พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 8
บรื้นนน...
กรี๊ดดด….
จัสติน จัสติน
คาลอส คาลอส
เสียงคำรามของรถแข่งทั้งสองคันในสนามดังกังวาน พร้อมกับเสียงเชียร์ของผู้คนที่ลุ้นกันตาไม่กะพริบ สลับกันแซงและไล่ตามกันอย่างดุเดือด
ตู้มมม
"Shit" จัสตินสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่ออีกฝั่งเริ่มใช้วิธีสกปรกเล่นงานเขาแล้ว จัสตินประคองรถด้วยความชำนาญและกลับมาไล่ตามรถของคาลอส ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีรถของเขากลับมาจี้ท้ายของคู่แข่งเป็นที่เรียบร้อย สายตาคมกริบมองภาพตรงหน้าอย่างเรียบนิ่ง มือหนาจับพวงมาลัยรถไว้มั่น และเหยียบคันเร่งเต็มแรง
ตู้มมม!!!
เอี๊ยดดดดด
จัสตินตั้งใจชนท้ายรถของคาลอสอย่างจังและไม่มีท่าทีจะถอนคันเร่งทำให้รถของคาลอสลากยาวไปโดยที่รถของจัสตินเป็นคันที่ดันท้าย เสียงล้อเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดัง ก่อนที่มือหนาจะหักพวงมาลัยเบี่่ยงรถตัวเองออกไปอีกทางเพื่อขึ้นนำ
"หึ" เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบาๆเมื่อเป็นไปอย่างที่คิด แต่ก็เชื่อว่าคนอย่างคาลอสไม่จบแค่นี้
"มันก็ไม่สวยงามตลอดไปหรอก"คาลอสยกยิ้มมุมปากเมื่อรถของตัวเองถูกชนทำให้เสียหลัก ก่อนจะขับตามจัสตินไป "รอบสุดท้ายมันอาจเป็นชีวิตมึงก็ได้"
ดวงตากลมโตมองภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่ ในสนามแข่งรถทั้งสองคันไม่มีท่าทีจะยอมกันแม้แต่นิดเดียว ผลัดกันจี้ท้ายและขึ้นแซงสลับกันไปมาตลอดเวลา แต่เท่าที่ฉันดูรถแข่งหมายเลขเก้าจะขึ้นนำมากกว่า ซึ่งรถคันนั้นก็เป็นของจัสติน ทุกคนต่างจดจ้องมองภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ถ่ายทอดการแข่งขันของรถทั้งสองคัน ลุ้นกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น และแพทย์สนามอย่างพวกเราก็ต้องดูสถานการณ์ทุกฝีก้าวเหมือนกัน หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเราต้องพร้อมที่จะไปช่วยเหลือคนเจ็บ ดูจากสถานการณ์แล้วคงมีคนใดคนหนึ่งเจ็บแน่นอน
ตู้มมม
"อึก..." เสียงชนดังสนั่นหวั่นไหวทำเอาฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ภาพบนหน้าจอกำลังแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อรถของจัสตินถูกชนท้ายอย่างแรงทำให้รถของเขาเสียหลักพุ่งชนแท่งปูนขอบสนามอย่างแรง สภาพหน้ารถยับเยิน แต่ไม่น่าเชื่อว่ารถของจัสตินจะกลับฟื้นสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และกลับเข้ามาในสนามอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถทั้งสองคันชนกันเพราะดูเหมือนว่าจะไม่ใช่การแข่งขันปกติ สภาพรถทั้งสองคันยับเยินเกินกว่าจะซ่อมไหว
"ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนขับคนนั้นจะประคองรถได้เก่งขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกเราคงอกสั่นขวัญหายไปหมดแล้ว แถมรถคงเละกว่านี้แน่" อานนท์ที่ดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆนับดาวพูดพลางจดจ่อไปที่หน้าจอขนาดใหญ่
ตู้มมม เอี๊ยดดด ตู้มมม
รถทั้งสองคันชนกันอย่างแรงจนทั้งคู่เสียหลักไปคนละทิศคนละทาง รถของจัสตินโดนบีบอัดเข้าแท่งแบริเออร์จนพลิกหงายท้อง รถของคาลอสปีนขึ้นแท่งแบริเออร์และพลิกคว่ำในเวลาต่อมา สภาพรถทั้งสองคันไม่สามารถแข่งต่อได้
"นายใหญ่!" วินตันพูดออกมาด้วยความตกใจ ทั้งๆที่พวกเราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกว่าคู่แข่งจะเล่นสกปรกแต่ก็อดห่วงเจ้านายหนุ่มไม่ได้ เป็นไปอย่างที่จัสตินคิดไว้ทำให้พวกเรารู้วิธีตลบหลังกลับและเซฟความปลอดภัยของนายให้ได้มากที่สุด
“จัสติน” อยู่ๆฉันก็พูดชื่อเขาออกมาเบาๆอีกครั้งด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"อ๊ายยยย" เสียงของผู้คนร้องออกมาด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้การแข่งขันต้องหยุดชะงักไปทันที ผู้คนแตกตื่นฮือฮากับสิ่งที่เกิดขึ้น
"แพทย์เข้าสนามด่วนครับ"
"อ่าาา...ฝากไว้ก่อนเถอะมึง" คาลอสร้องออกมาเมื่อหัวของเขาบีบอัดกับตัวรถจนขยับไม่ได้ดีที่ว่าใส่หมวกกันน็อคสำหรับนักแข่งโดยเฉพาะ แต่ก็ยังมีความแค้นระหว่างคู่แข่งอยู่ไม่น้อย ไม่คิดว่าคนอย่างจัสตินจะทันเกมเขาเหมือนกัน
"ในเมื่อมึงอยากให้กูตาย กูก็อยากให้มึงตายเหมือนกัน" จัสตินพูดราวกับไม่เจ็บปวดทั้งที่รถของตัวเองก็ไม่ต่างจากคู่แข่ง ร่างกายกำยำไม่สามารถขยับไปทางไหนได้เลย สายตาคมกริบมองลอดกระจกออกไปในท่ากลับหัวเพราะรถของเขาหงายท้องขึ้นฟ้า เป็นภาพอย่างที่เขาตั้งใจให้เป็นตั้งแต่แรก รถของคาลอสพลิกคว่ำอยู่ตรงหน้าพอดี อุปกรณ์ปลอดภัยภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้เขาไม่เจ็บมาก
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว หน่วยกู้ภัยในสนามรีบจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องรีบพาตัวของผู้แข่งขันทั้งสองคนออกมาจากเศษซากของรถโดยเร็วที่สุด
"นายใหญ่โอเคไหมครับ" วินตันถามเจ้านายหนุ่มในตอนที่ช่วยกันงัดรถเพื่อเอาตัวเจ้านายหนุ่มออกมา
"อืม"
"หมอมาตรงนี้หน่อย มีคนเจ็บ" เสียงของวินตันประกาศกร้าวเรียกทีมแพทย์ให้เข้ามาดูเจ้านาย ถึงเจ้านายหนุ่มจะไม่แสดงอาการเจ็บปวดแต่เชื่อว่าต้องมีช้ำภายในแน่นอนเพราะแรงกระแทกรุนแรงขนาดนั้น
"เอาคนเจ็บนอนบนเปลก่อนนะคะ และช่วยถอดหมวกกันน็อกให้คนเจ็บด้วยค่ะ" ฉันพูดด้วยท่าทางร้อนรนเมื่อวิ่งมาตามเสียงขอความช่วยเหลือ มองดูอาการเบื้องต้นและเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกจากหัวคิ้วหนึ่งจุด ต่อให้รู้ว่าเป็นคนที่ฉันไม่อยากเจอแต่สถานการณ์แบบนี้มันไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เปลที่ชายหนุ่มนอนอยู่ถูกหามเข้าในที่ร่มอย่างรวดเร็ว ส่วนพี่นนท์และพยาบาลคนอื่นกำลังช่วยเหลือกับคู่แข่งขันอีกคนและดูท่าจะเจ็บหนักกว่าทำให้ทุกคนมุ่งเป้าไปที่ผู้ชายคนนั้นแทน เลยทำให้มีแค่ฉันคนเดียวที่ดูแลเขา
"หมอขอทำแผลให้เบื้องต้นก่อนนะคะ ตรงหัวคิ้วแตกหนึ่งที่ ถ้าเจ็บตรงไหนอีกบอกหมอนะคะ" ฉันหยิบอุปกรณ์ทำแผลและพูดกับคนที่นอนอยู่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาของเราประสานกันอยู่หลายครั้งตั้งแต่พาเขาเข้ามานอนตรงนี้ แต่เลือกที่จะเมินเฉยและทำเหมือนคนไม่รู้จักนั่นคือสิ่งที่ฉันอยากให้เขาทำแบบนี้เหมือนกัน
"ไม่ต้อง"
เพล้ง~
"อ๊ะ" ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกปัดมือออกอย่างแรงทำให้อุปกรณ์ในมือกระเด็นร่วงหล่นพื้น
พรึบ
"อึก" ร่างสูงกัดฟันแน่นกับความเจ็บปวด เมื่อดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแต่เหมือนช่วงขาของเขาจะเจ็บปวดจากด้านในกล้ามเนื้อ ด้วยชุดนักแข่งค่อนข้างมิดชิดทำให้ไม่มีใครรู้ว่าขาของเขาเป็นอะไร
"ช่วยนอนลงเหมือนเดิมด้วยค่ะ หมอจะทำแผลให้" ฉันสังเกตเห็นสีหน้าของเขาถึงแม้จะแสดงออกในชั่วพริบตาแต่คนเป็นหมอต้องคอยสังเกตคนไข้อยู่เสมอ และเหมือนที่ขาของเขาจะมีปัญหา
"เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน" จัสตินตวัดสายตาคมกริบมองหญิงสาวด้วยความไม่พอใจ
"หมอก็ไม่ได้อยากสั่งคุณหรอกค่ะ แต่หมอกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง ช่วยให้ความร่วมมือกับหมอด้วยนะคะ"
"คำพูดห่างเหินจังนะ" จัสตินกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินเธอใช้คำพูดที่ดูเป็นทางการ "ที่ห่างเหินเพราะกลัวผัวใหม่รู้เหรอว่าเคยนอนแหกขาให้ฉันเอามาแล้ว"
ฉันเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของเขาและหยิบอุปกรณ์อันใหม่ขึ้นมาเพื่อจะล้างรอยเลือดที่หัวคิ้วให้เขา ฉันอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้จบสักทีไม่เคยอยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นที่เขาทำให้ฉันเจ็บปวด มันยากที่จะลืมแต่เลือกที่จะก้าวผ่าน
เพล้ง
“นี่คุณ!”
จัสตินปัดมือของหมอสาวออกอีกครั้งทำให้อุปกรณ์ล่วงหล่นพื้นจนเกิดเสียงดัง และคราวนี้ผู้คนที่อยู่แถวนั้นต่างมองมาที่จัสตินและนับดาวเป็นตาเดียวกัน
"ให้พี่ช่วยไหมนับ" อานนท์ที่เห็นทั้งสองคนจ้องตากันเขม็งก็รีบเข้ามาหาแฟนสาวด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะคนเจ็บคนนี้เขาไม่ต้องการให้เราช่วยเหลือ พี่นนท์ไปดูคนเจ็บคนนั้นเถอะค่ะ"
"คนนั้นพี่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งขึ้นรถพยาบาลไปแล้วล่ะ"
"หึ..." จัสตินหัวเราะในลำคอออกมากับการกระทำของทั้งสองคน "ฉันคงต้องร้องเรียนโรงพยาบาลซะแล้วสิ เกิดอุบัติเหตุขนาดนี้แต่หมอมัวแต่ยืนพลอดรักกันต่อหน้าต่อตาคนเจ็บ"
ฉันหันมองหน้าจัสตินอย่างเหลืออด ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ต้องการให้ฉันปฐมพยาบาลเอง
"ฉันจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและต้องเป็นเธอคนเดียวที่นั่งไปกับฉันในรถพยาบาล" จัสตินชี้หน้าหมอสาวอย่างคาดโทษ ความหงุดหงิดยิ่งทวีคูณอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทางเราจะมีพยาบาลนั่งไปกับคนไข้ครับ หมอนับดาวจะตามไปด้วยรถอีกคัน ส่วนถ้าเมื่อถึงโรงพยาบาลคนไข้อยากให้หมอนับดาวดูแลเป็นเคสพิเศษสามารถแจ้งได้ครับ ทางโรงพยาบาลยินดีดูแลคนไข้เป็นอย่างดี"
"ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้นั่งไปเท่านั้น"จัสตินตวัดสายตาแข็งกร้าวไปที่หมอหนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้างเธออย่างไม่พอใจและต้องการเอาชนะ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่นนท์ เดี๋ยวนับนั่งไปในรถพยาบาลกับคนเจ็บเอง พี่นนท์ขับตามมาก็ได้ค่ะ" ฉันรีบห้ามพี่นนท์เพราะเห็นว่าเขากำลังจะเถียงจัสติน ฉันไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้
วินตันมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆเจ้านายหนุ่มไม่แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้มีความลึกซึ้งกับเจ้านายในอดีตและรู้ดีว่าเป็นการเลิกราที่เจ้านายของเขาทำให้เธอเจ็บช้ำ แต่ที่น่าแปลกใจคือเจ้านายของเขาไม่ชอบการรักษาที่โรงพยาบาล ถึงก่อนหน้านี้จะไปโรงพยาบาลบ่อยแต่เป็นเพราะเพื่อนสาวที่ชื่ออลินดาและไปหาหลานชายเท่านั้น แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือแม้กระทั่งถูกยิง พวกเขาจะให้แพทย์ประจำตัวมารักษาที่คฤหาสน์เพราะอุปกรณ์การรแพทย์ครบครันพอๆกับโรงพยาบาลใหญ่ ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเจ้านายหนุ่มต้องการอะไรจากเธออีก เขายังไม่แน่ใจว่าที่เจ้านายแสดงอาการแบบนี้คือความหวง เพราะทั้งคู่เลิกกันไปนานแล้ว แถมเจ้านายของเขาก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ทิ้งไปแม้แต่คนเดียว
ตอนพิเศษ 4 สองอาทิตย์ต่อมา...เป็นวันแรกที่ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อหลังจากอยู่โรงพยาบาลเกือบสองอาทิตย์ ฉันไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาลนานขนาดนี้มาก่อนแม้จะเคยคลอดอันดามาแล้วเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้สามีเป็นคนบังคับให้อยู่ยาวจนมั่นใจเพราะอยากให้ฉันกับลูกอยู่ใกล้หมอ ส่วนอันดาต้องเรียนหนังสือระหว่างที่ฉันพักฟื้นร่างกายก็ต้องกลับมาอยู่บ้านคุณยาย อันดากลายเป็นพี่สาวที่พูดรู้เรื่องแม้จะได้เจอน้องเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น ไม่มีร้องงอแง ไม่มีอ้อน และที่สำคัญไม่มีท่าทีอิจฉาน้องที่ได้อยู่กับฉันและจัสติน และวันนี้เจ้าพี่คนแสบก็ยิ้มหน้าบานที่จะได้อยู่กับน้องจริงจังสักทีตลอดเวลาที่ฉันอยู่โรงพยาบาลก็ได้จัสตินคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทำทุกอย่างให้ลูกด้วยตัวเอง จัสตินเรียนรู้จากฉันและเรียนรู้จากพยาบาลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ สระผม ชงนม แม้กระทั่งเช็ดอึให้ลูก จัสตินก็ทำได้โดยไม่อิดออดและไม่มีความรังเกียจแม้แต่น้อย เวลามองสามีทำอะไรเพื่อตัวเองและลูกมันทำให้ฉันภูมิใจที่ได้เขาเป็นสามี เหมือนตอนนี้ที่ได้เห็นเขากำลังอุ้มอันนาเข้าอกและร้องเพลงกล่อมเบาๆ ใครจะคิดว่าแบดบอยจะฮัมเพลงกล่อมให้ลูกหลับได
ตอนพิเศษ 3 เข้าสู่เดือนที่เก้า ห้องทำคลอด"ไหวไหมคะ" นับดาวถามจัสตินด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของเขาซีดเผือดตั้งแต่เข้ามาในห้องคลอด และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ลูกสาวตัวน้อยจะได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก สำหรับฉันเป็นครั้งที่สองกับการคลอดลูกก็ยังคงมีความตื่นเต้นแต่ก็รู้วิธีการต่างๆทั้งหมดทำให้เบาใจไปเยอะ แต่คนที่น่าเป็นห่วงก็หนีไม่พ้นว่าที่พ่อลูกสองทั้งตื่นเต้นและดีใจตั้งแต่ฉันเจ็บท้อง จนถึงตอนนี้จัสตินเข้ามาในห้องคลอดกับฉันเขาก็ยังวิตกกังวลอย่างหนัก ใบหน้าคมคายมีแต่ความตึงเครียดจนเหงื่อไหลตามกรอบหน้า กลับกลายเป็นฉันเองที่ต้องคอยถามเขาตลอดมือหนาประสานมือคนตัวเล็กไว้แน่น หัวใจแกร่งเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งตอนเธอเข้ามานอนในห้องคลอดเขายิ่งสติแตกแต่พยายามคุมตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ เขานับถือใจนับดาวที่คลอดอันดาอย่างโดดเดี่ยวในตอนนั้นจริงๆ พอเห็นแบบนี้แล้วเขาต้องดูแลเธอและลูกให้เป็นอย่างดีและรักเธอกับลูกมากกว่าชีวิตตัวเอง คุณค่าของความเป็นแม่มันยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน"หมอจะทำการกรีดปากช่องคลอดแล้วนะครับ นับหายใจเข้าลึกๆนะ พี่จะ
ตอนพิเศษ 2"ดูสิคะ ตัวแสบคนโตมารอของฝากจากที่พ่อกับแม่หนีเที่ยวแล้ว" แค่เพียงรถตู้คันหรูขับเข้ามาในคฤหาสน์ก็เห็นสาวน้อยยืนยิ้มร่าอยู่หน้าประตูบ้าน ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าพ่อกับแม่จะกลับมาแล้ว และที่สำคัญคงรู้ว่าจะได้ของฝากแน่นอนไม่ชุดก็กระเป๋าแบรนด์เนมตามสไตล์ที่พ่อคนโปรดจะจัดสรรให้ลูกได้ริมฝีปากหนาระบายยิ้มกว้างมองตามที่นับดาวบอกและคอยประคองนับดาวลงจากรถ"อันดาช่วยถือของค่ะ""ช่วยแบบหวังรางวัลไหมคะ" ฉันอดที่จะแซวอันดาไม่ได้เพราะความเจ้าเล่ห์มีเต็มเปี่ยม"ไม่หวังค่ะเพราะรู้ว่าต้องได้อยู่แล้ว""ตัวแค่นี้แก่นใหญ่แล้วนะเรา""พ่อจะลืมของรางวัลคนสวยได้ยังไงกันล่ะ ทั้งหมดนี่ของอันดาครับ ว่าแต่ที่พ่อเคยสอนไว้ว่าถ้าของใครคนนั้นต้องถือเข้าไปเองจำได้ไหมนะ" จัสตินทำลอยหน้าลอยตาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำลูก แต่เขารู้ว่ายังไงอันดาต้องถือของไปเองอยู่แล้ว"พี่ๆไม่ต้องช่วยค่ะ เดี๋ยวอันดาถือของอันดาเข้าเอง พี่ๆยกของน้องกับของแม่นับดาวเข้าไปได้เลยค่ะ ส่วนของพ่อจัสตินไม่ต้องค่ะ เพราะพ่อจัสตินบอกของใครคนนั้นต้องถือเอง แต่แม่นับดาวท้องน้องอยู่เลยยกไม่ไหวไม่เป็นไรค่ะ แม่นับดาวไม่ต้องถือ" อันดาพูดเจื้อยแจ้วและส่
ตอนพิเศษ 1 ห้าเดือนต่อมา...หน้าท้องน้อยๆของนับดาวยื่นออกมาอย่างชัดเจน ผิวพรรณเปล่งปลั่งกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ใครๆก็ชมว่าสวยกันทั้งนั้น ออร่าเปล่งประกายจนทุกคนเหลียวมองไปตามๆกัน แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ ใบหน้าบูดบึ้งตลอดเวลาเมื่อพานับดาวออกมาข้างนอก ไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรือช็อปปิ้ง ไม่เคยมีรอยยิ้มบนใบหน้าคมคายมีแต่จ้องจะหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว"มองอะไรกันนักหนา คนนี้เมียกู มองก็ไม่ได้ ยิ้มก็ไม่ได้ ห้ามแตะต้อง" จัสตินพูดกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มองเมียสุดที่รัก อีกทั้งยังกล้ายิ้มให้นับดาวต่อหน้าต่อตาเขา"ขอโทษครับ ผมแค่เคยรักษาแผลกับคุณหมอคนสวย" วัยรุ่นหนุ่มรีบก้มหัวให้และวิ่งแจ้นไปเลย"พี่จัสตินคะ อีกแล้วนะ เด็กคนนั้นนับเคยทำแผลให้ตอนเขารถล้มค่ะ น้องเขาแค่ทักทายหมอคนที่ทำให้แผลเขาหายเฉยๆ" ฉันถึงกับกลอกตามองบนเมื่อได้เห็นพฤติกรรมโผงผางของสามีราวกับจงอางหวงไข่ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จัสตินจะเป็นแบบนี้เสมอเพียงเพราะฉันออกมาข้างนอก เขาจะตามติดเป็นปลิงและคอยหาเรื่องคนที่มองฉันทุกคน จนบางครั้งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนต้องให้ลูกน้องมาเคลียร์ถ้าจัสตินเคลียร์เอ
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 61ช่วงเช้าของวันใหม่ ดวงตากลมโตมองที่ตรวจครรภ์ด้วยแววตาสั่นระริก มือบางสั่นเทากับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ริมฝีปากบางระบายยิ้มกว้างพร้อมกับหยดน้ำตาที่หยดลงบนที่ตรวจครรภ์พอดี"มาอยู่กับแม่แล้วนะตัวน้อย มาเป็นน้องของพี่อันดานะคะ แข็งแรงนะลูก" มือบางลูบหน้าท้องตัวเองพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ต่อให้ท้องนี้เป็นท้องที่สองแต่ก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของชาร์ล ทั้งฉันและจัสตินก็นอนไม่ค่อยหลับได้แต่มองนาฬิกาเมื่อไหร่ฟ้าจะสว่างเพราะการตรวจตอนเช้าจะแม่นยำที่สุดทำให้เราอดใจรอ โดยเฉพาะจัสตินที่แทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน แต่มันไม่แปลกเลยเพราะสำหรับจัสตินความรู้สึกนี้คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสดวงตากลมโตมองกระจกเงาในห้องน้ำพร้อมกับระบายยิ้มกว้างราวกับคิดอะไรแผลงๆก่อนจะเปิดประตูออกไปแกร่ก"เป็นไงบ้างนับ ลูกมาไหม" จัสตินถามทันทีเมื่อเมียสุดที่รักเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขายืนลุ้นอยู่หน้าห้องจนใจจะขาด ร่างกายทุรนทุรายอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืน แต่แล้วทุกอย่างก็เงียบลงเมื่อเห็นหน้านับดาวเศร้าและนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย หัวใจแกร่งกระตุกวูบ สีหน้าตื่นเต
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 60หลายเดือนต่อมา"มีอาการอะไรบ้างไหม" น้ำเสียงเข้มถามเมียสุดที่รักอย่างใจจดใจจ่อและแสดงสีหน้าลุ้นกับคำตอบเมียออกมาอย่างเปิดเผย"ไม่มีค่ะ ปกติทุกอย่าง" ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มก่อนจะนั่งลงบนตักแกร่ง ทำให้ท่อนแขนแกร่งของจัสตินโอบรั้งตัวฉันไว้อัตโนมัติหลังจากปฏิบัติการทำลูกในวันนั้นจนมาถึงตอนนี้เขายังคงถามถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวฉันอยู่ทุกวัน แต่พอได้คำตอบที่ไม่ถูกใจใบหน้าคมคายก็จะหงอยลงทันตาเห็น ในครั้งนั้นหนึ่งอาทิตย์เต็มที่ฉันกับเขามีอะไรกันแทบทุกเวลาแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนฉันต้องให้กำลังใจจัสตินมาเรื่อยๆจนตอนนี้ผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่มีปฏิกิริยาของลูกน้อย อดที่จะสงสารว่าที่คุณพ่อลูกสองไม่ได้จริงๆต่อจากเหตุการณ์ที่เขาขอแต่งงานสุดเร่าร้อนในคืนนั้นไม่ถึงเดือนเราก็จัดงานแต่งงานเล็กๆแบบอบอุ่น มีอันดาร่วมในงานพร้อมกับเพื่อนสนิทของเราและแม่ของฉันที่เข้าร่วมพิธีสำคัญในวันนั้น ทางครอบครัวของจัสตินเขาขอไม่พูดถึง ฉันก็เข้าใจเมื่อถูกจี้ใจดำเรื่องครอบครัว จัสตินเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังเหมือนเขาได้ระบายความรู้สึกจริงๆออกมาและมันก็น่าหดหู่สำหรับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โตมาโดยไ