หน้าหลัก / รักโบราณ / พลิกชะตารักหญิงบ้า / ตอนที่22ชีวิตเรียบง่ายที่มีความสุข

แชร์

ตอนที่22ชีวิตเรียบง่ายที่มีความสุข

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-11 16:17:53

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแค่แป๊บเดียว เธอก็ใช้ชีวิตในฐานะ 'หลินจื่ออิง' มาได้สามวันแล้ว

เช้าวันที่สามเริ่มต้นขึ้นเหมือนเช่นเคย

แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องครัว กลิ่นหอมของโจ๊กข้าวฟ่างร้อนๆ ลอยอบอวลไปทั่วบ้าน จื่ออิงยืนอยู่หน้าเตา ค่อยๆ ใช้ทัพพีคนโจ๊กข้าวฟ่างในหม้อที่เธอใส่ฟักทองลงไปด้วยอย่างใจเย็น ข้างๆ กันมีไข่ต้มที่สุกพอดี และซาลาเปาร้อนๆ ที่เธอเพิ่งนำออกจากหม้อนึ่ง

จื่ออิงหันไปมองสามีที่อุ้มบุตรสาวมานั่งที่โต๊ะ หลี่เฉินสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีซีด แขนเสื้อพับขึ้นเล็กน้อย กำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดหน้าให้บุตรสาวเบาๆ เป็นภาพที่ทำให้คนมองอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่นใจไม่ได้

การใช้ชีวิตตลอดสามวันมานี้ของจื่ออิงดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารให้สามีและบุตรสาว จากนั้นก็ทำความสะอาดบ้านเล็กๆ น้อยๆ และอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้กับเหยียนเหยียน พอตกเย็นก็ทำอาหารรอคอยหลี่เฉินกลับมาจากทำงาน

จื่ออิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้จะทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขได้มากขนาดนี้

"อาหารเสร็จแล้วค่ะ" 

จื่ออิงเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับตักโจ๊กใส่ถ้วยสำหรับทุกคน

"น่ากินจังเลยครับ น่ากินไหมเหยียนเหยียน" 

หลี่เฉินมองโจ๊กข้าวฟ่างสีเหลืองนวลที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นลอยขึ้นมา ก่อนจะหันไปถามบุตรสาวที่จ้องโจ๊กตรงหน้าตาเป็นประกาย

เหยียนเหยียนพยักหน้ารับทันที ดวงตากลมใสเป็นประกายด้วยความถูกใจ ก่อนจะรีบตักโจ๊กขึ้นมาเป่าแล้วนำเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

หลี่เฉินมองภาพนั้นพลางยิ้มบาง ๆ ในใจต้องยอมรับเลยว่าฝีมือการทำอาหารของภรรยานั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ต่างจากอาหารที่เขาทำมาก แม้รสชาติอาหารของเขาจะไม่แย่ แต่ก็เป็นเพียงอาหารง่ายๆ ที่ทำให้ท้องอิ่ม ไม่ได้พิถีพิถันหรือน่าทานเท่านี้

ไม่แปลกใจเลยที่เหยียนเหยียนจะชอบอาหารของมารดาเป็นพิเศษ

เขาหยิบช้อนขึ้นมาตักโจ๊กขึ้นมาชิมบ้าง รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองภรรยาเล็กน้อย

"อร่อยมากครับ" 

เขาพูดขึ้นเรียบๆ แต่ความพึงพอใจนั้นสะท้อนอยู่ในแววตาชัดเจน

จื่ออิงยิ้มบางๆ วางจานซาลาเปาขาวๆ นุ่มๆ และไข่ต้มลงบนโต๊ะ

"วันนี้ฉันลองทำซาลาเปาไส้ถั่วแดงกวนด้วย คุณกับเหยียนเหยียนลองชิมดูสิคะ"

จื่ออิงหยิบซาลาเปาร้อนๆ ส่งให้หลี่เฉินลูกหนึ่ง ก่อนจะหยิบอีกลูกขึ้นมาฉีกแบ่งครึ่ง ไส้ถั่วแดงหวานหอมไหลออกมาเล็กน้อย เธอเป่าไล่ความร้อนเบาๆ ก่อนจะยื่นให้เหยียนเหยียนที่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ

ริมฝีปากอิ่มที่เคยซีดเซียว ตอนนี้กลับดูแดงระเรื่อขึ้น ยามที่เธอก้มลงเป่าซาลาเปาให้บุตร หลี่เฉินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเผลอจ้องมองภาพนั้นอย่างเลื่อนลอย

เขารู้สึกอยากให้ภรรยาเป่าซาลาเปาให้เหมือนกัน

"คุณไม่กินหรือคะ"

เสียงหวานเอ่ยถามดังขึ้น เรียกให้หลี่เฉินหลุดจากภวังค์ เขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบกัดซาลาเปาในมือคำโต 

"อะ อร่อยมากครับ"

จื่ออิงที่กำลังปอกเปลือกไข่ต้มให้บุตรสาวเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

"อร่อยก็กินเยอะๆ นะคะ" 

เธอยิ้มพลางเลื่อนจานซาลาเปาไปตรงหน้าเขา

หลี่เฉินไม่ปฏิเสธ เขากินซาลาเปาหมดไปสามลูกแล้วตักโจ๊กเข้าปากเงียบๆ แต่ภายในใจกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ จื่ออิงก็จูงมือเหยียนเหยียนเดินออกมาส่งหลี่เฉินที่หน้าลานบ้าน ก่อนจะยื่นถุงผ้าให้เขา ด้านในเป็นกล่องใส่ซาลาเปาที่เธอเตรียมไว้ให้เขากินเป็นมื้อเที่ยง

"เอาไปกินตอนเที่ยงนะคะ" 

เธอบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

"ขอบคุณครับ"

หลี่เฉินรับถุงผ้าจากจื่ออิงก่อนจะใส่มันลงในตะกร้าหน้าจักรยาน เขาขึ้นคร่อมจักรยานเตรียมออกเดินทางไปทำงาน ชายหนุ่มกระชับมือจับแฮนด์แน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปั่นออกไปตามถนนลูกรัง ขณะที่ล้อหมุนไปข้างหน้า ใจของหลี่เฉินกลับไม่ได้อยากไปทำงานเลยสักนิด

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว เขาหันกลับไปมองภรรยากับบุตรสาวที่ยืนส่งเขาอยู่หน้าบ้าน เหยียนเหยียนโบกมือน้อยๆ มาให้ พร้อมรอยยิ้มสดใส จื่ออิงเองก็มองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน

ภาพนั้นทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

ทั้งที่เพิ่งจะออกจากบ้านมาแท้ๆ แต่เขากลับรู้สึกว่าอยากให้ถึงตอนเย็นเร็วๆ อยากให้เวลาเดินเร็วขึ้น อยากเลิกงานไวๆ เพื่อจะได้รีบกลับบ้าน

หลังจากส่งหลี่เฉินไปทำงานเรียบร้อย จื่ออิงก็หันกลับมาจัดการงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ขณะที่เหยียนเหยียนนั่งเล่นตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ซึ่งจื่ออิงสังเกตเห็นว่าบุตรสาวชอบมานั่งเล่นอยู่ตรงนี้เสมอ เธอจึงหาผ้าหนาๆ และหมอนอิงมาวางเอาไว้ให้  

เด็กน้อยดูเพลิดเพลินกับของเล่นตัวใหม่ มือเล็กๆ กอดกระต่ายน้อยแน่น แก้มกลมใสขึ้นสีระเรื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส ตากลมๆ จ้องตุ๊กตาราวกับกำลังพูดคุยกับมันอยู่

"เหยียนเหยียนจ๊ะ แม่มีงานต้องทำนิดหน่อย ลูกนั่งเล่นกับกระต่ายน้อยอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวแม่เอาขนมมาให้"

จื่ออิงย่อตัวลง ลูบเส้นผมนุ่มของบุตรสาวเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน

เหยียนเหยียนพยักหน้าหงึกหงัก ตากลมใสเป็นประกาย รับรู้ว่าแม่ต้องไปทำงานจึงไม่อ้อนให้เล่นด้วยอย่างรู้ความ

จื่ออิงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ลูกสาวนั่งเล่นอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางสายลมเย็นที่พัดผ่านเบาๆ 

ตลอดสามวันที่ผ่านมา จื่ออิงใช้เวลาสำรวจทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้อย่างละเอียด และบังเอิญพบเข้ากับ สมบัติที่นับว่าล้ำค่าของยุคนี้ชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือ จักรเย็บผ้าที่ถูกเก็บไว้อย่างดี แม้ว่ามันจะถูกปล่อยทิ้งไว้และไม่ได้ใช้งานมานาน แต่สภาพยังคงสมบูรณ์แทบไม่มีรอยชำรุด คาดว่าคงเป็นของมารดาผู้ล่วงลับของเธอ

ช่างเหมาะเจาะเหลือเกินเพราะเธอคิดจะตัดชุดใหม่ให้กับทุกคนอยู่พอดี วันนี้จึงตั้งใจจะใช้จักรเย็บผ้าตัวนี้ตัดชุดใหม่ให้เหยียนเหยียน หลี่เฉิน รวมทั้งของตัวเองด้วย

เสื้อผ้าของหลี่เฉินที่มีอยู่ตอนนี้ มีเพียงไม่กี่ตัวที่ยังพอใส่ได้ ส่วนมากนั้นเก่าเต็มที บางตัวสีซีดหมอง บางตัวก็เริ่มมีรอยขาด เพราะผ่านการซักมานับครั้งไม่ถ้วน แม้ความเป็นอยู่ของพวกเขาจะไม่ลำบาก ออกจะดีกว่าครอบครัวอื่นมากด้วยซ้ำ แต่หลี่เฉินที่เป็นผู้ชาย เขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้มากนัก คงจะมีแต่เสื้อผ้าของเหยียนเหยียนที่อยู่ในสภาพดีเพราะซื้อใหม่ทุกปี แต่ก็เป็นแบบเรียบๆ เน้นใส่สบาย 

ส่วนของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้เหลืออยู่แค่สองสามชุดที่ยังพอนำมาใส่ได้ นอกเหนือจากนั้นล้วนเป็นเสื้อผ้าเก่าในตอนที่ยังไม่ป่วย จึงทั้งเล็กและสั้น

จื่ออิงไม่คิดจะซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูป แม้ว่าตามตลาดจะมีวางขายอยู่มากมายก็ตาม

เพราะจากที่เห็นเสื้อผ้าที่ราคาถูก เนื้อผ้าจะหยาบกระด้าง ตัดเย็บไม่ประณีต ใส่ไปไม่นานก็คงขาดหรือเสียรูป ส่วนเสื้อผ้าที่เนื้อผ้าดีขึ้นมาหน่อย ก็กลับมีราคาสูงจนน่าปวดใจ หากซื้อผ้าพับมาตัดเอง นอกจากจะคุ้มค่ากว่า ยังได้เสื้อผ้าคุณภาพดีตามที่ต้องการอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อผ้าในยุคนี้ก็ไม่ถูกใจเธอสักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างเรียบง่าย รูปแบบก็คล้ายกันไปหมด เธออยากตัดชุดที่ดูดีและมีเอกลักษณ์กว่านั้น

แทนที่จะเสียเงินไปกับของที่ไม่ถูกใจ ไม่สู้เธอตัดเย็บเองดีกว่า ทั้งได้เลือกเนื้อผ้าคุณภาพดี ออกแบบได้ตามใจ และที่สำคัญ เธอจะได้ทำเสื้อผ้าที่เหมาะกับสามีและบุตรสาวจริงๆ

จื่ออิงนำผ้าเนื้อดีหลากสีที่ซื้อมาเมื่อวันก่อนออกมา มีทั้งสีพื้นเรียบๆ อย่างสีเทา สีดำ สีน้ำเงิน และสีน้ำตาลที่เหมาะกับหลี่เฉิน และผ้าสีสันสดใสอีกหลายผืน บางผืนมีลวดลายสวยงาม เป็นผ้าที่จะตัดชุดให้เหยียนเหยียน และของตัวเอง

เธอพับแขนเสื้อขึ้น ก่อนจะลงมือวัดขนาด ตัดผ้า และจัดแจงเย็บชุดด้วยความตั้งใจ

จนกระทั่ง...

"พี่สาว"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่22ชีวิตเรียบง่ายที่มีความสุข

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแค่แป๊บเดียว เธอก็ใช้ชีวิตในฐานะ 'หลินจื่ออิง' มาได้สามวันแล้วเช้าวันที่สามเริ่มต้นขึ้นเหมือนเช่นเคยแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องครัว กลิ่นหอมของโจ๊กข้าวฟ่างร้อนๆ ลอยอบอวลไปทั่วบ้าน จื่ออิงยืนอยู่หน้าเตา ค่อยๆ ใช้ทัพพีคนโจ๊กข้าวฟ่างในหม้อที่เธอใส่ฟักทองลงไปด้วยอย่างใจเย็น ข้างๆ กันมีไข่ต้มที่สุกพอดี และซาลาเปาร้อนๆ ที่เธอเพิ่งนำออกจากหม้อนึ่งจื่ออิงหันไปมองสามีที่อุ้มบุตรสาวมานั่งที่โต๊ะ หลี่เฉินสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีซีด แขนเสื้อพับขึ้นเล็กน้อย กำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดหน้าให้บุตรสาวเบาๆ เป็นภาพที่ทำให้คนมองอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่นใจไม่ได้การใช้ชีวิตตลอดสามวันมานี้ของจื่ออิงดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารให้สามีและบุตรสาว จากนั้นก็ทำความสะอาดบ้านเล็กๆ น้อยๆ และอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้กับเหยียนเหยียน พอตกเย็นก็ทำอาหารรอคอยหลี่เฉินกลับมาจากทำงานจื่ออิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้จะทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขได้มากขนาดนี้"อาหารเสร็จแล้วค่ะ" จื่ออิงเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับตักโจ๊กใส่ถ้วยสำหรับทุกคน"

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่21สำรวจตลาด

    หลังจากจัดของเรียบร้อย หลี่เฉินก็อุ้มเหยียนเหยียนขึ้นนั่งที่เบาะหน้าของจักรยาน ก่อนจะหันมาสวมหมวกให้จื่ออิงอย่างใส่ใจ "สวมเอาไว้"แม้ว่าจะเลยเวลาเที่ยงไปมากแล้ว แต่แดดก็ยังแรงอยู่ เขาใช้มือปรับมุมหมวกของเธอให้อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยบังแดดได้ดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ"จื่ออิงเงยหน้ามองเขา ก่อนจะเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มเธอก้าวขึ้นซ้อนท้ายจักรยาน พลางจับเอวเขาเอาไว้หลวม ๆ"เราจะไปห้างกันเลยไหมคะ" จื่ออิงเอ่ยถามเสียงใสหลี่เฉินยิ้มให้เธอ ก่อนจะพยักหน้ารับ"อืม ไปกันเถอะ"จากนั้นจักรยานคันโตจึงเคลื่อนตัวออกจากตลาด มุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้า ระหว่างทางไปห้างสรรพสินค้า จื่ออิงมองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ เพราะเธออยากจะสำรวจตลาดคร่าวๆ สำหรับกิจการที่คิดจะทำในอนาคตเขตอำเภอแห่งนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแบบเมืองหลวง แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคสมัย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นตึกเตี้ย ๆ สีสันเรียบง่าย ร้านค้าบางร้านตกแต่งด้วยป้ายไม้เก่าที่มีตัวอักษรจีนพู่กันเขียนกำกับไว้ ดูขลังและคลาสสิก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัยสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่20เที่ยวชมตลาด

    ในที่สุด จักรยานคันโตก็ค่อย ๆ แล่นเข้าสู่เขตอำเภอจากเส้นทางลูกรังอันเงียบสงบ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นถนนที่เริ่มมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น เสียงพูดคุยจอแจของผู้คนในตลาดดังแว่วมาแต่ไกล กลิ่นหอมของอาหารลอยมาตามสายลม จื่ออิงเบิกตากว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเหยียนเหยียนที่นั่งอยู่ด้านหน้า"เหยียนเหยียน ถึงแล้วจ้ะ ดูสิ ตลาดคึกคักมากเลย"แม้ว่าหนูน้อยจะพูดตอบกลับมาไม่ได้ แต่ดวงตากลมใสของเธอก็จับจ้องไปยังผู้คนและสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจ ถึงแม้ว่าเธอจะมาตลาดกับคนเป็นพ่อบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก ทุกครั้งที่มาก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้หลี่เฉินเหลือบมองจื่ออิงผ่านหางตา เห็นใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้ว เขาก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้จักรยานยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของตลาดยามเช้า ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา และกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา"เราลงไปเดินซื้อของกันเถอะ"หลี่เฉินพูดขึ้น ก่อนจะพาจักรยานเข้าไปจอดยังลานจอดที่จัดไว้สำหรับรถจักรยานโดยเฉพาะ เขาลงจากจักรยานอย่างคล่องแคล่ว แล้วหันไปอุ้มเหยียนเหยียนลงมาจื่ออิงหันไปจัดเสื้อผ้าของหนูน้อยให้เข้าที่

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่19ปรับความเข้าใจ

    ท่ามความบรรยากาศที่สงบเงียบ รอบกายเต็มไปด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย เสียงทุ้มของหลี่เฉินก็ดังขึ้นแผ่วเบา ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน"อาอิง คุณรู้ตัวหรือเปล่า ว่าคุณดูเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน"จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตาคู่งามละสายตาจากภาพทิวทัศน์สองข้างทาง ทอดมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า หัวใจของเธอเต้นแรงกับคำพูดนั้น เธอรู้ดีว่าเธอเปลี่ยนไปจริง ๆ เพราะเธอไม่ใช่ ‘หลินจื่ออิง’ คนนั้นเธอคิดว่า ในเมื่อตอนนี้เธอคือหลินจื่ออิงแล้ว เธอก็ควรทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ในเมื่อเขาเปิดใจมาเช่นนี้แล้ว เธอเองก็ควรเปิดใจกับเขาอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากนี้ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็จะขอน้อมรับทุกประการ ถือว่าเคลียร์ใจกันไปเลย"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกค่ะ"จื่ออิงตอบเสียงเบา ทว่าหนักแน่น"ฉันแค่คิดได้ คิดได้ว่าต่อจากนี้ ฉันจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม จะไม่เป็นผู้หญิงที่ยึดติด ฉันควรจะเข้มแข็งด้วยตัวเอง และไม่บีบบังคับใจใครอีก ฉัน รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำก็เท่านั้น"เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง"ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อคุณ ฉันขอโทษนะคะ"

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่18เส้นทางไปตลาด

    "เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เราคงต้องขอตัวก่อน ต้องขอโทษด้วยนะซินหยา วันนี้พี่ต้องพาภรรยาไปซื้อของ"หลี่เฉินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น คล้ายต้องการยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านี้ และเขาก็ได้รับรอยยิ้มหวานเชื่อมจากภรรยาทันทีที่เอ่ยจบ รอยยิ้มนั้นงดงามราวกับดอกไม้ผลิบานยามเช้า ดึงดูดสายตาจนเขาเผลอจ้องมองอยู่ชั่วขณะ ราวกับเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มนี้เป็นครั้งแรกความอ่อนหวานที่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจและพึงพอใจบนใบหน้า ทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้เจียงซินหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอคลี่ยิ้มบางๆ เก็บซ่อนความผิดหวังและไม่พอใจเอาไว้มิดชิด"อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้ถามพี่ก่อน คิดว่า... จะเหมือนกับทุกที"ประโยคสุดท้ายของเจียงซินหยาแผ่วเบา ราวกับเป็นเพียงคำพึมพำที่ไม่ได้คาดหวังให้ใครได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้น จื่ออิงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเธอเพียงแค่ยืนเงียบ ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสุขุม ราวกับเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดี แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปแม่นางเอกของนักเขียนคนนี้มีครบจบในที่เดียวจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นแม่ดอกบัวขาว เป็นเสี่ยวซานแล้ว ยังเป็นแม่ชาเขียว หรือที่มักเรีย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

    เจียงซินหยาที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เฉิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม แล้วต้องชะงักไปเธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับหลี่เฉินเพียงลำพังรอยยิ้มอ่อนหวานที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในบ้านของเขาผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครกันและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนาน เพราะในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอหลินจื่ออิงรู้ตัวดีว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้มาเยือน และในฐานะเจ้าของบ้าน การเมินเฉยต่อแขกคงไม่ใช่เรื่องสมควรและเป็นการเสียมารยาท เธอจึงหันไปจูงมือบุตรสาวตัวน้อยที่กำลังหันมองคนนั้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาใสแจ๋ว พาเดินเข้าไปหาทั้งสองคนฝีเท้าของจื่ออิงก้าวเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เธอเดินตรงไปหาหลี่เฉินและเจียงซินหยา มือเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็กระชับมือของเธอแน่นขึ้น ราวกับกำลังหาที่พึ่งพา ดวงตากลมใสช้อนมองเธออย่างลังเล ก่อนจะหันไปจ้องหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่จื่ออิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ก้มลงมองสบตาบุตรสาว ดวงตาคู่น้อยสะท้อนความลังเลและอึดอัดอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status