“พี่ชายท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ วันนี้บังเอิญได้พบกัน ข้าต้องขอโทษเรื่องที่แย่งเสี่ยวหลงเปาจากท่านจริง ๆ” นางเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายอย่างจริงใจ รูปก็งามหน้าตาก็หล่อเหลาไม่คิดเลยว่าใจคอจะคับแคบเช่นนี้
‘วันนี้ที่จวนตระกูลเจียงมีงานเลี้ยง คนผู้นี้หากไม่เป็นญาติของสหายนาง ก็คงเป็นคุณชายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเจียง’
“วันนั้นเจ้าบอกว่าต้องนำเสี่ยวหลงเปาไปให้สหาย...”
“เจ้าค่ะ นางป่วยข้าอยากให้นางได้กินของอร่อย จึงทำตัวเสียมารยาทกับท่านไป ขออภัยด้วยนะเจ้าคะ” นางกล่าวก่อนจะส่งยิ้มคล้ายออดอ้อนให้อีกฝ่ายยอมให้อภัย
“แล้วนางได้กินหรือไม่ มิใช่เจ้าแอบกินไปก่อน”
“ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่ได้แตะต้องเสี่ยวหลงเปาของสหายเลยเจ้าค่ะ” แม้จะต้องจำใจยกให้ชายสวมหน้ากากผู้นั้นไปหนึ่งลูกก็ตาม
“เช่นนั้นหรือ”
“เจ้าค่ะ ที่ข้าเสียมารยาทแย่งซื้อเสี่ยวหลงเปากับท่าน ข้าล้วนทำไปเพื่อสหาย หาได้ทำเพื่อตัวเองไม่” นางกล่าวพลางพยายามแกะมือเขาที่จับข้อมือของนางอยู่
“เช่นนั้นข้าจะไม่ถือสาเจ้าก็ได้” กล่าวจบเขาก็ปล่อยมือออกจากข้อมือนางทันทีเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าร้อนรนของใครบางคนกำลังเดินมาทางนี้
“พี่รองท่านกำลังกลั่นแกล้งสหายของข้าอยู่หรือเจ้าคะ” วาจาของเจียงเซียวเล่อทำให้คุณหนูเหอตัวแข็งค้างในทันที
“พะ พี่รองหรือ!” เพราะมัวแต่สนใจกินขนมประกอบกับโต๊ะที่นางนั่งอยู่ไกล นอกจากจะมองพิธีปักปิ่นของสหายได้ไม่เต็มตาแล้วนางยังมองเห็นหน้าพี่ชายของสหายไม่ชัด จึงไม่ทราบว่าคนที่ตนกำลังสนทนาด้วยคือคุณชายรองเจียงผู้เป็นที่หมายปองของคุณหนูทั่วแคว้น
“...” เขาไม่เอ่ยปากตอบน้องสาว นัยน์ตาคมดุจับจ้องดวงหน้าหวานที่ฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด สตรีผู้นี้ช่างแปลกประหลาดเสียจริงที่ไม่จ้องมองเขาด้วยแววตาหลงใหล ทั้งยังพยายามถอยห่างเขาอีกด้วย
“ซือซือ เป็นเช่นไรบ้าง พี่รองทำอันใดเจ้าหรือไม่”
“ข้าไม่เป็นอันใด เมื่อครู่เขาแค่มาถามไถ่เพราะคิดว่าหลงทางน่ะ”
“จริงหรือเจ้าคะพี่รอง” เจียงเซียวเล่อกล่าวพลางปรายตามองพี่ชาย แต่เมื่อเห็นสายตาล้ำลึกของพี่ชาย จึงรีบซ่อนตัวสหายไว้ด้านหลัง
“หากสหายเจ้ากล่าวเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น แล้วนี่ใจคอจะไม่แนะนำพี่ชายให้สหายรู้จักหรือ”
“นางคือคุณหนูเหอสหายเพียงคนเดียวของข้าเจ้าค่ะ หากมีสตรีอื่นมาบอกกล่าวท่านว่าเป็นสหายของข้า ให้ท่านได้โปรดรู้ไว้ว่าพวกนางโกหก” กล่าวจบเจียงเซียวเล่อก็หันหน้ามาหานางก่อนจะเอ่ยต่อ
“ซือซือ คนที่ยืนหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงนี้เป็นพี่ชายคนรองของข้านามว่าเจียงเซวียน แต่ถ้าไม่จำเป็นเจ้าอย่าได้เข้าใกล้เขา เพราะเจ้าจะโดนสตรีร้ายกาจพวกนั้นหมาย...” เจียงเซียวเล่อกล่าวยังไม่ทันจบก็โดนพี่ชายใช้นิ้วดีดหน้าผาก
แป๊ะ! แม้จะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายเจ็บพอที่จะหยุดเอ่ยวาจาแนะนำตัวเกินเหตุได้
“เอ่ยแนะนำพี่ให้มันดี ๆ หน่อย ประเดี๋ยวสหายของเจ้าก็หวาดกลัวพี่จนไม่อยากเข้าใกล้หรอก”
“ข้าเจ็บนะเจ้าคะ ซือซือไม่อยากเข้าใกล้พี่รองเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ นางจะได้ไม่ต้องโดนสตรีพวกนั้นปองร้าย”
“เจ้าก็กล่าวเกินไป”
“พี่รอง ท่านไม่รู้เสียแล้ว แรงริษยาของสตรีนั้นน่ากลัวยิ่ง ข้าไม่อยากให้ซือซือที่น่ารักของข้าต้องไปแปดเปื้อนหรือถูกปองร้ายเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
“แต่ตราบใดที่นางยังเป็นสหายของเจ้า นางก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพบปะพี่ได้ ใช่หรือไม่ซือซือ” เสียงเรียกของเขาทำให้นางสะดุ้งโหยงพลันขนลุกไปทั่วทั้งตัว
‘แง ๆ ข้ากำลังโดนเขาหมายหัวอยู่ใช่หรือไม่’ นางคิดก่อนจะยกมือลูบแขนตนเองแล้วก้าวเท้าออกมาจากด้านหลังของสหาย
“ขออภัยที่ข้ามีตาหามีแววไม่ เพราะไม่ทราบจริง ๆ ว่าท่านคือพี่รองของเล่อเล่อ ข้าจึงไม่ได้ทักทาย และวันนั้นข้าต้องขอโทษจริง ๆ นะเจ้าคะที่เสียมารยาทแย่งซื้อเสี่ยวหลงเปาจากท่าน หวังว่าคุณชายรองเจียงจะมีเมตตาให้อภัยข้าที่ไม่รู้ความเจ้าค่ะ”
“ตามใจท่านเจ้าค่ะ” นางโถมกายเข้าหาเขา บดเบียดอกอวบอิ่มลงบนอกเขาด้วยดวงหน้าที่แดงก่ำ ยามถูไถส่วนอ่อนไหวกับแท่งหยกของเขาไม่เพียงแต่ปลุกเร้าความปรารถนาของเขา แต่นางก็ถูกปลุกเร้าไปด้วยเช่นกัน บุรุษรูปร่างกำยำผิวสีเข้มเล็กน้อยโอบอุ้มฮูหยินของตนไปที่เตียง เขาวางนางลงบนเตียงอย่างรีบร้อนก่อนจะจับเรียวขางามแหวกออกเผยให้เห็นดอกเหมยที่ดูคับแน่น เขากดนิ้วแกร่งเคล้นคลึงหวังกระตุ้นน้ำหวาน “ดูเหมือนเจ้าจะปรารถนาในตัวพี่ไม่น้อย” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าเมื่อแตะนิ้วลงไปสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะลื่นไหลจึงยิ่งเคล้นคลึงปลุกเร้าน้ำหวานให้ซึมออกมามากขึ้น “ท่านเล่าเจ้าค่ะปรารถนาในตัวข้าเพียงใด” “มากล้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” สิ้นเสียงเขาก็กดริมฝีปากลงตรงจุดอ่อนไหวลิ
“ฮูหยิน เจ้าเหนื่อยหรือไม่” “เล็กน้อยเจ้าค่ะ” เพราะชุดเจ้าสาวหนักเกินไปจึงทำให้นางเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง “ให้พี่ปรนนิบัติเจ้าอาบน้ำดีหรือไม่” “ไม่ใช่ต้องเป็นข้าปรนนิบัติท่านอาบน้ำหรือเจ้าคะ” “ให้พี่ปรนนิบัติเจ้าก่อนดีกว่า” กล่าวจบเขาก็โอบอุ้มนางขึ้นแล้วพาไปที่ถังอาบน้ำซึ่งมีน้ำอุ่นอยู่เต็มถัง เขาวางนางลงยืนในถังก่อนจะรีบปลดเปลื้องอาภรณ์เผยให้เห็นแท่งหยกที่แข็งขึงใหญ่โต “ขะ ข้าคิดว่าข้ารีบอาบน้ำดีกว่าเจ้าค่ะ” แม้จะได้เรียนรู้จากพี่สาวนางโลมมาแล้ว ศึกษาตำราปกขาวมาก็ไม่น้อย แต่นางไม่คิดว่าแท่งหยกของบุรุษที่พี่สาวนางโลมบอกว่าสามารถทำให้สตรีทั้งเจ็บปวด
“ฮูหยินของข้าอยู่ที่ใด” เจ้าของเสียงเย็นชาตวาดใส่สาวใช้ “ดะ ด้านบนเจ้าค่ะ” “ผู้ดูแลอยู่ที่ใด” “ข้าอยู่ที่นี่เจ้าค่ะท่านประมุข” แท้จริงผู้ดูแลเช่นตนเห็นกลุ่มคนที่เดินเข้ามาทำท่าจะออกไปต้อนรับก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นประมุขแห่งปราสาทเมฆาจึงตั้งใจจะรีบหนีไปซ่อนตัว ใครบางในเมืองนี้ไม่รู้ว่าหากเขาได้ลงมือเขาจะไม่ไว้ไมตรีใด ๆ “พาข้าไปหาฮูหยินของข้า” “จะ เจ้าค่ะ” ผู้ดูแลนึกก่นด่าตนเองที่ไม่น่าเห็นเงินก้อนทองสีแวววาวแค่ไม่กี่ก้อนเลย ใครจะคิดว่าท่านประมุขจะมีโทสะรุนแรงเช่นนี้ เพียงแค่ฮูหยินแอบมาเรียนวิชาการเอาใ
‘ขนาดข้าบอกว่าตนป่วยยังจะกินเต้าหู้ข้าอยู่นะ’ นางคิด ผ่านไปไม่ถึงชั่วจิบชาเขาก็กลับเข้าห้องมาอีกครั้ง บุรุษรูปร่างกำยำยกเก้าอี้มานั่งข้างเตียงก่อนจะจับมือของนางไปกุมไว้ “เซียวเล่อยามนี้ที่เรื่องราวที่เมืองหลวงถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว เสี้ยนจู่ได้รับสมรสพระราชทานแต่งกับโหวซื่อจื่อแซ่หลวน” “ช่างดีจริงแล้ว ซือซือสหายข้าปลอดภัยหรือไม่” “คุณหนูเหอมีเจียงเซวียนอยู่ใกล้ ๆ เขาไม่ปล่อยให้นางเป็นอันตรายหรอก” รักปานดวงใจเช่นนั้นมีหรือจะปล่อยให้เป็นอันตราย “เซียวเล่อ เจียงเซวียนกับคุณหนูเหอมีใจให้กันอีกไม่นานก็คงหมั้นหมายและตบแต่ง พี่ที่ควรจะแต่งฮูหยินแล้วอยา
ฮูหยินของท่านประมุข (2) ทุ่งดอกหมู่ตานสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาทำให้เจียงเซียวเล่อรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก “ถูกใจหรือไม่” “เจ้าค่ะข้าไม่คิดว่าจะมีใครปลูกดอกหมู่ตานเป็นทุ่งใหญ่ขนาดนี้” “เป็นพี่ลงมือปลูกมันเองทุกต้น เพื่อรอเจ้า” “จริงเจ้าคะ” “ตั้งแต่พี่รู
“พี่ย่อมกลับมาหาเจ้า พี่รักเจ้านะเซียวเล่อ” สิ้นเสียงเขาก็กดริมฝีปากลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกเข้าโพรงปากนุ่มอย่างง่ายดายก่อนจะกวาดต้อนความหวาน ตักตวงจนพอใจก่อนจะยอมผละออก “...” ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ต่างจากใบหูที่แดงก่ำ “เซียวเล่อ เจ้าทำให้พี่ไม่อยากจากไปเลย” กล่าวจบเขาก็กดจุมพิตลงบนหน้าผากมนอีกครั้งอย่างพยายามห้ามใจ “ค่ำคืนนี้ท่านต้องออกไปที่ใดหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่เลย” ในทุกวันหลังจากมากินเต้าหู้นางจนอิ่มเอมแล้ว เขาที่กลับเรือนไปก็นอนไม่หลับสุดท้ายจึงไปนั่งทำงานต่อ “เช่นนั้นท่านก็นอนที่เรือนนี้ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าอนุญาตให้แค่นอนนะเจ้าคะไม่ให้ทำอย่างอื่น” นางกล่าวพลางหลุ