“ศิส่งงานไปให้ดูแล้ว พี่ช่วยตรวจให้หน่อยนะคะว่าโอเคมั้ย ถ้าจะแก้ยังไงก็บอกได้ค่ะ”
“โอเคศิ พี่ว่าระดับศิคงไม่ต้องแก้หรอก ใช้วันหยุดให้คุ้มเถอะไว้ว่างๆพี่ไปเที่ยวหานะ”
“ได้ค่ะพี่เจน”
ศศินากดวางสายจากรุ่นพี่ที่เคยเป็นพี่รหัสในสมัยเรียน เป็นคนเดียวที่พอจะติดต่อกันอยู่บ้างแต่ทั้งหมดก็เพราะเรื่องงาน ศศินาเป็นพนักงานประจำในบริษัทดังมาหลายปีตั้งแต่เรียนจบ แต่ก็รับงานออกแบบเว็บไซต์เป็นงานเสริมบ้างตามแต่จะมีเวลาพอ และส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นพี่คนนี้ที่หางานมาให้บ่อยๆ ด้วยความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี ศศินาเลยเป็นตัวเลือกต้นๆเวลาที่คนอยากจ้าง แต่เธอก็เลือกแค่งานที่อยากทำจริงๆเท่านั้นไม่ได้รับเพราะร้อนเงิน
อะไร
ก็เหลือตัวคนเดียวแล้ว จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมใช้ชีวิตได้ยังไง เงินสำคัญก็จริงแต่ความสุขในชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน เธอต้องใช้ชีวิตที่เหลือให้ดีที่สุดเพราะวันนึงที่ไปเจอครอบครัวอีกครั้งจะได้เจออย่างภาคภูมิใจว่าใช้ชีวิตมาดีแล้ว
“วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่นา แต่มองไม่ชัดเลยแฮะ”
พึมพำอยู่คนเดียวเพราะเห็นว่าบนฟ้าคืนนี้มีพระจันทร์ลอยอยู่ แต่บนตึกสูงกลางเมืองใหญ่แบบนี้ ถึงจะเห็นก็ไม่ชัดเหมือนตอนเธอเด็กๆที่มองดูนอกลานบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดอยู่ดี ศศินาเอามือถือมาซูมแล้วถ่ายเก็บไว้เหมือนเคย ก่อนจะเปิดกล่องดนตรีที่ซื้อมาหมุนให้มันบรรเลงอยู่แบบนั้นแล้วก็มองพระจันทร์ที่ไม่ชัดนั่นไปด้วย
จนเมื่อเริ่มดึกถึงได้ย้ายตัวเองมาที่เตียงแล้วอ่านหนังสือนิยายครึ่งที่เหลือ ตั้งใจว่าจะอ่านแค่ไม่กี่บทแต่ดันอ่านจนจบแบบที่ห้ามตัวเองไม่ได้ทุกที ความเพลียที่สะสมมาทั้งวันทำให้เธอเริ่มลืมตาไม่ขึ้น ฝนด้านนอกเริ่มโปรยปรายลงมาและตกหนักขึ้นในเวลาไม่นาน สร้างบรรยากาศให้รู้สึกง่วงกว่าเดิม
มือบางหยิบกล่องดนตรีมาหมุนแล้ววางไว้บนหนังสือที่อ่านจบตรงโต๊ะหัวเตียงให้มันเล่นกล่อมอีกครั้ง ก่อนจะผล็อยหลับไปในเวลาไม่นาน แล้วเมื่อกล่องดนตรีนั้นหยุดลงกลไกที่นิ่งก็หมุนย้อนกลับอีกครั้งด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติหลายเท่า ท่ามกลางพายุฝนที่กระหน่ำลงมาและเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง แสงสว่างวาบพาดผ่านกระจกเข้ามาจนกระทบลงบนกล่องดนตรีพอดิบพอดี
ก่อนทุกอย่างจะนิ่งสนิทราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน หากไม่ใช่ว่าบนเตียงนั้นไม่ได้มีเพียงศศินานอนอยู่คนเดียวอีกแล้ว….
เสียงฝนจากด้านนอกทำให้ศศินายิ่งรู้สึกสบายจนอยากหลับต่อ เพราะเป็นวันหยุดเลยไม่ได้รีบร้อนต้องตื่นไปไหน แต่แรงกดทับที่เอวก็ทำเอาอึดอัดจนต้องนิ่วหน้า และเมื่องัวเงียลืมตาขึ้นมาศศินาก็เบิกตาโตด้วยความตกใจสุดขีด แรงกดทับที่ว่าคือแขนที่พาดเอวเธออยู่ และพอหันไปข้างๆก็ต้องอ้าปากค้างแทบสิ้นสติ
มีผู้ชายมานอนอยู่ข้างๆเธอได้ยังไง!
“คุณเป็นใคร!”
ถึงจะถามออกไปเสียงดัง แต่ในใจกลับเผลอคิดไปถึงสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างห้ามไม่ได้เพราะอีกคนสวมชุดโบราณเต็มยศขนาดนั้น แต่เพราะอยู่ตัวคนเดียวเลยต้องรีบลุกไปหยิบอาวุธที่พอช่วยได้มาถือไว้ เป็นดาบไม้ด้ามยาวที่เธอเคยซื้อมาแขวนในห้องเพราะมันเท่ดีนั่นแหละ ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องเอามาถือป้องกันตัวจริงๆแบบนี้
ในขณะที่ศศินาระแวดระวังตัวและคิดหาทางรอดสารพัด ตัวต้นเรื่องที่อยู่บนเตียงทำเพียงงึมงำในลำคอและขยับพลิกมานอนหงายเท่านั้น ศศินายิ่งขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ จากที่เห็นคงเป็นคนแน่ๆ แต่การแต่งตัวและโผล่มาในห้องเธอเหมือนผีขนาดนี้จะเป็นไปได้ยังไง
“นี่คุณ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ! เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง”
“ถ้าไม่ตื่นจะแจ้งตำรวจแล้วนะ”
ถึงจะขู่ไปแบบนั้น แต่ศศินากลับมองมือถือที่ถูกแขนอีกคนทับอยู่ตาละห้อย จะให้ใครช่วยล่ะ สิ่งเดียวที่ใช้ได้อยู่ไกลมือขนาดนั้นแถมยังไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้อีกต่างหาก เธออยากตีแรงๆก็กลัวอีกคนจะลุกมาทำร้ายจนไม่รอด ดูจากขนาดตัวเธอสู้ไม่ได้แน่ๆ
ยิ่งคิดสารพัดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ถ้าเป็นโจรงัดห้องเธอคงตายไปนานแล้วเพราะหลับสนิท อีกอย่างคงไม่มานอนหลับอยู่จนถึงตอนนี้แน่ๆ แล้วโจรที่ไหนใส่ชุดโบราณแบบนี้กัน แล้วถ้าไม่ได้งัดห้องเข้ามาจะหายตัวเข้ามาได้ยังไงห้องเธออยู่ชั้นสี่สิบเจ็ดเลยนะ พอคิดแบบนี้ศศินาก็ขนลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยความกังวลใหม่ หรือว่า จะไม่ใช่คนจริงๆนะ…
เปรี้ยง!!
“พูดเรื่องจริงไงครับ ผมอยากมีลูกเยอะๆเคยบอกแล้วนี่นา”อคิราห์บอกพลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กขัดใจ ศศินาเลยบีบแก้มอีกคนอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นออกมาไม่จริงจังนัก“เลี้ยงคนแรกให้รอดก่อนเถอะค่ะพ่อคนขี้เห่อ”“คุณแม่ดุมากต้องจัดการซะแล้ว”อคิราห์บอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ในแบบที่ศศินารู้ทันทีว่าจะโดนเอาเปรียบแต่ก็ไม่เคยทันเพราะอีกคนก้มลงมาปล้นลมหายใจเธอไปด้วยจูบที่หวานล้ำอีกแล้ว“อื้อ…”—-------“ลูกพ่อ ฮึก…”“แสง นี่คุณร้องไห้เหรอคะ”ศศินาเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นสามีตัวเองเช็ดน้ำตาป้อยๆจนป้ากชที่ยืนอยู่ห่างๆยังแอบขำออกมา“เปล่าสักหน่อย ผมแค่ดีใจที่ลูกออกมาแล้ว ดูสิครับลูกหน้าเหมือนผมเลยใช่มั้ยที่รัก”อคิราห์ปฏิเสธทั้งที่ตายังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส ทำเอาศศินาขำออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ น่าเอ็นดูซะเหลือเกินคุณพ่อที่เพิ่งได้เห็นหน้าลูกเนี่ย แถมยังเป็นลูกแฝดชายหญิงที่หาได้ยากซะด้วย ไม่รู้เธอโชคดีหรืออคิราห์ร้องขอจากพระจันทร์ทุกคืนกันแน่ คนที่เลือกไม่ได้เพราะอยากได้ทั้งลูกชายลูกสาว ผลสุดท้ายเลยได้มาทั้งคู่อย่างน่าอัศจรรย์แบบนี้“แค่กี่วันเองจะดูออกเลยเหรอคะ คนอะไรขี้เห่อมาก”“ลูกน่ารักตั้งสอง
“อื้อ…”ศศินาที่ไม่ทันได้ทักท้วงถูกอีกคนปล้นจูบไปจนได้ มือเล็กขยุ้มอกเสื้ออีกคน ใบหน้าสวยถูกจับให้เงยรับจูบที่แสนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่มและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนต้องทุบอกแกร่งแรงๆหลายที อคิราห์เพียงละออกมาให้ภรรยาหอบหายใจแล้วก็ประกบลงไปกลืนกินความหวานจากปากเล็กครั้งแล้วครั้งเล่าเท่าที่คิดถึงมาหลายวัน จนกระทั่งศศินาตัวอ่อนเปลี้ยในอ้อมแขนอีกคน และอคิราห์เองก็เริ่มจะหักห้ามใจไม่ไหวจนกลัวจะเลยเถิดถึงได้หยุดจูบที่ยาวนานนั้นได้“ทำอะไรคะเนี่ย เดี๋ยวป้ากชก็มาเห็นหรอก”ศศินาฟาดไปที่แขนแกร่งแรงๆพลางบ่นออกมาทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ อคิราห์ยิ้มพลางลูบแก้มเนียนที่ขึ้นสีแผ่วเบาแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเพราะกำลังปรับอารมณ์อยู่ การห้ามใจไม่ให้เกินเลยกับภรรยาตัวเองนี่มันทำร้ายกันชัดๆอคิราห์ไม่ชอบเลย“ป้าเค้าไม่ว่างหรอกครับ กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัวนู่น ว่าแต่คุณแม่ของลูกผมหิวรึยังครับ”“หิวค่ะ”“งั้นก็ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ผมซื้อของมาฝากเยอะเลยที่รักต้องชอบแน่ๆ”อคิราห์ชวนพลางจับคนตัวเล็กให้ค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งด้วยความระมัดระวัง “น่ารักจังเลยคนนี้”“สามีคุณเองครับ รักผมให้มากๆด้วย”คนต
กล่องดนตรีไม้ถูกจับมาหมุน เสียงดนตรีแสนไพเราะดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางลมหนาวของเดือนธันวาคม เส้นผมยาวสีดำขลับพริ้วไหวคลอเคลียใบหน้าหวาน ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปยังภูเขาที่อยู่ไกลลับตา ราวกับจะมองไปให้ถึงคนที่อยู่ไกลแสนไกล คนที่ทำให้เธอเฝ้าคิดถึงมาหลายวันจนมองอะไรก็น่าเบื่อไปหมด ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดถึงเธอเหมือนกันหรือเปล่า เพราะกิจการคาเฟ่ของอคิราห์ไปได้ดีกว่าที่คิด เลยมีคนติดต่อขอให้ไปเปิดอีกสาขาที่กรุงเทพ เนื่องจากมีลูกค้าหลายคนติดใจขนมและเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะที่นี่ อคิราห์เองก็ไม่อยากขายสูตรที่คิดขึ้นมาให้คนอื่นไปทำเพราะกลัวว่าจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม เลยปรึกษากับศศินามาสักพักจนได้ข้อสรุปว่าเราจะไปเปิดอีกสาขาที่นั่น โดยจ้างคนดูแลและไปตรวจทานด้วยตัวเองบ่อยๆแทน พอได้พื้นที่ที่ต้องการอคิราห์เลยต้องไปดูแลการรีโนเวทร้านขึ้นมาให้เหมือนกับสาขานี้มากที่สุด ถึงแม้จะยกธรรมชาติที่เขาใหญ่ไปนู่นไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อยก็สร้างพอให้ได้บรรยากาศเพื่อลูกค้าที่โหยหาธรรมชาติสักนิดก็ยังดี ส่วนเหตุผลที่ศศินามานั่งเหม่อคิดถึงสามีสุดหล่ออยู่ตรงนี้ ก็เพราะอคิราห์ไม่ยอมให้ไปด้วยเพราะกลัวว่าภรรยาจะเหนื่อยเกินไปที่ต
“รู้แล้วครับ ผมจะค่อยๆนึกนะ อืม เรื่องของที่ข้ามมาที่นี่ได้ท่านบอกไว้ว่าเพราะการที่ของโลกนู้นมาโผล่ที่นี่มันไม่แปลกเพราะเป็นของสมัยเก่าที่เคยมีมาแล้ว แต่การที่ของโลกนี้ไปที่นู่นไม่ได้เพราะยังไม่เคยมีสิ่งของพวกนี้มาก่อนครับ”“อย่างนี้นี่เอง ถ้าข้ามไปได้มันจะผิดจากยุคสมัยที่ควรเป็นสินะ”ศศินาพยักหน้าเข้าใจ ถ้าคนเรานำสิ่งของข้ามเวลาไปอดีตได้จริงคงได้วุ่นวายน่าดู เพราะหากใครย้อนเวลาหรือข้ามมิติได้ก็คงอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างจนโลกวุ่นวายไปหมดแน่ๆ “ส่วนตัวตนของคุณ เพราะโลกนั้นเป็นโลกที่ท่านสร้างขึ้นเองเลยมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับทุกอย่าง แต่กับโลกปัจจุบันนี้ท่านไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักนอกจากโชคชะตาจะกำหนดไว้แล้วครับ”“อ้อ นักเขียนคือพระเจ้านี่เองศิก็ลืมไป”“ครับ ท่านบอกผมอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนแรกผมก็โมโหมากที่ท่านมาล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องขอบคุณอยู่ดีไม่งั้นผมคงไม่ได้มาพบคุณ”“งั้นสุดท้าย ทำไมเราสองคนถึงได้ถูกกำหนดให้มาเจอกันทั้งที่อยู่คนละโลกแบบนี้คะ”ศศินาถามอย่างสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ถึงจะรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีว่าอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องรา
บ่ายวันนึงของหน้าร้อนที่คู่แต่งงานใหม่พากันไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน มองดูสวนผลไม้หลากชนิดและยอดเขาที่เห็นไกลๆ กลิ่นหอมจากดอกไม้รอบบริเวณลอยมากับลมเย็นๆจากธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์สว่างจ้าจนแสบตาแบบนี้ได้ไม่น้อย ศศินาเอนตัวลงนอนบนตักของสามีพลางหลับตาพริ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อคิราห์ทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองภรรยาคนสวยแล้วลูบผมอีกคนแผ่วเบา ศศินาคว้าเอามือหนาไปกุมไว้แนบแก้มก่อนจะถามเรื่องที่เคยสงสัยมานานตั้งแต่ที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ถึงจะเคยคุยกันไปแล้วบ้างแต่ด้วยตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมายจนไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก “แสงคะ” “ครับ” “ยังจำตอนที่คุณกลับไปครั้งสุดท้ายได้มั้ย” “ได้ครับ ทำไมเหรอ” “ตอนนั้นคุณบอกว่าไปเจอคุณนักเขียนที่เขียนหนังสือเรื่องนั้นมาใช่มั้ยคะ” “ครับ คนที่คุณตานักปราชญ์เคยบอก แต่มันเหมือนความฝันมากกว่าถึงตอนที่คุยกันจะเป็นจริงก็เถอะ” อคิราห์บอกยิ้มๆ พอนึกถึงภาพตอนนั้นก็รู้สึกเลือนลางขึ้นมาแม้จะจำได้ทุกอย่างแล้วก็ตาม ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ หากไม่มีเสื้อผ้ากับของที่มาจากโลกนู้นอยู่
“อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง
“อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง
และตลอดทุกการกระทำนั้น อคิราห์ไม่ได้ละปากออกไปจากเธอแม้แต่นิดเดียว จนตอนนี้ปากอิ่มเริ่มเจ่อบวมเพราะถูกดูดดึงมานาน พอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ศศินาก็หายใจหอบและต้องแหงนเงยหน้าครางแผ่วอีกครั้ง เมื่ออคิราห์ก้มลงไปดูดกลืนหน้าอกของเธอแทน“อึก อื้อ!”ร่างบางแอ่นอกเข้าหาอย่างซ่านเสียว สองมือจิกขยุ้มที่ผมหนาของอคิราห์อย่างหาที่ระบาย ริมฝีปากอุ่นร้อนที่ขบเม้มดูดดึงยอดอกเธออยู่ทำให้ศศินาไม่อาจต่อต้านความเร่าร้อนของอคิราห์ได้เลย ลิ้นสากที่ลากไล้ละเลงลงไปถี่รัวจนยอดอกชูชันขึ้นมา และถูกดูดกลืนเข้าปากคนตัวโตอย่างมูมมามครั้งแล้วครั้งเล่าจนร่างบางอ่อนระทวย“อา ที่รักครับ ขอใส่เลยนะผมไม่ไหวแล้ว”อคิราห์เงยหน้าถามเสียงพร่า ดวงตาคู่คมเป็นประกายล้ำลึกราวกับจะกลืนกินกันด้วยสายตาจนศศินาใจสั่น ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องถามกันสักนิด แต่ก็ยังจะทำเพราะรู้ว่าเธอจะต้องเขินมากแบบนี้ คนบ้า“อื้อ…”ศศินางึมงำตอบในลำคอพลางซบลงที่ไหล่กว้างด้วยใบหน้าแดงก่ำ ส่วนแข็งขืนที่กำลังทิ่มแทงอยู่ตรงบั้นท้ายเธอยิ่งทำให้ไม่กล้าสบตากับอีกคนยิ่งกว่าเดิมทั้งที่แต่งงานกันมาครบปีแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน แต่อคิราห์ก็ยังทำให้เธอ
“แสง อยู่ไหนคะ” ศศินาเรียกหาคนที่ควรอยู่ในบ้านแต่เดินหาทุกห้องก็ยังไม่เจอ วันนี้เธอออกไปในเมืองตั้งแต่เช้าเพราะมีธุระ ส่วนอคิราห์นั้นติดงานที่ร้านเลยไม่ได้ไปด้วย และวันนี้อคิราห์ก็อาสาจะทำมื้อเย็นเองเพราะเป็นวันครบรอบแต่งงานปีแรกของเรา พอเสร็จธุระศศินาเลยรีบกลับมาเพราะไม่อยากให้อีกคนรอนาน ร่างบางเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเมื่อหาทั่วชั้นล่างแล้วไม่เจอ ได้แต่นึกในใจว่าอาจจะเหนื่อยจนเผลอหลับไปรึเปล่า เลยตรงไปที่ห้องนอนเป็นอันดับแรก พอเปิดประตูเข้าไปไฟที่ติดอยู่ทั้งบ้านก็ดับลง และเพราะตอนนี้มืดแล้วศศินาเลยชะงักเท้าด้วยความตกใจ ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นแสงสว่างจากเทียนที่จุดไว้หลายที่ในห้อง มันถูกตั้งไว้คู่กับดอกไม้ช่อโตในแจกันทรงสูงและส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้อง ตั้งแต่ที่ข้างประตู หัวเตียง และริมหน้าต่าง ส่งให้บรรยากาศดูสวยงามและโรแมนติกจนต้องก้าวเดินช้าลงเพื่อเข้าไปมองใกล้ๆ ศศินาก้มลงสูดกลิ่นหอมของดอกไม้หลากชนิดในแจกัน หลักๆคือกุหลาบสีชมพูอ่อนและสีขาวที่เธอชอบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทั้งหมดนี่คือฝีมือของอคิราห์ ใบหน้าสวยยิ้มออกมากับความน่ารักที่ถูกจัดเตรียมไว้รอ ก่อนจะสะดุ้งตกใจอีกครั้งเม