LOGIN“บ่นอะไร ไอ้พี่นัส บ่นอยู่ได้ บ่นตลอดทางเลย”
(พรึ่บ) “!” สรวิชญ์รีบหันไปมองคนที่กำลังต่อว่าอานัส เขาต้องตกใจจนแทบจะช็อค เหตุใดน้องสาวเพื่อนรักถึงได้หน้าคล้ายกับผีสาวที่เขาจับกระแทกในคืนนั้น แถมยังเหมือนกันราวกับฝาแฝด สรวิชญ์หัวใจเต้นรัวๆ เมื่อเธอเดินเข้ามาหาพี่ชาย ตอนที่ 14 การเจอกันทำให้ใจเต้นแรง (ตุ๊บตุ๊บตุ๊บ) “โอ๊ย! น้ำผึ้ง ทุบพี่ทำไมพอได้แล้ว พี่เจ็บ” อัญรินทร์ใช้กำปั้นเล็กทุกหลังพี่ชายรัวๆ โทษฐานที่เขาบ่นให้เธอ “อย่าทุบพี่สิ ผึ้งโตแล้วนะ ทำตัวเป็นเด็กไปได้ อายเพื่อนพี่หน่อยสิ” “...” อัญรินทร์ถึงกับหยุดชะงัก เมื่อพี่ชายพูดเช่นนั้น เธอเอียงคอเล็กน้อยเพื่อมองดูเพื่อนรักของพี่ชาย เขาสวมแว่นกันแดดสีดำ และจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกว้าวุ่น หญิงสาวไม่รู้เลยว่าเขากำลังมองเธอผ่านเลนแว่น และอัญรินทร์เองก็จำเขาไม่ได้เช่นกัน “สวัสดีค่ะพี่เสือ” เอวาเดินเข้ามาหยุดยืนด้านหลังของอัญรินทร์ เธอไหว้สวัสดีเพื่อนของแฟนทันทีที่เจอเขา “สวัสดีครับเอวา ไม่เจอกันนานเลย สบายดีหรือเปล่า” “สบายดีค่ะ พี่เสือสบายดีไหมคะ” “สบายดีครับ” ทั้งสองทักทายกันตามมารยาท “น้ำผึ้ง นี่เพื่อนพี่ ชื่อไอ้เสือ” อานัสแนะนำน้องสาวให้รู้จักกับเพื่อนรักของเขา เธอไหว้สวัสดีเหมือนกับที่เอวาทำ “สวัสดีค่ะพี่เสือ” เขาไม่เคยลืมเสียงหวานที่ครางอยู่ใต้ร่างของเขาในค่ำคืนนั้น แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะผู้หญิงที่เขามีอะไรด้วยในคืนนั้น เธอไม่ใช่คน และไม่มีทางเป็นน้องสาวเพื่อนไปได้ ก็เพียงแค่คนหน้าเหมือน และเหมือนกันทุกอย่างเลยก็ว่าได้ “สวัสดีครับน้องน้ำผึ้ง” เขาตอบกลับพร้อมกับถอดแว่นกันแดดออก เพื่อที่จะมองน้องสาวเพื่อนให้เต็มตา “!” อัญรินทร์ตกใจจนสะดุ้ง ไม่ต่างจากที่สรวิชญ์ตกใจที่เห็นเธอครั้งแรก เธอรีบหลบตาทันที อัญรินทร์จำได้ดี เขาคือผู้ชายที่เปิดบริสุทธิ์เธอในค่ำคืนผีดุ ท่าทางมีพิรุธของเธอทำให้สรวิชญ์ไม่แน่ใจ ว่าทำไมเธอถึงหลบตาเขา หรือว่าเธอจะเป็นผู้หญิงในคืนนั้น แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร เธอจะเข้าไปนอนในห้องเขาได้ยังไงกัน ก็แค่คนหน้าเหมือน และเหมือนกันทุกสัดส่วน สรวิชญ์ยังคงสับสน และเขายังคงคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่น้องสาวของเพื่อนรักเหมือนกันกับผีสาว แต่เขาก็ดีใจและรู้สึกว้าวุ่นในหัวใจ อย่างน้อยก็มีคนที่หน้าเหมือนกันกับผีที่เขาตกหลุมรักมาปีกว่าๆ “น้ำผึ้ง เธอไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจังเลย” เอวายื่นมือไปแตะหน้าผากเพื่อนรัก อัญรินทร์ไม่ได้ตอบกลับอะไร “ตัวก็ไม่ร้อนนี่” “ฉัน...ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวมานะ” อัญรินทร์รีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที “เฮ่อ...จะบ้าตาย ฉันเกือบจะลืมเรื่องราวในคืนนั้นไปแล้วนะเนี่ย ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เขาเป็นเพื่อนพี่นัสเหรอเนี่ย” อัญรินทร์พูดคนเดียว ขณะที่เธอกำลังเดินไปตามชายหาด เธอนึกถึงวันที่พี่ชายของเธอบอก พี่ชายของเธอย้ายออกจากห้องนั้นเป็นปีแล้ว สรุปคนที่ย้ายเข้ามาอยู่แทนพี่ชาย ก็คือเพื่อนสนิทของอานัสนั่นเอง ยิ่งคิดยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนผีดุ “ไม่เป็นไรนะน้ำผึ้ง เขาจำไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นฉันต้องแกล้งเนียน ทำเป็นจำเขาไม่ได้เหมือนกัน” เธอพูดปลอบใจตัวเอง เพราะเธอไม่ได้เห็นตอนที่สรวิชญ์ตกใจ แว่นกันแดดที่เขาสวมใส่มันอำพรางนัยน์ตาของเขาเป็นอย่างดี เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงเดินกลับไปที่บ้านพักทันที “ไปไหนมา พี่โทรหาทำไมไม่รับ” อานัสถามน้องสาวที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน “ผึ้งไปเดินเล่นริมทะเลน่ะ โทรศัพท์อยู่ในห้อง ลืมเอาไป แล้วเอวาล่ะ” เธอมองหาเพื่อนรัก เมื่อเห็นว่าตรงนี้มีเพียงพี่ชายของเธอและเพื่อนของเขานั่งอยู่ “น้องเอวาง่วง เลยขอไปนอนพัก น้ำผึ้งมานั่งตรงนี้” เธอเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆพี่ชาย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสรวิชญ์ อัญรินทร์ยังคงไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม จนสรวิชญ์เกิดอาการงุนงง เหตุใดน้องสาวเพื่อนจึงไม่มองหน้าเขา และเหมือนว่าเธอจะรู้สึกประหม่า เวลาที่อยู่ใกล้เขาอีกด้วย “เดี๋ยวพี่จะสร้างไลน์กลุ่มนะ พี่จะดึงน้ำผึ้งกับไอ้เสือเข้ากลุ่ม จะได้ตกลงแผนการเซอร์ไพรส์น้องเอวาคืนนี้” “โอเคค่ะ” ทันทีที่พูดจบ อานัสดึงไลน์น้องสาวและเพื่อนรักเข้าไปในกลุ่ม และเขาก็ส่งข้อความที่เขาพิมพ์เอาไว้ลงไปในกลุ่ม “รายละเอียดต่างๆอยู่ในไลน์นะไม่อยากคุยมาก เดี๋ยวน้องเอวาได้ยิน” อานัสบอกคนทั้งสอง จากนั้นอัญรินทร์จึงขอตัวเข้าไปพักผ่อนในห้องกับเพื่อนรักของเธอ “น้องสาวมึงเป็นอะไรวะ ทำเหมือนไม่ชอบขี้หน้ากูเลย” สรวิชญ์พูดขึ้น หลังจากที่อัญรินทร์เดินออกไป “มึงคิดมากไปหรือเปล่า น้องกูไม่มีอะไรหรอก วันๆมันจะคิดอะไร นอกจากบ้าซีรีย์ คลั่งดาราเกาหลี คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเจอสังคมภายนอกด้วย พ่อกับแม่ไม่ค่อยปล่อยน่ะ ก็เลยไม่ค่อยชินกับคนที่ยังไม่สนิทกัน” “อ๋อ...อืม” อานัสพยายามอธิบายให้เพื่อนรักเข้าใจ เขาไม่อยากให้เพื่อนต้องมาลำบากใจเพราะท่าทางของอัญรินทร์ “กูเข้าไปนอนพักผ่อนก่อนนะ ตื่นแต่เช้า กูง่วงว่ะ มึงก็ควรจะไปพักผ่อนเหมือนกัน คืนนี้แผนสำคัญของกูจะได้ราบรื่น” อานัสพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “อืม กูก็ว่าจะพักผ่อนเหมือนกัน” สองหนุ่มแยกกันเดินไปคนละห้อง สรวิชญ์ทิ้งตัวลงนอนบนกลางเตียง พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เขากดเพิ่มเพื่อนที่ไลน์ของอัญรินทร์ แต่ก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรไปให้เธอ “!” หญิงสาวสะดุ้งทันทีที่เห็นการแจ้งเตือนเพื่อนใหม่ในไลน์ เธอกำลังนอนอ่านข้อความที่พี่ชายวางแผนเซอร์ไพรส์เพื่อนรักอยู่พอดี “เขาแอดไลน์มาทำไมเนี่ย จำไม่ได้ก็ดีแล้ว จะมาทำให้หวั่นไหวอีกทำไม” เธอพูดเบาๆเพราะกลัวว่าเพื่อนสาวจะตื่น อัญรินทร์กดรับเพื่อน แต่เธอก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรเช่นกัน “คนอะไร เหมือนกันอย่างกับเป็นฝาแฝด น่ารักดีนะเรา แต่ดูหยิ่งไปหน่อย” เขานอนดูรูปโปรไฟล์ของอัญรินทร์ แล้วพูดพึมพำพร้อมกับยิ้มออกมา สรวิชญ์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเจอกันกับน้องสาวเพื่อนครั้งแรก ทำให้เขารู้สึกดีจนหัวใจเต้นแรงอยู่ตลอด และอยากจะมองน้องสาวเพื่อนอยู่ตลอดเวลา ------------------------------------------- พี่เสือยังไม่รู้อีกนะ แต่น้องน้ำผึ้งรู้แล้ว จะทำยังไงพี่เสือถึงจะรู้ว่าน้องน้ำผึ้งคือคนเดียวกันกับผีสาวในคืนนั้น ฝากติดตามตอนต่อไป กดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







