ในคืนนั้น ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด ทั้งครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็น และลุค ครอว์ฟอร์ดไม่ได้ร่วมมื้ออาหารนั้นด้วย อลิสัน แทนเนอร์หยิบชิ้นแตงกวาใส่ลงในชามของลานี่ จากนั้นก็หยิบใส่ลงในชามให้เรนนี่ “คุณย่าอยากให้สิ่งที่ดีกับพวกหลานนะ แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่หลานจะต้องหัดกินบ้าง หลานกำลังเติบโตขึ้น ดังนั้นพวกหลานคงไม่อยากจะตัวเล็กไปตลอดใช่ไหมจ๊ะ?” ทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะต่างก็กำลังรับประทานอาหาร บลองช์มองแตงกวาในชามแล้วตักเข้าปาก เขารับประทานเข้าไปอย่างว่าง่าย หลังจากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่คุณย่าของตอน “คุณย่า ทำไมถึงไม่ทานหัวหอมบ้างล่ะครับ?” มีจานหัวหอมผัดอยู่บนโต๊ะ บลองช์และน้องสาวของเขาต่างก็ชื่นชอบเช่นเดียวกับคุณปู่ทวด คุณลุงหลุยส์และคุณย่าซูซานเองก็ชอบหัวหอมเช่นกัน มีเพียงคุณย่าเท่านั้นที่ไม่ชอบหัวหอม เธอมักจะผลักจานหัวหอมผัดออกห่างจากเธอ คุณย่ามักจะพูดเสมอว่า กลิ่นของมันเหม็นจนทำให้เธอไม่อยากอาหาร ก่อนที่อลิสันจะได้พูด ซูซาน อาร์มสตรองก็กล่าวออกมาอย่างเย้ยหยันว่า “เพราะว่าคุณย่าหลานเป็นพวกเรื่องมากยังไงล่ะ” เมื่อผู้อาวุโสคอรว์ฟอร์ดได้ยินเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและกระแอมอ
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กชายยังคงไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำและรอให้พ่อของเขาออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จจากนั้นไม่นาน ลุคก็ออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว หน้าอกอันกระชับของเขาเปล่งประกายไปด้วยหยดน้ำที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกที่แสนจะเย้ายวน“คุณพ่อครับ ผมเชื่อว่าคุณบีเธอเองก็มีพ่อมีแม่ แล้วทำไมพ่อถึงต้องดูแลด้วย?” บลองช์ยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ลุคนั่งลงด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายในขณะที่เขากำลังเช็ดผมที่เปียกด้วยผ้าขนหนู เขาถามกลับว่า “ลูกอายุเท่าไหร่? แล้วเธออายุเท่าไหร่?"“อืม ผมอายุ 5 ขวบ...” บลานช์ตอบ “แต่ผมไม่รู้ว่าคุณบีอายุเท่าไหร่”ลุคมองดูลูกชายแล้วตอบอย่างจริงจังว่า “ลูกอายุ 5 ขวบและเธออายุ 24 ปี ทั้งสองคนอายุห่างกันตั้ง 19 ปี ลูกจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และลูกจะเป็นผู้ใหญ่เหมือนกับพ่อ เมื่อถึงตอนนั้น ลูกจะมีอาชีพและความฝันที่อยากจะไล่ตาม และพ่อก็คงจะมีอายุสัก 50 ได้และหลังจากไม่นาน พ่อก็จะแก่ชราเช่นเดียวกับคุณบีของลูก วันหนึ่งเราจะแก่เหมือนกับคุณปู่ทวดของลูก แต่กว่าจะถึงวันนั้นยังมีเวลาอีกมากมาย ผู้ชายมีไหล่ที่แข็งแรงกว่าผู้หญิงเมื่อต้องทนต่อเรื่องความเจ
เบียงก้าโทรหาฌองอย่างไรก็ตาม เธอได้รับข้อความแบบเดียวกันจากระบบ “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกไม่สบายใจเธอหวังว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นจากนั้น เธอก็โทรหานีน่านีน่ารับสายทันทีและถามว่า “มีอะไรเหรอ เพื่อนรัก?”เบียงก้าจึงอธิบายทุกอย่างให้เธอฟังจากนั้นนีน่าก็กล่าวว่า “ฉันเดาว่าอาจจะมีใครบางคนเรียกแม่ไปเล่นไพ่นกกระจอกก็ได้นะ? เธอคงจะไม่รู้ แต่ตอนเล่นไพ่นกกระจอก แม่ชอบเก็บโทรศัพท์เอาไว้ในกระเป๋า แม่ก็เลยอาจไม่ได้ยิน ส่วนพี่ชาย ก็คงกำลังจะยุ่งอยู่แหละ”เมื่อนีน่าพูดเช่นนั้น เบียงก้าจึงไม่คิดมากอีกเบียงก้าวางโทรศัพท์ลงและเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ มันช่วยให้เธอสดชื่นมากขึ้น ในขณะที่เธอกำลังเป่าผม เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟภายในห้องนั่งเล่นดังขึ้นฌองเป็นคนที่โทรเข้ามา"สวัสดีค่ะพี่" เบียงก้ารับสายทันทีฌองเงียบไปครู่หนึ่ง จนผ่านไปนาน ดูเหมือนว่าเขาจะกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้ก่อนที่เขาจะถามออกมาอย่างเย็นชาว่า “เบียงก้า เรย์น เธอมีผู้ชายซ่อนเอาไว้ลับหลังพี่กี่คน?”“อะไรนะ…พี่หมายความว่ายังไง? ฉันซ่อนผู้ชายเอาไว้
หญิงวัยกลางคนมองไปที่เบียงก้า ท่าทางของเธอไม่เปลี่ยนแปลงเลย เธอครุ่นคิดอยู่ภายในใจอย่างดูถูกเหยียดหยาม ‘อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเธอเป็นพวกมั่วไปทั่ว เธอช่างเลือดเย็นและไร้หัวใจ! พี่สาวของเธอถูกดูหมิ่นอยู่แท้ ๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเลย!”เดซี่รู้สึกผิดหวังจริง ๆ ในตอนนี้ ถ้าเธอรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เธอน่าจะดูถูกเรื่องของนางตัวแสบนั่นแทน!รถไฟใต้ดินเพิ่งจะเคลื่อนที่ผ่านสถานีอีสต์เกทไป เดซี่รู้สึกหมดความอดทน เธอจ้องมองไปที่เบียงก้าและพูดว่า “ทำไมเธอถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ สาวน้อย?"เบียงก้ามองไปที่เธอเธอเป็นคนใจร้ายอย่างไร?ในเวลาเดียวกัน เธอก็อยากรู้ว่า เดซี่ หญิงวัยกลางคนผู้นี้พูดจาไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไร?เดซี่จ้องมองไปที่เธอ “ตอนที่เราขึ้นรถไฟมา เธอพยายามที่จะแย่งที่นั่งกับฉันใช่ไหม? มองฉันสิ! ฉันอายุเกินห้าสิบแล้วนะ แต่ทำไมเธอถึงพยายามแย่งที่นั่งกับฉัน? อายุอานามก็ยังน้อยแต่กลับไม่มีปัญญาหาเงินซื้อรถยนต์เอง ก็เลยต้องมาขึ้นรถไฟและแย่งที่นั่งจากพวกเราผู้สูงวัยที่แทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ!“เฮ้อ ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกชายของฉันมีความสามารถมากพอ และก็ยังมีปัญญาซื้อรถยนต์ขับเองไ
ฌองหรี่ตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย เขากวาดตาดูเบียงก้าตั้งแต่หัวจรดเท้า “เมื่อตอนที่คุณอายุสิบหกสิบเจ็ด เนื้อตัวของเธอนุ่มนิ่มและน่ากอด แต่ในตอนนี้เนื้อตัวเธอราวกับมีหนาบแหลมปกคลุมเต็มไปหมด หนามแหลมพวกนั้นโผล่ขึ้นมาเพื่อป้องกันพร้อม ๆ กับตอนที่ธาตุแท้ของเธอปรากฏขึ้นมาอย่างชัดสินะ”เบียงก้าฟังคำดูถูกของฌอง เธอตระหนักถึงข้อกล่าวหาที่ไร้สาระทั้งหมดที่เขาเหวี่ยงใส่เธอเมื่อวานน้ำเสียงของเขาฟังดูแหลมคมตอนเวลาต้องการพูดจาถากถางคนอื่นมันทิ่มแทงเข้าไปภายในหัวใจของเบียงก้าหลายพันรูจนเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดในตอนนี้ เธอยอมจำนนทุกอย่างแล้ว“ใกล้จะถึงเวลาทำงานแล้ว” เบียงก้ากล่าวอย่างใจเย็นในขณะที่เธอเดินผ่านเขาไปอย่างไรก็ตาม ฌองคว้าข้อมือของเธอไว้แน่นและดึงเธอกลับอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาแดงก่ำในขณะที่เขาคร่ำครวญ “เรายังไม่ได้เคลียร์กันเรื่องนี้เลย แล้วเราจะไปทำงานได้ยังไง!?”ทันใดนั้น นีน่าก็รีบวิ่งเข้ามา “พี่ฌอง พี่กำลังทำอะไร? ปล่อยบีเดี๋ยวนี้!”เบียงก้าสวมใส่รองเท้าส้นสูงมาทำงาน แม้ว่าส้นรองเท้าของเธอจะไม่สูงมากนัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมั่นคง การฉุดยื้อของฌองทำให้ข้อเท้าซ้ายของเธ
เบียงก้ากลับไปยังแผนกออกแบบเธอทิ้งฌองเอาไว้ที่ด้านล่าง แต่เธอก็ยังได้เห็นใบหน้าของเขาที่แผนกของพวกเขาโชคดีที่ที่นั่งของพวกเขาห่างกันซู คาร์เตอร์มองดูเบียงก้าที่กำลังนั่งลง จากนั้นเธอก็มองดูตัวเองในกระจก เธอรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย “เบียงก้า เราทั้งคู่ต่างก็ออกไปทำงานข้างนอกหามรุ่งหามค่ำเหมือนกัน แต่ทำไมขอบตาฉันดำอย่างกับหมีแพนด้าแต่เธอกลับไม่เลยอ่ะ?”“เบียงก้า เธอใช้ครีมยี่ห้ออะไรลบรอยคล้ำใต้ดวงตาอ่ะ?” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเบียงก้าเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างประหม่าเล็กน้อย “ฉันไม่ได้ใช้อะไรเลย…”“ไม่เลยเหรอ?!” เพื่อนร่วมงานคนนั้นตกใจ “นางฟ้ามาเกิดรึเนี้ย? อดหลับอดนอนทั้งคืนโดยที่ตาไม่เป็นหมีแพนด้าได้ไงอ่ะ! เห้อ…เราควรโยนงานกะดึกให้เธอดีกว่าล่ะมั้ง…”ซูวางกระจกของเธอไว้ข้างตัว จากนั้นเธอก็แซวว่า “อย่ารังแกเบียงก้าสิ ฌอง แฟนของเธอก็อยู่ตรงนั้นคอยปกป้องเธออยู่นะ!”ทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉาเบียงก้าอีกครั้ง!หลังจากการแซวนั้น ซูก็ตื่นตัวมากพอที่จะสังเกตเห็นว่าเบียงก้าและฌองดูไม่ค่อยดีเมื่อเบียงก้ารู้สึกอ่อนล้า เธอจึงไปชงกาแฟมาดื่ม ซูเดินตามเธอเข้าไป เม
พวกเขามาถึงในเมืองแล้วเจสันเอ่ยถามชาร์ล็อตในขณะที่เขาจับพวงมาลัยไปด้วย “คุณชอว์ครับ ให้ผมไปส่งคุณที่โรงแรมหรือว่าคุณอยากจะไปเดินศูนย์การค้าดีครับ?”"ไม่เอาทั้งคู่นั่นแหละ ฉันชวนเพื่อนออกมาทานหารกลางวันแล้ว” ชาร์ล็อตกล่าวขณะที่เก็บลิปสติกเข้ากระเป๋าถือหลังจากแต่งหน้าเสร็จเจสันเข้าใจและถามว่า “ถ้าเช่นนั้น คุณจองร้านอาหารเอาไว้รึยังครับ? ถ้าคุณยังไม่ได้ทำการจองร้านไหนเอาไว้ ทางเราสามารถทำการจองให้กับคุณได้ทุกเมื่อนะครับ”หากเปรียบว่า ที คอร์ปอเรชั่น เป็นจักรวรรดิในโลกของธุรกิจ ลุคก็คงเป็นองค์ราชาแห่งจักรวรรดิและในฐานะผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์ เจสันก็คงจะเป็นนายกรัฐมนตรีเสียกระมั้ง เจสันมีหน้าที่เชื่อฟังนายท่านของเขาแต่เพียงผู้เดียวและคอยควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาที่เหลือทั้งหมดแน่นอนว่าชาร์ล็อตจะรู้สึกเย่อหยิ่งเมื่อผู้ชายที่มีตำแหน่งเช่นนั้นปฏิบัติต่อเธอด้วยความยำเกรง “อื้ม จองไว้แล้ว” ชาร์ล็อตบอกเขาว่าเธอจะไปรับประทานอาหารที่ไหนจากนั้น รถก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของเธอสิบนาทีต่อมา เจสันก็มาหยุดรถที่ทางเข้า “ถึงแล้วครับ คุณชอว์”"ขอบใจ!" ชาร์ล็อตคว้ากระเป๋าแล้วสะบัดผมสีน้ำตาลหยั
มาลีตกตะลึง “แต่…เธอเป็นน้องสาวของฉัน…”เจนนิเฟอร์อาบน้ำร้อนมาก่อนและก็เธอได้เห็นสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่ผู้หญิงทำต่อกันมานักต่อนักแล้ว ทันทีที่ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้น เธอก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังวางแผนอะไรชาร์ล็อตพึมพำกับมาลีอย่างเย็นชาว่า “หยุดปกป้องนางนั่นเถอะ! มันเป็นเหมือนเนื้องอกที่ควรกำจัดโดยเร็วที่สุด เธอกับแม่ก็พยายามฉุดกระชากมันขึ้นมาแล้ว คุณหญิงให้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศและใช้เงินมากมายไปกับเธอและเธอก็ให้มันมามากเกินพอแล้ว เป็นความผิดของมันเองที่ไม่รู้อะไรเลยนอกจากการยั่วยวนผู้ชายไม่เลือกหน้า!“ฉันบอกเลยนะ มันไม่มีค่าอะไรในสายตาฉันเลย และฉันจะต้องทำแบบนี้เพื่อปกป้องความรักของฉันเอง!” จากนั้น ชาร์ล็อตก็เดินกลับไปยังที่นั่งของเธอมาลีแสร้งทำเป็นขัดแย้งกับเธออยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งชาร์ล็อตขมวดคิ้วและเริ่มจะหมดความอดทน จึงทำให้มาลีตกลงที่จะทำตามแผนของเธอ …หลังจากที่มาลีออกจากห้องมา เธอก็เหลือบมองไปทางห้องน้ำเมื่อเธอแน่ใจว่าทางปลอดโปร่งแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปในมุมที่ลับตาคนและกดโทรออกเสียงการโทรดังอยู่นานก่อนที่จะมีใครบางคนรับสาย มาลีพูดอย่างรำคาญใจ “ทำไมนายถึงรับสายช้าขนาดนี