แต่นางไม่คิดว่าแท่งหยกของบุรุษที่พี่สาวนางโลมบอกว่าสามารถทำให้สตรีทั้งเจ็บปวด

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ : ฮูหยินของท่านประมุข (2) (3/5)

    “ฮูหยินของข้าอยู่ที่ใด” เจ้าของเสียงเย็นชาตวาดใส่สาวใช้ “ดะ ด้านบนเจ้าค่ะ” “ผู้ดูแลอยู่ที่ใด” “ข้าอยู่ที่นี่เจ้าค่ะท่านประมุข” แท้จริงผู้ดูแลเช่นตนเห็นกลุ่มคนที่เดินเข้ามาทำท่าจะออกไปต้อนรับก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นประมุขแห่งปราสาทเมฆาจึงตั้งใจจะรีบหนีไปซ่อนตัว ใครบางในเมืองนี้ไม่รู้ว่าหากเขาได้ลงมือเขาจะไม่ไว้ไมตรีใด ๆ “พาข้าไปหาฮูหยินของข้า” “จะ เจ้าค่ะ” ผู้ดูแลนึกก่นด่าตนเองที่ไม่น่าเห็นเงินก้อนทองสีแวววาวแค่ไม่กี่ก้อนเลย ใครจะคิดว่าท่านประมุขจะมีโทสะรุนแรงเช่นนี้ เพียงแค่ฮูหยินแอบมาเรียนวิชาการเอาใ

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ : ฮูหยินของท่านประมุข (2) (2/5)

    ‘ขนาดข้าบอกว่าตนป่วยยังจะกินเต้าหู้ข้าอยู่นะ’ นางคิด ผ่านไปไม่ถึงชั่วจิบชาเขาก็กลับเข้าห้องมาอีกครั้ง บุรุษรูปร่างกำยำยกเก้าอี้มานั่งข้างเตียงก่อนจะจับมือของนางไปกุมไว้ “เซียวเล่อยามนี้ที่เรื่องราวที่เมืองหลวงถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว เสี้ยนจู่ได้รับสมรสพระราชทานแต่งกับโหวซื่อจื่อแซ่หลวน” “ช่างดีจริงแล้ว ซือซือสหายข้าปลอดภัยหรือไม่” “คุณหนูเหอมีเจียงเซวียนอยู่ใกล้ ๆ เขาไม่ปล่อยให้นางเป็นอันตรายหรอก” รักปานดวงใจเช่นนั้นมีหรือจะปล่อยให้เป็นอันตราย “เซียวเล่อ เจียงเซวียนกับคุณหนูเหอมีใจให้กันอีกไม่นานก็คงหมั้นหมายและตบแต่ง พี่ที่ควรจะแต่งฮูหยินแล้วอยา

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ : ฮูหยินของท่านประมุข (2) (1/5)

    ฮูหยินของท่านประมุข (2) ทุ่งดอกหมู่ตานสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาทำให้เจียงเซียวเล่อรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก “ถูกใจหรือไม่” “เจ้าค่ะข้าไม่คิดว่าจะมีใครปลูกดอกหมู่ตานเป็นทุ่งใหญ่ขนาดนี้” “เป็นพี่ลงมือปลูกมันเองทุกต้น เพื่อรอเจ้า” “จริงเจ้าคะ” “ตั้งแต่พี่รู

  • พระเอกคลั่งรักข้ามาก รู้หรือไม่!   ตอนพิเศษ ฮูหยินของท่านประมุข (1) (4/4)

    “พี่ย่อมกลับมาหาเจ้า พี่รักเจ้านะเซียวเล่อ” สิ้นเสียงเขาก็กดริมฝีปากลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกเข้าโพรงปากนุ่มอย่างง่ายดายก่อนจะกวาดต้อนความหวาน ตักตวงจนพอใจก่อนจะยอมผละออก “...” ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ต่างจากใบหูที่แดงก่ำ “เซียวเล่อ เจ้าทำให้พี่ไม่อยากจากไปเลย” กล่าวจบเขาก็กดจุมพิตลงบนหน้าผากมนอีกครั้งอย่างพยายามห้ามใจ “ค่ำคืนนี้ท่านต้องออกไปที่ใดหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่เลย” ในทุกวันหลังจากมากินเต้าหู้นางจนอิ่มเอมแล้ว เขาที่กลับเรือนไปก็นอนไม่หลับสุดท้ายจึงไปนั่งทำงานต่อ “เช่นนั้นท่านก็นอนที่เรือนนี้ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าอนุญาตให้แค่นอนนะเจ้าคะไม่ให้ทำอย่างอื่น” นางกล่าวพลางหลุ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status