Share

บทที่ 5 นอนละเมอ 1/2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-24 20:16:27

บทที่ 5

นอนละเมอ

ขณะที่จางเสี่ยวมี่นั่งอยู่บนหลังม้าโดยตกอยู่ในอ้อมกอดของเซียวจ้าน นางนั้นรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก แผ่นหลังเล็กเกร็งจนรู้สึกเมื่อยขบเพราะการที่นั่งไม่สบายบนหลังม้า หากนับจากชาติก่อนจนถึงชาตินี้นี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดกับบุรุษถึงเพียงนี้ ในชาติก่อนก็มุ่งแต่ทำงานโดยไม่ได้สนใจมองบุรุษใดเลย ส่วนในชาตินี้นางกับหวังหมิงผู้เป็นอดีตคู่หมั้นนั้น แม้แต่มือยังไม่เคยได้จับเลยสักครั้ง แต่ในตอนนี้เซียวจ้านผู้ที่นางเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกกำลังกักขังนางในอ้อมกอดของเขา

เสียงหัวใจอันหนักแน่นมั่นคงของเซียวจ้านเต้นแรงจนแม้แต่จางเสี่ยวมี่ยังได้ยิน หญิงสาวยืดแผ่นหลังเล็กนั่งหลังตรงพยายามไม่ให้ตัวเองโดนตัวเขามากนัก แต่เหมือนว่าสวรรค์จะไม่เป็นใจนักเพราะเวลานี้ร่างกายของทั้งสองมันแนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเข้าด้วยกันอยู่แล้ว

"อย่าเกร็ง"

น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นเบา ๆ ข้างใบหูเล็ก ลมหายใจกรุ่นร้อนถูกพ่น มาถูกใบหูเล็กจนจางเสี่ยวมี่รู้สึกขนลุกซู่ 

"ข้าไม่ได้เกร็งเจ้าค่ะ"

"อืม..."

เซียวจ้านจับสายบังเหียนม้าข้างเดียวแล้วบังคับม้าให้ผ่อนแรงวิ่งช้าลงกว่าปกติมาก ก่อนที่เขาจะถือวิสาสะเอื้อมมือมาจับเอวเล็กคอดของหญิงสาว ใช้แรงเพียงนิดก็ดันหน้าท้องของนางมาทางด้านหลังเป็นผลให้จางเสี่ยวมี่เอนกายซบไปที่หน้าอกแกร่งของเซียวจ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ

"อ๊ะ!"

จางเสี่ยวมี่สะดุ้งตัวด้วยความตกใจ นางพยายามจะเอนกายไปด้านหน้าแต่กลับถูกเซียวจ้านจับตรึงไว้เช่นนั้น โดยที่เขาโน้มใบหน้าจนริมฝีปากหยักลึกปัดผ่านมาเกือบโดนแก้มเนียนใสอย่างจงใจ

"อย่าดื้อ ถ้าตกลงไปข้าจะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่"

นี่เป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่เซียวจ้านเอ่ยกับจางเสี่ยวมี่ มุมปากหยักลึกยกสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นสีหน้าที่หงุดหงิดของหญิงสาว และในตอนที่เขาโน้มหน้าลงมานั้นทำให้จมูกโด่งเผลอไผลสูดดมกลิ่นกายสาวโดยไม่ได้ตั้งใจ กลิ่นกายของนางช่างหอมกรุ่นคล้ายกับดอกไม้ป่า และในเวลาเดียวกันยังให้ความรู้สึกสดชื่นด้วย

"ข้าไม่ได้ดื้อสักหน่อย"

จางเสี่ยวมี่เอ่ยพึมพำเสียงเบากับตนเอง แต่เพราะเซียวจ้านนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์เขาจึงได้ยินที่นางเอ่ยบ่นอย่างชัดเจน ดวงตาคู่คมทอประกายเอ็นดูเมื่อมองหญิงสาวที่เอนกายพิงหน้าอกของเขา 

ฉับพลันเซียวจ้านก็ได้เปลี่ยนเส้นทางเป็นอีกทางหนึ่ง และบังคับม้าให้วิ่งไม่เร็วมากนักเพื่อที่จะให้นางไม่ต้องปะทะกับลมแรง ๆ ในยามกลางคืน สายลมเย็น ๆ ที่ปะทะใบหน้างาม กอปรกับได้นั่งท่าที่สบายทำให้จางเสี่ยวมี่ได้เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ศีรษะเล็กเอนเอียงไปมาก่อนจะเอนซบตรงไหล่แกร่งของเซียวจ้าน

ชายหนุ่มผู้อยู่แต่ในสนามรบมาเกือบทั้งชีวิตเผลอยิ้มขัน เมื่อเห็นหญิงสาวผล็อยหลับไปแล้วจึงได้กอดเอวของนางเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวแน่น ส่วนอีกข้างก็คอยบังคับม้าให้วิ่งไปในความเร็วที่เขาต้องการ

หย่งหมิ่นที่ควบม้าตามมาด้านหลังก็แปลกใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่เจ้านายเปลี่ยนเส้นทาง เขาจึงได้ควบม้าเข้ามาใกล้หวังจะเอ่ยถามเพื่อให้คลายความสงสัย แต่ยังไม่ทันเอ่ยปากพูดสิ่งใดกลับถูกเซียวจ้านมองมาด้วยสายตาดุดัน พร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากหยัก หย่งหมิ่นแปลกใจเพียงชั่วครู่เดียวก่อนจะเข้าใจ เหตุเพราะได้เห็นว่าตอนนี้คุณหนูจางผู้นั้นได้หลับใหลสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ทั้งยังอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเจ้านายเขาเสียด้วย

ครึ่งชั่วยามผ่านไปทั้งหมดก็ได้มาถึงยังหน้าถ้ำที่มีคนเฝ้าอยู่ก่อนแล้ว องครักษ์กว่าสิบนายคุกเข่าคารวะเซียวจ้านด้วยท่าทางนอบน้อม ก่อนจะแยกตัวกันไปอารักขาโดยรอบเพื่อความปลอดภัย พวกเขาคือกำลังสำคัญของเซียวจ้าน ทุกคนล้วนถูกฝึกมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะให้เก็บสีหน้าและคำพูดของตนเอาไว้ ไม่ว่าจะเห็นสิ่งใดก็อย่าได้แม้แต่สงสัยหรือเอ่ยถามขึ้นมา

เซียวจ้านอุ้มจางเสี่ยวมี่ที่ยังคงหลับอยู่ลงมาจากหลังม้า เขาพานางเดินเข้าไปยังภายในถ้ำที่ภายนอกมืดมิด แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปกลับพบว่าทางเดินนั้นได้มีคบเพลิงถูกจุด และตั้งเอาไว้อยู่ตามผนังถ้ำเพื่อให้แสงสว่าง ยิ่งเดินลึกเข้าไปจนสุดทางกลับพบว่าภายในถ้ำนั้นมีข้าวของเครื่องใช้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงตั่งที่มีม่านผ้าไหมเนื้อดีทิ้งตัวลงมา โต๊ะเก้าอี้หนึ่งชุดพร้อมกับกาน้ำชาและอาหารง่าย ๆ สองสามอย่างที่มีควันลอยกรุ่นออกมา

หากจางเสี่ยวมี่ตื่นขึ้นมาคงจะประหลาดใจเป็นแน่ นางคงไม่คิดว่าจะมีคนใช้ถ้ำมาเป็นที่พักอาศัยซึ่งเปรียบเสมือนบ้านเช่นนี้ 

ชายหนุ่มค่อย ๆ วางร่างของจางเสี่ยวมี่ลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็คลี่ผ้าห่มที่ทำจากขนแกะคลุมทับที่ร่างกายของนางอย่างแผ่วเบา ในตอนที่เขาจะเดินจากไปก็จำได้ว่านางได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าด้วย เขาจึงเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วตรวจดูที่ข้อเท้าของนาง ก่อนจะหยิบผงยาในขวดหยกเทลงไปที่ข้อเท้าเล็ก ตามด้วยเอาผ้าสะอาดสีขาวพันที่ข้อเท้าของนางเอาไว้

"อื้อ..."

จางเสี่ยวมี่ขยับกายเล็กน้อยด้วยความไม่สบายตัว นางพลิกตัวไปมาด้วยความกระสับกระส่าย ฝ่ามือเล็กปัดป่ายไปทั่วก่อนจะจับถูกมือของเซียวจ้าน นางดึงมือของเขาเอามาแนบกับแก้มของตนแล้วก็หลับต่อไปทั้งอย่างนั้น...

จางเสี่ยวมี่นั้นมีนิสัยอย่างหนึ่งในยามนอนนั่นคือนางจะต้องนอนกอดตุ๊กตาเสมอ นิสัยนี้ติดมาตั้งแต่ยามเป็นลูกหว้าในชาติแรก ต่อมาเม่อได้กลายมาเป็นจางเสี่ยวมี่นางก็ยังคงมีนิสัยการนอนเช่นนี้อยู่

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 7 ความจริงใจของสุ่ยเหอหมิง

    ตอนพิเศษ 7 ความจริงใจของสุ่ยเหอหมิง คล้อยหลังจากที่สุ่ยเหอหมิงจากไปไกลแล้ว อวี้เซียวจ้านที่เห็นและได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองจึงได้เดินออกมาจากที่ซ่อน เขาเดินเข้ามานั่งข้างจางเสี่ยวมี่แล้วกอดนางเอาไว้แนบอก หัวใจของผู้เป็นพ่ออดจะรู้สึกวูบโหวงขึ้นมาเสียไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งยินดีและรู้สึกใจหาย ราวกับหัวใจได้ถูกฉุดกระชากของไปจากมือที่มองไม่เห็น "น้องหญิง พี่ทำดีแล้วใช่หรือไม่" "เจ้าค่ะ ท่านพี่ทำดีที่สุดแล้ว เจียวเอ๋อร์เราโตเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ทำได้เพียงแค่เฝ้าดู และพร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างนางเจ้าค่ะ" "เฮ้อ...พี่รู้สึกปวดใจนักที่อาจจะต้องสูญเสียเจียวเอ๋อร์ไป พี่ยังรู้สึกว่านางยังเด็กเกินไปเลย" ผู้เป็นฮ่องเต้งอแงกับความจริงในข้อนี้ หรือเขาควรจะกีดกันสุ่ยเหอหมิงดี "ท่านพี่...ลูกโตแล้วนะเจ้าคะ ลูกควรจะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ท่านพี่รู้ใช่หรือไม่ว่าชีวิตก่อนของเจียวเอ๋อร์นั้นมันสาหัสเพียงใดสำหรับนาง" "พี่รู้ดี พี่ถึงอยากให้เจียวเอ๋อร์มีความสุขอย่างไรเล่า" อวี้เซียวจ้านเอ่ยเสียงอ่อนลง เขายอมจำนนแล้ว ที่เหลือก็คงอยู่ที่ความสามาร

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 6 ฝ่าด่านจากเหล่าบุรุษตระกูลอวี้

    ตอนพิเศษ 6ฝ่าด่านจากเหล่าบุรุษตระกูลอวี้มื้อเย็นวันนี้ที่ตำหนักคุนหนิงล้วนอบอวลไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะ อวี้เซียวจ้านคอยคีบอาหารให้กับจางเสี่ยวมี่ตลอดเวลา ทางด้านสององค์ชายก็คอยเอาอกเอาใจเสด็จพี่หญิงของตนด้วยกันทั้งคู่ จางเสี่ยวมี่ที่นั่งทานอาหารอยู่นั้นพลางจับสังเกตสีหน้าของอวี้หนิงเจียวได้ แม้ว่านางจะพยายามพูดคุยหัวเราะกับอวี้หนิงเฉิงและอวี้หนิงหวง แต่ในแววตาคู่นั้นกลับฉาบด้วยความสับสนและครุ่นคิดตลอดเวลา"เจียวเอ๋อร์มีสิ่งใดหรือไม่ แม่รู้สึกว่าเจียวเอ๋อร์ดูกังวลใจตลอดเวลา หรือว่าอาการขององค์รัชทายาทไม่ค่อยสู้ดีนัก"ทุกคนที่นั่งล้อมรอบต่างวางตะเกียบแล้วหันมามองอวี้หนิงเจียวเป็นตาเดียว คิ้วกระบี่สามคู่ขมวดมุ่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน"เอ่อ...อาการขององค์รัชทายาททรงดีขึ้นมากแล้วเพคะ รักษาตัวอีกไม่นานก็จะกลับมาหายเป็นปกติแล้วเพคะ""เช่นนั้นลูกกังวลสิ่งใดเล่า"อวี้เซียวจ้านเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เขาเองก็สังเกตได้ว่าสีหน้าของอวี้หนิงเจียวนั้นราวกับคนที่มีเรื่องให้ครุ่นคิดตลอดเวลา"หรือว่าองค์รัชทายาทนั่นทำสิ่งใดให้เสด็จพี่หญิงไม่พอพระทัยกันพ่ะย่ะค่ะ" อวี้หนิงหวงโผงขึ้นมาบ้าง"เอ่อ...คือ

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 5 เกี้ยวดวงใจของแคว้นอวี้

    ตอนพิเศษ 5เกี้ยวดวงใจของแคว้นอวี้อวี้หนิงหวงมองดูพี่สาวด้วยความรู้สึกโล่งอก เขากับพี่ชายอาจจะคิดมากเกินไปก็เป็นได้ อีกไม่นานหลังจากองค์รัชทายาทผู้นี้รักษาตัวหายดีแล้ว เขาก็ต้องกลับไปยังแคว้นสุ่ย เมื่อถึงตอนนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พบเจอกันอีก เสด็จพี่หญิงใหญ่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่สนใจในตัวองค์รัชทายาทผู้หล่อเหลาสง่างามผู้นี้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้ยินว่านางไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานมาก่อน เขาก็พลอยรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ท่าทีของเขาจึงผ่อนคลายลงไปด้วย"วางใจแล้วใช่หรือไม่ เช่นนั้นก็ออกไปได้แล้ว""พ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่หญิง เช่นนั้นข้าจะออกไปรอข้างนอก มื้อเย็นวันนี้เราจะได้ไปร่วมโต๊ะเสวยกับเสด็จแม่ด้วยดีหรือไม่ เสด็จแม่ทรงบ่นหาเสด็จพี่หญิงใหญ่นานหลายวันแล้วพ่ะย่ะค่ะ""เข้าใจแล้ว"อวี้หนิงเจียวอมยิ้มน้อย ๆ กับความเจ้ากี้เจ้าการของน้องชายคนเล็ก ก่อนที่นางจะหันมาสนใจคนเจ็บที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง มองเผิน ๆ คงคิดว่าเขายังคงหลับไม่ได้สติ แต่นางที่มีความรู้เรื่องการแพทย์ย่อมมองออกว่าเขารู้สึกตัวแล้ว"จะทรงแอบฟังอีกนานหรือไม่เพคะ องค์รัชทายาทสุ่ยเหอหมิง"เปลือกตาของบุรุษค่อย ๆ ขยับลืมขึ้นมา เผยให้เห็นดวงตาสีนิลดั่งพ

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 4 องค์หญิงใหญ่ผู้เข้มงวด

    ตอนพิเศษ 4องค์หญิงใหญ่ผู้เข้มงวดสิบห้าปีผ่านไปวันเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากเด็กน้อยที่ไม่รู้ความเติบใหญ่กลายเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มากความสามารถ รอบรู้ในศาสตร์แห่งสตรี เก่งกาจเรื่องสมุนไพร สามารถวินิจฉัยร่วมกับท่านหมอหลวงรักษาอาการของผู้คนได้ ใบหน้าส่อเค้าความงามอย่างโดดเด่นเฉกเช่นฮองเฮา แต่แววตากลับทอประกายแห่งความสุขุมเงียบขรึมเฉกเช่นฮ่องเต้ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ที่เย็นชาโหดเหี้ยมหาผู้ใดเทียบเทียม ทว่าจะมีเพียงฮองเฮาอันเป็นที่รักยิ่ง องค์หญิงใหญ่ องค์ชายใหญ่ และองค์ชายรองเท่านั้นที่จะได้รับความอ่อนโยนจากฮ่องเต้ทุกคนในแคว้นอวี้ต่างรู้กันดีว่าถ้าไม่อยากตายอย่างทุกข์ทรมาน ก็อย่าได้แตะต้องไข่มุกล้ำค่าบนพระหัตถ์ของฮ่องเต้อวี้เซียวจ้าน!นับจากวันที่องค์ชายทั้งสองพระองค์ได้ถือกำเนิด องค์หญิงใหญ่ก็เกาะติดองค์ชายทั้งสองไม่ยอมห่างกายไปไหน กลายเป็นพี่เลี้ยงที่มีทั้งความอ่อนโยน และความเข้มงวดในตอนที่องค์ชายทั้งสองซุกซนเกินไป องค์ชายทั้งสองเชื่อฟังเสด็จพี่หญิงใหญ่ผู้นี้มากกว่าผู้ใด มากเสียยิ่งกว่าเสด็จพ่อและเสด็จแม่เสียอีก และไม่มีผู้ใดที่จะปราบพยศความซุกซนขององค์ชายทั้งสองพระองค์ได้ นอกจ

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 3 กำเนิดองค์ชาย

    ตอนพิเศษ 3กำเนิดองค์ชายนับตั้งแต่อวี้เซียวจ้านพาอวี้หนิงเจียวมาออกว่าราชการด้วยกันกว่าครึ่งปี องค์หญิงก็ได้เป็นที่รักของเหล่าขุนนางไปด้วย มีขุนนางไม่น้อยที่เอ็นดูองค์หญิงผู้นี้ยิ่งนัก บางคนก็นึกอยากจะให้บุตรชายของตนได้หมั้นหมายเกี่ยวดองกับองค์หญิงผู้เป็นที่รักของฮ่องเต้ แต่ช่างน่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายอำนาจของอวี้เซียวจ้าน"ทูลฝ่าบาท เมืองฝางในแดนใต้ได้เกิดโรคระบาดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่ทราบที่มาของการเกิดโรค แต่กระหม่อมได้ส่งท่านหมอเข้าไปในพื้นที่แล้วพ่ะย่ะค่ะ""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง" บรรยากาศในท้องพระโรงพลันเคร่งเครียดขึ้นเมื่อเกิดเรื่องร้ายที่แดนใต้ เรื่องโรคระบาดนี้หากป้องกันไม่ดีจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้"มีชาวบ้านกว่าหนึ่งร้อยคนที่ติดโรคระบาดพ่ะย่ะค่ะ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาการคือท้องเสีย ปวดท้อง ตัวเหลือง อ่อนแรง มีไข้ เล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ยังโชคดีที่ยังไม่มีใครตายพ่ะย่ะค่ะ""หืม...ว่านราตรีม่วง"น้ำเสียงเล็กจากคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของฮ่องเต้ได้เรียกความสนใจจากทุกคน"อะไรคือว่านราตรีม่วงหรือเจียวเอ๋อร์""ก็อาการที่บอกไงเพคะ เหมือนคนถูกพิษว่านรา

  • พลิกชะตาคุณหนูใหญ่ผู้อาภัพ   ตอนพิเศษ 2 หนิงเจียวสร้างเรื่อง

    ตอนพิเศษ 2หนิงเจียวสร้างเรื่องบุตรสาวของเสนาบดีกรมโยธามีนามว่าโจวหลี่น่า นางได้มาเยือนวังหลังตามรับสั่งของฮ่องเต้ ทันทีที่นางเห็นองค์หญิงอวี้หนิงเจียวก็ได้มีความคิดชั่วร้ายออกมา หากนางสามารถเอาชนะใจองค์หญิงได้ ในวันข้างหน้านางก็จะต้องมีโอกาสอยู่ในสายพระเนตรของฝ่าบาทอย่างแน่นอน แต่นางคงจะคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงผู้นี้จะฉลาดกว่าที่นางคิดไว้มาก และยังทำกับนางอย่างเจ็บแสบเสียด้วยอวี้หนิงเจียวมองดูผู้มาใหม่ที่จะมาเป็นเพื่อนเล่นให้กับนางด้วยความสงสัย ศีรษะเล็กเอียงคอมองก่อนจะเอ่ยถามออกมา"พี่สาวจะมาเล่นกับเจียวเอ๋อร์หรือ""ใช่แล้วเพคะ ฝ่าบาทเป็นผู้ส่งหม่อมฉันให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับองค์หญิงเพคะ""ทำไมล่ะ"จื่อลู่ที่คอยดูแลข้างกายไม่ห่างรู้สึกไม่ดีนัก นางมองดูสตรีผู้นี้ด้วยความไม่ไว้วางใจ แต่ฮองเฮาบอกกับนางแล้วว่าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพียงมองดูอยู่เฉย ๆ ก็พอแล้ว"ก็เพราะฝ่าบาททรงไว้วางพระทัยในตัวหม่อมฉันอย่างไรเล่าเพคะ""อ้อ...ดี ๆ งั้นพี่สาวมาเล่นวิ่งไล่จับกับเจียวเอ๋อร์นะ""เพคะ"โจวหลี่น่าแย้มยิ้มกว้างด้วยความยินดี ก็แค่เล่นกับองค์หญิงที่ยังเยาว์วัย ไม่เห็นมีสิ่งใดที่ต้องน่าน่าหนักใจเลย องค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status