Share

ตอนที่21สำรวจตลาด

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-10 16:36:17

หลังจากจัดของเรียบร้อย หลี่เฉินก็อุ้มเหยียนเหยียนขึ้นนั่งที่เบาะหน้าของจักรยาน ก่อนจะหันมาสวมหมวกให้จื่ออิงอย่างใส่ใจ 

"สวมเอาไว้"

แม้ว่าจะเลยเวลาเที่ยงไปมากแล้ว แต่แดดก็ยังแรงอยู่ เขาใช้มือปรับมุมหมวกของเธอให้อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยบังแดดได้ดีขึ้น

"ขอบคุณค่ะ"

จื่ออิงเงยหน้ามองเขา ก่อนจะเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม

เธอก้าวขึ้นซ้อนท้ายจักรยาน พลางจับเอวเขาเอาไว้หลวม ๆ

"เราจะไปห้างกันเลยไหมคะ" 

จื่ออิงเอ่ยถามเสียงใส

หลี่เฉินยิ้มให้เธอ ก่อนจะพยักหน้ารับ

"อืม ไปกันเถอะ"

จากนั้นจักรยานคันโตจึงเคลื่อนตัวออกจากตลาด มุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้า 

ระหว่างทางไปห้างสรรพสินค้า จื่ออิงมองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ เพราะเธออยากจะสำรวจตลาดคร่าวๆ สำหรับกิจการที่คิดจะทำในอนาคต

เขตอำเภอแห่งนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแบบเมืองหลวง แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคสมัย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นตึกเตี้ย ๆ สีสันเรียบง่าย ร้านค้าบางร้านตกแต่งด้วยป้ายไม้เก่าที่มีตัวอักษรจีนพู่กันเขียนกำกับไว้ ดูขลังและคลาสสิก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัย

สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มีร้านขายของชำที่มีถุงพลาสติกใส่ขนมและของเล่นแขวนอยู่หน้าร้าน มีร้านขายผลไม้ก็ตั้งแผงวางขายอย่างเป็นระเบียบ 

ขยับไปอีกหน่อยเป็นร้านขายเสื้อผ้า แผงหน้าร้านแขวนเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและกางเกงผ้าขายาว ซึ่งเป็นแฟชั่นยอดนิยมของยุคนี้ มีชุดกระโปรงสำหรับผู้หญิงและเสื้อผ้าเด็ก เพราะเป็นต้นยุค 80 เสื้อผ้าจึงยังเรียบง่าย สีพื้น ไม่เน้นดีไซน์

ร้านรองเท้าข้าง ๆ วางรองเท้าผ้าใบและรองเท้าหนังสำหรับผู้ชายเป็นแถว ส่วนของผู้หญิงมีรองเท้าผ้าสีอ่อนปักลวดลายเรียบง่ายวางในตู้กระจก

ร้านขายเครื่องใช้ในบ้านก็มีไม่น้อย ตะกร้าหวาย หม้อดินเผา และเครื่องครัวเรียงกันอยู่หน้าร้าน 

ตลอดสองข้างทางเธอสังเกตเห็นร้านอาหารเล็กๆ แผงขายอาหารข้างทาง และรถเข็นขายอาหารบ้างประปราย ร้านอาหารที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารของรัฐ อาหารที่ขายก็เป็นเมนูง่ายๆ เช่น บะหมี่ ซาลาเปา เกี๊ยว ข้าวผัด หรือโจ๊ก

ในอำเภอแห่งนี้ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล และโรงงานต่างๆ เพราะรัฐบาลจีนส่งเสริมอุตสาหกรรมในระดับอำเภอมากขึ้น ทำให้เริ่มมี โรงงานของรัฐ กระจายอยู่ตามเมืองเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงงานสิ่งทอ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า โรงงานอาหารกระป๋อง โรงงานผลิตอิฐหรือกระเบื้องมุงหลังคา 

แม้ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเมืองใหญ่ แต่บรรยากาศก็คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน

ห้างสรรพสินค้าที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทันสมัยที่สุดในอำเภอ

เมื่อมาถึงพวกเขาก็พากันเดินเข้าไปด้านใน แสงไฟจากหลอดนีออนสว่างไสว ทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและคึกคัก แม้จะไม่ได้โอ่อ่าเท่าห้างในเมืองใหญ่ แต่ก็มีของครบครัน ห้างยุค 80 ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนปัจจุบัน เป็นเพียงอาคารสองถึงสามชั้น ขายสินค้าจำพวก เสื้อผ้า เครื่องครัว ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องสำอาง และของเล่นเด็ก

มีเคาน์เตอร์รับแลก "คูปองสินค้า" เพราะของบางอย่างยังต้องใช้คูปองซื้อแทนเงินสด 

ขายสินค้ายอดนิยม เช่น จักรยาน ยี่ห้อเฟิ่งหวง, นาฬิกาข้อมือเซี่ยงไฮ้, รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ

พนักงานขายจะใส่เครื่องแบบและยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ และต้องขออนุญาตถึงจะลองสินค้าได้

 "ว้าว!" 

จื่ออิงอุทานเบา ๆ ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นมุมของเล่นภายในห้าง

"ดูสิคะเหยียนเหยียน มีตุ๊กตากระต่ายน้อยด้วย" 

เธอชี้ไปยังตุ๊กตากระต่ายขนนุ่มที่วางเรียงรายอยู่บนชั้น เหยียนเหยียนมองตาม แล้วหันมาสบตากับเธอตาวาว

หลี่เฉินมองภาพนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเล็กน้อย เดินตามสองแม่ลูกที่ตรงรี่เข้าไปยังร้านของเล่น

"อยากได้ตัวไหนคะ" 

จื่ออิงถามบุตรสาวเสียงอ่อนโยน

ซึ่งสายตากลมแป๋วของเหยียนเหยียนจับจ้องไปที่เจ้ากระต่ายตัวสีขาวสะอาดอย่างไม่ละสายตา

"ดูท่าจะถูกใจจริง ๆ นะ" 

หลี่เฉินเอ่ยพลางหัวเราะเบา ๆ

จื่ออิงหันมายิ้มให้เขา ก่อนจะหันไปพูดกับบุตรสาว

"งั้น เราพากระต่ายน้อยกลับบ้านด้วยกันดีไหมคะ"

เด็กหญิงพยักหน้าหงึก ๆ ดวงตากลมโตเป็นประกายด้วยความดีใจ 

หลี่เฉินที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือหยิบตุ๊กตาลงมา แล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงินโดยไม่พูดอะไร

เขาควักเงินออกจากกระเป๋าอย่างไม่ลังเล แม้จะรู้ดีว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ไม่ได้มากมาย และเป็นเงินเก็บตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

วันนี้นับเป็นวันที่เขาใช้จ่ายมากที่สุดในรอบหลายปี ที่ผ่านมาเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น คิดหน้าคิดหลังทุกครั้งก่อนจ่าย

แต่วันนี้ แค่เห็นรอยยิ้มของลูกและภรรยา แค่เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขของพวกเธอ

เงินเพียงเท่านี้ จะสำคัญอะไร

ที่เขาทำทุกอย่าง ก็เพื่อลูกและภรรยาไม่ใช่หรือ

จื่ออิงเห็นดังนั้น ไหนเลยจะยินยอม วันนี้เธอรู้ว่าเขาใช้เงินเพื่อเธอไปไม่น้อยเลย จึงรีบก้าวตามเขาไปก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง

"ฉันจะจ่ายเองค่ะ ฉันอยากซื้อให้เหยียนเหยียนด้วยตัวเอง"

หลี่เฉินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองภรรยา

เห็นแววตามุ่งมั่นของเธอทำให้เขายิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นว่าเธออยากเป็นคนซื้อให้ลูกเอง เขาก็ไม่คิดจะขัด

"ได้สิครับ" 

เขาพยักหน้า ยอมถอยออกมายืนรออยู่ข้าง ๆ

จื่ออิงหันไปจ่ายเงินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะที่เหยียนเหยียนเองก็กอดตุ๊กตาเอาไว้อย่างหวงแหน

หลี่เฉินยืนกอดอกมองสองแม่ลูกอยู่เงียบๆ รอยยิ้มบางๆ ยังติดอยู่ที่มุมปาก แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากซื้อตุ๊กตาให้บุตรสาว จื่ออิงก็จูงมือเหยียนเหยียนเดินไปร้านนั้นออกร้านนี้อย่างร่าเริง ท่าทางของเธอดูผ่อนคลายและมีความสุข ขณะที่หนูน้อยเหยียนเหยียนก็กอดตุ๊กตากระต่ายแน่นไม่ยอมปล่อย

หลี่เฉินเดินตามหลังเงียบ ๆ แม้ใบหน้าจะยังคงเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสุข

เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้ใช้เวลากับครอบครัวแบบนี้ ได้เดินซื้อของด้วยกัน ได้ยินเสียงหัวเราะของจื่ออิง และเห็นรอยยิ้มสดใสของเหยียนเหยียน

มันเป็นความรู้สึกที่ดี... ดีมากจริง ๆ

แค่ก แค่ก แค่ก

หลี่เฉินสำลักน้ำลายตัวเองหน้าดำหน้าแดง เขาแทบจะสะดุดขาตัวเอง เพราะเดินถอยหลังออกมาเร็วเกินไป 

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอย่างสุขใจ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีภรรยากับบุตรสาวก็เดินเข้าไปในร้านชุดชั้นในสตรี จากที่คิดจะเดินตามเข้าไปในตอนแรก จึงทำได้แค่เพียงถอยหลังออกมายืนรออยู่ด้านนอก

สายตาคมมองลอดกระจกเข้าไป เห็นภรรยาที่มองเขาอยู่หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ชัดเจนว่าเจตนากลั่นแกล้งเขา

หลี่เฉินขมวดคิ้ว มองค้อนเธอผ่านกระจกทันที

ให้ตายสิ... จื่ออิงในตอนนี้ช่างน่าตีจริงๆ

แต่ถึงจะคิดแบบนั้น มุมปากของเขาก็ยังเผลอยกยิ้มขึ้น

จื่ออิงเลือกซื้อของใช้ส่วนตัว ครีมบำรุงผิวทั้งสำหรับผิวหน้าและผิวกาย รวมถึงของจุกจิกอีกเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะมาจ่ายเงิน 

เธอรีบยกมือห้ามหลี่เฉินที่ทำท่าจะหยิบเงินออกมา

"ฉันจ่ายเองค่ะ คุณจ่ายไปเยอะแล้ว ฉันอยากใช้เงินของตัวเองบ้าง"

จื่ออิงบอกเขาเสียงนุ่ม 

หลี่เฉินเลิกคิ้วขึ้น มองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"ผมเป็นสามีคุณนะ ทำไมถึงจะจ่ายให้ภรรยาไม่ได้"

น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่ฟังดูหนักแน่นและจริงจังเสียจนจื่ออิงหลุดหัวเราะออกมา

พ่อหนุ่มสายเปย์ของเธอนี่น่ารัก ๆ

เธอส่ายหน้าเบา ๆ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ 

"คุณค่อยจ่ายคราวหน้าดีกว่าค่ะ"

เธอช้อนสายตามองเขา กะพริบตาปริบ ๆ อย่างออดอ้อน

"คุณต้องพาฉันมาอีกนะคะ ฉันยังมีของที่อยากได้อีกเยอะแยะเลย"

หลี่เฉินจ้องมองเธอเงียบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจพลางส่ายหน้า

"เฮ้อ เห็นทีว่าผมคงต้องทำงานหาเงินเพิ่มแล้วล่ะมั้ง"

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่แต้มอยู่บนริมฝีปากของเขา กลับดูอ่อนโยนกว่าทุกที

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่21สำรวจตลาด

    หลังจากจัดของเรียบร้อย หลี่เฉินก็อุ้มเหยียนเหยียนขึ้นนั่งที่เบาะหน้าของจักรยาน ก่อนจะหันมาสวมหมวกให้จื่ออิงอย่างใส่ใจ "สวมเอาไว้"แม้ว่าจะเลยเวลาเที่ยงไปมากแล้ว แต่แดดก็ยังแรงอยู่ เขาใช้มือปรับมุมหมวกของเธอให้อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยบังแดดได้ดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ"จื่ออิงเงยหน้ามองเขา ก่อนจะเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มเธอก้าวขึ้นซ้อนท้ายจักรยาน พลางจับเอวเขาเอาไว้หลวม ๆ"เราจะไปห้างกันเลยไหมคะ" จื่ออิงเอ่ยถามเสียงใสหลี่เฉินยิ้มให้เธอ ก่อนจะพยักหน้ารับ"อืม ไปกันเถอะ"จากนั้นจักรยานคันโตจึงเคลื่อนตัวออกจากตลาด มุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้า ระหว่างทางไปห้างสรรพสินค้า จื่ออิงมองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ เพราะเธออยากจะสำรวจตลาดคร่าวๆ สำหรับกิจการที่คิดจะทำในอนาคตเขตอำเภอแห่งนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแบบเมืองหลวง แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคสมัย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นตึกเตี้ย ๆ สีสันเรียบง่าย ร้านค้าบางร้านตกแต่งด้วยป้ายไม้เก่าที่มีตัวอักษรจีนพู่กันเขียนกำกับไว้ ดูขลังและคลาสสิก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัยสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่20เที่ยวชมตลาด

    ในที่สุด จักรยานคันโตก็ค่อย ๆ แล่นเข้าสู่เขตอำเภอจากเส้นทางลูกรังอันเงียบสงบ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นถนนที่เริ่มมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น เสียงพูดคุยจอแจของผู้คนในตลาดดังแว่วมาแต่ไกล กลิ่นหอมของอาหารลอยมาตามสายลม จื่ออิงเบิกตากว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเหยียนเหยียนที่นั่งอยู่ด้านหน้า"เหยียนเหยียน ถึงแล้วจ้ะ ดูสิ ตลาดคึกคักมากเลย"แม้ว่าหนูน้อยจะพูดตอบกลับมาไม่ได้ แต่ดวงตากลมใสของเธอก็จับจ้องไปยังผู้คนและสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจ ถึงแม้ว่าเธอจะมาตลาดกับคนเป็นพ่อบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก ทุกครั้งที่มาก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้หลี่เฉินเหลือบมองจื่ออิงผ่านหางตา เห็นใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้ว เขาก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้จักรยานยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของตลาดยามเช้า ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา และกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา"เราลงไปเดินซื้อของกันเถอะ"หลี่เฉินพูดขึ้น ก่อนจะพาจักรยานเข้าไปจอดยังลานจอดที่จัดไว้สำหรับรถจักรยานโดยเฉพาะ เขาลงจากจักรยานอย่างคล่องแคล่ว แล้วหันไปอุ้มเหยียนเหยียนลงมาจื่ออิงหันไปจัดเสื้อผ้าของหนูน้อยให้เข้าที่

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่19ปรับความเข้าใจ

    ท่ามความบรรยากาศที่สงบเงียบ รอบกายเต็มไปด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย เสียงทุ้มของหลี่เฉินก็ดังขึ้นแผ่วเบา ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน"อาอิง คุณรู้ตัวหรือเปล่า ว่าคุณดูเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน"จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตาคู่งามละสายตาจากภาพทิวทัศน์สองข้างทาง ทอดมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า หัวใจของเธอเต้นแรงกับคำพูดนั้น เธอรู้ดีว่าเธอเปลี่ยนไปจริง ๆ เพราะเธอไม่ใช่ ‘หลินจื่ออิง’ คนนั้นเธอคิดว่า ในเมื่อตอนนี้เธอคือหลินจื่ออิงแล้ว เธอก็ควรทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ในเมื่อเขาเปิดใจมาเช่นนี้แล้ว เธอเองก็ควรเปิดใจกับเขาอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากนี้ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็จะขอน้อมรับทุกประการ ถือว่าเคลียร์ใจกันไปเลย"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกค่ะ"จื่ออิงตอบเสียงเบา ทว่าหนักแน่น"ฉันแค่คิดได้ คิดได้ว่าต่อจากนี้ ฉันจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม จะไม่เป็นผู้หญิงที่ยึดติด ฉันควรจะเข้มแข็งด้วยตัวเอง และไม่บีบบังคับใจใครอีก ฉัน รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำก็เท่านั้น"เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง"ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อคุณ ฉันขอโทษนะคะ"

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่18เส้นทางไปตลาด

    "เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เราคงต้องขอตัวก่อน ต้องขอโทษด้วยนะซินหยา วันนี้พี่ต้องพาภรรยาไปซื้อของ"หลี่เฉินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น คล้ายต้องการยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านี้ และเขาก็ได้รับรอยยิ้มหวานเชื่อมจากภรรยาทันทีที่เอ่ยจบ รอยยิ้มนั้นงดงามราวกับดอกไม้ผลิบานยามเช้า ดึงดูดสายตาจนเขาเผลอจ้องมองอยู่ชั่วขณะ ราวกับเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มนี้เป็นครั้งแรกความอ่อนหวานที่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจและพึงพอใจบนใบหน้า ทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้เจียงซินหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอคลี่ยิ้มบางๆ เก็บซ่อนความผิดหวังและไม่พอใจเอาไว้มิดชิด"อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้ถามพี่ก่อน คิดว่า... จะเหมือนกับทุกที"ประโยคสุดท้ายของเจียงซินหยาแผ่วเบา ราวกับเป็นเพียงคำพึมพำที่ไม่ได้คาดหวังให้ใครได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้น จื่ออิงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเธอเพียงแค่ยืนเงียบ ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสุขุม ราวกับเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดี แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปแม่นางเอกของนักเขียนคนนี้มีครบจบในที่เดียวจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นแม่ดอกบัวขาว เป็นเสี่ยวซานแล้ว ยังเป็นแม่ชาเขียว หรือที่มักเรีย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

    เจียงซินหยาที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เฉิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม แล้วต้องชะงักไปเธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับหลี่เฉินเพียงลำพังรอยยิ้มอ่อนหวานที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในบ้านของเขาผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครกันและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนาน เพราะในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอหลินจื่ออิงรู้ตัวดีว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้มาเยือน และในฐานะเจ้าของบ้าน การเมินเฉยต่อแขกคงไม่ใช่เรื่องสมควรและเป็นการเสียมารยาท เธอจึงหันไปจูงมือบุตรสาวตัวน้อยที่กำลังหันมองคนนั้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาใสแจ๋ว พาเดินเข้าไปหาทั้งสองคนฝีเท้าของจื่ออิงก้าวเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เธอเดินตรงไปหาหลี่เฉินและเจียงซินหยา มือเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็กระชับมือของเธอแน่นขึ้น ราวกับกำลังหาที่พึ่งพา ดวงตากลมใสช้อนมองเธออย่างลังเล ก่อนจะหันไปจ้องหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่จื่ออิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ก้มลงมองสบตาบุตรสาว ดวงตาคู่น้อยสะท้อนความลังเลและอึดอัดอย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่16หญิงสาวผู้มาเยือน

    หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทั้งสามก็เตรียมพร้อมจะออกจากบ้าน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ทว่า..."พี่เฉิน พี่เฉินคะ"เสียงเรียกหวานใสของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตูรั้ว ก่อนที่ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งจะก้าวเข้ามาในลานหน้าบ้านจื่ออิงที่กำลังสวมรองเท้าให้บุตรสาว หันไปมองต้นเสียง เห็นหญิงสาวเรือนร่างระหงในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีชมพูหวาน เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ใบหน้าหวานสะอาดสะอ้านดูอ่อนโยน หากแต่แววตากลับเปล่งประกายแฝงความมุ่งหวังบางอย่างเธอคือใครกันจื่ออิงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขณะมองดูหญิงสาวที่เดินตรงเข้าไปหาหลี่เฉินที่กำลังนำตะกร้าหวายสำหรับใส่ของผูกไว้ด้านหน้าจักรยาน ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นจับจ้องมองตรงไปยังหลี่เฉินเพียงคนเดียว โดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองรอบตัวเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอราวกับมีเพียงเขาเท่านั้นในสายตา และท่าทีคุ้นเคยของคนทั้งสองทำให้จื่ออิงอดสงสัยไม่ได้"ดีจังที่พี่ยังไม่ออกไป"เสียงหวานเอ่ยขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดีไม่ปิดบัง"ซินหยา มีอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาหาพี่แต่เช้า"หลี่เฉินหยุดมือที่กำลังผูกตะกร้า หันมาถามหญิงสาวผู้มาใหม่ น้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status