 LOGIN
LOGINฟีมหัวเราะก่อนหันไปถามเพื่อน “ฟัง ๆ ดูแล้วไม่ใช่ว่าพรีมเพิ่งอกหักเหรอวะ” ฟีมเปิดปากถาม
“อือ เธอเลิกกับแฟนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน” โซ่ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้เพื่อนฟังเพราะยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของหญิงสาว
“แล้วเอาไง” ลมบุ้ยหน้าลงมองสาวในวงแขน หมิงภาพตัดก่อนใครเพื่อน
"ให้นอนห้องข้างบนแล้วกัน”
บ้านของเขาชั้นบนมีสามห้องนอนกว้างขวาง ของเขาห้องหนึ่ง อีกสองห้องว่างเพราะพี่ชายยึดห้องข้างล่างเป็นห้องพัก
“พี่มึงไม่กลับเหรอ”
“ไอ้ซีนมันทำโครงงาน ไม่โผล่หัวกลับมาหรอก”
ถึงกลับมา โซ่มั่นใจว่าพี่ไม่ว่า พวกเขาไม่เคยวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายอยู่แล้ว แล้วการกินเหล้าเกี้ยวสาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดของวัยรุ่น แม้ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะหิ้วสาวติดมือกลับบ้าน เพียงแต่พวกเธอแต่ละคนเมาเละจริง ๆ จะไปส่งที่หอ เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเธออยู่ห้องไหน บนการ์ดไม่มีระบุหมายเลขห้องไว้
ที่ผ่านมา โซ่ก็ไม่เคยหิ้วใครกลับมาบ้านเลยสักครั้ง เน้นกินข้างนอก อิ่มแล้วกลับบ้านนอน สไตล์เขาเป็นแบบนั้น
หลังจากช่วยกันประคองสามสาวขึ้นไปนอนห้องชั้นบนเรียบร้อย สามหนุ่มเพื่อนซี้ลงมานั่งดื่มเหล้ากันต่อ
“มึงอะ เมื่อไหร่จะไปง้อเรน”
โซ่เอ่ยถาม หลังพบว่าเพื่อนดื่มจนได้ที่แล้ว หากอีกฝ่ายยังไม่วายปากดี
“ง้อเพื่อ”
“ไม่อยากง้อแล้วเสือกวิ่งไปแอบดูเขาทุกวันทำไมวะไอ้ลม ไหนมึงพูดมาดิ๊” ฟีมถามบ้าง
“แค่อยากเห็นหน้ามั้ง”
“โคตรมักน้อย ถ้าเห็นหน้าเขาแล้วอิ่มแทนข้าวได้นี่ มึงคงไม่ต้องแดกข้าวหรอกเนอะวัน ๆ” เจ้าของบ้านประชด
“พวกมึงไม่ต้องพูดมาก แค่ดื่มเป็นเพื่อนกูก็พอ”
โซ่เลยต้องยอมปิดปากเงียบเพราะเข้าใจเพื่อนเป็นอย่างดี บางทีการรักใครคนหนึ่งมาก ๆ แต่เขาไม่รักเรา การแอบมองแอบรักเงียบ ๆ ไม่รักเข้าวุ่นวายก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด จะยึดถือคติ รักแท้ต้องแย่งชิง จัดการจับกดรวบหัวรวบหางกินลงท้องไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก แล้วจะทำให้สาวรักหัวปักหัวปำมันเป็นไปได้ยากในยุคสมัยนี้
สองชั่วโมงจากนั้น สภาพแต่ละคนไม่ต่างจากสาว ๆ เมื่อก่อนหน้า
“พวกมึงขึ้นไปนอนข้างบนหรือนอนนี่ก็ตามสบายนะ ไม่ไหวละ หัวกูจะทิ่ม”
“เหมือนกันว่ะ แต่กูนอนตรงนี้แหละ” ฟีมซุกหน้าลงกับหมอนอิงหลังปีนขึ้นโซฟาตัวใหญ่สำเร็จ
“same” ลมทิ้งตัวลงบนพื้นพรมนุ่มหนาปิดเปลือกตาลงอีกคน
โซ่มองแล้วส่ายหน้า มีรักแล้วมีทุกข์แบบเพื่อน เขาอยู่เป็นโสดแบบนี้สบายใจที่สุด กายสูงสง่ากว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินโซเซคลอเคลียบันไดขึ้นสู่ชั้นบน และแม้จะเมาหนักขนาดไหน สิ่งที่เขาต้องทำคืออาบน้ำแปรงฟัน เมื่อเข้าห้องนอนจึงตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที ใช้เวลาไปไม่นานก็ออกมาในสภาพสวมบ็อกเซอร์ตัวเดียว เดินไปทิ้งตัวลงนอน แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เด้งตัวขึ้นไปคว้าสวิตช์ไฟกดเปิด พบว่าสิ่งที่เขาชนไปเมื่อครู่คือมนุษย์ผู้หญิงขี้เมา
“พรีม...” เขาจับแขนเรียวเรียกแผ่วเบา
“พรีม... ตื่น... ทำไมมานอนอยู่นี่” เมื่อเรียกเฉย ๆ อีกฝ่ายไม่ตอบสนองเขาก็จับคนที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างสบายอารมณ์ให้หันมาหา การจับตัวเธอเขย่าคงสร้างความรำคาญ ปากสีชมพูระเรื่อถึงบ่นงึมงำ
“อย่ากวนดิเซียร์...ขอนอนหน่อย...”
“ไปนอนห้องตัวเองดิ” เธอคิดว่าเขาเป็นเพื่อนไปอีก
โซ่ไม่ได้รังเกียจ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอมองว่าตนกำลังฉวยโอกาส จึงช้อนกายอุ่นหอมตั้งท่าจะพากลับไปนอนกับเพื่อนเธอ
คนเมากลับดิ้น ปรือตาขึ้นมอง สองมือเรียวประกบแก้มขาวที่เห็นเลือนราง “โซ่เหรอ...”
“อืม...”
“เราไม่สวยเหรอ ไม่เซ็กซี่เหรอ ทำไมพี่โปรดต้องไปเอากับคนอื่นด้วย”
“มันตาไม่ถึงของ”
โซ่พูดออกมาจากใจจริง พรีมสวยมาก หน้าสวย หุ่นเป๊ะปัง สวยเซ็กซี่ขนาดทำผู้ชายน้ำลายหก พิสูจน์ได้จากตอนอยู่ในผับ ใคร ๆ ต่างให้ความสนใจมองเธอ ถ้าเธอไม่นั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขา คงมีคนมาขอคอนแทกต์เพียบ ถ้าไอ้เหี้ยนั่นมันไม่โง่ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
“ฮึก...ฮือ...”
“ร้องทำไม เสียใจที่มันไม่รักขนาดนั้นเลย”
“เสียใจ...หะ ห้าปีเลยนะ ฮึก... เราคบกับเขามาห้าปี แต่ไม่สู้ห้านาที แค่ห้านาทีคนเราก็ทรยศกันได้แล้ว ฮึก”
จากที่ตั้งใจจะพาอีกฝ่ายไปส่งห้อง โซ่กลับใจไหว มองคนที่ริบังอาจบุกถ้ำเสือปิดหน้าร่ำไห้
“เราโคตรเสียใจเลย ฮือ ๆ”
“พรีม...” กายแกร่งทอดตัวลงนอน รวบร่างนุ่มเข้ากอด ปลุกปลอบด้วยการลูบผม ลูบหลังบางแผ่วเบา “ร้องให้พอเลยพรีม พรุ่งนี้ไม่ต้องร้องอีกแล้วนะ น้ำตาไม่เหมาะกับเธอหรอก”
ในความทรงจำ ยามเยาว์วัย พรีมสดใสร่าเริงและแสบซนคนหนึ่ง หน้ากลมในยามนั้นมีรอยยิ้มเสมอ ไม่ว่าจะต้องทำกิจกรรมกลางสนามกับเพื่อนตากแดดตากลมแค่ไหน เวลามีกิจกรรมก็มักอาสาคนแรก เป็นเด็กกิจกรรมตัวยง ทำให้สนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้อง เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังย้ายโรงเรียน โซ่เคยนึกอยากติดต่อหาเธอ ทว่าช่วงเวลานั้นการติดต่อกันยังไม่ทันสมัยสะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ พอนานวันเข้า เพื่อนที่ชื่อพรีมก็หายไปจากระบบความคิด เพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ ๆ เรียกความตื่นตาตื่นใจ เขารู้จักกับฟีมและลมตอนเข้าม.1 นี่เอง
เรียวแขนเล็กสอดเข้ากอดรอบกาย เบียดความนุ่มหยุ่นของเรือนร่างต่างเพศเข้าหาไออุ่น โซ่อยากผละห่าง ร่างกายเขาไม่ใช่อิฐใช่ปูน มันเริ่มรู้สึกรู้สากับเนื้อนุ่ม ๆ กรุ่นกลิ่นหอมอ่อนตามประสาวัยเจริญพันธุ์ แต่คนที่ร้องเป็นเผาเต่ายังสะอื้นไม่หยุดจึงไม่กล้าผละห่าง เก็บกลั้นสัญชาตญาณเพศผู้ไว้สุดฤทธิ์
ให้ตาย! โซ่สาบานหน้าไฟเลยว่าก่อนหน้าไม่ได้คิดอกุศลกับเธอเลย ตอนนี้ในใจที่หวิวไหวเริ่มก่นด่าไอ้ห่าเฮงซวยนั่น จิตใจมันทำด้วยอะไรถึงทำให้ผู้หญิงโคตรน่ารักอย่างพรีมเสียใจขนาดนี้

แผนการอันนั้นทำให้โซ่ต้องมายืนอยู่หน้าโต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าและเก็บของของเมียรักในห้องวอล์กอินโคเซต ตามองขวดยาคุมเขม็ง พรีมเปลี่ยนมากินยาได้หนึ่งปีแล้ว เขาจะคุมเองเธอก็ไม่ยอม บอกกลัวพลาดท้องทั้งที่แต่งงานกันแล้วนี่แหละ“ยืนทำอะไรตรงนี้ ไม่เข้าไปนอนสักทีล่ะ”เสียงทักถามจากเมียรักมาพร้อมกับอ้อมกอดที่ทำให้ใจอุ่นได้ทุกครั้งพรีมเบี่ยงหน้ามาสบตากันผ่านกระจกเงา ก่อนสายตาจะหลุบมองเห็นบางอย่างในมือสามี“นั่นอะไร”“ยาบำรุง”“โซ่ป่วยเหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”“เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร”สุ้มเสียงห่วงใยของเมียรักทำให้โซ่โยนขวดยาลงไปบนโต๊ะ หันมาอุ้มร่างนุ่มเข้าห้องนอน ตามขึ้นไปนอนกอด เริ่มอธิบายกับสายตาเป็นคำถามที่มองมา“ยาบำรุง ไอ้ฟีมมันแนะนำให้เรานำมาเปลี่ยนกับยาคุมของตัวเอง”ใส่ความออดอ้อนลงไปในคำท้ายเมื่อตาเมียไหวระริก ด้วยกลัวเมียจะโกรธ“ทำแบบนั้นเพื่อ”หญิงสาวกลั้นยิ้มวางหน้าขึงขัง เข้าใจดีว่าสามีที่รักต้องการอะไร“เราอยากมีตัวเล็ก ๆ แล้ว”“ทำไมรีบล่ะ”หน้าคมขยับเข้ามาซุกบ่าเล็ก ฉวยเม้มต้นคอขาว“ถ้ามีตอนนี้ เลี้ยงไม่กี่ปีลูก ๆ ก็โตแล้ว เค้าจะได้สวีตกับตัวเองได้เต็มที่ไง ไม่ต้องไปวิ่งตามลูก
“ตกลงปะล่ะ”“ตกลง”พรีมตอบโดยไม่ลังเล ความรักที่มีต่อคนตรงหน้าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้ตลอดสองปีมานี้จะอยู่ด้วยกันทุกวัน ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าคนในครอบครัว หากเธอก็รู้สึกเหมือนเขา คือยังอยากใกล้ชิดกันให้มากขึ้นไปอีกร่างนุ่มถูกยกหมุนท่ามกลางเสียงหัวเราะทุ้มนุ่ม เธอเองก็ยิ้มกว้างก่อนหัวเราะไปด้วยกัน สองมือกอดรอบลำคอหนาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจริมฝีปากต่างพานพบประกบกันหลังชายหนุ่มหยุดหมุน โอบอุ้มร่างนุ่มไว้อย่างนั้น จูบแสนหวานที่หวามไปทั้งหัวใจถูกมอบให้แก่กันและกันอย่างลึกซึ้งตรึงอารมณ์ “กลับห้องกันเถอะ”หญิงสาวเอ่ยชวนหลังจูบแสนหวานจบลง“ไม่อยากเดินเที่ยวต่ออีกหน่อยเหรอ”“ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ เราอยากอยู่กับโซ่” ท้ายประโยคกระซิบอย่างมีความหมายชายหนุ่มอมยิ้ม โอบเอวเล็กพาเดินกลับที่พักทันที แต่เส้นทางที่เลือกใช้นั้นก็ยังประดับด้วยแสงไฟที่ให้ความงดงามและแสนโรแมนติก บ่อยครั้งที่เขากดจูบขมับบางด้วยความรัก ชี้ชวนให้ดูสิ่งต่าง ๆ“เหนื่อยมั้ย”“ไม่เหนื่อยหรอก ดูไฟเพลิน ๆ”แม้หญิงสาวจะตอบไปอย่างนั้น กายแกร่งยังเดินมาย่อตัวลงข้างหน้า วาดแขนไปด้านหลังเพื่อรั้งร่างเล็กขึ้นหลัง“แบบนี้นายเหนื่อยแย่เลย”เ
“นึกถึงวันแรกที่เราช่วยเธอหิ้วของขึ้นห้องน่ะ”“ทำไม มีอะไรพิเศษเหรอ”“เรามีเรื่องจะสารภาพแหละ”“ว่า”“วันนั้นของมันไม่ได้หล่นจากถุงหรอก เราหยิบออกเอง”“ทำไมล่ะ”หญิงสาวมองคนรักอย่างไม่อยากเชื่อ นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมา เธอแปลกใจตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนกัน ถุงที่เธอผูกปากถุงอย่างดีทำไมถึงเปิดได้“เราจะได้มีเหตุผลไปหาเธออีกไง”“เจ้าเล่ห์จริง ๆ”โซ่หัวเราะ “ยอมรับว่าเจ้าเล่ห์ ตอนนั้นอะไรที่จะทำให้เราได้คบกับเธอ เราทำหมดแหละ”พรีมมองค้อน หมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์มากกว่าจะโกรธคนโดนค้อนหัวเราะร่าท่าทางเบิกบานใจ ยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวคนรัก“ทำไงได้เนอะ ชอบมากเลยคนนี้”วางของที่ถือมาไว้บนโต๊ะในครัวเสร็จ ชายหนุ่มยกร่างนุ่มขึ้นนั่งบนโต๊ะ โอบกอดไว้หลวม ๆ ส่งสายตารักใคร่มองสบตาคู่งามที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน“ใกล้ปีใหม่แล้ว ปีนี้อยากไปเที่ยวไหน อ๊ะ ๆ ไม่เอาเขาใหญ่แล้วนะ”“ไม่หรอก ปีนี้เราตามใจนาย อยากไปไหนล่ะ”“น่ารักฝุด ๆ แฟนใครน้อ...”“แฟนโซ่ไงคะ”โซ่คลี่ยิ้ม มอบจูบหวาน ๆ ซ่านซึ้งทรวง ถูกอกถูกใจในคำตอบ“ปีนี้เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ ไปดูหิมะสวย ๆ หนาว ๆ แล้วลงแช่อนเซ็นอุ่น ๆ คงฟินดี”“ฮื่อ”หลั
โซ่พรมจูบไปทั่วหน้าปลั่งอย่างแสนรักขณะซึมซับความรู้สึกสุดพิเศษ ทั้งกอดรัดร่างนุ่มแน่นอย่างแสนหวงแหน หญิงสาวอิงแอบแนบซบไม่คิดผละห่าง แล้วก็รู้สึกถึงความต้องการของเขาผ่านความผ่าวร้อนที่คึกแข็งขึ้นมารวดเร็ว“มันใหญ่อีกแล้ว” เสียวหวานกระซิบ“มันอยากซุกพรีมอีก” โซ่เอ่ยยิ้ม ๆ หอมแก้มนุ่มแรง ๆ ก่อนทำท่าจะลุกจากโซฟา“ไปไหน”“หยิบถุงก่อน เราไม่อยากให้พรีมเสี่ยงถึงเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างก็เถอะ” ถึงจะชอบที่ได้สัมผัสกันแบบไม่มีสิ่งขวางกั้นมากจับใจ ถึงแม้สถานะระหว่างกันคือคู่หมั้นที่ผ่านการเข้าพิธีหมั้นหมายด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่แล้ว โซ่ไม่คิดจะให้มีเรื่องใดมาทำให้พรีมต้องหยุดชะงักการใช้ชีวิตในวัยนี้พรีมยึดต้นแขนใหญ่ไม่ยอมให้ลุก ซุกหน้ากับซอกคอหนา พึมพำเสียงเบา“ไม่เสี่ยงหรอก” ไม่ปล่อยให้คนรักนิ่วหน้าสงสัยนาน “เราไปฝังยาคุมมา”“พรีม! ตั้งแต่เมื่อไหร่” ได้ยินแบบนั้น ชายหนุ่มรีบจับแขนเรียวมาสำรวจ ก่อนจะเห็นรอยเล็ก ๆ ตรงแขนข้างหนึ่ง ช่วงก่อนหยุดยาวสิ้นปี ต่างคนต่างยุ่งเรื่องสอบและติวกับเพื่อน เขาถึงพลาดเรื่องนี้ หน้าเข้มขึ้น ลูบรอยเล็กแผ่วเบา“เจ็บหรือเปล่า เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบเลยนะ”ท่าทางห่วง
ตลอดหลายเดือน บิดามารดาเดินทางกลับไทยเมื่อไหร่มักจะเรียกหาพรีมเข้าไปเล่นด้วย พวกท่านเอ็นดูพรีมมากกว่าเขาที่เป็นลูกชายซะอีก เหตุเพราะพรีมเป็นคนขี้อ้อนน่ารัก แม่ที่มีแต่ลูกชายจะไม่หลงยังไงไหวตัวเขายังหลงเธอจะตาย“ไว้ปิดเทอมใหญ่ค่อยไป จะได้อยู่กับท่านหลาย ๆ วันให้หายคิดถึงไปเลยดีไหม”“เธอว่าดี เราก็ว่าดี”“นายน่ารักที่สุดเลย”หญิงสาวแนบหน้าเข้าจูบแก้มขาวหนัก ๆ เป็นการให้รางวัลในความน่ารัก ก่อนจะเกาะกอดกายหนากระชับ เอนหน้าวางคางบนบ่ากว้าง ปล่อยให้เขาแบกเธอไปเรื่อย ๆครั้งนี้โซ่เลือกบ้านหลังใหม่อยู่ห่างจากหลังอื่นพอควรจึงมีความเป็นส่วนตัวและมองเห็นวิวสวยได้ทุกองศา“หนักหรือเปล่า เหนื่อยมั้ยให้เราลงเดินดีไหม”“ตัวเบายังกะนุ่น เอาตรงไหนมาหนัก”ชายหนุ่มยังยืนยันว่าไม่หนัก ไม่เหนื่อยด้วยการวิ่งขึ้นเขาโดยมีแฟนสาวเกาะหลัง“เกินไปแล้ว เดี๋ยวก็หัวใจวายหรอก”“ถ้าจะวายขอวายบนอกเธอดีกว่า”“นายนี่”โซ่หัวเราะร่วน ยอมหยุดวิ่ง เปลี่ยนมาก้าวเดินแทน ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านพักหลังงาม“ว่าไม่เหนื่อยแต่ได้เรื่องเหมือนกันนะเนี่ย มาปั๊มหัวใจหน่อยเร็ว”หน้าระรื่นยิ้มกรุ้มกริ่มไร้ร่องรอยความเหนื่อยล้า ถึงอย่
หลังจากคบหาดูใจกันมาพักใหญ่ โซ่ร่ำร้องอยากเปิดตัวกับครอบครัวของเธอบ้าง ทั้งที่เขาเองก็ได้รู้จักพี่สาวทั้งสองของเธอแล้ว แม้จะผ่านทางการคอลล์วิดีโอตอนที่เธอคุยกับพี่ ๆ บางครั้งเขาร่วมคุยด้วย แต่โซ่ให้เหตุผลว่ายังไม่เคยเจอตัวจริงกันอย่างเป็นทางการสักครั้ง ส่วนทางบิดามารดาเธอนั้น เขาเจอบ่อยเพราะพาเธอกลับบ้านทุกเดือนดังนั้นในวันหยุดสงกรานต์พรีมจึงได้พาชายหนุ่มมาบ้านที่นนทบุรีด้วย ซึ่งวันนี้พี่สาวทั้งสองพร้อมกับคนรักกลับมาบ้านเช่นกันโซ่หอบของฝากมากมายมาด้วยและไม่ลืมหิ้วกล้วยไม้ต้นใหญ่กำลังออกดอกสะพรั่งโดยมีช่อดอกยาวเฟื้อยเต็มต้น พอเธอถาม เขาบอกเล่าคร่าว ๆ ว่าเป็นกล้วยไม้ตระกูลช้างคนรับถูกอกถูกใจมาก ยิ้มกว้างหน้าบาน รีบบอกให้นำไปไว้ในเรือนกล้วยไม้ทันที“หนุ่มคนนี้นี่รู้ใจพ่อเราจริง ๆ” พัชรีเย้าลูกสาว“นั่นก็ขยันหาของมาเอาใจกันค่ะ พรีมห้ามก็ไม่ฟัง” กล้วยไม้บางต้นราคาแพงจนเธอตกใจ“แล้วพี่พลอยกับพี่เพลงมาถึงนานยังคะ พากันไปไหนแล้วล่ะ”ในบ้านไม่มีพี่สาวทั้งสอง พรีมรู้ว่าพวกเขามาถึงจากรถยนต์หรูสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน“สักพักแล้วล่ะ ตอนนี้นั่งเล่นกันอยู่ในสวนหลังบ้าน”“งั้นเราไปสมทบกับพี่ ๆ กั








