Share

บทที่ 136

Author: โม่เสียวชี่
ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนาง

หลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!

เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลิน

แต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมา

ด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"

พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"

นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลาง

ไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมา

เห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้าน

แต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยน

เฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
เรยา วงศ์เศวต
เออ มันต้องพลิกแบบนี้
goodnovel comment avatar
ros 111
สุดท้ายส่งลูกแท้ๆของตัวเองไปทรมาน เอาใจคนที่มาแอบอ้างว่าเป็นลูก ถ้าเรื่องพลิกแบบนี้คงสะใจพิลึก ไอ้เซียวเหิงได้คุนหนูตัวปลอม
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1272

    เมืองหลวงของแคว้นถัง เจริญรุ่งเรืองนักถนนจูเชวี่ยกว้างขวางจนสามารถให้รถม้าสิบคันวิ่งเคียงกันได้ ทั้งสองฝั่งเรียงรายด้วยร้านค้าอันโอ่อ่า ชายคาและไม้คานแกะสลักอย่างประณีตกลิ่นของผ้าไหมแพรพรรณ เครื่องทองเงินหยก และเครื่องเทศจากต่างแดนผสมคลุ้งอยู่ในอากาศเย็นของต้นฤดูหนาว ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมฟุ่มเฟือยและเป็นเอกลักษณ์ผู้คนเบียดเสียดเดินขวักไขว่ แต่งกายงดงาม เสียงตะโกนขายของของพ่อค้า เสียงล้อรถม้า เสียงดนตรีจากโรงเตี๊ยม รวมกันกลายเป็นทะเลแห่งความจอแจอึกทึกเมืองหลวงของแคว้นถังที่มีตระกูลมู่ซึ่งร่ำรวยที่สุดในใต้หล้าอยู่ด้วยนั้น ช่างน่าตะลึงนัก“ความรุ่งเรืองในเมืองหลวงของแคว้นถัง นับเป็นอันดับหนึ่งของใต้หล้า” เสียงของมู่ซ่างเสวี่ยดังขึ้นข้างกาย แฝงไว้ด้วยความภาคภูมิที่แทบสังเกตไม่ออกวันนี้เขาเปลี่ยนมาใส่เสื้อคลุมไหมสีม่วงเข้ม ที่คอเสื้อและชายแขนเสื้อประดับลวดลายเมฆเงินสลับซับซ้อน เอวห้อยเหรียญเหล็กนิล ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายสูงศักดิ์ กลมกลืนไปกับทิวทัศน์อันหรูหรานี้โดยสมบูรณ์เห็นได้ชัดว่า เมืองหลวงของแคว้นถังแห่งนี้ มิได้เป็นเพียงเมืองหลวงของแคว้นถังเท่านั้นหากยังเป็นหน้าตาของตระก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1271

    เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉียวเนี่ยน พี่สิบก็อดไม่ได้ที่จะหันมองไปทางอิ๋งชีบนใบหน้าของเขามีหน้ากากสั่งทำพิเศษปิดบังอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่กลับปิดความอาฆาตที่แผ่ออกมาจากลึกในดวงตาไม่มิดในฐานะองครักษ์ เขาคุ้นเคยกับกลิ่นอายเช่นนี้ดีนี่คือกลิ่นอายที่ก่อเกิดจากการก้าวออกมาท่ามกลางสมรภูมิเลือดและกองซากศพ ซึมลึกอยู่ในกระดูกและโลหิต ยิ่งกว่าคนที่ออกรบมาทั้งชีวิตเสียอีกต่อให้พยายามปิดบังเพียงใด ก็ไม่อาจกลบได้...เห็นพี่สิบไม่พูดอะไร เฉียวเนี่ยนจึงกล่าวต่อ “สำนักราชาโอสถ นอกจากจะรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้อื่นแล้ว ยังมีหน่วยข่าวกรองและกำลังทหารของตนเองด้วย อิ๋งชีคือหัวหน้าหอหอบุปผาเร้นลับ นอกจากเขาแล้ว ครานี้ข้ายังพาคนมาด้วยมากมาย พี่สิบไม่รู้สึกตัวเลยหรือเจ้าคะ?”เมื่อได้ฟังเฉียวเนี่ยนพูดดังนั้น พี่สิบก็หันมองไปรอบๆ อย่างไม่รู้ตัวแต่กลับไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียวหากเฉียวเนี่ยนไม่ได้โกหกละก็ ฝีมือการซ่อนตัวของพวกนั้นช่างยอดเยี่ยมเหลือเกินถึงจะสู้ฝีมือของอิ๋งชีไม่ได้ แต่เกรงว่าก็ไม่น่าจะด้อยไปกว่านั้นนัก“ดังนั้นพี่สิบ” เฉียวเนี่ยนพูดขึ้นอีกครั้ง “ท่านห้ามข้าไม่ได้หรอก”ในที่สุดสายตาของพี่สิบก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1270

    พี่สิบไปที่ครัว เตรียมกับข้าวทั้งเนื้อและผักให้เฉียวเนี่ยนเขาถืออาหารมาถึงหน้าห้องของเฉียวเนี่ยน อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแม้จะเป็นเพราะไม่มีทางเลือก แต่ที่เขากักขังเฉียวเนี่ยนไว้โดยพลการ ก็นับว่าไม่สมควรอยู่บ้างดังนั้น เสียงที่เอ่ยออกมาจึงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนอย่างประหลาด “เนี่ยนเนี่ยน พี่สิบทำอาหารให้เจ้าด้วยนะ ลองชิมดูสิ”ภายในห้องไม่มีเสียงตอบรับพี่สิบคิดว่าแน่ล่ะ เฉียวเนี่ยนต้องกำลังโกรธเป็นแน่ จึงยกมือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่มาเปิดประตูเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ตรงโต๊ะในมือถือถ้วยชา สีหน้าเรียบเฉย ไม่แม้แต่จะมองพี่สิบสักนิดท่าทางเช่นนี้ ชัดเจนว่าโกรธแน่ๆพี่สิบก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง ยิ้มออกมา “ฝีมือพี่สิบนี่ถึงกับทำให้พี่สะใภ้สิบชมไม่หยุดเลยนะ มา ลองชิมหน่อย”พูดไปพลาง เดินเข้าไปในห้องไปด้วยทว่าไม่ทันคาดคิด กลับมีฝุ่นร่วงลงมาจากคานไม้เก่าด้านบนกะทันหันร่างหนึ่งในเงามืดบนคาน ดำหม่นราวปีศาจไร้น้ำหนัก พุ่งทะยานลงมาโดยไร้สัญญาณ!ความเร็วของการเคลื่อนไหวทิ้งไว้เพียงเงาเลือนลาง พร้อมกลิ่นหอมของสมุนไพรที่แปลกประหลาดและรุนแรง ปั่นป่วนอากาศในห้องที่ไม่ได้รับก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1269

    รู้ว่าพี่สิบเป็นห่วงตนเอง รอยยิ้มบนใบหน้าเฉียวเนี่ยนก็เข้มขึ้นเล็กน้อย “พี่สิบวางใจเถอะ บัดนี้ข้าคือเจ้าสำนักราชาโอสถ”ได้ยินดังนั้น พี่สิบยังนึกว่าตัวเองฟังผิดไปเขาจ้องเฉียวเนี่ยนอยู่ตรงนั้นอย่างเหม่อลอยพักใหญ่จึงค่อยเอ่ย “จะ เจ้าว่าอะไรนะ? จะ เจ้าบอกว่าเป็นเจ้าสำนักราชาโอสถ?”“อืม” เฉียวเนี่ยนพยักหน้าหงึกๆ “ตอนนี้ข้าเก่งมากเลย ทั้งวิชาแพทย์ก็เก่ง ทั้งการถอนพิษก็เก่ง หากข้าไปแคว้นถัง ก็ต้องช่วยพี่ใหญ่ได้แน่!”พี่สิบมองเฉียวเนี่ยนอยู่พักหนึ่ง กว่าปฏิกิริยาจะตามทันก็เหมือนจะเข้าใจในความหมายของนางในที่สุดแต่ก็ยังโบกมือ “ไม่ได้! ไปไม่ได้!”“พี่สิบ!”“ไม่มีการต่อรอง!” พี่สิบขมวดคิ้วแน่น “ต่อให้วิชาแพทย์เจ้าเก่ง การถอนพิษก็เก่ง แล้วจะมีประโยชน์อะไร? หากถูกคนตระกูลมู่จับตัวไป เจ้าคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น? พวกมันอยากให้เจ้าไปหาสมบัติ จะให้หาอย่างไร? ใช้เนื้อเจ้าหรือใช้เลือดเจ้า?”ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเฉียวเนี่ยนก็เปลี่ยนสีโดยไม่รู้ตัวนางนึกถึงท่านย่าทวดเหยาวั่งซู และก็นึกถึงท่านอาจารย์เสิ่นม่อด้วยแต่พี่สิบยังคงยืนกราน “บอกความจริงให้เจ้ารู้เลยแล้วกัน! ที่พี่ใหญ่ให้ข้าอยู่เมือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1268

    สำหรับคำพูดของมู่ซ่างเสวี่ย ฉู่จืออี้ไม่ได้ใส่ใจมากนักในสายตาของเขา คนตระกูลมู่ไม่น่าไว้วางใจ รวมถึงมู่ซ่างเสวี่ยด้วยท้ายที่สุดแล้ว ตอนนั้นเซียวเหิงก็จากไปพร้อมกับคนตระกูลมู่ แต่ตอนนี้กลับโยนความผิดทั้งหมดให้แก่องค์ชายสอง เรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดนี้จะมีความลับมากน้อยเพียงใด ยังไม่อาจทราบได้ศพสองร่างในห้องถูกยกออกไปแล้ว คราบเลือดก็ถูกเช็ดจนสะอาด แต่ในอากาศยังคงอบอวลด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆทุกหยาดทุกหยด ล้วนกระตุ้นประสาทของฉู่จืออี้อย่างรุนแรงฉู่จืออี้เก็บซ่อนความเย็นชาในดวงตา หันไปทางมู่ซ่างเสวี่ย แล้วเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่พักผ่อนเถิด คืนนี้เหล่านักลอบสังหารคงไม่กลับมาอีกแล้ว”มู่ซ่างเสวี่ยได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า ขอบคุณฉู่จืออี้อีกครั้ง “เรื่องคืนนี้ ขอบคุณท่านอ๋องมาก”ฉู่จืออี้แย้มยิ้มมุมปาก แล้วหมุนกายกลับเข้าห้องของตนไปรุ่งขึ้นขบวนออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่เห็นได้ชัดว่าภายในแถวมีคนหายไปหลายคน เป็นพวกที่ออกไปตามล่านักลอบสังหารเมื่อคืนคงไปแล้วไปลับสินะ?ดวงตาของฉู่จืออี้มืดครึ้ม แต่เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ขึ้นรถม้าตามเดิมขณะเดียวกัน ที่เมืองอู้ในแคว้นจิ้ง ฝนโปรยปราย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1267

    คืนนี้ เกรงว่าจะไม่สงบแล้วยามดึกสงัด สถานีพักม้าทั้งแห่งจมอยู่ในความเงียบงันฉู่จืออี้นอนบนเตียงโดยยังไม่ถอดเสื้อผ้า ข้างมือวางดาบสั้นที่ชักออกจากฝักแล้วแสงจันทร์ลอดผ่านช่องหน้าต่างไม้ สาดเงาระยับลงบนพื้นทันใดนั้น เสียง "แคร้ก" เบาๆ ดังขึ้นจากบนหลังคา คล้ายกระเบื้องที่ถูกเหยียบฉู่จืออี้ลืมตาขึ้นทันที กลั้นลมหายใจ พลิกตัวลงจากเตียงอย่างไร้เสียงขณะเดียวกัน ห้องของมู่ซ่างเสวี่ยที่อยู่ติดกันดังเสียงทึบขึ้นหนึ่งครั้ง แล้วตามด้วยเสียงการต่อสู้!ฉู่จืออี้ไม่ลังเลแม้แต่น้อย พุ่งออกจากห้องถีบประตูห้องมู่ซ่างเสวี่ยเปิดออกทันทีในห้อง มีชายชุดดำสามคนกำลังรุมโจมตีมู่ซ่างเสวี่ย หนึ่งในนั้นฟันดาบยาวเฉียดแขนเสื้อของมู่ซ่างเสวี่ยจนขาด เลือดสดไหลรินลงตามแขนฉู่จืออี้พุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดั่งสายฟ้าฟาดแทงเข้าหานักลอบสังหารที่อยู่ใกล้ที่สุดนักลอบสังหารคนนั้นตอบสนองไว หมุนตัวขึ้นมาป้องกัน แต่ไม่ทันเห็นว่าดาบของฉู่จืออี้เปลี่ยนทิศกลางคัน แทงทะลุคออีกคนที่แอบจู่โจมอยู่ด้านข้างเลือดพุ่งกระเซ็นเปื้อนกระดาษหน้าต่าง ราวดอกเหมยสีแดงผลิบานมู่ซ่างเสวี่ยฉวยโอกาสตอบโต้ ดาบอ่อนในมือพลิ้วดั่งงู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status