Masuk"ไอ้เฮงซวย..." ฉันทิ้งกล่องของที่หอบมาจากที่ทำงานเก่าพะรุงพะรังโยนทิ้งโคร่มบนพื้นไม่ไยดี ก่อนที่จะล้มตัวนอนบนเตียงกว้างด้วยความหมดอาลัยตายอยาก วันนี้ช่างเป็นวันที่เฮงซวยที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา นอกจากจะโดนนอกใจจากแฟนที่คบกันมาถึงหนึ่งปีจนน่าสมเพชแล้ว ยังโดนแฟนใหม่ของมันที่เป็นถึงหัวหน้างานของฉันไล่ตะเพิดออกมาอย่างกับหมูกับหมา
เหอะ...ทิ้งฉันแล้วไปเอาหัวหน้าที่มีตำแหน่งสูงกว่า ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเราสองคนกำลังคบกัน เลวทั้งหญิงและชาย สมควรแล้วที่จะได้สมสู่กัน ถึงจะไม่ไล่ออก ฉันก็ตั้งใจจะออกจากบริษัทที่มีหัวงานไร้ศีลธรรมอยู่แล้ว ไม่อยากจะอยู่นักกับบริษัทที่เต็มไปด้วยเส้นสายที่พันกันมั่วซั่ว เลียแข้งเลียขาดีก็ได้ตำแหน่งมาง่าย ๆ ในขณะที่ฉันทำงานหนักแทบตาย สองปีที่อยู่มาไม่แม้แต่จะเลื่อนตำแหน่งให้ฉันสักขั้น เพิ่มเงินเดือนสักนิดก็ไม่มี
ครืดดดดดด...
ฉันชันตัวมองเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา ก่อนจะเห็นเป็นเพื่อนรักอย่างยัยทอฝันที่โทรเข้าจึงกดรับสายทันที
(เป็นเรื่องจริงเหรอแก ฉันได้ยินว่าไอ้ภามมันคบกับพี่นิล แล้วพี่นิลก็ไล่แกออก)
"อือ" ฉันเค้นเสียงตอบได้แค่นั้น ป่านนี้ที่บริษัทก็คงจะนินทาฉันไปทั่ว หากไม่โดนไล่ตะเพิดออกมาก่อนฉันคงจะได้ประจานพวกมันแทนที่จะถูกโดนกุเรื่องมาใส่ร้ายกันแบบนี้
"ยัยแตมแย่งแฟนหัวหน้าจนโดนเขาไล่ออก" พาดหัวข่าวที่ฉันโดนมาวันนี้ พูดออกมาได้หน้าด้าน ๆ เป็นมันต่างหากที่แย่งไป มันแอบเอากันลับหลังฉันเป็นเดือน ๆ นี่มันผีเน่ากับโรงผุชัดๆ
(เลวมาก หญิงก็เลวชายก็ชั่ว เหมาะกันมาก) ทอฝันก่นด่าดังจนทะลุออกมานอกโทรศัพท์ เพื่อนรักของฉันก็ทำงานบริษัทนั้นรวมไปถึงไอ้ภามที่เป็นแฟนเก่าแสนจะหวยแตก เราเจอกันที่ทำงานโดยที่มันเป็นฝ่ายจีบฉันก่อนกระทั่งตกลงคบกันจริงจังในเวลาสามเดือนต่อมา ไม่รู้ว่าทนคบมาได้ยังไงถึงหนึ่งปีทั้งที่มันแสดงออกมาตลอดว่าต้องการแค่ร่างกายของฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธมันมาตลอดด้วยเหตุผลว่ายังไม่พร้อม สุดท้ายมันก็คงจะไปหาที่ระบายหาทางเอาน้ำกามของมันออก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันแอบนอกกายนอกใจ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ฉันจับได้ จับได้คาห้องหัวหน้าอย่างอีพี่นิลจนฉันโวยวายและโดนไล่ออกมาแบบนี้
(แกไม่ต้องเสียใจให้ผู้ชายแบบนั้นเลยนะ คนเห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเอง หวังไต่เต้าด้วยวิธีสกปรก)
"..." ฉันนั่งฟังทอฝันก็พลอยน้ำตาไหลรินจากหางตาหักห้ามไว้ไม่อยู่ ฉันไม่ได้เสียใจเลยที่ตัวเองได้สลัดตัวเห็บหมัดไม่มีอะไรดีออกจากชีวิตได้สำเร็จ แต่ฉันเจ็บใจที่มันทำให้ทุกอย่างในชีวิตของฉันพังทลายลงทั้งที่สร้างมากับมือ ทั้งหน้าที่การงานที่ฉันอดทนถึงสองปีเพื่อเลื่อนตำแหน่งความไว้ใจและเวลาแห่งความสุขที่หายไปตลอดหนึ่งปีผ่านมา
มันพังทลายหมดแล้ว…
(แตมแกฟังอยู่ไหม แตม...เฌอแตม) ฉันชะงัก…หลุดจากความคิดแล้วปาดน้ำตาออกลวก ๆ
"อือ ฟังอยู่" ก่อนที่จะตอบเพื่อนที่ขานเรียกอยู่นานสองนาน
(หลังเลิกงานฉันไปหา อย่าคิดฟุ้งซ่านเข้าใจไหม)
"แกไม่ต้องมาหรอก"
(แล้วแกจะอยู่คนเดียวได้ยังไง)
"ใครบอกว่าฉันจะอยู่คนเดียว ถึงเวลาที่ฉันจะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว"
(ก่อนจะทำอะไรแกต้องคิดเยอะ ๆ นะแตม)
"ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ฆ่าตัวตายหรอก แกสบายใจได้" ว่าจบฉันก็กดวางสายจากยัยทอฝันโดยไม่ได้ฟังอะไรอีกเลย อย่างไรเสียวันนี้ก็ไม่ต้องทำงานแล้ว จึงใช้เวลาว่างโดยการนอนชาร์จพลังให้เต็มที่ เพราะคืนนี้ฉันจะออกไปทำตามใจโดยการทำอะไรใหม่ ๆ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ในเมื่อเป็นคนดีแล้วมันไม่ได้ผลดีตอบแทนสักอย่าง ฉันก็คงต้องเปลี่ยนตัวเองไปอีกแบบเผื่อว่าจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตบ้างเหมือนกัน
THE BEST BAR
"ขอเหล้าแรง ๆ หน่อยค่ะ" ฉันสั่งบาร์เทนเดอร์แล้วหย่อนตัวนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ร้านที่ขึ้นชื่อว่ามีแต่ผู้ชายงานดีเป็นอันดับต้น ๆ คัดแต่ตัวท็อปเดินกันว่อน ที่นี่จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ทำให้ฉันปักหมุดแล้วตรงดิ่งเพื่อมาดื่มย้อมใจ
"มาครั้งแรกเหรอครับ" บาร์เทนเดอร์วางเครื่องดื่มแล้วยกยิ้มหวานให้ฉัน แค่บาร์เทนเดอร์ก็กินขาดแล้ว…หล่อกว่าไอ้แฟนเก่าเฮงซวยนั้นเป็นกอง
"รู้ได้ยังไงเหรอคะ?" ฉันคลึงเครื่องดื่มวนเบา ๆ แล้วยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เขา เห็นยัยทอฝันทำจึงจำมาทำบ้าง และดูเหมือนว่าผลคงออกมาดีเพราะบาร์เทนเดอร์หนุ่มจ้องมองฉันไม่กระพริบตา
"ผมไม่คุ้นหน้า แถมคุณยังไม่มีเครื่องดื่มประจำ"
"แล้วคุณคิดว่าแบบฉันควรดื่มอะไรล่ะคะ?" ฉันฉีกยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง มีเพื่อนคุยหน้าตาดีแบบนี้ค่อยคลายเหงาคนอกหักขึ้นมาหน่อย
"White lady ดีไหมครับ รสชาติออกเปรี้ยวและฝาดเบา ๆ จากเลมอน ผสมกับเหล้าจินและครองโทร์ รสชาติแรงแบบที่คุณต้องการ สำหรับคนสวยที่มีเรื่องทุกข์ใจผมว่าคุณน่าจะชอบ" เรื่องทุกข์ใจเหรอ…
"หน้าฉันมองออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"
"เปล่าหรอกครับ ผมแค่เจอคนแบบคุณมาเยอะ เลยลองเดาใจดู"
"งั้นคุณก็คงเดาถูกแล้วล่ะค่ะ" ฉันควงแก้วเหล้า white lady ไปมาเพิ่มเสน่ห์ไปในตัว เขาว่ากันว่ามันทำให้ดูน่าดึงดูดกับเพศตรงข้ามขึ้นซึ่งฉันก็เห็นด้วย เพราะในตอนที่นั่งก็มีผู้ชายชายตามองไม่ขาด แต่ก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรออกมา อยากเป็นผู้หญิงสวย แพง นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วมีผู้ชายเข้ามาทักเอง
คิดแล้วก็ตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทำอะไรแบบนี้…
ระหว่างนั้นบาร์เทนเดอร์ก็หันไปทำเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่น ๆ แต่ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้ฉันเป็นระยะ สายตาประกายความเจ้าชู้ ดูเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่สเปกฉันเท่าไหร่ ราวกับกำลังลงเล่นกับไฟ เล่นไปก็มีแต่จะโดนไฟคลอก สุดท้ายก็สะบักสะบอมกลับมาเหมือนเคย สำหรับเขาฉันสนุกเพียงแค่นี้แหละปลอดภัยที่สุดแล้ว
ฉันค่อย ๆ จิบเหล้ารสชาติที่เขาเสนอมาให้ นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่ฉันออกมาดื่มคนเดียว ปล่อยตัวปล่อยใจกับแอลกอฮอล์เพราะไม่อยากคิดอะไรมากมาย ปล่อยให้เรื่องงานเป็นเรื่องของอนาคต เรื่องซวย ๆ เป็นเรื่องในอดีต ส่วนปัจจุบันอยากอยู่เงียบ ๆ เสพบรรยากาศและเสียงดนตรีไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็พอใจแล้ว
"อ้าวเฮียมาแล้วเหรอ…" ฉันปรายมองคนที่บาร์เทนเดอร์กำลังคุยด้วย เขาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันแล้วพยักหน้าให้เขาเอาเครื่องดื่มมาให้
"เหมือนเดิมใช่ไหมครับ?"
"อืม" ร่างสูงในชุดสูทหันมามองที่ฉันกลับบ้าง ได้เจอคนหล่อก็พลอยใจสั่นขึ้นมาอีก นัยน์ตาเทาเข้มดูดุแต่ก็มีความใจดี เข้ากับใบหน้าลูกครึ่งอันหล่อเหลาที่แม่ให้มาเต็ม ผมดำปรกใบหน้าลงมาปิดตานิด ๆ ให้ตายเถอะ…ยังมีคนหล่อมากขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้อีกงั้นหรือ ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายทั้งรูปร่างที่สมส่วนและรอยยิ้มเบา ๆ ที่กระชากวิญญาณฉันไป
"หน้าผมมีอะไรติดอยู่เหรอครับ" น้ำเสียงก็เพราะจนน่าฟัง คนอะไรดูดีแบบไม่มีที่ติ
แบบนี้แหละถึงเรียกว่า…สเปกของฉัน
"คุณครับ…"
"ค คะ…" คงเพราะฉันหลงอยู่ในภวังค์ความหล่อของเขาอยู่นานจึงไม่ได้ฟังว่าเขาคุยกับฉันก่อนหน้าแล้ว
"มาคนเดียวเหรอครับ?" เขาถามพร้อมรอยยิ้ม ไหนคนอกหักอยู่ตรงไหน ตอนนี้เห็นทีว่ามีแต่คนอยากจะลิ้มลองผู้ชายคนใหม่เท่านั้น
"ค่ะ…ฉันมาคนเดียว แต่ตอนนี้ฉันว่าฉันไม่อยากกลับคนเดียวแล้ว"
"ยินดีด้วยนะคะ เป็นลูกสาวทั้งคู่เลยค่ะ" ฉันเผยยิ้มกว้างในตอนที่ได้ยินคุณหมอบอกเพศลูก ระหว่างที่เรากำลังอัลตราซาวด์ดูเจ้าก้อนในท้องพี่โรมก็จับมือไว้แน่น ใช่แล้ว…ฉันได้ลูกแฝดหญิงทั้งสองคน คราวนี้บ้านหลังใหญ่ก็จะไม่เหงาแล้วดังไปด้วยเสียงร้องไห้โวยวายหัวเราะกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต อีกสี่เดือนเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักของแม่…ฉันปรายมองพ่อของเขาที่กำมือฉันไว้แน่น เห็นลูกผ่านเครื่องหน้าจอเล็ก ๆ เขาก็พลอยบ่อน้ำตาตื้นอีกครั้ง ช่วงนี้คุณพ่อเขาอ่อนไหวง่ายมาก ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองฉันจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเคยเป็นเพลย์บอยมาก่อน"เจ้าหนูน้อยทั้งสองคนปกติมากเลยค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอจะจ่ายวิตามินให้คุณแม่แทนนะคะ" "ขอบคุณค่ะคุณหมอ" แล้วเราสองคนก็ออกมารอหน้าห้องตรวจ หลังจากรู้เพศคนตัวโตก็เงียบไม่ยอมพูดอะไร เพียงแต่จับมือฉันตลอดเวลาและรับรู้ถึงความเย็นจากฝ่ามือหนา"พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่พูดอะไรเลย" พอฉันถามจบพี่โรมก็หันมามอง นัยน์ตาคู่คมกำลังจริงจังเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจ"เหมือนเวรกรรมจะตามทันฉันแล้ว" "คะ?" ฉันเลิกคิ้วขึ้น ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่อถึงอะไร"มีลูกสาวฉันต้องเป็นบ้าแน่น้
พรึ่บ!ไฟในห้องเปิดสว่างจ้า คนนอนหลับสบายค่อย ๆ ลืมตาเมื่อถูกรบกวน ก่อนที่จะเห็นพี่ชายตัวโตที่เป็นคนทำเธอรีบคลานลงจากเตียงมามอง"อะไรของเฮียเนี่ย จีจะนอนพรุ่งนี้งานเช้านะ" "มาร์กหน้าให้เฮียหน่อย" "ฮะ ฮ้ะ? เฮียเนี่ยนะจะมาร์กหน้า" "งานแต่งก็ต้องหล่อหน่อยไหม เดี๋ยวเมียจะว่าเอาได้" "เห็นแก่ที่เฮียจะเป็นเจ้าบ่าวหรอกนะ จีจะทำให้ ไปอาบน้ำที่ห้องเลยเดี๋ยวจีตามไปทำให้" "รีบตามมานะน้องรัก" เจโรมจุ๊บหัวเหม่งของน้องสาวแล้วตรงกลับห้อง เขาเองก็ยอมรับว่าตื่นเต้นเป็นบ้าที่จะได้เป็นเจ้าบ่าวในชีวิตสักครั้ง แต่ที่ทำให้ตื่นเต้นมากกว่าก็คงจะได้เห็นหน้าคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเดือนเต็มเช้าวันต่อมางานแต่งถูกจัดขึ้นบนโรงแรมหรูเดลตาดอทพีหรือโรงแรมของดีแลน ทุกอย่างถูกอำนวยความสะดวกและคุ้มกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นงานแต่งของมาเฟียแล้ววันนี้ยังเป็นวันแต่งตั้งประมุขเจอาร์อย่างเป็นทางการ เป็นการประกาศให้โลกรู้ถึงผู้มีอำนาจคนใหม่ในตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งตระกูลรวมไปถึงนายหญิงคนใหม่ของเจอาร์ที่จะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปช่วงเช้าจะเป็นพิธีการแต่งงานแบบธรรมดาไม่หวือหวาโดยเชิญแค่คนสนิทเจ้าบ่าวเจ
คราวนี้ทั้งฉันและพี่โรมต่างเบิกตากว้างพร้อมกัน งานแต่งงานต้องแพลนล่วงหน้าอย่างน้อยก็สองสามเดือน ให้ตายเถอะ...ไม่ใช่แค่เขาที่จะอยู่ไม่ได้ฉันเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน "คุณมันไม่เกินไปเหรอ..." ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับแม่ "ถ้ารักกันจริงก็ต้องอดทนได้" "ฉันก็เห็นด้วยกับกำนันนะ แยกกันไปทำหน้าที่ก็ดี จะได้พิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างด้วย ทำได้ไหมเจโรม?" รอบนี้ไม่ใช่พ่อของฉันแต่พลอยเป็นคุณลุงจาร์ฟาที่คล้อยตามไปด้วย "คะ ครับ ทำได้..." พี่โรมตอบเสียงอ่อย ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือก แต่มันนานเกินไปไหม...ฉันอยากจะร้องไห้ "งั้นก็ตกลงตามนี้ ส่วนฤกษ์แต่งงาน เดี๋ยวฉันอาสาดูให้ ยังไงจะแจ้งคุณน้องไปนะ" "ได้จ้ะคุณพี่" ผู้ใหญ่สี่คนตกลงกันเข้าท่า ในขณะที่ฉันกับพี่โรมนั้นได้แต่มองกันตาละห้อย จะต้องแยกกันอีกแล้วคราวนี้น่าจะนานสุดตั้งแต่ที่แยกกันมาเลย "ผมขอพาน้องไปเดินเล่นก่อนนะครับ" พี่โรมขัดบทสนทนาของผู้ใหญ่ จนพ่อฉันหันมามอง ท่านเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้าอนุญาต เราสองคนออกมาเดินเล่นในสวนข้างบ้าน จับมือกันชมพระอาทิตย์ในยามเย็นกับลมโกรกอ่อน ๆ ที่ปะทะใบหน้า "พ่อเธอไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้ง" พี่โรมเลื่
ในวันหยุดสัปดาห์นี้ฉันเลือกที่จะกลับบ้านเกิดตัวเองเพราะวันนี้จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต นั้นคือวันที่พี่โรมจะเข้ามาสู่ขอฉันจากพ่อและแม่เพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามขนบธรรมเนียม"น้ำอิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง" เสียงดังจากนอกประตูทำให้ฉันเปิดออกมา เป็นคุณนายน้ำหวานที่แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยเดินมาตามฉันที่เอาแต่กกตัวอยู่แต่ในห้อง"เป็นอะไรไป ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย""แม่…หนูกลัว" ฉันโน้มตัวกอดแม่ไว้แน่น ทั้งกลัวและตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ"มีอะไรต้องกลัว ไม่เชื่อใจตาโรมอีกเหรอ?""เปล่าค่ะ หนูกลัวพ่อไม่ให้แต่ง" พ่อคาดเดาอารมณ์ยากมากแค่ไหนฉันรู้ดี ถึงจะออกปากอนุญาตให้คบกันแล้วฉันก็ยังวิตกอยู่ดี"นี่...ยัยลูกสาว จำไม่ได้หรือไงว่าพ่อแกน่ะเป็นคนบอกให้เขารีบมาขอเร็ว ๆ แบบนี้จะไม่ให้แต่งได้ยังไง""ก็จริง หนูลืมไปเลย" ฉันผละกอดแม่หลังจากคิดตามคำพูด ก่อนหน้าพ่อฉันก็พูดเองว่าเสร็จธุระก็รีบมาขอ และตอนนี้พี่โรมก็ดูจะจัดการปัญหาทุกอย่างได้แล้ว เป็นมาเฟีย เป็นประธานบริษัทรับช่วงต่อ บททดสอบจากคนเป็นพ่อฉันก็ผ่านแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัวอีก"อยากมีผัวจนลืมเลยหรือไง...""แม่!!!" แล
น้ำอิงถูกคนของแม่เจโรมมารับใต้คอนโดแต่เช้า ล่วงหน้ามาก่อนงานจะเริ่ม ส่วนคนตัวโตจะตามมาทีหลังเมื่อใกล้เริ่มงาน "แม่พี่อิงออกมาแล้ว~" นอกจากจะมีเธอแล้วยังมีจีเซลและบีน่าที่มาทำสวยพร้อมกัน ณ ห้องที่ถูกเตรียมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทันทีที่น้ำอิงเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดสองสาวก็พากันตกตะลึงในความสง่าของเธอทั้งหน้าองค์ทรงเครื่องที่เพรียบพร้อมเมื่ออยู่บนใบหน้าที่สวยธรรมชาติก็ยิ่งทำให้สวยไปใหญ่ "พี่สะใภ้สวยมาก~" จีเซลยิ้มชม "จริง เหมือนน้าสมัยสาว ๆ" เสริมด้วยบีน่าอีกคนที่อวยแฟนของลูกชายไม่หยุด "คุณน้ากับจีก็สวยเหมือนกันค่ะ" "เอาเป็นว่าเราสวยกันทุกคน งั้นรีบลงไปกันเถอะ แม่ต้องลงไปรับแขกแล้ว" "น้ำอิงมากับแม่นะ วันนี้แม่จะแนะนำลูกสะใภ้ให้ทุกคนรู้จัก" สรรพนามของบีน่าเริ่มเปลี่ยน จากคุณน้าอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ เธอก็กลายเป็นคุณแม่อีกคนที่เห่อลูกสาวคนใหม่เอามาก "พี่อิงซ้อมยิ้มไว้เลยนะคะ วันนี้น่าจะต้องใช้ทั้งคืน" "งานเล็ก ๆ ไม่ใช่เหรอ?" เจโรมบอกมาอย่างนั้น รู้กันแค่ในวงศ์ตระกูลคงจะไม่เท่าจีเซลพูดมาหรอก "งั้นเราลงไปดูกันค่ะ ว่างานเล็กจริงไหม" ว่าแล้วน้ำอิงก็ลงมาชั้นล่างพร้อมกับสองสาว จีเซลทำให้เธอ
"สรุปแล้วเรื่องที่บอกว่าจะเข้ารับตำแหน่งคือเรื่องจริงเหรอ…" ฉันนั่งมองคนที่ใส่เสื้อสูทเนี๊ยบกว่าทุกวัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปช่วยเขาผูกเนกไทให้เพื่อความรวดเร็ว"อืม…วันนี้ประชุมแต่งตั้งประธานคนใหม่ของบริษัท" "ว้าว…จะมีแฟนเป็นประธานบริษัทแล้วเหรอเนี่ย อิจฉาตัวเองสุด ๆ" "ฉันในเสื้อสูทแบบนี้ยังได้อารมณ์เธออยู่อีกไหม" แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไงคนขี้เล่นก็ยังคงกวนเหมือนเดิม แค่อยู่ในลุกที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง"เสื้อก็ดูดีอยู่นะ แต่ดูหน้าแล้วเฉย ๆ" ฉันย่นจมูกใส่เขา ตอบกวนไปงั้นทั้งที่จริงแล้วก็แอบหวีดในความเท่ของแฟนตัวเองตั้งแต่แรก"หาเรื่องเสียตัวแต่เช้า" ความแววตาเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ฉันรีบถอยหลัง ทั้งที่จะเข้างานอยู่แล้วเขาก็ยังเล่นอยู่ได้"พอเลย ท่านประธานจะเข้างานสายตั้งแต่วันแรกไม่ได้นะคะ" "งั้นเก็บไว้คืนนี้แล้วกัน อย่าลืมว่าเธอยังมีนัดชุดเมดอีกชุดนะ ขอเด็ดกว่าเมื่อคืนนะ ถือว่าเป็นของขวัญการเลื่อนตำแหน่งของฉันด้วย" "พี่นี่มุ่งแต่เรื่องบนเตียงจริง ๆ" ฉันถึงกับส่ายหัว เอะอะก็พาลงต่ำตลอด "มีให้เลือกสองสีสีดำเปิดบนสีแดงเปิดล่าง" แต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันเองไม่ได้ชอบ เหมือนว่าจะเริ่มติดนิสัยหื่น







