Home / รักโบราณ / พลิกชะตารักหญิงบ้า / ตอนที่2ย้อนเวลามาในยุค80

Share

ตอนที่2ย้อนเวลามาในยุค80

last update Last Updated: 2025-07-01 21:07:09

"โอ๊ย...ปวดหัวชะมัด"

กันตายกมือขึ้นกุมหัวที่หนักอึ้งทันทีที่รู้สึกตัว ลมหายใจแรกหลังจากฟื้นคืนสติเป็นไปอย่างติดขัดเหมือนโดนไข้หวัดเล่นงาน ร่างกายหนักอึ้งราวกับถูกพันธนาการด้วยความมึนงง เมื่อสติเริ่มกลับคืนมา เปลือกตาของเธอกะพริบถี่ๆ อย่างสับสน 

นี่เธอยังไม่ตายหรอกหรือ

เธอจำได้ว่าเมื่อคืนนี้เธอเมามาก ภาพเหตุการณ์สุดท้ายที่จำได้คือเธอถูกรถชนเข้าอย่างจังจนร่างกระเด็น แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกเจ็บปวดตามเนื้อตัวเลยล่ะ

กันตาหรี่ตาลง มือของเธอค่อยๆ ขยับลูบไล้ไปตามเนื้อตัว ที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยฟกช้ำดำเขียวทั้งที่เธอควรจะเจ็บหนัก 

แต่ที่น่าตกใจเสียยิ่งกว่าคือผิวพรรณหยาบกระด้างและเสื้อผ้าสีหม่นที่สวมอยู่บนร่าง สิ่งที่เห็นทำให้นิ้วมือของเธอสั่นระริก เกิดอาการงุนงงและความไม่แน่ใจขึ้นมา หัวคิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน เผยให้เห็นความสับสนที่ตีตื้นขึ้นมาในห้วงความคิด พยายามระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า นอกจากภาพตอนถูกรถชนเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย หัวใจของกันตาเต้นแรงขึ้น ความรู้สึกไม่มั่นคงแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอรู้ตัวดีว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นอะไร

หญิงสาวเริ่มที่จะสำรวจตัวเองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นทีละน้อย ความไม่แน่ใจฉายชัดอยู่ในแววตา ก่อนที่อารมณ์บางอย่างจะก่อตัวขึ้น อาจเป็นความหวาดระแวง ความตื่นตระหนก หรือความตกใจที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว

กันตากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก ขณะที่หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ความสับสนและความหวาดหวั่นถาโถมเข้าใส่ เธอพยายามควบคุมสติ แต่ความคิดตลกร้ายก็แล่นเข้ามาในหัว หรือว่าเธอกำลังเผชิญกับเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่าง การสวมร่าง ทะลุมิติมาเกิดใหม่ หรือการย้อนเวลา 

หญิงสาวยกฝ่ามือตัวเองขึ้นมาดู นิ้วมือเรียวเล็กหยาบกระด้างและผิวพรรณกระดำกระด่างที่แตกต่างไปจากเดิมทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ทุกสัมผัส ทุกอิริยาบถ บ่งบอกชัดเจนว่านี่ ไม่ใช่ร่างกายเดิมของเธอ ความจริงที่แสนประหลาดและยากจะเชื่อค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจ และในวินาทีนั้นเอง ความตระหนกก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นคำถามนับพันที่ไร้คำตอบ ว่าตอนนี้เธอเป็นใคร ร่างกายเดิมของเธอตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ แล้วที่นี่คือที่ไหน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่

เปลือกตาของกันตากระตุก เสียงลมหายใจแผ่วเบาดังสอดประสานกับเสียงหัวใจที่เต้นหนักขึ้นในอก ความมึนงงเข้าจู่โจมราวกับม่านหมอกหนาทึบปกคลุมความคิด เธอพยายามเรียกสติ เพราะทุกสิ่งรอบตัวดูเลือนรางและไม่คุ้นเคย

สภาพอากาศในตอนนี้หนาวเย็นกว่าที่คุ้นชิน ผิวสัมผัสของพื้นด้านล่างที่เธอนอนอยู่เป็นฟูกนอนเก่าๆ ที่ปูทับบนเตียงแข็งๆ ไม่เหมือนกับเตียงอ่อนนุ่มที่เธอจำได้ เธอขยับปลายนิ้วไปตามพื้นผิวเพื่อสำรวจความเป็นจริง ปลายนิ้วสัมผัสกับเนื้อวัสดุที่แปลกประหลาด รู้สึกได้ถึงฝุ่นละอองและความเย็นจางๆ

กันตาพยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง หัวสมองหนักอึ้งราวกับเพิ่งตื่นจากความฝันที่ไม่อาจจดจำได้ ชีพจรเต้นแรงขึ้นเมื่อสายตาเริ่มปรับโฟกัสได้ และภาพรอบตัวก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัด

แสงแดดส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่าๆ เข้ามา สะท้อนฝุ่นละอองที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ พยายามปรับสายตาให้ชินกับแสงสลัวของห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย

เธอมองเห็นเพดานไม้เหนือศีรษะมีรอยแตกร้าวเล็กๆ และคราบน้ำซึมออกมา กลิ่นไม้เก่าๆ และกลิ่นฝุ่นผสมกับกลิ่นอับชื้นจางๆ ลอยมาแตะจมูก 

กันตาขยับตัวอย่างอึดอัด หันมองสำรวจไปรอบๆ ห้องด้วยความรู้สึกมากมายที่ตีกันอยู่ในหัว ผนังของห้องนี้เป็นปูนฉาบหยาบๆ ทาสีขาวซีดที่เริ่มหลุดล่อนเป็นบางจุด มีตู้ไม้ใบเล็กตั้งชิดติดผนัง ข้างๆ กันนั้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และมีโต๊ะเขียนหนังสือที่มีรอยขีดข่วนมากมาย ด้านบนวางสมุดปกแข็งเก่าๆ และตะเกียงน้ำมันที่ยังมีคราบเขม่าจับอยู่ ข้างๆ กันมีนาฬิกาปลุกเหล็กสีเงินแบบไขลานที่ตอนนี้หยุดเดินไปแล้ว ทุกอย่างล้วนมีฝุ่นจับอยู่หนาเตอะราวกับไม่เคยทำความสะอาดมาก่อน

มุมห้องมีกองเสื้อผ้ากองพะเนินไร้ระเบียบ แต่ละตัวทำจากผ้าฝ้ายสีซีดๆ ดูแล้วผ่านการใช้งานมานาน บนผนังฝั่งหนึ่งติดโปสเตอร์ภาพเก่าขาดที่น่าจะเป็นภาพของนักแสดงหญิงชาวจีนยอดนิยมในยุคอดีต ข้างๆ มีปฏิทินจีนเก่าๆ ที่ลงวันที่ปี 1977 ตัวเลขสีแดงซีดบนหน้ากระดาษขาวเหลืองเลือนราง ราวกับผ่านวันเวลามานานเป็นหลักฐานว่าที่นี่ไม่ใช่ยุคที่เธอจากมา

หัวใจของกันตาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ความรู้สึกเย็นเยียบแล่นวูบไปทั่วร่าง ความเป็นจริงทั้งหมดที่ได้รับรู้กำลังสั่นคลอนหัวใจของเธออย่างรุนแรง ดวงตาตื่นตะลึงกวาดมองไปรอบห้องอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อ

ห้องนอนที่เธออยู่ตอนนี้สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของจีนได้อย่างชัดเจน ตอนนี้รู้แล้วว่าเตียงแข็งๆ ที่เธอนอนอยู่คือเตียงอิฐที่มีระบบทำความร้อนใต้เตียงเพื่อให้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว หรือที่ในซีรีส์เรียกกันว่าเตียงเตา แต่ตอนนี้นั้นเย็นเฉียบเพราะไม่ได้จุดไฟ ผ้าม่านโปร่งสีซีดแขวนอยู่ริมหน้าต่าง เครื่องเรือนทุกชิ้นดูเก่าแก่เรียบง่าย แม้แต่กลิ่นของไม้และฝุ่นจางๆ ก็ให้ความรู้สึกย้อนยุคเกินจริง ราวกับเธอหลุดเข้าไปในฉากหนึ่งของซีรีส์จีนยุคอดีตที่เธอหลงใหล

ทุกสิ่งอย่างทำให้เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้ย้อนมาในยุคอดีตของแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน แต่ย้อนมาในประเทศจีนยุคอดีต ยุคสมัยที่เธอหลงใหลและคลั่งไคล้จนถึงขั้นตามดูซีรีส์ อ่านนิยาย และศึกษาทุกเรื่องราวเกี่ยวกับมัน 

แต่การชื่นชอบผ่านหน้าจอและตัวอักษรบนหน้าหนังสือ กับการต้องเผชิญหน้ากับมันจริงๆ นั้น ช่างแตกต่างกันจนไม่อาจยอมรับได้

กันตาหย่อนปลายเท้าลงบนพื้นปูนขัดหยาบ เดินโซเซไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกบานเก่าวางพิงผนังอยู่ กรอบไม้เคลือบสีลอกเป็นริ้วๆ เผยให้เห็นเนื้อไม้ด้านใน กระจกมีรอยขุ่นมัวบางจุดแต่ก็ยังสะท้อนภาพได้ชัดเจนพอ

เธอกลืนน้ำลายลงคอรวบรวมความกล้า ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงมองภาพสะท้อนของตัวเอง ดวงตาสั่นไหวจับจ้องไปที่เงาสะท้อนในกระจกบานเก่า แล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ

กันตาแทบหยุดหายใจ เมื่อเงาสะท้อนในกระจกไม่ได้เป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยมาทั้งชีวิต แต่กลับเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีเส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระจุก พันกันยุ่งจนดูไม่เป็นทรง บางปอยจับตัวแข็งกรังราวกับไม่เคยสัมผัสน้ำมานาน ปลายผมแห้งแตกกระเซอะกระเซิงเหมือนฟางที่ถูกแดดเผาจนกรอบ

หญิงสาวเบิกตากว้างแทบถลน มองภาพนั้นอย่างตกตะลึง หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก

นี่เธอเข้ามาอยู่ในร่างของคนบ้าอย่างนั้นหรือ

นี่มัน... ไม่จริงใช่ไหม

กันตายกมือขึ้นแตะใบหน้าของตัวเองในตอนนี้ด้วยปลายนิ้วที่สั่นเทา ผิวสัมผัสหยาบกร้านไม่เรียบเนียน ปลายนิ้วลากผ่านพวงแก้มสกปรกมอมแมม จมูกโด่งเล็กได้รูปสวย ริมฝีปากบาง แห้งแตกเป็นขุยจนรู้สึกเจ็บแปลบทุกครั้งที่ขยับ

ดวงตากลมโตสีดำขลับยังคงเปล่งประกาย แม้จะซ่อนอยู่ใต้เงาที่อิดโรยและรอยคล้ำใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและโทรมอย่างน่าใจหาย

หญิงสาวจ้องมองเงาในกระจกอยู่นาน สภาพภายนอกอาจดูเหมือนคนเสียสติ หากแต่ยังคงเผยให้เห็นเค้าความงามของใบหน้าได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นคนที่สวยมาก

แต่ว่า...เกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่ายกัน

ทำไมร่างนี้ถึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

และทำไมเธอถึงมาอยู่ในร่างของคนที่สภาพเหมือนคนบ้า

กันตาเม้มริมฝีปากแน่น เธอรู้สึกได้ถึงรสเลือดจางๆ จากรอยแตกบนริมฝีปากของตัวเอง มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว

"เหยียนเหยียนมานี่เร็ว เราต้องไปกันแล้ว"

กันตาสะดุ้งกับเสียงที่ดังขึ้นด้านนอก ดวงตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ดูเหมือนว่าคนที่จะให้คำตอบเธอได้ จะอยู่ด้านนอกนั่น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่47สัมผัสแห่งรัก

    ค่ำคืนนั้นบรรยากาศในบ้านหลังเล็กเงียบกว่าทุกวัน ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีบทสนทนาเหมือนเคย ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงของความคิดของตัวเอง เต็มไปด้วยความคิดมากมายที่พูดออกมาไม่ได้มีเพียงเสียงหัวเราะของเหยียนเหยียน เมื่อได้ฟังนิทานก่อนนอนดังแว่วมาเป็นระยะจากในห้องนอน เสียงใสๆ นั้นช่วยแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงเมื่อเด็กน้อยเข้าสู่นิทราเมื่อส่งบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว จื่ออิงก็ระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้งที่ไม่อาจระบายออก ได้แต่เดินมานั่งตรงโต๊ะทำงานเล็กๆ หยิบบัญชีของร้านที่ทำค้างเอาไว้ขึ้นมาดูอีกครั้ง ตัวเลขในตารางเดิมๆ ยังอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่อาจจดจ่ออยู่กับมันได้ใจของเธอล่องลอยไปไกล ไปอยู่กับความกังวลที่กำลังถาโถม กับเรื่องที่ไม่มีใครช่วยตอบได้ นอกจากตัวเธอเองหลี่เฉินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกจากห้องน้ำในชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆ ยังติดอยู่บนผิว เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆ ซับเส้นผมที่ยังเปียกน้ำ แต่พอเห็นภรรยานั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เขาก็หยุดเท้าเอาไว้ยืนมอ

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่46สับสนวุ่นวายใจ

    ช่วงเย็นของอีกวัน จื่ออิงนั่งอยู่ที่โต๊ะในครัวหลังร้าน ดวงตาหยุดนิ่งอยู่บนสมุดบัญชีตรงหน้า แต่เธอไม่ได้อ่านตัวเลขใดๆ เลย ความคิดของเธอล่องลอยไปไกลกว่าแถวตัวเลขเหล่านั้นในเมื่อไม่มีสมาธิจะทำงานต่อ จึงเลือกที่จะปิดสมุดบัญชีรายวันของร้านลง มือของเธอสั่นเล็กน้อย หัวใจหนักอึ้งจนแทบจะควบคุมอะไรไม่ได้ หญิงสาวเงยหน้ามองออกไปยังหน้าร้าน สายตาหยุดที่ภาพของหลี่เฉินสามีของเธอ ที่กำลังสอนบุตรสาวทำการบ้านอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน รอยยิ้มของเขายังคงอบอุ่นเหมือนเคย แต่แววตากลับดูครุ่นคิด เหมือนมีบางอย่างกำลังดึงเขาไปไกลจากตรงนั้นทุกอย่างในตอนนี้ดูเหมือนจะลงตัว แต่ในหัวใจของจื่ออิง กลับรู้ดีว่า บางสิ่งยังคงค้างคาภาพหลี่เฉินกับเจียงซินหยาเมื่อวานนี้ยังวนเวียนอยู่ในหัว คำพูดของพวกเขายังคงก้องชัดในใจใช่ เธอบังเอิญได้ยินมันทั้งหมดการได้เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันเมื่อวานนี้ ทำให้ตัวตนของทั้งสองที่เธอหลงลืมไปหวนกลับมาอีกครั้งจู่ๆ จื่ออิงก็รู้สึกเหมือนถูกดึงกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่เป็นอย่างเนื้อเรื่องในนิยายเลยสักอย่าง จนเธอเกือบลืมไปแล้วว่า โลกใบนี้เป็นโลกของนิยาย เป็นโลกขอ

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่45เจียงซินหยามาเยือน

    ในเวลาเดียวกันภายในหอร้อยรส ช่วงบ่ายคล้อยแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านกระจกหน้าร้าน ลำแสงสีทองแตะต้องขอบหน้าต่างและโต๊ะไม้ในร้านอย่างแผ่วเบา ภายในร้านยังคงคึกคักไม่ขาดสาย เสียงจานช้อนกระทบกันเบาๆ ผสานกับกลิ่นหอมของอาหารที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ หลี่เฉินกำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ คิดเงินค่าอาหารส่งให้พนักงานอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะหันไปหยิบน้ำชาให้ลูกค้าประจำโต๊ะหนึ่ง ท่าทางของเขาขะมักเขม้น เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและใส่ใจในทุกรายละเอียดจนกระทั่งเสียงกระดิ่งเหนือประตูหน้าร้านดังขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ พร้อมเอ่ยประโยคต้อนรับอย่างเคย"สวัสดีครับ หอร้อยรสยินดีต้อน..."แต่ประโยคนั้นกลับหยุดลงกลางคันเมื่อเขาเห็นว่าใครกำลังยืนอยู่หน้าประตู รอยยิ้มอ่อนโยนประจำตัวชะงักไปในทันทีหญิงสาวรูปร่างโปร่งบางในชุดกระโปรงสีครีมยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าขาวสะอาดตา ผมยาวถูกรวบเอาไว้อย่างเรียบร้อย แววตาคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่เขาเจียงซินหยาหลี่เฉินยืนนิ่งไปชั่วครู่ รอยยิ้มจางๆ ประจำตัวค้างอยู่บนใบหน้า ในฐานะเจ้าของร้านเขาไม่แน่ใจว่าควรจะรักษามันไว้หรือปล่อยมันหายไปความเงียบแผ่วบางพาดผ่านระหว่างสายตาของทั

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่44เรื่องน่ายินดี

    วันเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ร้านอาหารเล็กๆ อย่าง "หอร้อยรส" ก็กลายเป็นที่รู้จักในย่านนั้นอย่างรวดเร็ว จากร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ กลับกลายเป็นจุดหมายของผู้คนที่แวะเวียนกันมาแทบทุกวัน ใครจะเชื่อว่าอาคารหลังนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รกร้างเก่าโทรม ไม่มีใครคิดจะหันกลับมามอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นร้านอาหารแสนอบอุ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความสุขของผู้คนที่แวะมาใช้บริการและอิ่มท้องในแต่ละวันลูกค้าขาประจำบางคนถึงกับมาทุกเช้า บางคนแวะมาเย็น บางคนแค่เดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าเข้ามาดูว่ามีเมนูอะไรบ้างที่น่าสนใจในวันนี้ ส่วนลูกค้าใหม่ก็ทยอยตามกันมาแบบปากต่อปากไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ล้วนได้ยินชื่อเสียงของร้านจากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่เจอกันระหว่างต่อแถวซื้อของ ไม่มีวันไหนเลยที่ร้านจะเงียบเหงา ทุกๆ วันมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ เสียงช้อนกระทบชาม กลายเป็นเสียงประจำร้านที่อบอวลไปด้วยชีวิตชีวา กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลมเหมือนคำเชิญชวนที่ไม่มีใครต้านทานได้ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจและแรงกายแรงใจของจื่ออิงกับหลี่เฉิน คู่สามีภรรยาที่ทุ่มเทในทุกขั้นตอน เน

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่43เปิดร้านวันแรก

    ในที่สุดร้านอาหารของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์ จื่ออิงกับหลี่เฉินยืนเคียงข้างกันอยู่หน้าร้าน มองดูคนงานกำลังติดตั้งป้ายชื่อร้านเหนือประตูทางเข้าด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและภาคภูมิใจป้ายไม้ขนาดใหญ่ถูกออกแบบอย่างสวยงามและพิถีพิถัน รูปลักษณ์ดูทันสมัยแต่ยังแฝงกลิ่นอายของความเป็นจีนดั้งเดิม ลวดลายที่แกะสลักลงบนเนื้อไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิก ไม่ฉูดฉาดแต่กลับโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ เมื่อติดตั้งเสร็จ ป้ายนี้ก็เสริมให้บรรยากาศของร้านดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวของอาหารและวัฒนธรรมที่รออยู่ภายในและสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นชื่อร้านที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตและสวยงาม"หอร้อยรส (百味楼)"ชื่อนี้จื่ออิงใช้เวลาคิดอยู่นานหลายวัน เธออยากได้ชื่อที่ไม่เพียงแค่ไพเราะ แต่ต้องสื่อถึงอาหารทุกจานในร้าน ร้านที่รวมร้อยรสชาติเอาไว้ รสชาติหลากหลายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เปรียบเหมือนรสชาติร้อยแบบพันอย่างที่ลูกค้าจะได้สัมผัสและลิ้มลองวันนี้เมื่อเห็นชื่อร้านของเธอถูกยกขึ้นติดไว้อย่างสง่างามเหนือทางเข้า จื่ออิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ แม้ว่าทุกอย่างจะยั

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่42วันแสนสุขที่ผ่านไปอีกวัน

    บ่ายวันนั้น หลังจากเก็บงานที่ร้านเสร็จเรียบร้อย จื่ออิงกับหลี่เฉินก็พากันไปรับเหยียนเหยียนที่โรงเรียนทันทีที่แม่หนูน้อยเห็นพ่อกับแม่มายืนรออยู่ตรงประตูโรงเรียน ใบหน้าเล็กๆ ก็เปล่งประกายสดใส ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับ ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจ"แม่คะ พ่อคะ วันนี้หนูสนุกมากเลยค่ะ"เด็กหญิงร้องบอกเสียงใส ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แก้มกลมนุ่มนิ่มขึ้นสีชมพูอ่อนดูน่าเอ็นดู"วันนี้หนูได้ระบายสีสมุดภาพ ได้เล่นกับเพื่อน แล้วก็..."เหยียนเหยียนพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด มือเล็กๆ แกว่งไปมาประกอบคำพูดอย่างกระตือรือร้นฝ่ามืออ่อนนุ่มของจื่ออิงยกขึ้นลูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู รอยยิ้มละมุนกระจายเกลื่อนใบหน้าหลี่เฉินย่อตัวลงรับลูกสาวขึ้นมากอดด้วยท่าทีอบอุ่น แล้วอุ้มขึ้นไปนั่งบนเบาะจักรยานด้านหน้า ขณะฟังเรื่องราวของลูกอย่างตั้งใจ รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาแต่ยังไม่ทันจะได้จัดให้เจ้าตัวนั่งดีๆ เสียงใสๆ ก็ประท้วงขึ้นเบาๆ"วันนี้หนูขอนั่งข้างหลังกับแม่ได้ไหมคะ"จื่ออิงหัวเราะออกมาเบาๆ พลางสบตากับหลี่เฉินอย่างรู้ทัน เห็นท่าทางกระตือรือร้นของลูกสาวก็พอจะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status