LOGINตอนที่ 13 ตกใจที่ได้เจอผีสาวอีกครั้ง!
(ครืดครืด) เสียงโทรศัพท์มือถือของสรวิชญ์ดังขึ้น ขณะที่เขากำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เพื่อเดินทางไปทะเลหัวหิน “ว่าไงไอ้นัส” “มึงจะขับรถไปเองหรือจะให้กูไปรับวะ” “กูจะขับรถไปเอง มึงไปก่อนเลย ไปเจอกันที่หัวหินนะ” “เออๆ ไม่รู้ว่ากูหรือมึงจะไปถึงหัวหินก่อนกัน น้องสาวกูเรื่องมาก คงจะชวนแวะตลอดทาง ถ้ามึงถึงก่อน มึงก็เข้าไปที่พูลวิลล่าตามที่กูบอกเลยนะไอ้เสือ” “โอเค ไอ้เพื่อนรัก แล้วเจอกัน” หลังจากที่อานัสวางสาย สรวิชญ์เดินไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้ง และนำสิ่งของบางอย่างออกมา “ถึงเวลาที่ฉันจะทิ้งมันไปแล้วสินะ” เขาพูดพึมพำพร้อมกับมองสิ่งของบางอย่างในฝ่ามือของเขา ก่อนจะนำมันใส่ในกระเป๋าเสื้อผ้า “เสือจะไปแล้วเหรอลูก” นางสุวิภาถามลูกชาย เมื่อเห็นร่างสูงเดินหิ้วกระเป๋าลงมาจากชั้นสองของบ้าน “ครับคุณแม่ เดี๋ยวผมซื้อของมาฝากนะครับ” “จ้ะ อย่าลืมของฝากหนูทับทิมกับน้าพิมพ์จันทร์ด้วยล่ะ ตอนที่เสือไม่อยู่บ้านก็อย่าลืมโทรหาน้องด้วยนะ” “ครับคุณแม่ ผมไปนะครับคุณพ่อ” “ขับรถดีๆนะลูก” บิดาของเขาบอก “ครับ” รถสปอร์ตออดี้คันสีน้ำเงิน แล่นไปตามเส้นทางที่จะไปทะเลหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันนี้เป็นวันที่สรวิชญ์รู้สึกสบายใจกว่าทุกวันที่ผ่านมา เขาขับรถไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ ทิวทัศน์ริมทางทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก “พี่นัสจอดๆๆ จอดก่อนค่ะ” คนที่นั่งอยู่เบาะหลังบอกพี่ชายให้จอดรถ เมื่อเธอมองไปเห็นร้านขายลูกตาลข้างทาง แถวๆจังหวัดเพชรบุรี “ให้พี่จอดรถทำไมอีกล่ะ น้ำผึ้ง” อานัสถามอัญรินทร์ ขณะที่เขาชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เพื่อหยุดจอดริมทาง “ผึ้งจะซื้อน้ำตาลสดกับลูกตาลน่ะสิ ผ่านมาถึงถิ่นแล้ว ไม่ซื้อไม่ได้ค่ะ พี่นัทไม่รู้หรือไง น้ำตาลสดของชอบเอวาเลยนะ” “จริงเหรอครับน้องเอวา” อานัสหันไปถามแฟนสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ “ใช่ค่ะ เอวาชอบดื่มน้ำตาลสด พี่นัสเคยดื่มไหมคะ” “ไม่เคยครับ วันนี้แหละพี่จะลอง อะไรที่น้องเอวาชอบ พี่ก็ชอบทั้งนั้นแหละครับ” “ชิ ทีน้องสาวบอกให้จอดรถซื้อน้ำตาลสด ทำเป็นรีบ พอรู้ว่าแฟนชอบก็แทบจะวิ่งไปซื้อให้เลยนะ” อัญรินทร์แกล้งเย้าแหย่พี่ชาย เขายักคิ้วกวนน้องสาว ก่อนจะก้าวขาลงจากรถ และพากันเดินไปที่ร้านขายน้ำตาลสด “อื้อ หวานหอมอร่อยมากๆ พี่ไม่แปลกใจเลยทำไมน้องเอวาถึงชอบน้ำตาลสด” อานัสพูดหลังจากที่เขาลองดื่มน้ำตาลสดที่ซื้อมา “แบบนี้ต้องซื้อเพิ่มครับ” “เหมาทั้งร้านเลยไหมล่ะพี่นัส” อัญรินทร์พูดแกล้งพี่ชาย “เก็บท้องไว้กินอย่างอื่นบ้างสิ จะกินแต่น้ำตาลสดอย่างเดียวไม่ได้หรอก” เขาตอบน้องสาว และยื่นเงินให้แม่ค้าขายน้ำตาลสด รถเฟอร์รารี่คันสีเทา 4 ประตู กำลังแล่นออกจากจากหวัดเพชรบุรี อัญรินทร์มองทิวทัศน์ริมทางด้วยท่าทางตื่นเต้น (ครืดครืด) เสียงโทรศัพท์มือถือของอานัสดังขึ้น เขากดรับสายทันทีที่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักโทรมา “ถึงไหนแล้วไอนัส ตอนนี้กูกำลังจะถึงพูลวิลล่าแล้วนะ” “กูเพิ่งจะผ่านเพชรบุรี ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงกูไปถึง มึงนั่งๆนอนๆรอกูไปก่อนแล้วกัน” “โอเค แล้วเจอกัน” “พี่เสือไปถึงหัวหินแล้วเหรอคะ” เอวาถามอานัส หลังจากที่สรวิชญ์วางสายไปแล้ว “ใช่ครับ นี่ขนาดเราออกมาก่อนนะ ไอ้เสือยังไปถึงก่อนเลย ยัยผึ้งนั่นแหละ มัวแต่ให้จอดตรงนั้นตรงนี้ ช้าเลยเห็นไหม” อานัสแกล้งต่อว่าน้องสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง “จะเที่ยวทั้งทีทำไมต้องรีบด้วยคะ คุณพี่ชาย แล้วคนชื่อเสือเป็นใครอ่ะ เอวารู้จักด้วยเหรอ” อัญรินทร์ถามพี่ชาย เธอแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอานัสเลย เพราะวันๆเธอไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น รวมทั้งเรื่องที่เธอเคยมีความสัมพันธ์กับชายแปลกหน้า อัญรินทร์เกือบจะลืมเรื่องนั้นไปเสียแล้ว เพราะเธอเอาแต่สนใจดูซีรีย์เกาหลี “เสือคือเพื่อนสนิทของพี่ เรียนอยู่ลอนดอนด้วยกัน น้องเอวาเคยเจอเสือสองครั้ง” อานัสบอกน้องสาว “อ๋อ...ผึ้งรู้จักแต่พี่จอห์นนั่นแหละ รู้จักตอนที่พี่พาไปผับ นอกจากนั้นก็ไม่รู้จักเพื่อนพี่นัสเลย” “อืม เดี๋ยวไปถึงหัวหินจะแนะนำให้รู้จัก” อัญรินทร์ไม่ตอบกลับอะไร เพราะเธอเอาแต่ไถโทรศัพท์เพื่อดูดาราเกาหลีที่เธอชื่นชอบ สรวิชญ์เดินทางมาถึงพูลวิลล่าริมทะเลหัวหิน ในช่วงเที่ยงของวันเสาร์ เขาสวมแว่นตากันแดด นั่งเอนหลังกอดอกมองดูทะเลที่ทอดยาวแสนไกล เขาเผลอหลับไปสักพัก และสะดุ้งตื่นในเวลาบ่ายโมง มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงลำลองสามส่วนสีเทา เพื่อหยิบสิ่งของบางอย่างออกมา “ถึงเวลาที่ฉันจะทิ้งมันได้แล้วสินะ” เขาพูดพร้อมมองเครื่องประดับแบบสร้อยคอแมงมุมสีดำที่อยู่ในมือ และเตรียมจะเดินไปที่ชายหาด เพื่อจะขว้างมันให้จมหายไปในทะเล (บึ๊น...เอี๊ยดดด) เสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดภายในพูลวิลล่าหรู สรวิชญ์รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของเขามาถึง เขาจึงนำสิ่งของที่อยู่ในมือกลับไปเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง และนั่งรอเพื่อนอยู่บนโซฟาริมสระว่ายน้ำ อัญรินทร์หิ้วกระเป๋าเดินตามหลังพี่ชายและเพื่อนสาวเข้าไปในบ้านพัก เธอสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเอวสูงสีเข้ม เสื้อสายเดี่ยวเอวลอยสีขาว และคาดแว่นกันแดดไว้บนศีรษะ ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ทรงผมประบ่า ไว้หน้าม้าแบบที่เธอเคยทำมาตลอด สองสาวนำกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปเก็บไว้ในห้องเดียวกัน เอวายังคงเป็นเอวาคนเดิม เธอยังรักนวลสงวนตัวไม่ให้อานัสลุกล้ำร่างกายของเธอไปมากกว่ากอดจูบ อานัสจึงจัดการให้น้องสาวและแฟนสาวนอนในห้องเดียวกัน ส่วนเขาและเพื่อนรักแยกกันนอนคนละห้อง “ทำไมมาช้าจังวะ” สรวิชญ์ถามอานัสทันทีที่เห็นเพื่อนเดินเข้ามาหา (พรึ่บ) อานัสนั่งลงข้างๆสรวิชญ์ ริมสระว่ายน้ำ “ก็น้องสาวกูไง ให้แวะริมทางตลอดเลย ทำตัวอย่างกับเด็กไม่เคยออกจากบ้าน เดี๋ยวซื้อโน่นเดี๋ยวซื้อนี่ จอดตลอดทางเลยว่ะ” อานัสนั่งบ่นน้องสาวให้สรวิชญ์ฟัง อัญรินทร์เดินมาจากด้านหลัง เธอมาทันได้ยินที่พี่ชายบ่นถึงเธอพอดี “บ่นอะไร ไอ้พี่นัส บ่นอยู่ได้ บ่นตลอดทางเลย” (พรึ่บ) “!” สรวิชญ์รีบหันไปมองคนที่กำลังต่อว่าอานัส เขาต้องตกใจจนแทบจะช็อค เหตุใดน้องสาวเพื่อนรักถึงได้หน้าคล้ายกับผีสาวที่เขาจับกระแทกในคืนนั้น แถมยังเหมือนกันราวกับฝาแฝด สรวิชญ์หัวใจเต้นรัวๆ เมื่อเธอเดินเข้ามาหาพี่ชาย -------------------------------------------- พี่เสือคะ นั่นคือคนที่พี่เคยจับกระแทก ไม่ใช่ผี🤣 ในที่สุดก็เจอกันแล้ว ฝากติดตามตอนต่อไป กด like comment เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







