LOGIN“เฮ้ย...เจมส์ มึงขึ้นไปก่อนเลยปิดประตูล็อกให้ด้วย”หันไปสั่งสมุนคู่ใจ เจมส์รู้หน้าที่ดีจึงคำนับนิดหนึ่งแล้วดึงประตูปิดล็อกให้อย่างเรียบร้อย สเตฟานวางร่างบางของวีรตาลงบนโซฟา ร่างสูงคุกเข่าบนพื้นดึงรองเท้าหล่อนออก ใช้มือลูบคลำเท้าของหล่อนไปมาเพื่อสำรวจ“ไม่เจ็บแน่นะ” เขาเงยหน้าถามเพื่อความแน่ใจ“แน่สิคะ...ทำไมกลับเร็ววันนี้”วีรตาถามอีกครั้ง สเตฟานลุกขึ้นนั่งแล้วดึงหล่อนมากอดและหอมแก้มฟอดใหญ่“ก็งานเสร็จเร็ว คิดถึงเธอ...วันนี้หมอโทรมาบอกว่าขอฉี่เธอไปตรวจหน่อย”เขาเริ่มเกริ่นทันทีกับสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่ในใจ“เอาไปทำไมคะ”“เอ่อ...ก็เป็นขั้นตอนอะไรของมันนั่นแหละฉันจำไม่ได้แล้ว แต่เห็นว่าอยากเช็กว่าเธอมีอาการแพ้ยาที่ฉีดหรือเปล่า”เสียงห้าวกล่าวคล่องแคล่ว วีรตาพลอยคิดตามเขาไปด้วย“อืม...ระยะสองวันนี้ไวน์รู้สึกคลื่นไส้ยังไงไม่รู้ ผ่านห้องอาหารแล้วอยากอ้วก”คิดทบทวนอาการของตัวเองได้จึงเอ่ยเล่าบ้าง สเตฟานได้ยินก็ยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว... แน่แล้วโว้ย... ไอ้หนูอีหนูมาแน่แล้ว เยส!“นั่นไง อย่างนี้ต้องรีบฉี่เลย ฉันจะรีบส่งไปให้ไอ้หมอมัน เผื่อแพ้ยาจะได้รีบแก้ไข ฉันกลัวเธอเป็นอะไรไป”วีรตามองดูคนตัวโตท
“แซมก็จะพาสาวๆ มาด้วยนะคะ เรามาฉลองคริสต์มาสด้วยกันที่นี่ไม่ดีหรือค่ะคุณแม่ ไวน์อยากแนะนำให้คุณแม่รู้จักกับแม่ของไวน์ด้วยค่ะ”วีรตากล่าวต่อไป ได้ยินเสียงเหมือนถอนหายใจแผ่วเบาดังเข้ามาในโทรศัพท์“เอาสิงั้น...ทุกปีเจ้าสองหน่อนั่นต้องมาหาแม่ที่นี่ ปีนี้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างให้แม่เป็นฝ่ายไปหา จะได้ไม่เอาเปรียบลูกๆ จนเกินไป” เสียงนุ่มนวลเอ่ยตอบมาในที่สุด“ไวน์ดีใจจังค่ะ งั้นเดี๋ยวไวน์จะเตรียมห้องไว้ให้คุณแม่นะคะ คุณแม่จะให้ไวน์บอกฟานหรือคุณแม่จะคุยกับเขาเองคะ...ค่ะแล้วไวน์จะบอกให้ค่ะ”วีรตาส่งเสียงดีใจไปตามสาย มิคาเอลชะงักหันกลับมามอง ใบหน้าหม่นดูเหมือนจะสว่างวาบขึ้นมา วีรตาแกล้งมองไม่เห็น คุยต่ออีกสองสามคำจึงวางสาย“เธอดูจะสนิทกับแม่ตาฟานมากนะ”มิคาเอลกล่าวหลังจากคุยธุระเรื่องงานกับวีรตาเสร็จ หล่อนรายงานเขาถึงความคืบหน้าในเคสของแมรี่“ดิฉันรักและนับถือท่านเหมือนแม่คนที่สองค่ะ”น้ำเสียงสุภาพเอ่ยตอบ มิคาเอลมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดวงตาดำขลับของหล่อนคมกล้ามองจ้องสบกับเขาเยี่ยงคนที่จริงใจ“ตกลงว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”“เดี๋ยวดิฉันจะคอนเฟิร์มท่านอีกทีนะคะ”วีรตาตอบ มิคาเอลพยักหน้า ดูท่าทางจะอ่อนลงไปนิด
วีรตาได้รับข้อมูลจากแวนดี้เพิ่มมากขึ้น เวลาบ่ายสี่โมงหญิงสาวกำลังจะเดินไปยังห้องทำงานของเชส หากได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามิคาเอลต้องการพบ วีรตาคิดว่าบิดาของสเตฟานคงต้องการทราบความคืบหน้าของเคสที่หล่อนกำลังสืบอยู่มิคาเอลพักอยู่ห้องชุดสวีทส่วนตัว เขาเดินตรวจงานไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อเช้า เขามักทำงานในห้องนี้หากมาตรวจงานที่นี่ วีรตาเคาะประตูห้องได้ยินเสียงอนุญาตหญิงสาวจึงผลักประตูเข้าไปภายในร่างสูงใหญ่ภูมิฐานของบิดาสเตฟานกำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปมาอยู่ตรงข้างหน้าต่าง คิ้วหนาเข้มมีสีเงินแซมขมวดชนกัน เขาส่งสัญญาณให้วีรตานั่งรอตรงชุดรับแขก“งานเลี้ยงประจำปีสาขาของลูกทั้งที คุณไม่มาสักหน่อยเหรอควีน...”วีรตาได้ยินเสียงห้าวคล้ายลูกชายเอ่ยกับโทรศัพท์ เข้าใจว่ากำลังคุยกับแจ็คคิวลีนอยู่ ปกติเห็นคนสนิทเรียกมารดาของสเตฟานว่าแจ็คกี้ แต่มิคาเอลเรียกเธอว่า...ควีน... น้ำเสียงอ้อนวอนเท่าที่เจ้าพ่อผู้มีอำนาจพอจะทำได้เพื่อไม่ให้เสียฟอร์มจนเกินไป เพราะมิคาเอล ไม่อ้อนวอนผู้ใด...ไม่เคยเลยวีรตาพยายามจะไม่ฟัง แต่ก็ได้ยินทุกคำพูด หญิงสาวลอบมองใบหน้าคร้ามคมสันที่สเตฟานถอดแบบออกมาไม่ผิดเพี้ยนนั้น ดวงตาดุกร้าวที่มองหล่อนเ
“หัวเราะอะไร...นี่อยากจูบจริงๆ กลับไปเถอะจะจัดการเธอ”คนตัวโตทำเสียงขู่ วีรตานึกภาพเขาทำหน้ากรุ้มกริ่มแล้วต้องยิ้มกว้างกว่าเดิม“โอเคค่ะเจ้าพ่อมาเฟียจอมบงการ ไวน์จะวางสายแล้วนะ ต้องจัดการบัญชีพวกนี้ต่ออีกหน่อย”วีรตากล่าวตัดบทอีกครั้งเพราะต้องการทำงานต่อ ได้ยินเสียงคนตัวโตถอนใจดังมาตามสาย“...เมียไม่อยากคุยด้วยจะทำไงได้ ก็ต้องวางล่ะงั้น”เขาทำเสียงน้อยใจอย่างที่วีรตาต้องหัวเราะเสียงดังออกมาอีก โอย...จะบ้าตาย ไม่อยากเชื่อว่าสเตฟาน แม็คเคนซี่จะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ นึกภาพผู้ชายหน้าโหดที่ทำเสียงกระชากข่มขู่หล่อนเมื่อหลายเดือนก่อนไม่ออกเลยทีเดียว“คิดถึงฟานนะ...คืนนี้ให้หอมสองที” วีรตาทำเสียงกระซิบหวาน“ไม่หอมอย่างเดียวแต่ขอ จุด...จุด...จุด...หลายๆ ที...นะ นะ”เสียงเหมือนกระซิบกลัวใครได้ยิน น้ำเสียงกระตือรือร้นทำเอาวีรตานึกภาพออก คงมีเจมส์อยู่ด้วยในนั้นเลยทำเสียงเบาลงในตอนนี้“โอเคค่ะคนดีของไวน์...วางล่ะนะ” หล่อนทำเสียงตะล่อมเหมือนคุยกับเด็ก“บอกรักก่อนสิ” เขายังคงไม่ยอมอยู่นั่น“ไวน์รักฟาน”“เอาหวานกว่านั้น” คนตัวสูงยังไม่พอใจ วีรตาแกล้งทำเสียงถอนหายใจดังให้ได้ยิน“ฟานขา ไวน์รักฟานที่สุด พ
วันนั้นสเตฟานทำงานไม่รู้เรื่องเลย อันที่จริงไม่อยากเข้าออฟฟิศด้วยซ้ำ อยากจะหยุดอยู่กับวีรตาคิดถึงหล่อนทุกลมหายใจเข้าออก แต่ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สิ้นปี จึงมีงานยุ่งมาก ไหนจะเตรียมงานเลี้ยงประจำปีอีกกริ๊ง-กริ๊งเสียงโทรศัพท์ของวีรตาดังขึ้นเป็นรอบที่เก้าสิบเก้าแล้วตั้งแต่เช้ายันบ่าย หล่อนไม่ต้องดูหน้าจอก็รู้ว่าเป็นใคร“มีอะไรอีกคะฟาน...คุณทำงานบ้างหรือเปล่าน่ะฮึ ทำไมโทรอะไรขนาดนี้”เสียงใสบ่นอย่างไม่จริงจังให้คนที่เอาแต่โทรมาทั้งวัน“ตอนนี้ทำอะไรอยู่ นั่งหรือยืน ยกของหนักหรือเปล่า ห้ามยกของหนักเด็ดขาด ดื่มน้ำเยอะๆ”เอาเข้าไป เขาพูดถามและสั่งแบบนี้หลายครั้ง วีรตาต้องส่ายหน้าแต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนี้หล่อนบ่นให้เขาฟังเรื่องที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนหรืออย่างไร คงเป็นห่วงว่าหล่อนอาจจะแพ้ยาตัวที่คุณหมอฉีดให้กระมัง“กำลังยกกระถางต้นไม้ที่หน้าห้องค่ะว่าจะเอาเดินขึ้นบันไดไปเพนต์เฮาส์” หล่อนแกล้งกล่าว ได้ยินเขาโวยวายขึ้นทันที“...อย่าบ้านะ...หยุดเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เบนไปไหนให้ไปนั่งเฝ้าเธอน่ะ”สเตฟานตะโกนลั่น เพราะจำได้ว่ากระถางใส่ต้นไม้หน้าห้องหล่อนใบใหญ่ถึงสองคนยก และเขาก็ให้เบนเป
“โอว ไวน์...ร้อนมากเลย...อ่าส์...”หล่อนร้อนฉ่าภายในช่องธาร ใบหน้างามบิดเบ้ด้วยอารมณ์ร้อนแห่งไฟพิศวาส ร่างบางเด้งส่าย สเตฟานแทบคลั่งกับภาพเซ็กซี่นั้น ชายหนุ่มรีบจัดการอ้าปากดูดอมเกสรสวาทพร้อมกับเร่งชักนิ้วเข้าออกเพื่อส่งหล่อนไปเยือนสวรรค์ล่วงหน้าก่อนเสียงพลิ้วร้องครางไม่ขาดระยะ เมื่อเขาปาดตวัดลิ้นไปบนเกสรเสียวจนมาลู่ไปมาตามจังหวะลิ้น นิ้วรัวเข้าออกจนในที่สุดร่างของวีรตาก็กระตุกสั่นปล่อยน้ำหวานรสเลิศออกมาสู่ปากของเขาจนล้นหลามเกมรักพิศวาสอันเร่าร้อนดำเนินไปในห้องนั้นอยู่นาน สเตฟานจับร่างหญิงสาวเปลี่ยนสลับไปมาหลายท่า เขาจัดการขยับโยกใส่หล่อนอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่วีรตาก็เปิดร่างรับกายแกร่งอย่างสู้ยิบตาไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งต่างคนต่างสุขสมและเหนื่อยหอบนอนซุกซบกันอยู่บนโต๊ะสนุกเกอร์ตัวใหญ่“ฟาน” เสียงอ่อนเรียกขานเมื่อลมหายใจกลับคืนสู่ปกติ หล่อนนอนทาบทับไปบนอกของเขา“ว่าไงคนเก่ง” น้ำเสียงนุ่มอารมณ์ดีเอ่ยตอบลูบไล้มือไปบนแก้มสะโพกกลมกลึง“ช่วงนี้เมนไวน์ไม่มา ยาที่หมอให้คงกำลังทำงานอยู่ สงสัยมันจะมีผลข้างเคียงกับฮอร์โมนและอารมณ์น่ะ”หล่อนอ้อมแอ้มกล่าว รู้สึกกระดากอายที่เมื่อครู่นี้เหมือนเป็







