Home / โรแมนติก / พันธการสายใยรัก / ตอนที่ 2 คืนเข้าหอที่เย็นชา

Share

ตอนที่ 2 คืนเข้าหอที่เย็นชา

last update Last Updated: 2025-08-21 18:05:04

 เดือนต่อมา งานแต่งงานระหว่างนันทวัฒน์และนลินีก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในโรงแรมหรูหรา แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างก็เป็นบุคคลสำคัญจากวงสังคมชั้นสูง พิธีถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้สมกับความสำคัญของสองตระกูลใหญ่

 และในวันนี้ นลินีในชุดเจ้าสาวสีขาวงดงามยืนอยู่ข้างนันทวัฒน์ที่ดูดีในชุดสูทสีดำ ท่ามกลางเสียงเพลงที่บรรเลงขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นชีวิตคู่ แต่ในใจของทั้งคู่กลับรู้สึกถึงความว่างเปล่า 

 หลังจากแลกแหวนและคำสาบาน ทั้งสองก็กลายเป็นสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ เสียงปรบมือดังขึ้นจากแขกในงาน แต่ทั้งคู่กลับรู้สึกเหมือนการเฉลิมฉลองนี้เป็นเพียงหน้ากากที่ปิดบังความจริงที่ขมขื่นภายในใจ

 เมื่อพิธีเสร็จสิ้น คู่บ่าวสาวก็ถูกพามาส่งถึงบ้านหลังใหญ่ที่ถูกสร้างให้เป็นเรือนหอ ซึ่งอยู่ภายในเขตรั้วบ้านใหญ่ของครอบครัวนันทวัฒน์ เพียงแค่ต้องการให้คู่แต่งงานใหม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเพื่อให้เหมาะในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของพวกเขา นลินีรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกลัวกับการเริ่มต้นครั้งนี้ เธอรู้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่ก็ยังคงหวังว่าวันหนึ่งความพยายามของเธออาจทำให้เขายอมรับและรักเธอได้

 ห้องหอที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น เตียงนอนสีขาวสะอาดตาเรียงรายไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ ภายในห้องอบอวลไปด้วยแสงไฟอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

 ผู้ใหญ่จากทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้ามาในห้องหอ เพื่อทำพิธีอวยพรตามประเพณี เป็นช่วงเวลาที่ผู้ใหญ่มอบคำอวยพรและส่งต่อความหวังดีแก่บ่าวสาวที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่

 คุณนิรันดร์คุณพ่อของเจ้าบ่าวกล่าวขึ้นเป็นคนแรก ขณะที่ทุกคนยืนล้อมรอบบ่าวสาว “พ่อขอให้พวกเธอสองคนครองรักกันอย่างมั่นคง รู้จักให้อภัยและดูแลกันเสมอ อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยมาทำลายความรักที่สร้างมาด้วยกัน พ่อเชื่อว่าพวกลูกจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยความรักและความเข้าใจ”

 คุณหญิงวิไลคุณแม่ของนันทวัฒน์ที่ยิ้มกว้าง มอบของขวัญให้พร้อมกล่าวคำอวยพร “ขอให้พวกเธอมีความสุขทุกวันนะจ๊ะ อยู่ด้วยกันนาน ๆ และที่สำคัญต้องมีหลานเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองให้แม่ได้อุ้มเร็ว ๆ ด้วยนะจ๊ะ”

 คุณโอภาสคุณพ่อของเจ้าสาวพูดพร้อมยิ้มอย่างภาคภูมิ “จำไว้นะลูก ความรักต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและการปรับตัวกันและกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเรารักและดูแลกัน ทุกอย่างก็จะราบรื่น ขอให้รักกันยาวนาน และผ่านทุกเรื่องไปด้วยกันอย่างมีความสุข”

 คุณหญิงนวลจันทร์คุณแม่ของนลินียิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะกล่าวอวยพรด้วยความอบอุ่น “แม่ขอให้พวกเธอมีความสุขในทุกๆ วันของชีวิตคู่ อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคู่คือการสนับสนุนและดูแลกันและกัน รักและเคารพกันทุกวัน และให้ความรักเติบโตไปพร้อมกับทุกสิ่งที่พวกเธอจะสร้างร่วมกัน”

หลังจากนั้น ญาติผู้ใหญ่ท่านอื่น ๆ ก็ต่างเข้ามาอวยพร บ้างมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฝงไปด้วยความหมายที่ดี

 เจ้าบ่าวของงานยิ้มและกล่าวขอบคุณด้วยใบเย็นชาส่วนนลินีเขินอายกับคำอวยพรนั้นจนหน้าแดง ขณะที่ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ต่างก็ปรบมือและอวยพรด้วยความปลื้มปีติ

 หลังจากที่คำอวยพรทั้งหมดได้ถูกแลกเปลี่ยนกันเสร็จสิ้น คุณแม่ของเจ้าบ่าวก็หัวเราะอย่างเบา ๆ ก่อนจะกล่าวลา “เอาล่ะ ทุกคน เราควรจะปล่อยให้บ่าวสาวได้มีเวลาส่วนตัวกันแล้ว คืนนี้เป็นคืนพิเศษของพวกเขา”

 ผู้ใหญ่ต่างยิ้มและพากันกล่าวอวยพรครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องหอ ทิ้งให้บ่าวสาวอยู่ด้วยกันในห้องที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก

 นันทวัฒน์ตามเข้ามาในห้องหลังจากเสร็จสิ้นการสนทนากับแขก เขาปิดประตูเบา ๆ และหันมามองนลินีที่ยืนอยู่กลางห้อง เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ สายตาของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม

 ในห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา นลินีนั่งอยู่บนเตียงขณะที่นันทวัฒน์เดินเข้ามาในห้อง เขาไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและอารมณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้

 "คุณนอนก่อนเถอะ" นันทวัฒน์พูดเสียงเบาโดยไม่สบตาเธอ "ผมมีเรื่องต้องทำ ขอไปจัดการงานที่ห้องทำงาน เดี๋ยวจะกลับมาช้า" 

 นลินีรู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยคำพูดนั้น แต่เธอก็พยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ "ค่ะ... ตามสบายค่ะ" แม้ว่าในใจเธอจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอหวังว่าบางที ถ้าเธอได้ใกล้ชิดกับเขา ความรักของเธออาจทำให้เขาเปิดใจและยอมรับเธอได้

  นันทวัฒน์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินออกจากห้องโดยไม่หันกลับมามอง นลินีมองตามแผ่นหลังของเขาที่ค่อย ๆ หายไปจากประตู ความเหงาและความเศร้าเริ่มทับถมเข้ามาในใจ น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นเอาไว้เริ่มไหลรินอย่างช้าๆ

 เธอนั่งอยู่บนเตียง มองรอบ ๆ ห้องที่ถูกจัดไว้เพื่อความโรแมนติก แต่กลับรู้สึกว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่มีความหมายใด ๆ นลินีเริ่มรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอฝันไว้ มันไม่ใช่การเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสุขเหมือนที่เธอเคยจินตนาการ เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในบ้านที่ใหญ่โตและเงียบสงัด โดยมีเพียงเธอและความรักที่ไม่ได้รับการตอบสนอง

 นลินีนั่งอยู่ท่านั้นนานมาก เตียงที่ควรจะเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่คนเดียวในห้องที่กว้างใหญ่และเย็นชา เธอนึกถึงวันที่เธอฝันว่าจะมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่กลับต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่โหดร้าย

 ในคืนนั้น นลินีไม่สามารถข่มตาหลับได้ เธอนอนฟังเสียงนาฬิกาเดินเป็นจังหวะ รู้สึกถึงความเงียบงันที่หนักอึ้งและความเหงาที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่า นี่อาจเป็นเพียงการเริ่มต้น และวันหนึ่งทุกอย่างอาจจะดีขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 38 การมาถึงของชีวิตใหม่

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากนันทวัฒน์ฟื้นฟูร่างกายและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ครอบครัวของเขาและนลินีได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของสมาชิกใหม่ที่จะเติมเต็มครอบครัวนี้อย่างสมบูรณ์ วันนี้ขณะที่นลินีและนันทวัฒน์กำลังนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน นลินีรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เธอรู้สึกเจ็บที่ท้องเป็นระยะ ๆ ซึ่งต่างจากอาการเจ็บปวดธรรมดาที่เธอเคยเจอมาก่อน ครั้งนี้มันรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน เธอพยายามที่จะสงบสติและไม่ทำให้นันทวัฒน์เป็นกังวล แต่ความเจ็บปวดกลับรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ “พี่วัฒน์ ลินคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว” นลินีพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ขณะที่มือของเธอกุมท้องแน่น นันทวัฒน์รีบลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกัน “ลิน ลินเจ็บท้องแล้วใช่ไหม เราต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” เขารีบไปหยิบกระเป๋าที่เตรียมไว้ล่วงหน้าซึ่งบรรจุสิ่งของจำเป็นสำหรับการไปคลอด นลินีพยายามลุกขึ้นยืน แต่ความเจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกไม่มีแรงก้าวเดิน นันทวัฒน์จึงเข้ามาพยุงเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องห่วงนะลิน พี่อยู่ตรงนี้ เราจะไปโรงพยาบาลทันที” นันทวัฒน์พูดพร้อมกับพยายามให้กำลังใ

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 37 สัญญาณแห่งความหวัง

    เวลาผ่านไปหลายวัน ในขณะที่ครอบครัวของนันทวัฒน์เฝ้าดูแลและรอคอยอย่างอดทน ในที่สุดก็มีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ทุกคนรอคอย นันทวัฒน์เริ่มแสดงการตอบสนองเล็กน้อย เช่น การขยับนิ้วมือหรือกะพริบตาเบา ๆ ทุกครั้งที่เห็นการตอบสนองนี้ ความหวังในใจของนลินีและครอบครัวก็ท่วมท้นขึ้นอีกครั้ง ในวันหนึ่ง ขณะที่นลินีนั่งอยู่ข้างเตียงของนันทวัฒน์เหมือนที่เธอทำทุกวัน เธอสังเกตเห็นว่ามือของเขาขยับเล็กน้อย เธอรีบกุมมือเขาไว้แน่นและพูดด้วยความตื่นเต้นและความหวัง “พี่วัฒน์ พี่ได้ยินลินไหม ถ้าพี่ได้ยิน ลองขยับนิ้วอีกครั้งนะคะ” นลินีพูดเบา ๆ แต่น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวังและความตื่นเต้น ทันใดนั้นเองนลินีรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอเต้นรัว เมื่อนันทวัฒน์ก็ค่อย ๆ ขยับนิ้วมือของเขาเล็กน้อย เธอรีบลุกขึ้นและเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการของเขา พยาบาลที่เข้ามาตรวจดูอาการของนันทวัฒน์ยิ้มเล็ก ๆ และพยักหน้าให้กับนลินี “ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มฟื้นตัวแล้วนะคะ นี่เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ เลยค่ะ” นลินีรู้สึกโล่งใจและตื้นตันใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอมองดูนันทวัฒน์ที่เริ่มมีการตอบสนองมากขึ้นและรู้สึกถึงความหวังที่เริ่มกลับมา เธอรู

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 36 รอคอยด้วยความหวัง

    หลังจากที่ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาเนื้องอกในสมอง นันทวัฒน์เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เขารู้ว่าการผ่าตัดครั้งนี้มีความเสี่ยงสูง แต่เพื่ออนาคตของครอบครัวและความหวังที่จะได้อยู่เคียงข้างนลินีและลูก เขาจึงเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน วันผ่าตัดมาถึง นลินี คุณหญิงวิไล และคุณนิรันดร์ รวมทั้งพ่อกับแม่ของนลินีมารวมตัวกันที่โรงพยาบาลเพื่อรออยู่ที่ห้องพักญาติ ความเงียบงันที่ปกคลุมรอบตัวทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความตึงเครียดและความกังวล นลินีจับมือของคุณหญิงวิไลไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ขณะที่นิรันดร์นั่งนิ่งอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความหนักใจและกังวลใจ เมื่อถึงเวลาที่นันทวัฒน์ถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัด นลินีมองดูเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ประตูจะปิดลง น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้เริ่มไหลออกมาอย่างช้า ๆ ความกลัวที่อยู่ลึก ๆ ในใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบคั้น แต่เธอก็พยายามคุมสติและหวังว่าเขาจะผ่านการผ่าตัดครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย การผ่าตัดกินเวลาหลายชั่วโมง นลินีและครอบครัวรอคอยอย่างจดจ่อ ทุกนาทีที่ผ่านไปทำให้ความกังวลทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 35 กำลังใจสำคัญ

    หลังจากที่ได้รับข่าวร้ายจากแพทย์เกี่ยวกับอาการของนันทวัฒน์ นลินีรู้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเขารับรู้ถึงสถานการณ์นี้ เธอรู้ดีว่าคุณหญิงวิไลและพ่อของนันทวัฒน์รักลูกชายของพวกเขามากเพียงใด และพวกเขาควรอยู่เคียงข้างนันทวัฒน์ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้นลินีตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาคุณหญิงวิไล เธอสูดหายใจลึกก่อนจะกดหมายเลข เธอรู้ว่าการแจ้งข่าวร้ายนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ เสียงของคุณหญิงวิไลดังขึ้นเมื่อรับสาย “สวัสดีจ้ะ หนูลิน ลูกสบายดีไหม” น้ำเสียงที่อ่อนโยนและห่วงใยของคุณหญิงวิไลทำให้นลินีรู้สึกถึงความอบอุ่น แต่เธอต้องเจ็บปวดเมื่อคิดถึงสิ่งที่ต้องบอกออกไป “คุณแม่คะ” นลินีพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หนูมีเรื่องสำคัญต้องบอกค่ะ เอ่อ คือว่า พี่วัฒน์” “ตาวัฒน์ทำไมลูก” “พี่วัฒน์ พี่วัฒน์ล้มหมดสติลงเมื่อเช้านี้ และตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเขามีเนื้องอกในสมอง” คำพูดของนลินีทำให้คุณหญิงวิไลนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจและความหวาดกลัว “อะ

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 34 ความพยายามที่ไม่ได้รับการยอมรับ

    หลังจากที่ได้รับโอกาสในการดูแลนลินีและลูกในท้อง นันทวัฒน์รู้สึกว่าตัวเองต้องทำมากกว่านี้ เขาใส่ใจต่ออนาคตของลูกน้อยเพื่อการเตรียมพร้อมที่จะทำหน้าที่ของพ่อที่ดีนันทวัฒน์จึงออกไปซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อน ทั้งเสื้อผ้า ผ้าอ้อม และของเล่นเด็ก เขาเลือกทุกอย่างอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสบายของลูก เขาพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเขารู้ดีว่านี่คือการแสดงออกถึงความรักและความใส่ใจที่เขามีต่อลูก และหวังว่านลินีจะเห็นถึงความตั้งใจของเขาเมื่อกลับมาถึงบ้าน เขานำของที่ซื้อมาออกจากถุงและจัดเรียงไว้อย่างสวยงามในห้องนั่งเล่น เขาตื่นเต้นที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของนลินีเมื่อเธอเห็นสิ่งที่เขาเตรียมไว้ เขาหวังว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างพวกเขาอีกครั้งแต่เมื่อถึงเวลาที่นลินีเดินเข้ามาในห้อง เธอกลับมีท่าทีที่ต่างออกไป สายตาของเธอแสดงถึงและความอึดอัด เมื่อเธอเห็นของใช้สำหรับเด็กที่นันทวัฒน์เตรียมไว้ เธอไม่ได้แสดงความดีใจหรือความตื่นเต้นอย่างที่เขาคาดหวังไว้“พี่ซื้อของพวกนี้มาทำไม” นลินีถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง และเย็นชา คำถามของเธอทำให้นันทวั

  • พันธการสายใยรัก   ตอนที่ 33 ความพยายามที่ล้มเหลว

    หลังจากที่ได้รับโอกาสจากพ่อแม่ของนลินีในการพิสูจน์ตัวเอง นันทวัฒน์รู้ว่าต้องเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาตัดสินใจที่จะลองทำบางสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เช่นทำอาหารให้นลินี นันทวัฒน์รู้ว่าการที่เขาทำอาหารให้เธออาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เขาอยากดูแลและเอาใจใส่เธอและลูก และทดแทนสิ่งที่เขาเคยละเลยอาหารของเธอในอดีตเขาเริ่มต้นด้วยการหาสูตรอาหารที่นลินีเคยชอบกินสมัยก่อน นั่นคือ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ซึ่งเป็นเมนูที่ไม่ซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยความอร่อย นันทวัฒน์จำได้ว่านลินีเคยทำเมนูนี้ให้เขากินบ่อย ๆ ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน และเขาก็หวังว่าเมนูนี้จะทำให้นลินีรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขามีต่อเธอ เขาไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดด้วยตัวเอง และพยายามทำตามสูตรอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ชอบทำอาหาร แต่เขาก็พยายามเต็มที่เพื่อให้อาหารออกมาอร่อยและมีคุณค่าอาหารที่สุด หลังจากที่ใช้เวลาทำอาหารสักพัก แกงจืดเต้าหู้หมูสับก็เสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมของซุปที่ต้มเข้ากันกับเต้าหู้และหมูสับลอยไปทั่วห้องครัว เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว นันทวัฒน์ก็ตักแกงจืดใส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status