เรื่องหว่านเสน่ห์ใส่สตรีของคุณชายจวนแม่ทัพช่างเก่งกาจ แต่นางที่เป็นเพียงสหายของน้องสาวมีหรือจะยอมตกบ่วงนั้นง่าย ๆ แต่แม้นางจะตั้งมั่นเพียงใดสุดท้ายเพื่อความอยู่รอด ตัวประกอบเช่นนางก็ต้องยอมงัดเล่ห์กลเพื่อหลอกล่อให้พระเอกผู้เก่งกาจเช่นเขาหลงรักหัวปักหัวปำ เพราะ ‘สหายของน้องสาว ไหนเลยจะสำคัญเท่าฮูหยิน’ ..................... “เจ้าบอกว่าจะเชื่อฟังไม่ดื้อรั้น ทั้งยังยอมให้พี่กินเต้าหู้ตามใจ” “ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าบอกแค่ว่าจะเชื่อฟังท่านอย่างเดียวนอกนั้นท่านต่อเติมเสริมแต่งเอาเองเจ้าค่ะ” “จริงหรือ เจ้าจำผิดหรือไม่” เขากล่าวพลางเอานิ้วบีบปลายจมูกนางอย่างหมั่นเขี้ยว ดูเหมือนนางจะใจกล้าและช่างต่อรองขึ้นเยอะ เหอซือซือที่เป็นอยู่ในตอนนี้ช่างกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของเขาเสียจริง “ท่านแกล้งข้าเช่นนี้ ข้าจะไปฟ้องเล่อเล่อเจ้าค่ะ” นางยกมือกุมจมูกของตนพลางยู่ปาก ท่าทางโดนกลั่นแกล้งทำให้เขานึกอยากรังแกนางมากเข้าไปอีก “เช่นนั้นก็อย่าลืมบอกเล่อเล่อด้วยว่านอกจากพี่จะกลั่นแกล้งเจ้าแล้ว วันนั้นที่ในรถม้า พี่ยังจุมพิตเจ้าตรงนี้ด้วย” กล่าวจบเขาก็เชยคางนางให้เงยหน้าขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากลงบนปากนาง
Узнайте большеบทนำ
นัยน์ตาคมจ้องมองไปที่ห้องส่วนตัวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มคล้ายเยาะเย้ยคนที่อยู่ในห้องแห่งนั้น
“วันนี้ท่านจะมาประมูลสิ่งใดหรือเจ้าคะ”
“คุณหนูเหรินมาว่าจ้างพี่ให้หากู่ฉินของปรมาจารย์หลี่เต๋อ เห็นว่าเป็นหนึ่งในของที่เข้าประมูลวันนี้”
‘ดูเหมือนเหรินเสี่ยวเหยาจะใช้เรื่องนี้เข้าหาเขาสินะ’ นางชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะนิ่งคิด
“พี่เพียงทำตามหน้าที่ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”
“ข้าไม่คิดมากหรอกเจ้าค่ะ เราไม่ได้เป็นอันใดกันสักหน่อย ปล่อยข้าได้แล้วเจ้าค่ะ” คนเริ่มมาเยอะแล้วประเดี๋ยวเกิดมีคนรู้จักมาเห็นเข้า ชื่อเสียงของนางคงป่นปี้หมด
“ซือซือเจ้ากำลังกินน้ำส้ม[1]ใช่หรือไม่ กลิ่นถึงได้ฉุนจมูกยิ่งนัก”
“ข้าไม่ได้...”
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องที่นางร้ายกาจต่อเจ้าพี่ย่อมเอาคืน วันนี้หากพี่ได้พิณมาในราคาหนึ่งพันตำลึงทอง พี่ก็เพียงไปเก็บเงินนางห้าพันตำลึงทอง แล้วนำส่วนต่างที่ได้เก็บใส่หีบสินสอดเตรียมไว้สู่ขอเจ้า”
“ท่านเป็นพ่อค้าหน้าเลือดเช่นนี้ไม่กลัวจะถูกต่อว่าหรือเจ้าคะ”
“ก็ใครใช้ให้นางร้ายกาจกับเจ้า แล้วก็อย่าได้กังวลหลังจากจบงานที่รับไว้นี้พี่จะไม่รับงานที่นางว่าจ้างอีกต่อไป”
“พี่เซวียน การหาเงินหาทองย่อมสำคัญ หากนางว่าจ้างท่าน แล้วท่านอยากจะรับข้าก็ไม่คิดขัดขวางเจ้าค่ะ”
“ซือซือเจ้าใจกว้างจนพี่ปวดใจ แต่พี่จะบอกอันใดให้เจ้าทราบว่าพี่หาได้ใจกว้างเช่นเจ้าไม่ ดังนั้นพี่ไม่ชอบให้บุรุษใดจ้องมองสตรีของพี่ เข้าใจหรือไม่”
“ที่แท้กลิ่นน้ำส้มที่ท่านว่า มาจากตัวท่านนี่เอง”
“ไม่มีบุรุษใดใจกว้างพอที่จะให้บุรุษอื่นมานั่งมองสตรีของตนเองเช่นนี้”
“หืม! ท่านหมายความว่ามีคนกำลังมองข้าอยู่หรือเจ้าคะ” นางกล่าวก่อนทำท่าจะหันหน้าออกไปมองด้านนอกห้องส่วนตัว
“แนบชิดอยู่กับพี่เช่นนี้นี่แหละ คนผู้นั้นจะได้เลิกจ้องมองเจ้า”
“กลิ่นน้ำส้มเหม็นคละคลุ้งเชียว” นางยิ้มก่อนจะยกมือโอบรอบคอของเขาเพื่อหยอกเย้า
“สุราของโรงเตี๊ยมหนิงฟางช่างดีจริง ๆ เห็นทีคงต้องซื้อกลับไปหลายไหหน่อย เอาไว้ให้เจ้าได้จิบบ่อยครั้ง จะได้น่ารักน่าเอ็นดูเช่นนี้”
‘เพราะสุราที่ใดกัน ข้าตระหนักความจริงได้แล้วต่างหาก ว่าคนที่ข้าจะสามารถปกป้องข้าให้อยู่รอดจนถึงตอนจบก็คือท่าน’ ซึ่งมันคนละสถานะกับที่คิดได้ก่อนหน้านี้ สหายของน้องสาวไหนเลยจะสำคัญเทียบเท่าฮูหยิน...
[1] หึงหวง
‘ข้าว่าแล้วแท้จริงสองคนนี้ไม่ถูกกัน มิเช่นนั้นคุณหนูเหอคงไม่แสร้งตกใจจนผลักคุณหนูเหรินล้มเช่นนี้’ คุณหนูผู้หนึ่งกล่าว ‘ข้าว่าเรื่องนี้ต้องเป็นคุณหนูเหอที่ผิด สตรีดีงามเช่นคุณหนูเหรินหรือจะทำร้ายผู้อื่น วันนั้นข้ายังเห็นนางเอาตัวเข้าบังคุณหนูเติ้งเพื่อช่วยเหลือจากการโดนแส้ฟาด’ เป็นสตรีคนหนึ่งป้องปากสนทนากับสหาย ‘ข้าเห็นด้วยกันเจ้า คุณเหอต้องริษยาที่คุณหนูเหรินงดงามและมีชื่อเสียงดีงามเป็นที่หมายปองของบุรุษมากกว่าตนเป็นแน่’ “นี่พวกเจ้า!” จูเฉ่าเหมยตั้งใจจะหันไปตวาดใส่พวกที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็ตัดสินผู้อื่นแล้ว แต่สหายเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะมือเป็นเชิงห้าม “ช่างเถิดอย่าได้สนใจเลย เราไปกันเถิด” นางหมดอารมณ์จะชมสวนแล้ว แต่ในขณะที่นางกำลังหมุนตัวจะพาสหายเดินจากไป
“คุณหนูเจียงหรือ ใช่บุตรสาวแม่ทัพเจียงหรือไม่” มิใช่ว่ามีคุณหนูอยากเข้าหามากมายหรือ เพื่อใช้เป็นสะพานทอดไปหาพี่ชายคนรองที่มีแต่สตรีหมายปอง “ถูกแล้ว เล่อเล่อนางน่ารักและเป็นสหายที่ดีมาก” “หากคุณหนูเจียงไม่รังเกียจข้าที่เป็นบุตรสาวพ่อค้า ข้าย่อมยินดีที่จะเป็นสหายกับนาง” “ดียิ่ง” นางยิ้มก่อนจะรีบวางจอกชาลงทันที เพราะสนทนากันอย่างเพลิดเพลินจึงลืมตัวหยิบจอกชาขึ้นมาและเกือบจะจิบมันเข้าไปแล้ว “ซือซือ ข้ามองหาเจ้าตั้งนานแท้จริงเจ้ามาหลบอยู่ที่นี่เอง” สตรีดีงามผู้มีรอยยิ้มอ่อนหวานเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยปากทักทายนาง ‘ตามหาข้าเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่’ นางคิดก่อนจะปรายตามองฝั่งบุร
‘เขาดูหลงใหลข้าเช่นนี้ดีไม่น้อย’ แค่นางกอดขาเขาให้แน่น เพียงเท่านี้ทางรอดของนางก็สว่างไสวแล้ว หลังจากคืนนั้นคุณชายรองเจียงก็ไม่ว่างมาปีนเข้าเรือนคุณหนูเหออีก มีเพียงจดหมายถามไถ่และเล่าเรื่องราวที่กำลังทำอยู่ให้นางทราบพร้อมทั้งส่งของปลอมประโลมที่ทำให้นางต้องคิดถึงเขาเป็นเครื่องประดับล้ำค่าและน้ำมันหอมสลับกันไปจนถึงวันที่มีการจัดงานเลี้ยงในวังหลวง ว่าด้วยงานเลี้ยงจิบชาชมดอกไม้ของฮองเฮา ไม่ต่างจากงานเลือกคู่ดูตัวเท่าใดนัก เพราะมีคุณชายคุณหนูวัยออกเรือนเข้าร่วมมากมาย แต่ละคนนั้นแต่ตัวงดงามจนเรียกได้ว่าแย่งชิงความโดดเด่นจากดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ในสวน ‘งานเลี้ยงที่ไม่มีเล่อเล่อช่างน่าเบื่อหน่าย’ เหอซือซือลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เห็นสหายว่าติดพ
17 พบเจอสหายคนใหม่ แม้จะมีเวลาเพียงหนึ่งเค่อก่อนจะถึงเวลาที่นัดหมายไว้กับองค์รัชทายาท เจียงเซวียนก็ยังแวะเวียนมาจวนตระกูลเหอและปีนหน้าต่างเข้าเรือนคุณหนูของจวนหวังจะได้สนทนากันสักสองสามประโยคให้ชื่นใจก็ยังดี “ซือซือ เจ้ามานั่งรอพี่หรือ” วันนี้เขาอารมณ์ดี
ก็อย่างที่เคยบอก มารยาดอกบัวขาวมีแต่บุรุษที่โง่เขลาเท่านั้นแหละที่มองไม่ออก จะมาเทียบมารยาชั้นครูเช่นนางได้อย่างไร ด้านคุณหนูเหรินที่วันนี้ได้รับคำเชิญจากหลวนโหวซื่อจื่อ ให้มาพบที่จวนโหว ได้แต่สะกดกลั้นความไม่พอใจในท่าทางของสตรีที่ตนเคยมองว่าเป็นเบี้ยล่างมาตลอด ก่อนจะยิ้มให้ดูอ่อนหวานที่สุดแล้วเดินเข้าจวนโหว “พี่จิ้นฝานรอข้านานหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามพลางมองอีกฝ่ายอย่างเพ่งพิศ แม้จะรูปงามน้อยกว่าคุณชายรองเจียง แต่ทว่าฮูหยินโหวซื่อจื่อนั้นมีศักดิ์สูงกว่า หรือนางจะเปลี่ยนใจมาล่อลวงบุรุษผู้นี้ดี ในอดีตความสัมพันธ์ก็ดีงาม หากนางต้องการสานสัมพันธ์ใหม่อีกครั้งย่อมไม่ใช่เรื่องยาก “เจ้ามาแล้วหรือ” โหวซื่อจื่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อ
“คุณชายฮุ่ย ข้าเข้าใจนะเจ้าคะ ว่าตัวข้านั้นน่ารักน่าเอ็นดูและน่าทะนุถนอมไม่แปลกที่ท่านจะหวั่นไหวและอยากตอบแทนบุญคุณด้วยร่างกาย แต่ข้าอยากให้ท่านเข้าใจว่ายามนี้ตัวข้านั้นมีบุรุษที่พึงใจแล้ว และเขาก็พึงใจข้า อีกไม่นานเราสองตระกูลก็คงจะได้เกี่ยวดองกัน ดังนั้นข้าไม่อาจตอบรับการตอบแทนบุญคุณของท่านได้จริง ๆ เจ้าค่ะ” คำพูดของนางคล้ายของหนักที่กดศีรษะของอีกฝ่ายให้ก้มหัวลงเรื่อย ๆ ในขณะที่นางกอดอกกล่าววาจาด้วยท่าทางมั่นใจ แม้เขาจะมีมัดกล้ามที่แน่นน่าสัมผัสไม่น้อย แต่ก็ชะตาชีวิตเขาก็สู้ลูกรักของสวรรค์อย่างเจียงเซวียนไม่ได้ และต่อให้นางมีโอกาสได้เลือกใหม่อีกครั้งนางก็ยินดีจะเลือกพ่อค้าเช่นพี่ชายของสหายมากกว่าหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรอย่างเขาที่มีหน้าที่จะต้องปกป้องผู้สูงศักดิ์ก่อนปกป้องตนเองและครอบครัว เหตุใดนางถึงรู้น่ะหรือ ว่าฮุ่ยหลานซีคนนี้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร ก็นางเห็นหยกพกประจำตำแหน่งของเขาอย่างไรเล่า
‘ขอเพียงท่านตอบตกลง ข้าสามารถทำให้ท่านคู่ควรกับข้าได้’ ‘ข้ามิบังอาจ และหากท่านจำไม่ผิดข้าปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับท่านมาโดยตลอด ดังนั้นเลิกป่าวประกาศว่าข้าเป็นคนรักของท่านได้แล้ว และหยุดระรานผู้อื่นด้วย’ ‘เจียงเซวียนแม้ท่านจะใจร้ายกับข้า แต่ข้าก็ยังรักท่าน พวกเจ้าจงจำเอาไว้ นอกจากข้าไม่มีใครคู่ควรกับเขา หากยังมีสตรีใดกล้ามองเขา ข้าจะควักลูกตามันออกมาให้หมด’ กล่าวจบเหลียงจิ่วเม่ยก็ก้มเก็บแส้แล้วรีบเดินฝ่าวงล้อมออกไปทันที ‘คุณหนูเติ้งท่านปลอดภัยดีหรือไม่’ สตรีผู้งดงามเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตา ‘ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนูเหรินที่ช่วยเหลือ’ เติ้งจูหลี่ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าคุณหนูที่แทบ
16 เสี้ยนจู่แห่งแดนเหนือผู้ร้ายกาจ วันนี้ย่านการค้ายังคงคึกคักและมีคนออกมาจับจ่ายซื้อของมากเช่นเดิม อาจเพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงจิบชาชมดอกไม้ที่ถูกจัดขึ้นโดยฮองเฮา จึงมีคุณชายและคุณหนูที่ถูกเชิญเข้าร่วมต่างออกมาซื้ออาภรณ์และเครื่องประดับใหม่ “สือหลิวเจ้านั่งลงเถิด” “จะดีหรือเจ้าคะคุณหนู” “จะให้ข้านั่งกินคนเดียวโดยมีเจ้ายืนมอง ข้าจะกินลงได้อย่างไร มิสู้เจ้านั่งกินด้วยกัน ข้าจะได้เจริญอาหารขึ้น” “แต่ว่ามันไม่เหมาะสม” “หากเจ้าไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับข้า เช่นนั้นก็กลับจวนไปก่อน ข้าจะนั่งจิบชากินขนมคนเดียวเงียบ ๆ” “...” “ว่าอย่างไร หากไม่นั่งก็รีบกลับจวนไปซะ” “บ่าวนั่งก็ได้เจ้าค่ะ” สือหลิวบอกเสียงอ่อน “ดีมาก” ต้องให้เอ่ยวาจาร้ายกาจก่อนถึงจะยอมใช่หรือไม่ เมื่อสาวใช้ยอมนั่งร่วมโต๊ะแล้วนางก็หยิบขนมแล
“ข้าเจอท่านครั้งแรกที่ใดกันนะ...” นางแสร้งทำท่าทางครุ่นคิด คนผู้นี้ขี้อิจฉาจริง ๆ ไม่ยอมขาดทุนแม้เพียงเล็กน้อย “นั่นสิ! ที่ใดกันนะ” “ข้าจำไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ” “ให้นึกดี ๆ อีกครั้ง หากจำไม่ได้ คืนนี้พี่จะช่วยเจ้าทบทวนความจำทั้งคืนดีหรือไม่” จะต้อนสตรีเจ้าเล่ห์ต้องแฝงคำข่มขู่ที่แสนหวาน “อ๋อ! ข้านึกออกแล้วเจ้าค่ะ ท่านแย่งซื้อเสี่ยวหลงเปากับข้า” นางกล่าวพลางส่งยิ้มออดอ้อนเขา “น่าเสียดายจริง ๆ พี่ก็นึกว่าจะได้ช่วยเจ้าทบทวนความทรงจำแล้ว” “ท่านจัดการเรื่องของเสี้ยนจู่เหลียงจิ่วเม่ยให้แล้วเสร็จก่อนเถิดเจ้าค่
Комментарии