LOGINตอนที่ 12 เตรียมตัวหมั้น
เวลาเลยผ่านไปสามเดือน สรวิชญ์ยังคงทำหน้าที่รับทับทิมมาเที่ยวที่บ้านทุกวันหยุด เธอค่อนข้างสนิทสนมและเดินเกาะแขนเขาเวลาไปไหนมาไหน และวันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่สรวิชญ์พาทับทิมมาที่บ้าน “เสือไปไหนมาไหนกับหนูทับทิมบ่อยๆ คนอื่นเขาคิดว่าเสือเป็นแฟนกับน้องไปแล้วนะ แม่ว่าเสือควรจะให้เกียรติน้องบ้างนะลูก” คุณนายสุวิภาพูดกับลูกชายขณะที่กำลังนั่งทานอาหารมื้อเที่ยง และมีทับทิมนั่งอยู่ข้างๆลูกชายของนาง สรวิชญ์ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่มารดาของเขาพูด “คุณแม่ให้ผมไปรับทับทิมมาที่บ้าน และพาไปไหนมาไหนด้วย ทำไมถึงบอกว่าผมไม่ให้เกียรติทับทิมล่ะครับ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนี่” “ไม่เกินเลยก็จริง แต่คนอื่นคิดว่าเกินเลยไปแล้ว ทั้งพนักงานในโรงแรม ไหนจะเพื่อนของแม่ ไหนจะเพื่อนน้าพิมพ์จันทร์อีก” สรวิชญ์ขมวดคิ้ว เขายังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่มารดาพูด “ยังไงครับ หรือว่าคุณแม่ไม่ต้องการให้ผมไปไหนมาไหนกับทับทิมอีกแล้ว ก็แล้วแต่คุณแม่นะครับ ผมยังไงก็ได้” หญิงสาวถึงกับทำหน้าเศร้า เมื่อได้ยินสรวิชญ์พูดเช่นนั้น “แม่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แม่หมายความว่า เสือควรจะรับผิดชอบน้องด้วยการหมั้นหมาย เพราะคนอื่นเขาคิดว่าลูกกับน้องเป็นแฟนกันไปแล้ว” “หมั้นเหรอครับ!” สรวิชญ์ถึงกับตกใจ บิดาของเขามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความรู้สึกหลากหลาย “ใช่ แม่ว่าเสือกับหนูทับทิมควรจะหมั้นกันไว้ก่อน อย่างน้อย เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน น้องจะได้ไม่ถูกคนอื่นติฉินนินทา” สรวิชญ์อยากจะต่อว่ามารดาเสียเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะนางหรอกหรือ ที่เขาต้องไปรับไปส่งและไปไหนมาไหนกับทับทิมบ่อยๆ แต่เขาเองก็ไม่อยากเสียมารยาทพูดต่อหน้าหญิงสาว และเขาก็เคยตั้งใจเอาไว้ว่าจะเปิดใจให้เธอ เพื่อลืมเรื่องราวในอดีต “เรื่องหมั้นเราค่อยคุยกันได้ไหมครับคุณแม่ มันจะเร็วไปหรือเปล่า” “ไม่เร็วไปหรอกลูก เสือก็ไม่ได้ติดขัดอะไรนี่ เสือกับน้องก็ใกล้ชิดสนิทกันมาหลายเดือนแล้ว ใจจริงแม่อยากให้ลูกหมั้นกันเร็วๆนี้ด้วยซ้ำ” ทับทิมถึงกับยิ้มกว้าง เมื่อเธอเห็นว่าสรวิชญ์ไม่น่าจะปฏิเสธอะไร “ให้ผ่านงานแต่งของไอ้นัสไปก่อนได้ไหมครับ เราค่อยมาคุยเรื่องหมั้น เพื่อนรักของผมกำลังจะเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน ผมอยากช่วยเพื่อนจัดงานแต่งให้ผ่านไปด้วยดี” “อ้าว นัสจะแต่งงานแล้วเหรอลูก แต่งกับหนูคนสวยที่แม่เคยเจอใช่ไหม” “ยังไม่แต่งหรอกครับ แต่ก็คงอีกไม่นาน เพราะฝ่ายหญิงเขาเรียนจบแล้ว เอวา คนที่แม่ไปเจอที่ลอนดอนนั่นแหละครับ” “แบบนี้แม่ต้องเตรียมตัดชุดสวยๆไปงานแต่งของนัสแล้วล่ะสิ งั้นก็รอให้อานัสแต่งงานก่อน จบงานอานัส เราค่อยมาคุยเรื่องหมั้นของลูกกับหนูทับทิมก็ได้” “ครับคุณแม่” ทับทิมดีใจสุดๆ ที่ได้ยินสองแม่ลูกคุยกันเช่นนั้น มารดาของเธอก็อยากจะให้เธอเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้เต็มที นายวิทวัสเอาแต่นิ่งเงียบฟังภรรยาและลูกชายคุยกัน แต่เขาเองก็พอจะรู้ ว่าลูกชายของเขารู้สึกแบบไหน แต่ถ้าลูกชายเลือกที่จะหมั้นจริงๆ ก็คงสุดแล้วแต่ลูกของเขาจะตัดสินใจ “ยังไม่นอนอีกเหรอลูก” นายวิทวัสเดินเข้ามาถามลูกชายที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายริมสระว่ายน้ำ ช่วงเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ “ผมยังไม่ง่วงครับคุณพ่อ คุณพ่อล่ะครับทำไมยังไม่เข้านอน” “พ่อเห็นเสือนั่งอยู่ตรงนี้เกือบสองชั่วโมงแล้ว ก็เลยลงมาดู มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” “เปล่าครับ แค่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” “แล้วคิดดีแล้วเหรอ เรื่องที่แม่ของเราจะให้หมั้นกับหนูทับทิมน่ะ ถ้าเสือไม่อยากหมั้น เสือก็ควรจะปฏิเสธแม่ไปนะ ชีวิตเป็นของเสือ ไม่มีใครมาบังคับได้หรอกลูก” พี่บิดาของเขาพูดเช่นนั้น เพราะเขามองออกว่าลูกชายของเขาไม่ได้มีใจให้กับทับทิมเลยสักนิด “ผมรู้สึกเฉยๆนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่ได้มีใคร ถ้าผมจะต้องใช้ชีวิตคู่กับทับทิม ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก มันอาจจะทำให้ผมมีชีวิตชีวาขึ้นมาก็ได้นะครับ” “แล้วเสือไม่คิดว่าอนาคตเสือจะเจอผู้หญิงที่เสือถูกใจเหรอลูก” “คงไม่เจอแล้วแหละครับคุณพ่อ ผมคงไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว” “พูดอย่างกับคนอกหักเลยนะ แต่ก็เอาเถอะ มันขึ้นอยู่กับเสือจะตัดสินใจ พ่อก็แค่ถามเสือให้แน่ใจ” “หลังจากจบเรื่องของไอ้นัส ผมก็จะให้คุณแม่คุยเรื่องหมั้นกับทับทิมอย่างเป็นทางการ ผมคิดดีแล้วครับ” “ว้าย! ให้มันได้แบบนี้สิลูกชายแม่” อยู่ๆนางสุวิภาก็ตรงเข้ามาโอบไหล่ลูกชาย สองพ่อลูกถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่านางจะลงมาจากห้องนอนในเวลานี้ “นี่คุณยังไม่นอนอีกเหรอ” นายวิทวัสถามภรรยา “จะให้ฉันนอนได้ยังไงล่ะ ก็คุณแอบลงมาจากห้อง ฉันนึกว่าคุณหายไปไหน ก็เลยตามมาดู ที่แท้ก็มาปรึกษากันกับลูกเรื่องงานหมั้นนี่เอง เสือพูดแล้วนะว่าเสือจะหมั้นกับหนูทับทิมหลังเสร็จงานแต่งของนัส” “ครับแม่ แต่ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าไอ้นัสจะแต่งงานเดือนไหน เพราะวันเสาร์นี้มันมีแพลนจะเซอร์ไพรส์ขอเอวาแต่งงาน ไม่น่าจะเกินสามเดือน” “เท่าที่แม่รู้มา ครอบครัวของนัสเป็นเศรษฐีผู้ดีเก่า พวกเขารวยมากกว่าเราหลายเท่า ยังไงฝ่ายหญิงก็ไม่ปฏิเสธหรอก นัสทั้งหล่อทั้งรวยและเพียบพร้อมขนาดนั้น เรื่องงานแต่งก็คงจะจัดขึ้นอีกไม่นานหรอก แล้วเสือจะไปเที่ยวทะเลกับนัสวันไหนลูก” “วันเสาร์นี้ครับ ไปประมาณสามวัน” “แม่ว่าเสือชวนน้องทับทิมไปด้วยดีไหม จะได้มีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะอีกไม่นานก็จะต้องหมั้นกันแล้ว” “คุณจะให้ลูกพาทับทิมไปทำไม ตาเสือต้องไปช่วยนัสวางแผนเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องที่ลูกจะต้องพาหนูทับทิมไปด้วยเลย” นายวิทวัสพูดสวนขึ้นทันที “แล้วทำไมหนูทับทิมจะไปด้วยไม่ได้” “คุณแม่ครับ คุณพ่อพูดก็ถูกนะครับ วันสำคัญของเพื่อนผม และอีกไม่นานเพื่อนผมก็จะมีครอบครัวแล้ว ผมควรจะให้ความสำคัญกับเพื่อน ก่อนที่มันจะสละโสด ส่วนเรื่องที่ผมจะไปเที่ยวกับทับทิม ยังมีเวลาอีกมากมาย แต่ครั้งนี้ผมพาทับทิมไปด้วยไม่ได้จริงๆ” “โอเค รอบนี้ไม่พาน้องไปก็ไม่เป็นไร แต่ครั้งหน้าเสือต้องพาน้องไปด้วย ตกลงตามนี้นะ แม่ไปนอนแล้ว” นางสุวิภาเดินจากไปทันทีที่พูดจบ นายวิทวัสได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา “ไปนอนได้แล้วลูก ดึกแล้ว” “ครับคุณพ่อ” สรวิชญ์เดินตามหลังบิดาขึ้นบันไดไปยังห้องนอน เขาตัดสินใจแล้วว่าหลังจากงานแต่งของอานัส เขาจะหมั้นกับทับทิมให้เร็วที่สุด ---------------------------------------------ตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







