Share

พลิกชะตาคุณชายตกอับ
พลิกชะตาคุณชายตกอับ
Author: หมึกย้อมแผ่นดิน

บทที่ 1

Author: หมึกย้อมแผ่นดิน
“หนึ่งคำนับฟ้าดิน สองคำนับบิดามารดา สามีภรรยาคำนับกัน ส่งตัวเข้าห้องหอ!”

พร้อมกับเสียงตะโกนของผู้ดำเนินพิธีและเสียงหยอกล้อของญาติมิตร ลั่วฝานและหญิงสาวสามคนที่คลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีแดง ก็ก้าวเข้าสู่ห้องหอ

สงครามที่ต่อเนื่องยาวนานทำให้ราชวงศ์ต้าเซิ่งขาดแคลนบุรุษ เพื่อฟื้นฟูจำนวนประชากร ฮ่องเต้จึงสนับสนุนให้ราษฎรแต่งภรรยาและมีบุตร ด้วยเหตุนี้ ลั่วฝานที่เป็นเพียงชาวนาผู้ยากไร้ จึงสามารถแต่งภรรยาพร้อมกันถึงสามคนได้ในคราวเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาทั้งสามคนนี้ไม่เพียงแต่มีรูปโฉมงดงามหาที่เปรียบมิได้ แต่ยังมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปอีกด้วย

ลั่วฝานพยายามข่มความตื่นเต้นในใจ กำลังจะเปิดผ้าคลุมหน้าสีแดง เพื่อยลโฉมของคนงาม แสงสว่างสายหนึ่งพลันแวบผ่านหน้าไป

ตื่นจากฝันแล้ว

“ข้า ข้ากำลังฝันอยู่หรือ? ไม่ นี่ไม่ใช่ความฝัน”

เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าตนเองอยู่ในกระท่อมมุงจากที่ผุพังและเก่าแก่ซอมซ่อหลังหนึ่ง

ลั่วฝานเป็นคนยุคปัจจุบัน เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า อาศัยการทำงานพิเศษส่งเสียตัวเองเรียนจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ หลังจากเรียนจบก็ได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่และได้รับเงินเดือนสูง

แต่เขาก็ไม่ได้เริ่มใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ด้วยความที่เขาเป็นคนจิตใจดีและซื่อตรง จึงบริจาครายได้ส่วนใหญ่ให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อให้เด็กๆ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย

เงินเดือนสูง ความกดดันก็สูงตามไปด้วย การทำงานแบบเก้าโมงเช้าจนถึงสามทุ่มหกวันต่อสัปดาห์ วันแล้ววันเล่าได้ทำให้ร่างกายของลั่วฝานทรุดโทรมลงอย่างสมบูรณ์ เมื่อวานนี้เวลาตีสี่ ลั่วฝานฟุบลงบนโต๊ะทำงาน...

“ท่านพี่ ท่าน ท่านตื่นแล้วหรือ? ข้า ข้าจะไปตักน้ำมาให้ท่าน...”

หญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

แม้ว่านางจะไม่ได้แต่งหน้าทาแป้ง แต่ใบหน้าของนางก็ดูงดงามสดใสอย่างยิ่ง เป็นความงามตามธรรมชาติ

เสื้อผ้าเนื้อหยาบที่สวมใส่ก็ยากที่จะปกปิดเรือนร่างที่อวบอิ่มและส่วนเว้าส่วนโค้งของนางได้ เนินอกอวบอิ่ม เอวบางดุจกิ่งหลิว สะโพกกลมกลึงเย้ายวน ช่างเป็นความอวบอิ่มแบบกำลังดีดูไม่อ้วนเลยจริงๆ !

ในฐานะหนุ่มโสดตั้งแต่เกิด ลั่วฝานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

นั่นไม่ใช่ความฝัน นั่นคือฉากงานแต่งงานของเจ้าของร่างเดิมเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

“ท่านพี่ ข้าไม่มีเงินจริงๆ เจ้าค่ะ พ่อแม่ของข้าพวกเขาก็ไม่มีเงินแล้ว!”

เมื่อเห็นลั่วฝานจ้องมองตนเองอย่างไม่วางตา จูอีโหรวก็ทรุดตัวคุกเข่าลงเสียงดังตุบ

“รีบลุกขึ้นเร็ว...”

ในตอนนี้ ลั่วฝานก็ค่อยๆ ประมวลผลความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมได้แล้ว ที่นี่คือราชวงศ์ต้าเซิ่ง เป็นมิติคู่ขนานที่คล้ายคลึงกับประเทศหัวเซี่ยอย่างมาก

เจ้าของร่างเดิมก็ชื่อลั่วฝานเช่นกัน แต่เป็นพวกไม่เอาถ่านขี้เกียจสันหลังยาว แต่งงานได้เพียงเดือนเดียว ก็ผลาญสินเดิมที่ภรรยาทั้งสามนำมาจนหมดเกลี้ยง

จูอีโหรวคือภรรยาเอก ในบรรดาพี่น้องสามคน นางเป็นคนที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบที่สุด ในยามปกติก็เป็นนางที่คอยปรนนิบัติรับใช้ลั่วฝานในชีวิตประจำวัน

ลั่วฝานเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าของจูอีโหรวเบาๆ “ภรรยาโง่ ข้าจะขอเงินเจ้าได้อย่างไรกัน”

เจ้าของร่างเดิมไม่ใช่คนจริงๆ มีภรรยาที่งดงามดั่งดอกไม้ดุจหยกเช่นนี้กลับไม่รู้จักทะนุถนอม ทุกวันหากไม่ทุบตี ก็บังคับข่มขู่เอาเงิน

“ท่านพี่...”

เมื่อเห็นท่าทางอ่อนโยนของลั่วฝาน จูอีโหรวก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ นี่ท่านพี่ถูกสิ่งสกปรกไม่ดีเข้าสิงหรือ?

“พี่หญิง ข้าไปจับหนูที่นามาได้สี่ห้าตัว วันนี้จะได้กินเนื้อกันแล้ว!”

ในขณะนี้ เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความยินดีก็ดังขึ้น เห็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งหาบคานหามเดินเข้ามา ในตะกร้าที่หาบนั้นมีหนูนาสี่ห้าตัวและผักป่า

ใบหน้ารูปไข่เล็กๆ ประดับด้วยเครื่องหน้าที่งดงามประณีต ดวงตาสวยงามเปล่งประกายดุจดวงดาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงสดเย้ายวน

เพียงแค่ใบหน้า ก็เอาชนะดาราดังแถวหน้าในยุคปัจจุบันได้อย่างขาดลอย!

รูปร่างที่ผอมสูงและอรชรอ้อนแอ้นนั้น ดูองอาจและสง่างามอย่างยิ่ง

ลั่วฝานเบิกตากว้างในทันที ให้ตายเถอะ ภรรยาของตนแต่ละคนล้วนงดงามยิ่งกว่าอีกคน!

นี่คือภรรยาคนที่สองอู่ชิง บิดาของนางเคยเป็นแม่ทัพ แต่ต่อมาเสียชีวิตในสนามรบ ทำให้ครอบครัวตกต่ำ จึงจำใจต้องแต่งงานกับเจ้าของร่างเดิม

“ชิงเอ๋อร์...”

ลั่วฝานกำลังจะเข้าไปทักทาย อู่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอยหลังไปสองสามก้าว ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ลั่วฝาน เจ้าคิดจะทำอะไร? สัตว์ที่ข้าล่ามาได้ หรือของที่ข้าเก็บมาได้ ปกติก็เอาไว้กินกันในบ้านหรือไม่ก็เอาไปขายเพื่อจุนเจือครอบครัว ข้าไม่มีเงินหรอกนะ!”

อู่ชิงแสดงท่าทีระแวดระวัง ตลอดหนึ่งเดือนมานี้ ลั่วฝานไม่ทำงานทำการอะไรเลย เอาแต่ขูดรีดพวกนางสามคนที่อาภัพ

“ชิงเอ๋อร์ ข้ากลับตัวกลับใจแล้ว ต่อไปนี้ข้าจะไม่ขอเงินพวกเจ้าอีก”

ลั่วฝานยิ้มอย่างขมขื่น “นี่ถึงจะเป็นหนูนา แต่มันก็คือหนู จะกินได้อย่างไรเล่า?”

“เหอะ เจ้าแปดข้างบ้านแม้แต่หนูก็ยังไม่มีให้กิน ทำได้แค่แทะรากไม้ ถ้าไม่กินหนู แล้วจะให้อดตายหรือไร?”

อู่ชิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ พูดจบก็ไม่สนใจลั่วฝาน นั่งยองๆ ลงเริ่มจัดการกับหนูนาที่จับมาได้

“คุณชายลั่ว คุณชายลั่วอยู่หรือไม่?”

พร้อมกับเสียงตะโกน ชายท่าทางนักเลงสามคนก็เดินเข้ามา

“หวังซานโก่ว?”

ลั่วฝานขมวดคิ้ว ชายผู้นี้คืออันธพาลประจำหมู่บ้าน เจ้าของร่างเดิมก็ไปมั่วสุมอยู่กับเขานี่แหละ

“คุณชายลั่ว ได้เวลาแล้ว”

สายตาหยาบโลนของหวังซานโก่วจับจ้องไปที่ร่างของจูอีโหรวอย่างไม่วางตา ปากก็ส่งเสียงจุ๊ๆ อย่างประหลาดใจ

“เจ้ามาทำอะไรที่บ้านข้า?”

ลั่วฝานสีหน้าไม่เป็นมิตร

“คุณชายลั่วช่างเป็นคนขี้ลืมเสียจริงนะ”

หวังซานโก่วหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น “ไม่กี่วันก่อนเจ้ามาเล่นพนันลูกเต๋าที่บ้านข้า แพ้แล้วเสียเงิน คุณชายลั่วไม่มีเงินจ่าย จึงคิดจะใช้ภรรยาเอกของเจ้ามาขัดดอก คุณชายลั่วลืมแล้วหรือ?”

เมื่อหวังซานโก่วพูดเช่นนี้ ลั่วฝานก็นึกขึ้นมาได้จริงๆ เขาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “คืนนั้นพวกเจ้าหลายคนมอมเหล้าข้าไม่หยุด พอข้าเมาแล้วก็เล่นพนันกับข้า พวกเจ้ามันช่างเลวทรามไร้มนุษยธรรมสิ้นดี!”

“พวกข้าบังคับเจ้าพนันหรือไร? ลั่วฝาน นี่เจ้าคิดจะเบี้ยวหนี้หรือ?”

หวังซานโก่วสีหน้าบึ้งตึง หยิบสัญญากู้ยืมเงินออกมา “นี่ไง ในนี้มันเขียนไว้ชัดเจนว่าเจ้าติดหนี้ข้าสิบตำลึง! ไม่อยากคืนหรือ? ข้าจะไปฟ้องทางการ ดูสิว่าเจ้าหน้าที่ทางการจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”

“สิบตำลึง?!”

จูอีโหรวและอู่ชิงอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง!

“ท่านพี่ ท่าน ท่านช่างเลอะเลือนนัก! พวกเราสามพี่น้องทำงานหนักทุกวันแทบตาย เดือนหนึ่งหาเงินได้เพียงสองสามอีแปะเท่านั้น พวกเราสามคนยังต้องประหยัดกินประหยัดใช้ ถึงจะเลี้ยงดูท่านพี่ได้ ท่าน ท่านกลับไปติดหนี้คนอื่นถึงสิบตำลึง!”

จูอีโหรวร่ำไห้ออกมาทันที

“ถึงว่า เหตุใดวันนี้ถึงทำตัวดีกับพวกเรา ไม่นึกเลยว่าจะขายพี่หญิง สันดานไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ!”

ดวงตางดงามของอู่ชิงจ้องเขม็ง

“คนงาม อยู่กับลั่วฝานต้องทุกข์ทนสักเพียงใด? มาอยู่กับข้า ข้ารับรองว่าเจ้าจะได้กินของดีๆ อร่อยๆ สุขสบายทุกค่ำคืน ฮิ ฮิ!”

สายตาของหวังซานโก่วเต็มไปด้วยความละโมบ ยื่นมือออกไปหมายจะสัมผัสหญิงงาม

ร่างบางของจูอีโหรวสั่นเทา อู่ชิงรีบก้าวเข้ามาขวางหน้าจูอีโหรว ตะโกนเสียงกร้าว “ไอ้พวกสารเลว อย่าคิดว่าจะพาพี่หญิงของข้าไปได้!”

หวังซานโก่วทำเรื่องชั่วร้ายมานับไม่ถ้วนในหมู่บ้าน หากบ้านไหนมีเด็กเล็กงอแงร้องไห้ไม่หยุด แค่พูดว่าถ้ายังไม่หยุดร้องหวังซานโก่วจะมาแล้ว เด็กก็จะหยุดร้องทันที

อู่ชิงไม่มีทางยอมให้พี่หญิงของนางตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาแน่

“โอ้ สาวน้อยก็อารมณ์ร้ายใช่ย่อยนะ”

หวังซานโก่วกวาดสายตาละโมบไปทั่วร่างของอู่ชิง อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปหา “แม่นางน้อย ร่างกายผอมๆ ของลั่วฝานไม่มีทางทำให้พวกเจ้าพอใจได้หรอก”

“ไอ้ลามก!”

อู่ชิงถีบเข้าที่ท้องของหวังซานโก่วอย่างแรง หวังซานโก่วร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด

“นังสารเลว กล้าตีข้าหรือ รนหาที่ตายนัก!”

หวังซานโก่วเงื้อมือขึ้น หมายจะตบหน้า!

“ชิงเอ๋อร์!”

จูอีโหรวอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา

อู่ชิงก็หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง

แต่ฝ่ามือนั้นกลับไม่ฟาดลงมาเสียที อู่ชิงลืมตาขึ้น ก็เห็นสามีที่ไม่เอาไหนของตน ซึ่งปกติจะเก่งแต่ในบ้าน กลับจับข้อมือของหวังซานโก่วไว้แน่น

“ห้ามแตะต้องภรรยาของข้า”

ลั่วฝานกล่าวเสียงเย็น

“เจ้า เจ้า...”

หวังซานโก่วรู้สึกเพียงว่าข้อมือของตนราวกับถูกคีมเหล็กบีบไว้แน่นจนขยับไม่ได้ เขาขมวดคิ้ว “เงินก็ไม่คืน คนก็ไม่ให้ ลั่วฝาน เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้จริงๆ หรือ? หากข้าไปฟ้องทางการ ตามกฎหมายของต้าเซิ่ง ครอบครัวของเจ้าทั้งหมดจะต้องถูกขายเป็นทาส!”

“เงินสิบตำลึง ข้าจะคืน”

เรื่องมาถึงขั้นนี้ ลั่วฝานทำได้เพียงตกลง “ให้เวลาข้าอีกสักห้าหกวัน ข้าจะคืนให้เจ้าไม่ขาดแม้แต่อีแปะเดียว หากเจ้ากล้ามาระรานภรรยาข้าอีก ข้าจะถลกหนังเจ้า!”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 30

    ระยะเวลาในการแช่ไม้ไผ่ โดยทั่วไปยิ่งนานยิ่งดี กระดาษก็จะยิ่งอ่อนนุ่มแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เพื่อดึงดูดลูกค้า ลั่วฝานก็ยังยืนกรานที่จะแช่ไว้ครึ่งเดือน ถึงจะเริ่มขั้นตอนที่สองนั่นคือการนึ่ง“จางเหลียว หม่าเหลียง พยายามกำจัดสิ่งเจือปนออกไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว” ลั่วฝานขมวดคิ้ว สั่งการหม่าเหลียงและจางเหลียวค่อนข้างมีความสามารถ อีกทั้งยังฉลาดมาก ส่วนจางหู่กลับดูซื่อ ๆ ไปบ้าง แต่ก็สามารถข่มขวัญคนที่คิดไม่ซื่อได้“เถ้าแก่ กระดาษของเรานี้เรียกว่าอะไรหรือขอรับ”หม่าเหลียงมองเยื่อไผ่ที่นึ่งไปแล้วสามครั้ง เอ่ยถามขึ้น“คิดไว้แล้ว เรียกว่ากระดาษเหวินหย่าเซวียน!”“จิ๊ ๆ ช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ”หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดการผลิตชุดใหม่ก็เสร็จสิ้น ผลิตได้ทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าแผ่น หักที่ต้องให้โรงกระดาษหยางจี้ห้าพันแผ่น ยังเหลืออีกห้าพันแผ่น ลั่วฝานตั้งใจจะเก็บไว้หาคู่ค้าเพิ่มอีกสักสองสามรายขนกระดาษหนึ่งหมื่นแผ่นขึ้นรถม้า ลั่วฝานพาหม่าเหลียงและจางหู่มุ่งหน้าไปยังเมืองลวี่วั่งออกจากบ้านแต่เช้า พอใกล้ถึงตอนเที่ยงก็มาถึงเมืองลวี่วั่ง ลั่วฝานอาศัยความทรงจำตามหาโรงก

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 29

    อีกทั้งลั่วฝานยังรู้ดีว่าหลี่หน้าบากไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ได้ เป็นไปได้เพียงว่ามีคนว่าจ้างให้หลี่หน้าบากมาฆ่าคน“ให้ตายเถอะ เงินแท้ตั้งสองร้อยห้าสิบตำลึง หลี่หน้าบากไปร่ำรวยมาจากไหนตั้งแต่เมื่อใดกัน?” จางหู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเมื่อหวนนึกถึงเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชที่จงใจถ่วงเวลาเมื่อครู่ ลั่วฝานก็แสยะยิ้มเย็นชา “ดูท่าว่า พวกเขาคงวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดจะดักปล้นฆ่าพวกเรากลางทาง”“เถ้าแก่ ท่านหมายความว่าเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชคนนั้นมีปัญหาหรือขอรับ?” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“จางเหลียว เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้ารู้จักกับเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช?” สีหน้าของจางหู่เปลี่ยนไปทันที ตวาดเสียงกร้าว“จางหู่” ลั่วฝานพูดขัดจางหู่ขึ้นมา ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่จางเหลียว เมื่อครู่ในมือของจางเหลียวถือมีดตัดฟืน ทั้งยังอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา หากเขามีความคิดไม่ดี ข้าคงตายไปนานแล้ว”จางเหลียวประสานหมัดกล่าว “ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”จางหู่ตะโกนอย่างเดือดดาล “หากข้ารู้นะว่าไอ้สารเลวหน้าไหนมันคิดร้ายต่อพี่ชายของข้า ข้าจางหู่จะชกมันให้ตายไปเลย”“กลับเข้าเมืองก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อย ๆ คิ

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 28

    จากนั้นก็ทะยานพรวดขึ้น โถมเข้าใส่ม้าตัวนั้น ฉากต่อมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงจนอ้าปากค้างเห็นจางหู่กอดรวบหัวม้าไว้ คำรามลั่นแล้วเหวี่ยงออกไปสุดแรง!ม้าชั้นดีที่หนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันชั่ง ถูกจางหู่เหวี่ยงกระเด็นไปไกลถึงสิบเมตรหัวหน้าโจรป่าที่นั่งอยู่บนหลังม้า ถูกม้าทับอยู่ใต้ท้องในทันที กระอักเลือดออกมาคำโต ไม่นานก็สิ้นใจตายโจรป่าที่เหลืออีกสองสามคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงอย่างหนัก แววตาฉายแววหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัดจางหู่ในยามนี้ ในสายตาของพวกเขา ไม่ต่างอะไรไปจากอสูรสงครามตนหนึ่งเลย“จางหู่ ลั่วฝาน พวกเจ้าจงไปตายเสีย!” โจรป่าสองสามคนคำรามลั่น ควบม้าเงื้อดาบพุ่งเข้าใส่จางหู่ลั่วฝานเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นคนเหล่านี้รู้ชื่อของข้าได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นคนรู้จักกัน?ลั่วฝานมัวแต่คิดไม่ตก พลันเห็นจางหู่คำรามลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่คนทั้งห้าเห็นเพียงจางหู่พลิกตัวหลบคมดาบยาวที่ฟันเข้ามาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชกหมัดตรงเข้าที่ท้องของม้าอย่างจังม้าร้องโหยหวนออกมาเสียงหนึ่ง ร่างกายอ่อนยวบ โซซัดโซเซล้มลงกับพื้นจางหู่ฉวยโอกาสนั้นจับโจรที่อยู่บนหลังม้า ทุ่มลงกับพื้นจนมึนงงไป

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 27

    เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชยิ้มประจบประแจง “นั่นน่ะสิขอรับ ใครบ้างจะไม่รู้ว่ากระดาษของเฉิงซินถังตระกูลหวังนั้นดีที่สุดในเมืองหย่งอัน ไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกนั่นมันจะไปนับเป็นอะไรได้ ถึงกล้ามาแย่งธุรกิจกับตระกูลหวัง”“ฮ่า ๆ พูดได้ดี”ชายร่างผอมบางมองไปยังเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช “เจ้าวางใจได้ ต่อไปธัญพืชของตระกูลหวังข้า จะให้เจ้าเป็นคนจัดหาให้”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้นยินดีในทันที “ขอบคุณเถ้าแก่หวังมากขอรับ”ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม พอออกมาจากตำบลได้ราวสองลี้ ลั่วฝานก็พลันสังเกตเห็นว่ามีคนติดตามอยู่รอบ ๆลั่วฝานสงสัยอย่างมากว่า เมื่อครู่เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชจงใจถ่วงเวลา ทำให้ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่สามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันได้“เถ้าแก่ ไม่น่าไว้วางใจเลยขอรับ” จางเหลียวขมวดคิ้ว กวาดตามองไปรอบทิศ“มีอันใดหรือ? มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“ด้านหน้าคล้ายกับมีคนอยู่ขอรับ อาจจะเป็นพวกโจรป่าดักปล้น” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของจางเหลียว ลั่วฝานก็ทอดสายตาไปเบื้องหน้า พลันเห็นคบเพลิงสี่ห้าอันสว่างวาบขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนช่วงเวลาเช

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 26

    ธัญพืชสิบสือ ก็คือหนึ่งพันชั่งในยุคโบราณ นี่ถือเป็นการค้าที่ใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ร้านขายธัญพืชเองก็ใช่ว่าจะหาธัญพืชจำนวนมากขนาดนี้ออกมาได้ง่าย ๆ“เถ้าแก่ รอไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวุ่นวายเพราะภัยสงคราม ยามค่ำคืนเกรงว่าจะมีพวกโจรออกอาละวาด” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเตือนสติลั่วฝานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เถ้าแก่ ตอนนี้ท่านมีธัญพืชอยู่เท่าใด?”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชกล่าวว่า “มีธัญพืชไม่ถึงสามสือขอรับ หากพวกท่านต้องการ ข้าก็สามารถขายให้พวกท่านได้ทั้งหมด”ธัญพืชสามสือก็ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านมีคนกินข้าวอยู่สิบกว่าชีวิต ในแต่ละวันต้องบริโภคข้าวสารสิบกว่าชั่ง สามสือก็พอจะประทังไปได้หนึ่งเดือนทว่า ในขณะที่ลั่วฝานกำลังคิดจะจ่ายเงินแล้วกลับเข้าเมืองนั้นเอง เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชก็พลันกล่าวขึ้นว่า “เดี๋ยวจะมีธัญพืชมาส่งอีกชุดหนึ่งแล้วขอรับ ท่านรออีกเพียงหนึ่งชั่วยามก็พอ น่าจะมีสักประมาณห้าสือ”หนึ่งชั่วยามหรือ? ลั่วฝานหันไปมองจางเหลียว แล้วกล่าวว่า “จะสามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันก่อนฟ้ามืดได้หรือไม่?”จางเหลียวเงยหน้ามองดูสีของท้องฟ้า พยักหน้าแล้วตอบว่า “ก็น่าจะทันอยู่ขอรับ”เม

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 25

    “ออกไปนอกเมืองหรือขอรับ?” สีหน้าของจางเหลียวตกตะลึง“มีอันใดหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“เถ้าแก่ ท่านอาจยังไม่ทราบ ตอนนี้ด้านนอกเมืองหย่งอันวุ่นวายไปหมดแล้วขอรับ ได้ยินมาว่าด่านชายแดนถูกตีแตกแล้ว ช่วงนี้จึงมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมือง” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“ผู้อพยพ?” ลั่วฝานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ฉายแววระมัดระวังขึ้นมา“พวกเราจำเป็นต้องออกไปนอกเมืองจริง ๆ หรือขอรับ?” จางเหลียวเอ่ยถามลั่วฝานพยักหน้า “เจ้าก็รู้ว่าราคาข้าวสารอาหารแห้งในเมืองมันแพงเพียงใด คนสิบกว่าชีวิตต้องกินต้องใช้ ธัญพืชถือเป็นรายจ่ายก้อนโตทีเดียว”หากคิดจะประหยัดต้นทุน ก็ทำได้เพียงออกไปรับซื้อธัญพืชตามหมู่บ้านนอกเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้ด้านนอกเมืองมีผู้อพยพอยู่ เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลั่วฝานก็ยังคงตัดสินใจที่จะออกไปนอกเมืองความมั่งคั่งย่อมต้องเสาะหามาจากในภยันตราย หากปราศจากความกล้า ก็อย่าได้คิดทำการใหญ่“พวกเราฟังเถ้าแก่ขอรับ” จางเหลียวกล่าวลั่วฝานพยักหน้า เตรียมตัวจะออกจากบ้าน ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหลังเดินกลับไปบอกจูอีโหรวว่า “ตอนกลางวันข้า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status