“ท่านหมอจากไปก่อนหน้าที่จวิ้นหวังจะได้นั่งบัลลังก์ตำหนักบูรพาด้วยซ้ำไป ป่านนี้ วิชาด้านการแพทย์คงรุดหน้าไปไกลมีทางไหนส่งข่าวให้ท่านหมอกลับมาโดยเร็วบ้างหรือไม่”
“หานจงเจ้าว่าอย่างไรเสด็จย่าถามเจ้า” ฉินเกอหลงพูดขึ้นดังๆ อีกครั้ง
“อ่า ขอรับ”
มัวแต่ปล่อยความคิดล่องลอยไปหาเยี่ยนฉือ ในวันสุดท้ายที่พบกันเยี่ยนฉือไม่เอ่ยคำลาแต่พร้อมจะจากไป หานจงเองกลับรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเยี่ยนฉือจะไปเขาไม่ไปส่งไม่โบกมือลาและกล่าวคำลาเช่นกัน กระนั้น เยี่ยนฉือก็ส่งข่าวมาที่ หานจงเสมอมาเพราะเขาเลี้ยงนกเหยี่ยวเช่นเดียวกับฉินเกอหลงไว้สำหรับส่งข่าวเหนือใต้
“มีวิธีไหนที่จะตามตัวท่านหมอเทวดาได้บ้าง” ไทฮองไทเฮาถามซ้ำ
“หานจงจะเร่งตามตัวท่านหมอโดยเร็ว แต่ต้องรอให้ท่านหมอรู้ว่าเราทั้งหมดอยู่ที่นี่เมื่อถึงเวลานั้นท่านหมอจะส่งนกเหยี่ยวสื่อสารส่งข่าวมาว่าอยู่ที่ไหนถึงเวลานั้นเราค่อยส่งข่าวให้ท่านหมอกลับมาที่นี่”
“อืมมมดี เพราะหลังจากนี้สิ่งที่ต้องทำคือให้ยาถอนพิษกับเอ่อต้าเหนิงถอนพิษให้นางแล้วค่อยให้ท่านหมอเทวดามาฟื้นฟูร่างกายของนาง” ฉินเกอหลงถอนหายใจยาว
“หลานกับหานจงจะช่วยกันจะคุ้มกันนาง คนของตระกูลเอ่อคนสุดท้ายให้อยู่รอดปลอดภัย”
“ดีแล้วย่ากับเสด็จปู่ไม่อาจ ผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเอ่อถูหวังซวน” ก้มหน้ามอง
พื้นป่านนี้เอ่อถูหวังซวนก็คงรู้แล้วว่าหลานของเขาปลอดภัย หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเขาส่งคนลอบสังหารฉินเกอหลงให้และในขณะเดียวกันก็ส่งคนอารักขาตลอดการเดินทาง
เช้าสดใส เสียงนกอู่ผีอิงอู่ร้องดังๆ ที่ระเบียงวิหารเทียมฟ้าระเบียงสูง
เทียมฟ้าเมฆหมอกลอยอ้อยอิ่ง ต้าเหนิงนอนมองเมฆหมอกที่ลอยเรี่ยระเบียงวิหาร ที่ทำไว้สำหรับชมเมฆหมอกด้านล่างให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่บนสวรรค์กระนั้นแสงอาทิตย์ยามเช้าส่งสว่างเป็นริ้วเส้นตรงทว่าไม่ได้ร้อนแรงแต่อบอุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของยาบำรุงที่สาวใช้ของไทฮองไทเฮาเคี่ยวไว้สำหรับต้าเหนิงลอยมาแตะจมูกให้ความรู้สึกสดชื่น เสียงฝีเท้าของใครบางคนข้างนอกนั่น ต้าหนิงรีบหลับตาลงทันที รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งจะต้องสอดแนมและหาข้อมูลก่อนว่าคนพวกนี้เป็นใครต้องการอะไรและทำไมถึงพาต้าเหนิงมาไว้ที่นี่ เหมือนกับหารดูภาพยนตร์จะตัดไปช่วงกลางๆ เลยก็ไม่ดีจะต้องเริ่มดูตั้งแต่ตอนแรกจะได้รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ต้าเหนิงจะได้ทำตัวถูกตามน้ำได้ถูก
ม่านแพรสีเขียวอ่อนถูกมือเรียวของฉินเกอหลงเปิดออกช้าๆ
ต้าเหนิงหัวใจแทบจะหยุดเต้นเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั่นยื่นเข้ามาใกล้สุดใกล้รีบหลับตาในทันทีกลัวว่าฉินเกอหลงจะเห็นว่าต้าเหนิงตื่นอยู่
“หล่อจัง คนอะไร หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อตลอด หล่อทุกวัน หล่อทุกท่า”
พร่ำเพ้อไปตามเรื่องก็ต้าเหนิงไม่เคยเห็นคนหล่อขนาดนี้มาก่อนนี่คนอะไรหล่อที่สุดในสามโลกใบหน้าเหมือนผู้หญิงริมฝีปากก็สีชมพูระเรื่อดวงตากลมโต นี่มันคนหรือดาราจีน หรือว่าที่นี่คือโรงถ่ายเหิงเตียนหรือเปล่าเขากำลังถ่ายซีรีส์กันอยู่ใช่ไหม เสียงฝีเท้าของฉินเกอหลงทำเอาสติกลับมาอีกครั้ง
มันไม่ใช่ต้าเหนิงอย่ามโน ถ้าเขาถ่ายหนังแล้วไอ้ที่ต้าเหนิงตายไปสดๆ ร้อนๆ นั่นเล่า
ฉินเกอหลงเดินเบาๆ เข้ามาที่แท่นนอนที่ต้าเหนิงนอนอยู่ ก้มหน้ามองดวงตาของเอ่อต้าเหนิงที่หลับตาปี๋
“ยังไม่ฟื้นอีกหรือแปลกจริงน่าจะฟื้นได้แล้ว” สาวใช้เปิดผ้าม่านเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยยากลิ่นยาหอมขจรขจายยาหอมตำรับไหนกันนะหอมชื่นใจจริงๆ
“ข้าป้อนนางเองเจ้าไปคอยปรนนิบัติเสด็จย่าเถิด” สาวใช้วางถ้วยยาลงบนโต๊ะ
“เจ้าอย่าเพิ่งไปเอาน้ำอุ่นมาให้ข้าด้วยข้าจะเช็ดตัวให้นาง” ต้าเหนิงเม้มปากแน่น ใบหน้าต้องแดงแปร๊ดแน่ๆ
ตายแล้วเช็ดตัวหรือคนหล่อ ขนาดนี้กำลังจะเช็ดตัวให้ต้าเหนิงอย่างนั้นหรือ ตายแล้ว
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ออกไปแล้วต้าเหนิงนอนตัวแข็งทื่อ
ไม่มีคนอื่นแล้วหรือทำไมต้องให้เทวดารูปหล่อคนนี้ฮืออออฉันเสียวท้องน้อยเลยนะโว๊ย
“มาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ยกน้ำเข้ามาวางฉินเกอหลงโบกมือให้นางถอยออกไป
หยิบผ้ามาชุบน้ำบิดพอหมาดกำลังจะเช็ดหน้าให้ต้าเหนิง ใบหน้าหล่อเหลาแดงถึงใบหูจ้องมองใบหน้างดงามที่หลับตาพลิ้มของต้าเหนิงด้วยความรู้สึกประหลาด
สาวใช้มองท่าทีของฉินเกอหลงยิ้มๆ
“ไต้ซือหากไม่ว่าอะไรให้ข้าน้อยได้ช่วยท่าน ที่ครองเพศบรรพชิต ไทฮองไทเฮาบอกว่าให้ข้าน้อยได้แบ่งเบาเรื่องที่ทำให้ไต้ซืออึดอัด” ต้าเหนิงถอนหายใจโล่งอกเมื่อสาวใช้ของไทฮองไทเฮาพูดแบบนั้น
“เช่นนั้นเจ้าจัดการให้นางเสร็จแล้วเรียกข้า” รีบลนลานออกจากห้องไป
ต้าเหนิงเกือบจะเผลอถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หวางซื่อ ท่านหนีอะไรมา” หานจงเอ่ยปากเมื่อเห็นว่าฉินเกอหลงที่ก้มหน้าหลบตาอีกทั้งหน้ายังแดงแปร๊ด อากาศก็ไม่ร้อนแต่หน้าแดงราวกับสาวรุ่น
“ไม่ได้หนีอะไรมา” หานจงพยักหน้ายิ้มๆ
“ติดต่อท่านหมอเยียนฉือได้หรือยัง”
“ยังขอรับเพิ่งจะผ่านไปแค่วันเดียวท่านอ๋องอย่าเพิ่งใจร้อนตอนนี้สนมเอ่อก็ไม่ได้สติสิ่งที่เราต้องการให้หมอเยี่ยนฉือมาดูแลก็คือเรื่องการฟื้นฟูหลังจากที่พระสนมได้สติ”
ฉินเกอหลงพยักหน้าขึ้นลง
“อย่าสมุนไพรของนาง”
“ข้าน้อยหาเก็บเอาบนยอดเขาวิหารเทียมฟ้าขอรับ จะไปให้ท่านหมอด้านนอกเจียดยาให้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านหมอเยียนฉือสอนหานจงมายังไม่เคยได้ใช้เพราะฉะนั้นก็ควรนำมาใช้เสีย”
ฉินเกอหลง ก่อนหน้านั้นเมื่อพันปีก่อนยืนโปรยเถ้ากระดูกของต้าเหนิง ที่ลำน้ำใสไหลเย็น“เดินทางก่อนข้าแล้วอย่าลืม จดจำเรื่องราวของเรา”“ฝ่าบาท ท่านหมอเยี่ยนฉือกับหานจงขอประทานอนุญาตออกเดินท่องยุทธภพ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอนุญาตในครั้งนี้”เชียวกงเล่อประสานมือตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนบางอย่างแหว่งเว้าหายไป กำลังจะมีใครจากไปอีกแล้วสินะถึงจะยื้อไว้เพียงใดพวกเขาก็ต้องจากไปสักวันอยู่ดี“ในที่สุดเราทุกคนก็ได้แค่เพียงเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปพร้อมกับสายลม ข้าเองแม้จะอยากทำตามใจเพียงใดสุดท้ายข้าก็ได้แค่เพียงสะกดกลั้นความคิดนั้นไว้เสีย”“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ..กงเล่อหมายถึงท่านปู่ของฮองเฮาเอ่อถูหวังซวน เสียใจที่ต้องสูญเสียคนของตระกูลเอ่อไปจนไม่เหลือใครแม้กงเล่อขอใช้แซ่ของตระกูลเอ่อแต่ท่านพ่อก็ยังเศร้าโศกเช่นเดิมกงเล่อเข้าใจดีว่าไม่อาจทดแทนกันได้”“จริงสินะในที่สุดตระกูลฉินก็ไม่อาจปกป้องตระกูลเอ่อไว้ได้ ข้าที่ทุ่มเทตั้งแต่วันแรกที่พบนางก็ยังไม่อาจช่วยเหลือนางได้ทันเช่นนั้นจึงเรียกว่าเป็นความผิดของข้า”“ไม่มีใครผิดพ่ะย่ะค่ะสวรรค์กำหนดไว้แล้ว หากไม่มีฝ่าบาทบางที่ตระกูลเอ่ออาจไม่เหลือรอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกฆ่า
ฉินเกอหลงก้มลงจูบที่หน้าผากเธอหนึ่งทีแล้วพูดติดตลก“อย่าทำแบบนี้บ่อยนะ เดี๋ยวใจฉันจะละลาย” ต้าเหนิงกลั้นยิ้มหลังอาหารเย็น ฉินเกอหลงยืนล้างจานอยู่ในครัวโดยมีเด็กแฝดทั้งสองคนยืนอยู่ข้างๆช่วยส่งจาน พ่อบ้านคนเก่งพูดคุยกับลูกๆไปด้วย เสียงหัวเราะคิกคักของทั้งสามคนทำให้บ้านหลังนี้ดูมีชีวิตชีวากว่าที่เคยเป็น ต้าเหนิงยืนพิงขอบประตูดูภาพตรงหน้า แอบอมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ใครจะเชื่อว่าผู้ชายเย็นชาจากโลกเดิม จะกลายมาเป็นคนที่อบอุ่นจนสามารถละลายกำแพงในใจเธอได้ทั้งหมดฉินเกอหลงคนนี้งดงามกลางใจต้าเหนิงไม่มีเสื่อมคลายทุกเช้า เขาจะตื่นก่อนเพื่อเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ บางวันมีซาลาเปาไส้หมูฉ่ำๆที่เขานวดแป้งเอง บางวันก็มีข้าวต้มร้อน ๆ กับไข่เยี่ยวม้าราดซอสขิง เธอแค่ลุกมาก็เจอกลิ่นหอมลอยมาจากครัว พร้อมกับเสียงทุ้มนุ่มเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย“ต้าเหนิงที่รัก ตื่นได้แล้ว กินข้าวก่อนนะ แล้วค่อยนอนต่อก็ได้”เขาไม่เคยปล่อยให้ต้าเหนิงต้องทำงานอะไรในบ้านคนเดียว ไม่ว่าจะซักผ้า ทำสวน พาเด็กไปหาหมอ หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างเปิดฝาน้ำปลาที่ว่ายากๆเขาก็จะโผล่มาทันที พร้อมกับสายตาห่วงใยที่ไม่เคยจางไป เขาใส่ใจทุกรายละเอ
เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังเบา ๆ เมื่อต้าเหนิงผลักประตูบ้านเข้ามา กลิ่นหอมของข้าวสวยร้อน ๆ คลุกเคล้ากับกลิ่นขิงและน้ำซุปลอยมาแตะจมูกทันที ฉินเกอหลงคงวุ่นอยู่ในครัวเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา แค่ก้าวเข้าไปยังไม่ทันได้วางกระเป๋าถือ มือของใครบางคนก็คว้าสัมภาระไปจากเธออย่างแผ่วเบา“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงนุ่มทุ้มที่ฟังเมื่อไรก็อบอุ่นใจเสมอดังขึ้นจากข้างหลัง ฉินเกอหลง สวมผ้ากันเปื้อนผืนบาง ทับเสื้อเชิ้ตสีครีมแขนพับขึ้นถึงข้อศอกทำไมเขาดูน่ารักในตอนที่สวมผ้ากันเปื้อนนะ ดวงตาหยีเมื่อยิ้ม“ทำกับข้าวอีกแล้วเหรอ คงจะยุ่งสินะวันนี้” ต้าเหนิงยิ้มพลางถอดรองเท้า “เหนื่อยนิดหน่อย...แต่เห็นหน้าคุณแล้วหายเหนื่อยทันที” ต้าเหนิงอมยิ้ม “พูดแบบนี้ จะหวานเกินไปแล้วนะคุณสามี” “อยากจะให้หวานกว่านี้ไหมไปที่ห้องนอนกันสิ” เขากระซิบใกล้หู ทำเอาหัวใจต้าเหนิงเต้นตุ้บ ๆทันใดนั้น เสียงเท้าเล็ก ๆ วิ่งลงบันได ฉินเกอหลงถอนหายใจก่อนจะยิ้มกว้างส่ายหน้าไปมา “หม่าม๊าาาาาาาาา” เสียงใสของ หนูน้อยต้าเล่อ วิ่งมากอดขาแม่แน่น ตามหลังมาด้วยน้องชายฝาแฝด ต้าโย่ว ที่ถือของเล่นไม้ในมือ “คุณแม่กลับมาแล้ว!” ต้าเหนิงย่อตัวลงกอดลูกทั้งสอง
หนึ่งปีผ่านไปที่คลินิกใหญ่แห่งหนึ่งของย่านที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาต้าเหนิงหอบหิ้วข้าวของมากมายเดินเข้าไปข้างใน ที่นั่นหมอดนัยนั่งไขว่ห้างพิงพนักเก้าอี้หานจงกำลังเดินออกมาพร้อมกับของว่างได้เวลาของว่างพอดีสินะ“กำลังคิดว่าจะไปเยี่ยมคุณกับหลานๆ” หมอดนัยกล่าวทักแล้วรีบมาช่วยต้าเหนิงรับเอาของพะรุงพะรังไปวางที่โต๊ะตัวกลางหน้าโซฟา หันมองสบตากับหานจงยิ้มๆ ต้าเหนิงเบ้ปาก“ฮันนีมูนมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง” ต้าเหนิงพูดไปด้วยวางขนมลงบนโต๊ะทำงานของหมอดนัย“ดีที่สุดดีมากและดีจริงๆ” หันไปยิ้มกับหานจงอีกครั้งโลกมันเปลี่ยนไปแล้วความรักคือสิ่งสวยงาม หานจงรีบกุลีกุจอนำจานมาแกะห่อขนมวางตรงหน้าหมอดนัย“หือน่ากินจังต้าเหนิงเก่งจริงๆ ทำขนมเป็นด้วยหรือ” ต้าเหนิงส่ายหน้ายิ้มๆ“ทายสิว่าใครทำ” หมอดนัยอ้าปากค้าง“เมืองจีนนี้เขาสอนลูกหลานเขาอย่างไรน้าาา ผู้ชายสุภาพทุกคนและยังเอาใจเก่งอีกด้วยอิจฉาต้าเหนิงจังมีคนทำกับข้าวให้เลี้ยงลูกให้แล้วยังนอนกล่อมกลางคืนด้วย” ต้าเหนิงส่ายหน้าไปมายิ้มๆ“แล้วคนของหมอเล่า” พยักหน้าไปทางหานจง“ผมไม่เกี่ยวนะ ผมไม่สุภาพตรงไหนผมเอาใจคุณหมอทั้งคืน” หานจงพูดตามแบบที่เข้าใจภาษาไทยได้เล็ก
“นั่นสิคุณน่ะนะยิ่งโดนมือยิ่งน่าฟัดดูสิอกอวบแน่นกับบั้นท้ายที่น่ากระแทกขนาดนี้ใครจะอดใจไหว” ต้าเหนิงยิ้มอายๆ“อีกทีนะคนดี” กดเอวลงช้าๆ เน้นๆ ต้าเหนิงสะดุ้งเฮือกเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว“อ่าาาาา” บิดกายสอดรับกับร่างแข็งแรงของอีกคน ความเสียวช่านแผ่ไปทั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า มือบางกอดฉินเกอหลงไว้แน่นซี๊ดปากด้วยความรู้สึกเสียวสุดๆ ฉินเกอหลงยิ้มมองสบตาหวานฉ่ำ“เอาอีกสินะ” อีกคนยิ้มขย่มร่างบางของต้าเหนิงที่กำลังวิงเวียนทั้งหวานทั้งเสียวซ่าน คนหล่อก็ไม่ออมมือยังขย่มด้วยแรงทั้งหมดก่อนจะกอดรวบร่างบางแนบแน่นร่างสงอร่างบดเบียดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันพายุสวาทจบลงแล้ว จูบเบาๆ ที่หน้าผากเนียนดึงมือบางให้ลุกขึ้น“คราวนี้ลุกได้แล้วไปอาบน้ำแล้วผมจะพาไปทานอะไรก่อนที่จะไปหาหมอให้คุณหมอดนัยดูอาการเสียหน่อย หรือจะให้อุ้มไปที่ห้องน้ำผมอาบน้ำ” ต้าเหนิงทำหน้าเง้าอีกคนจูบที่หลังมือเบาๆ“ไปกันเถอะเดี๋ยวคืนนี้ผมมาจัดเต็มให้อีกตอนนี้หิวแล้วไปหาอะไรกินกันก่อน” ต้าเหนิงยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างว่าง่ายเสียงฝักบัวดังซู่ๆ ฉินเกอหลงกางผ้าขนหนูแล้วกอดร่างเปลือยของต้าเหนิงไว้จูบที่ไหล่เบาๆต้าเหนิงยิ้มทุกอย่างจะต้องเป็นฉินเกอหลงที
ฉินเกอหลงกุมมือต้าเหนิงพาวิ่งไปที่รถสปอร์ตที่จอดผูกโบไว้ด้านหลังผูกกระป๋องก๋องแก๋งให้ดูตลก ฉินเกอหลงเปิดประตูอุ้มต้าเหนิงขึ้นนั่งบนรถเข้าเองก็เปิดประตูเข้านั่งข้างๆ พารถเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ“ในที่สุดก็สมหวังยัยหนูลูกเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ป๊าของต้าเหนิงพูดกับคุณปทุมยิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นปาดน้ำตา“กำลังคิดว่าคนที่คุณหาให้ต้าเหนิงคนนั้นชื่ออะไรนะฉันเกือบลืม”“กวนหยงเขายังอยากจะแต่งกับยายหนู แต่คนนี้ผมว่าดีสุดล่ะทั้งหล่อทั้งรวยลูกเราตาถึงเหมือนกันนะให้เลือกเองไม่มีพลาดเชียว” รอยยิ้มที่สดใสปรากฏตรงหน้าเรื่องราวร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้วต่อไปเหลือแต่เรื่องราวดีดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในห้องหอที่แม้แต่เตียงยังหวาน ต้าเหนิงนั่งบีบมือตัวเองบนเตียงใหญ่โรยด้วยกลีบกุหลาบความรู้สึกตื่นเต้นกับความรู้สึก เขินอายตีกันวุ่นวาย นั่งรอให้เขาเอาเสาลงหลุม555มือเย็นเฉียบ หน้าคงจะแดงถ้าดูกระจกตอนนี้“ฉินเกอหลงเดินมานั่งลงข้างๆ“อาบน้ำไหม” ต้าเหนิงอ้าปาก“เคยอาบแล้วค่ะ” อีกคนส่ายหน้ายิ้มๆ“แสดงว่าอยากให้ทำอะไรที่ไม่เคยทำใช่ไหม”“มะ มะไม่ไม่ใช่…อุ๊ป” ริมฝีปากอุ่นประกบบางทันทีจูบหวานหยดทั้งเชิญชวนและหลอมละลายที่ไม่ใช่ละล