Share

บทที่ 4

Author: หมึกย้อมแผ่นดิน
“สหาย คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?”

สวีหย่วนขมวดคิ้ว “ผลิตกระดาษป่านแผ่นหนึ่งต้นทุนก็สิบอีแปะแล้ว กระดาษป่านนับหมื่นแผ่นในโกดังนั่น ใช้เงินข้าไปกว่าร้อยตำลึง ข้ารับเงินมัดจำจากเถ้าแก่หลายคน ตอนนี้ใกล้ถึงกำหนดส่งของ แต่กระดาษป่านกลับถูกทำลายจนหมดสิ้น ต้องคืนเงินมัดจำ แถมยังต้องจ่ายค่าปรับให้พวกเขา ไม่มีใครสามารถคลี่คลายวิกฤตของข้าได้หรอก!”

“ถึงแม้ครั้งนี้จะสูญเสียอย่างหนัก แต่อย่างน้อยคนก็ไม่เป็นอะไร ตราบใดที่คนยังอยู่ ก็ย่อมหาเงินได้แน่นอน”

ลั่วฝานเอ่ยขึ้น “หากข้ามีวิธีสร้างกระดาษชนิดหนึ่งที่ขาวสะอาดเนียนนุ่ม ไม่ถูกแมลงกัดกินไม่เปื่อยยุ่ยเล่า? เช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถนำผลกำไรมหาศาลมาให้ท่าน ชดเชยความเสียหายในครั้งนี้ได้ และข้าคิดว่าเถ้าแก่เหล่านั้นย่อมยินดีที่จะขยายเวลาให้ท่านอีกสักหน่อย”

“ขาวสะอาดเนียนนุ่ม ไม่ถูกแมลงกัดกินไม่เปื่อยยุ่ย?”

สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นกระดาษเยื่อไผ่มาก่อน เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงการมีอยู่ของมัน สวีหย่วนส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น “สหาย ช่างทำกระดาษในต้าเซิ่งมีนับไม่ถ้วน จะมีกระดาษเช่นนี้ได้อย่างไร”

“เถ้าแก่ ท่านแค่เชื่อข้าก็พอ”

ลั่วฝานกล่าวอย่างมั่นใจ “ข้าน้อยลั่วฝาน เรียกข้าว่าลั่วฝานก็ได้”

บทกวีสามบทของลั่วฝานเมื่อครู่ ทำให้สวีหย่วนตกตะลึงอย่างมาก ในตอนนี้ ในใจของสวีหย่วนก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความหวังขึ้นมาเล็กน้อย “ลั่วฝาน เช่นนั้นก็ต้องรบกวนท่านแล้ว ต้องการใช้อะไร ขอให้บอกข้ามา”

วิชาทำกระดาษเป็นหนึ่งในสี่สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศหัวเซี่ย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กระดาษมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของผู้คน

กระดาษเซวียนย่อมดีที่สุด แต่ขั้นตอนการทำซับซ้อนเกินไป ลั่วฝานทำไม่เป็น

กระดาษเยื่อไผ่มีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ได้รับการขนานนามว่า ‘พันปีไม่ถูกแมลงกัดกิน ร้อยปีสีไม่ซีดจาง’ ภาพวาดอันโด่งดังในประวัติศาสตร์อย่าง ‘ภาพที่พำนักในภูเขาฟู่ชุน’ ก็วาดโดยใช้กระดาษเยื่อไผ่

ในชาติก่อนของลั่วฝาน บ้านเกิดของเขาอุดมไปด้วยไผ่ ผู้ใหญ่ในบ้านจะใช้ไผ่ทำกระดาษ ลั่วฝานยังจำขั้นตอนได้

อำเภอหย่งอันตั้งอยู่ในเจียงหนาน เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ จึงไม่ขาดแคลนไผ่

สวีหย่วนจัดหาคนงานมาให้ลั่วฝานหลายคน ลั่วฝานให้พวกคนงานไปตัดไผ่ที่ยังอ่อนและสดอยู่ ลอกเปลือกสีเขียวชั้นนอกออก จากนั้นใช้ของหนักทุบซ้ำๆ ทุบไผ่ให้แตกและกระจายตัว เผยให้เห็นเส้นใย

จากนั้นมัดเป็นกำ แล้วแช่ลงในบ่อน้ำ

ตามที่บันทึกไว้ใน ‘ตำราสารานุกรมสิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง’ ต้องใช้เวลากว่าร้อยวันเพื่อให้ไผ่สลายตัว ลั่วฝานไม่มีเวลามากขนาดนั้น จึงเลือกที่จะเทน้ำปูนขาวลงไปเพื่อเร่งกระบวนการ

สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการรอคอยอย่างเงียบๆ

ในถุงเงินที่คุณชายเหวินให้มามีเงินอยู่ถึงสองตำลึง ลั่วฝานไปที่ร้านค้าซื้อของมามากมาย ข้าวสาร แป้ง เกลือ น้ำตาล ไก่ เป็ด ปลา เนื้อแกะ และยังไปที่ร้านผ้า ซื้อผ้าเนื้อดีมาอีกหลายพับ

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จก็เป็นเวลาพลบค่ำ ลั่วฝานหอบของกองโตกลับบ้าน

ในกระท่อมมุงจากเก่าๆ มีควันจากการหุงต้มลอยขึ้นมา เมื่อลั่วฝานกลับถึงบ้าน ก็เห็นหญิงสาวในชุดสีขาวคนหนึ่งกำลังนั่งซักผ้าอยู่ในลานบ้าน

ภรรยาคนที่สามซ่างกวนถิง ครอบครัวเคยพอมีเงินอยู่บ้าง เคยได้เรียนหนังสือในสำนักศึกษาอยู่หลายปี ถือเป็นสตรีผู้มีความรู้ความสามารถ

เพียงแต่ต่อมาครอบครัวตกต่ำลง จึงจำใจต้องแต่งงานกับลั่วฝาน เพราะว่าอ่านออกเขียนได้และทำบัญชีเป็น นางจึงทำงานเป็นผู้จัดการบัญชีอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

“กลับมาแล้วหรือ”

ซ่างกวนถิงมีสีหน้าเรียบเฉย เห็นได้ชัดว่านางก็ดูถูกลั่วฝานไอ้คนเสเพลคนนี้เช่นกัน

“กินข้าวได้แล้ว!”

จูอีโหรวกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องเมื่อตอนเช้าเลยแม้แต่น้อย นางยกจานกับข้าวออกมาจานหนึ่ง

ในจานมีทุกอย่างปนกันไปหมด แถมยังมีเนื้ออยู่หลายชิ้น เพียงแต่มันผสมปนเปกัน จนส่งกลิ่นแปลกๆ ออกมา

“นี่ นี่มันของเหลือ?”

ลั่วฝานแสดงสีหน้ารังเกียจ

“ลูกจ้างในร้านอาหารที่ถิงเอ๋อร์ทำงานอยู่จะผลัดกันนำของเหลือกลับบ้านได้คนละครั้ง ประมาณครึ่งเดือนถึงจะวนมาถึง”

จูอีโหรวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ เนื้อสองชิ้นนี้เก็บไว้ให้ท่านกินนะ”

อู่ชิงแค่นเสียงเย็น “ของเหลือแล้วมันทำไม? ถ้าไม่ใช่เพราะถิงเอ๋อร์ พวกเราแม้แต่ของเหลือก็ยังไม่มีกิน!”

ลั่วฝานทำหน้ารังเกียจ ของเหลือนี้มันบูดไปแล้ว กินไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาจึงเทของเหลือลงในถังเศษอาหารโดยตรง

“ท่านทำอะไร!”

อู่ชิงตวาดเสียงดังลั่น “เมื่อเช้าข้าอุตส่าห์ไปจับหนูนามาได้หลายตัว ท่านก็โยนมันทิ้ง! ถิงเอ๋อร์ลำบากเอาของเหลือกลับมา ท่านก็เทมันทิ้งอีก! ท่านอยากให้พวกเราสามคนอดตายกันหรือไร?!”

เมื่อเห็นของที่ตนอุตส่าห์แบกกลับมาถูกเททิ้งไปแบบนี้ ดวงตาของซ่างกวนถิงก็แดงก่ำ “ท่านพี่ ท่านไม่กิน แต่พวกเราต้องกินนะ!”

“ผู้หญิงของข้าลั่วฝานจะกินของเหลือได้อย่างไร?”

ลั่วฝานส่ายหน้า แล้วขนของที่ตนเองซื้อมาจากร้านค้าเข้ามา

“ข้าวสาร เนื้อไก่ เนื้อแกะ?”

จูอีโหรวเบิกตากว้างทันที “ท่านพี่ ของพวกนี้ท่านได้มาจากที่ไหน?”

“ข้าหามาได้”

ลั่วฝานยิ้มพลางหยิบผ้าออกมาหลายพับ “ถิงเอ๋อร์ เจ้าทำงานเย็บปักถักร้อยเป็น ผ้าผืนนี้เจ้านำไปตัดชุดใหม่ให้พวกเจ้าสามคนหลาย ๆ ชุดนะ”

ตลอดหลายปีที่สามพี่น้องอยู่กับลั่วฝาน ชีวิตช่างยากลำบากเหลือเกิน เสื้อผ้าของทุกคนเต็มไปด้วยรอยปะชุน

“ทะ ท่านพี่...”

ซ่างกวนถิงก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึง “ท่านมีเงินไม่ใช่ว่าเอาไปเล่นพนันหมดหรือ... เหตุใดถึงซื้อผ้ามาตัดชุดให้พวกเราล่ะ? บ้านเรายังติดหนี้อยู่ไม่ใช่หรือ?”

“เรื่องหนี้สินข้าจะหาทางจัดการเอง หลายปีมานี้พวกเจ้าลำบากแล้ว ต่อไปนี้ ข้าจะให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ร่ำรวยสุขสบาย”

ลั่วฝานพูดจบ ก็เข้าครัวไปทำอาหารด้วยตัวเอง

เขานึ่งข้าวสารหอมกรุ่นหม้อใหญ่ ทำไก่อบหม้อ เนื้อแกะทอด น้ำแกงเป็ดตุ๋น... เขาทำกับข้าวเต็มโต๊ะ

ครึ่งชั่วยามต่อมาเมื่อถึงเวลาอาหาร ทั้งสามคนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!

“ท่านพี่ วันนี้กับข้าวอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ขนาดตอนปีใหม่บ้านเรายังไม่ได้กินเยอะขนาดนี้เลย!”

ทั้งสามคนทำท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้ากิน ลั่วฝานจึงคอยคีบกับข้าวใส่ถ้วยให้พวกนางไม่หยุด “เอ้า กินเยอะๆ หน่อย กินไม่หมด พรุ่งนี้ก็เสียหมดพอดี”

ทั้งสามคนจึงเริ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พวกนางกินรำข้าวดื่มน้ำข้าวต้มมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสอาหารอร่อยขนาดนี้ พวกนางจึงไม่เกรงใจอีกต่อไป

“อ่า... ต่อไปนี้บ้านเราจะมีเนื้อมีปลาตัวใหญ่กินทุกวัน”

เมื่อกินอิ่มหนำสำราญแล้ว ลั่วฝานก็เรอออกมา

เขารู้สึกได้ว่าสายตาของอู่ชิงไม่ได้เต็มไปด้วยความเป็นศัตรูอีกต่อไป และท่าทีของซ่างกวนถิงก็ไม่เหมือนกับปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าแล้ว

ฟ้ามืดแล้ว ซ่างกวนถิงรับหน้าที่ล้างจาน ส่วนอู่ชิงที่มีแรงเยอะก็ไปตักน้ำผ่าฟืน

“ท่านพี่ ข้ามาปรนนิบัติท่าน เข้า เข้านอน”

แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา สะท้อนให้เห็นร่างที่อวบอิ่มสมส่วนของจูอีโหรว นางค่อยๆ เปลื้องอาภรณ์ออก เหลือเพียงเสื้อชั้นในสีแดง ผิวขาวเนียนดุจหิมะปรากฏสู่สายตา

ต้นกล้าเล็กๆ บนร่างกายที่อ่อนล้าของลั่วฝานพลันเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในชั่วพริบตา

คืนนั้น เตียงนอนเก่าๆ สั่นไหวไม่หยุด

นอกห้อง ฝนพรำโปรยปราย ในห้อง เมฆฝนพลิกตลบ

……

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ลั่วฝานก็มุ่งหน้าเข้าเมืองทันที เพื่อไปทำกระดาษเยื่อไผ่ต่อ!

เยื่อกระดาษที่ได้จากการทุบไผ่ต้องแช่ในน้ำสองวัน หลังจากลั่วฝานตรวจสอบขั้นตอนการทำงานแล้ว เขาก็กำชับให้คนงานเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง

เขาคิดว่าตนเองน่าจะลองประดิษฐ์ของเล็กๆ น้อยๆ เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่บ้าง

หลังจากเดินสำรวจบนถนนอยู่รอบหนึ่ง ลั่วฝานก็พบว่าระดับเทคโนโลยีของต้าเซิ่งนั้นล้าหลังมาก ผู้คนสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าป่าน แม้แต่เสื้อผ้าฝ้ายก็ยังไม่มี ลั่วฝานคิดไปคิดมา ดูเหมือนว่าในยุคนี้ ฝ้ายยังไม่ได้ถูกนำเข้ามาในต้าเซิ่ง

ชาวบ้านทั่วไปในต้าเซิ่งสวมใส่เสื้อผ้าป่าน พวกขุนนางชนชั้นสูงสวมใส่ผ้าไหม ส่วนในฤดูหนาวก็จะสวมใส่ขนสัตว์

“ใครบอกว่าทะลุมิติมายังยุคโบราณ จะสามารถใช้ความทรงจำจากชาติก่อนหาเงินสร้างตัวได้ง่ายๆ?” ลั่วฝานบ่นพึมพำในใจ

ในยุคโบราณที่ขาดแคลนทรัพยากรเช่นนี้ การจะปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ ทำได้เพียงคิดหาวิธีจากสิ่งพื้นฐานและใช้ประโยชน์ได้จริงที่สุดเท่านั้น

เมื่อถึงตอนเที่ยง ลั่วฝานกลับไปที่โรงพิมพ์ของสวีหย่วน ในหัวของเขามีวิธีที่จะทำให้ร่ำรวยนับร้อยนับพันวิธี แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ในมือไม่มีเงิน แม้จะมีทักษะความสามารถ ก็ไม่อาจสร้างสรรค์ผลงานได้หากขาดทรัพยากร

สวีหย่วนเห็นลั่วฝานเดินเตร็ดเตร่มาทั้งวัน ก็รีบสั่งให้เด็กรับใช้รินชาให้ลั่วฝานถ้วยหนึ่ง

“ลั่วฝาน กระดาษเยื่อไผ่เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” สวีหย่วนถามด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

ตอนนี้สวีหย่วนต้องการกระดาษเหล่านี้มาช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน วันนี้เถ้าแก่สวี่ก็ส่งคนมาเร่งแล้ว

ลั่วฝานเห็นสีหน้าวิตกกังวลของสวีหย่วน จึงกล่าวปลอบโยน “เถ้าแก่สวีไม่ต้องกังวล ภายในสามวัน ข้าจะส่งมอบกระดาษเยื่อไผ่ให้ท่านอย่างเพียงพอแน่นอน”

สวีหย่วนไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงรอต่อไป

ลั่วฝานกวาดสายตามองไปรอบๆ โรงพิมพ์ แล้วเอ่ยถาม “เถ้าแก่สวี ในโรงพิมพ์ของท่านขายหนังสืออะไรบ้าง? วันหนึ่งขายได้ประมาณเท่าไร?”

โรงพิมพ์ในยุคโบราณ ส่วนใหญ่จะขายหนังสืออ่านเล่นทั่วๆ ไป ไม่ก็เป็นแนวพรรณนาอารมณ์ หรือเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆ ของบัณฑิตหนุ่มกับสาวงาม อีกทั้งประเภทของหนังสือก็มีน้อยมาก วนเวียนอยู่แค่ไม่กี่เล่มเท่านั้น
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 30

    ระยะเวลาในการแช่ไม้ไผ่ โดยทั่วไปยิ่งนานยิ่งดี กระดาษก็จะยิ่งอ่อนนุ่มแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เพื่อดึงดูดลูกค้า ลั่วฝานก็ยังยืนกรานที่จะแช่ไว้ครึ่งเดือน ถึงจะเริ่มขั้นตอนที่สองนั่นคือการนึ่ง“จางเหลียว หม่าเหลียง พยายามกำจัดสิ่งเจือปนออกไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว” ลั่วฝานขมวดคิ้ว สั่งการหม่าเหลียงและจางเหลียวค่อนข้างมีความสามารถ อีกทั้งยังฉลาดมาก ส่วนจางหู่กลับดูซื่อ ๆ ไปบ้าง แต่ก็สามารถข่มขวัญคนที่คิดไม่ซื่อได้“เถ้าแก่ กระดาษของเรานี้เรียกว่าอะไรหรือขอรับ”หม่าเหลียงมองเยื่อไผ่ที่นึ่งไปแล้วสามครั้ง เอ่ยถามขึ้น“คิดไว้แล้ว เรียกว่ากระดาษเหวินหย่าเซวียน!”“จิ๊ ๆ ช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ”หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดการผลิตชุดใหม่ก็เสร็จสิ้น ผลิตได้ทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าแผ่น หักที่ต้องให้โรงกระดาษหยางจี้ห้าพันแผ่น ยังเหลืออีกห้าพันแผ่น ลั่วฝานตั้งใจจะเก็บไว้หาคู่ค้าเพิ่มอีกสักสองสามรายขนกระดาษหนึ่งหมื่นแผ่นขึ้นรถม้า ลั่วฝานพาหม่าเหลียงและจางหู่มุ่งหน้าไปยังเมืองลวี่วั่งออกจากบ้านแต่เช้า พอใกล้ถึงตอนเที่ยงก็มาถึงเมืองลวี่วั่ง ลั่วฝานอาศัยความทรงจำตามหาโรงก

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 29

    อีกทั้งลั่วฝานยังรู้ดีว่าหลี่หน้าบากไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ได้ เป็นไปได้เพียงว่ามีคนว่าจ้างให้หลี่หน้าบากมาฆ่าคน“ให้ตายเถอะ เงินแท้ตั้งสองร้อยห้าสิบตำลึง หลี่หน้าบากไปร่ำรวยมาจากไหนตั้งแต่เมื่อใดกัน?” จางหู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเมื่อหวนนึกถึงเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชที่จงใจถ่วงเวลาเมื่อครู่ ลั่วฝานก็แสยะยิ้มเย็นชา “ดูท่าว่า พวกเขาคงวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดจะดักปล้นฆ่าพวกเรากลางทาง”“เถ้าแก่ ท่านหมายความว่าเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชคนนั้นมีปัญหาหรือขอรับ?” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“จางเหลียว เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้ารู้จักกับเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช?” สีหน้าของจางหู่เปลี่ยนไปทันที ตวาดเสียงกร้าว“จางหู่” ลั่วฝานพูดขัดจางหู่ขึ้นมา ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่จางเหลียว เมื่อครู่ในมือของจางเหลียวถือมีดตัดฟืน ทั้งยังอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา หากเขามีความคิดไม่ดี ข้าคงตายไปนานแล้ว”จางเหลียวประสานหมัดกล่าว “ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”จางหู่ตะโกนอย่างเดือดดาล “หากข้ารู้นะว่าไอ้สารเลวหน้าไหนมันคิดร้ายต่อพี่ชายของข้า ข้าจางหู่จะชกมันให้ตายไปเลย”“กลับเข้าเมืองก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อย ๆ คิ

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 28

    จากนั้นก็ทะยานพรวดขึ้น โถมเข้าใส่ม้าตัวนั้น ฉากต่อมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงจนอ้าปากค้างเห็นจางหู่กอดรวบหัวม้าไว้ คำรามลั่นแล้วเหวี่ยงออกไปสุดแรง!ม้าชั้นดีที่หนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันชั่ง ถูกจางหู่เหวี่ยงกระเด็นไปไกลถึงสิบเมตรหัวหน้าโจรป่าที่นั่งอยู่บนหลังม้า ถูกม้าทับอยู่ใต้ท้องในทันที กระอักเลือดออกมาคำโต ไม่นานก็สิ้นใจตายโจรป่าที่เหลืออีกสองสามคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงอย่างหนัก แววตาฉายแววหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัดจางหู่ในยามนี้ ในสายตาของพวกเขา ไม่ต่างอะไรไปจากอสูรสงครามตนหนึ่งเลย“จางหู่ ลั่วฝาน พวกเจ้าจงไปตายเสีย!” โจรป่าสองสามคนคำรามลั่น ควบม้าเงื้อดาบพุ่งเข้าใส่จางหู่ลั่วฝานเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นคนเหล่านี้รู้ชื่อของข้าได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นคนรู้จักกัน?ลั่วฝานมัวแต่คิดไม่ตก พลันเห็นจางหู่คำรามลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่คนทั้งห้าเห็นเพียงจางหู่พลิกตัวหลบคมดาบยาวที่ฟันเข้ามาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชกหมัดตรงเข้าที่ท้องของม้าอย่างจังม้าร้องโหยหวนออกมาเสียงหนึ่ง ร่างกายอ่อนยวบ โซซัดโซเซล้มลงกับพื้นจางหู่ฉวยโอกาสนั้นจับโจรที่อยู่บนหลังม้า ทุ่มลงกับพื้นจนมึนงงไป

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 27

    เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชยิ้มประจบประแจง “นั่นน่ะสิขอรับ ใครบ้างจะไม่รู้ว่ากระดาษของเฉิงซินถังตระกูลหวังนั้นดีที่สุดในเมืองหย่งอัน ไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกนั่นมันจะไปนับเป็นอะไรได้ ถึงกล้ามาแย่งธุรกิจกับตระกูลหวัง”“ฮ่า ๆ พูดได้ดี”ชายร่างผอมบางมองไปยังเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช “เจ้าวางใจได้ ต่อไปธัญพืชของตระกูลหวังข้า จะให้เจ้าเป็นคนจัดหาให้”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้นยินดีในทันที “ขอบคุณเถ้าแก่หวังมากขอรับ”ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม พอออกมาจากตำบลได้ราวสองลี้ ลั่วฝานก็พลันสังเกตเห็นว่ามีคนติดตามอยู่รอบ ๆลั่วฝานสงสัยอย่างมากว่า เมื่อครู่เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชจงใจถ่วงเวลา ทำให้ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่สามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันได้“เถ้าแก่ ไม่น่าไว้วางใจเลยขอรับ” จางเหลียวขมวดคิ้ว กวาดตามองไปรอบทิศ“มีอันใดหรือ? มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“ด้านหน้าคล้ายกับมีคนอยู่ขอรับ อาจจะเป็นพวกโจรป่าดักปล้น” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของจางเหลียว ลั่วฝานก็ทอดสายตาไปเบื้องหน้า พลันเห็นคบเพลิงสี่ห้าอันสว่างวาบขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนช่วงเวลาเช

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 26

    ธัญพืชสิบสือ ก็คือหนึ่งพันชั่งในยุคโบราณ นี่ถือเป็นการค้าที่ใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ร้านขายธัญพืชเองก็ใช่ว่าจะหาธัญพืชจำนวนมากขนาดนี้ออกมาได้ง่าย ๆ“เถ้าแก่ รอไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวุ่นวายเพราะภัยสงคราม ยามค่ำคืนเกรงว่าจะมีพวกโจรออกอาละวาด” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเตือนสติลั่วฝานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เถ้าแก่ ตอนนี้ท่านมีธัญพืชอยู่เท่าใด?”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชกล่าวว่า “มีธัญพืชไม่ถึงสามสือขอรับ หากพวกท่านต้องการ ข้าก็สามารถขายให้พวกท่านได้ทั้งหมด”ธัญพืชสามสือก็ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านมีคนกินข้าวอยู่สิบกว่าชีวิต ในแต่ละวันต้องบริโภคข้าวสารสิบกว่าชั่ง สามสือก็พอจะประทังไปได้หนึ่งเดือนทว่า ในขณะที่ลั่วฝานกำลังคิดจะจ่ายเงินแล้วกลับเข้าเมืองนั้นเอง เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชก็พลันกล่าวขึ้นว่า “เดี๋ยวจะมีธัญพืชมาส่งอีกชุดหนึ่งแล้วขอรับ ท่านรออีกเพียงหนึ่งชั่วยามก็พอ น่าจะมีสักประมาณห้าสือ”หนึ่งชั่วยามหรือ? ลั่วฝานหันไปมองจางเหลียว แล้วกล่าวว่า “จะสามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันก่อนฟ้ามืดได้หรือไม่?”จางเหลียวเงยหน้ามองดูสีของท้องฟ้า พยักหน้าแล้วตอบว่า “ก็น่าจะทันอยู่ขอรับ”เม

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 25

    “ออกไปนอกเมืองหรือขอรับ?” สีหน้าของจางเหลียวตกตะลึง“มีอันใดหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“เถ้าแก่ ท่านอาจยังไม่ทราบ ตอนนี้ด้านนอกเมืองหย่งอันวุ่นวายไปหมดแล้วขอรับ ได้ยินมาว่าด่านชายแดนถูกตีแตกแล้ว ช่วงนี้จึงมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมือง” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“ผู้อพยพ?” ลั่วฝานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ฉายแววระมัดระวังขึ้นมา“พวกเราจำเป็นต้องออกไปนอกเมืองจริง ๆ หรือขอรับ?” จางเหลียวเอ่ยถามลั่วฝานพยักหน้า “เจ้าก็รู้ว่าราคาข้าวสารอาหารแห้งในเมืองมันแพงเพียงใด คนสิบกว่าชีวิตต้องกินต้องใช้ ธัญพืชถือเป็นรายจ่ายก้อนโตทีเดียว”หากคิดจะประหยัดต้นทุน ก็ทำได้เพียงออกไปรับซื้อธัญพืชตามหมู่บ้านนอกเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้ด้านนอกเมืองมีผู้อพยพอยู่ เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลั่วฝานก็ยังคงตัดสินใจที่จะออกไปนอกเมืองความมั่งคั่งย่อมต้องเสาะหามาจากในภยันตราย หากปราศจากความกล้า ก็อย่าได้คิดทำการใหญ่“พวกเราฟังเถ้าแก่ขอรับ” จางเหลียวกล่าวลั่วฝานพยักหน้า เตรียมตัวจะออกจากบ้าน ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหลังเดินกลับไปบอกจูอีโหรวว่า “ตอนกลางวันข้า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status